พิมพ์ไทยออนไลน์ // กรณีที่ “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย พร้อมด้วยมารดา นางพรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ ออกมากล่าวโจมตีสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ว่าไม่ให้การสนับสนุนการเตรียมตัวเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านมา
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากทางกัปตันและมารดาทำผิดกฎของสมาคมฯ ไม่เข้าเก็บตัวร่วมกับนักกีฬายิงปืนทีมชาติคนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายกระสุนให้ได้ เพราะว่ากระสุนปืนจริงขนาด .22 เป็นอันตรายอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นจึงต้องให้เข้ามาฝึกซ้อมที่สมาคมฯเท่านั้น และถ้าเข้ามาฝึกซ้อมที่สมาคมฯ จะมีกระสุนให้ฝึกคนละ 300 นัดต่อวัน แต่เลือกไปฝึกซ้อมนอกสถานที่ ถือว่าผิดกฎของทางสมาคม จึงไม่สามารถจ่ายกระสุนให้กับนักกีฬาไปฝึกซ้อมข้างนอกได้
ส่วนกรณีนักกีฬาและมารดา ออกมาแฉว่ามีความพยายามจะเปลี่ยนตัวนักกีฬา นายสกล กล่าวว่า กัปตันคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้ แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผลงานเทียบกับคนอื่นถือว่าเป็นรอง และเช็คดูพบว่าโควต้านี้เป็นของประเทศไทย ไม่ใช่ของตัวนักกีฬา สามารถเปลี่ยนแปลงชื่้อได้ ถ้าหากนักกีฬาได้รับบาดเจ็บ หรือผิดระเบียบวินัย แต่สุดท้ายไม่ได้เปลี่ยน เพราะให้โอกาส อย่างไรก็ตามเมื่อจบภารกิจโอลิมปิกเกมส์ ถือว่ากัปตันพ้นสภาพทีมชาติแล้ว จะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งจะมีการคัดตัวใหม่
บิ๊กเสือ กล่าวว่า นักกีฬาถ้าเก่งแต่ไม่มีวินัย สมาคมมองว่าไม่ควรให้การสนับสนุนต่อ เพราะมีนักกีฬาในความดูแลที่ต้องพัฒนาอีกมาก พร้อมขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกีฬา อย่าให้ท้ายเด็กที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสมาคม
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
