พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สิงโตคำราม” อังกฤษ​ ต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ กว่าจะเอาชนะ “โคนม” เดนมาร์ก 2-1
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน อังกฤษ​ เมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎาคม โดยทีมสิงโตคำรามได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองราว 60,000 คน ขณะที่แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับผู้เล่นตำแหน่งเดียวจากเกม ชนะ ยูเครน 4-0 คือส่งบูกาโย่ ซาก้า เป็นตัวจริง แทน จาดอน ซานโช่
ขณะที่แคสเปอร์ ยุลมันด์ ยึดผู้เล่น 11 ตัวจริง ทั้ง 3 แนวรับอย่าง ซีมอน แคร์ กัปตันทีม, ​ยานนิก เวสเตอร์การ์ด และอันเดรียส คริสเตนเซ่น แนวรุกใช้แคสเปอร์ โดลเบิร์ก เป็นกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกม อังกฤษยังตั้งเกมตัวเองได้เท่าไหร่ และเดนมาร์กบุกสวนกลับ นาทีที่ 30 ออกนำก่อนจากฟรีคิกสุดสวยของ มิกเกล ดัมสการ์ด เสียบใต้คานอย่างสวยงาม เดนมาร์กนำ 1-0 และเป็นการเสียประตูครั้งแรก ของอังกฤษในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย

อังกฤษเปิดเกมบุกกลับ นาที 39 บูกาโย่ ซาก้า เปิด[v]กลับเข้ากลาง ซีมอน แคร์ จะสกัดแต่บอลเข้าประตูตัวเอง อังกฤษไล่ตีเสมอ 1-1 จบครึ่งแรกเสมอกัน -1
เริ่มครึ่งหลัง อังกฤษเปิดเกมบุกหนัก เป็นฝ่ายที่ครองบอลบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพังประตูเดนมาร์กได้ จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 102 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษ โดนสะกิดแล้วล้มลง ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ เคนยิงไปติดเซฟของชไมเคิ่ล เคนสับไกซ้ำเข้านประตู อังกฤษขึ้นนำ 2-1 ช่วงท้ายเกมอังกฤษเปิดฝ่าครองบอลได้มากกว่า หมดเวลา อังฤกษชนะๆป 2-1สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก
โดย บอลยูโร 2020 ระหว่าง “อัซซูรี่” อิตาลี กับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ แข่งขันกันที่สนามเวมบลีย์ อังกฤษ ในคืนวันที่ 11 กรกฎาคม เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 12 กรกฎาคม) ถ่ายทอดสดทางเอ็นบีที เอชดี 2

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์