พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามปุสกัส อารีน่า ฮังการี เมื่อคืนวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่าง “อันศวินสีล้ม”เนธอร์แลนด์ พบกับ เช็ก เกมนี้แฟรงก์ เดอ บัวร์ เฮดโค้ชอัศวินสีส้ม ยึดแนวรุก 3 คนอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เมมฟิส เดอปาย และดอนเยลล์ มาเลน เล่นร่วมกัน ขณะที่เช็กวาง พาทริก ชิก กองหน้าดาวซัลโวทีมเป็นตัวเป้าตามเดิม
เปิดเกม เนเธอร์แลนด์ที่ครองบอลบุกเหนือกว่า เช็กที่มีโอกาสหวาดเสียวนาทีที่ 22 โทมัส ซูเช็ก สอดขึ้นโหม่ง แต่บอลหลุดเสาสองออกไป นาทีที่ 31 ยิงในเขตโทษครั้งแรกของเนเธอร์แลนด์ มาเลนยิงติดบล็อกออกไป
ช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 38 เช็กเกือนได้ประตูจากจังหวะ อันโตนิน บารัก ยิงทางซ้าย มัทไธจ์ เดอ ลิกต์ สกัดได้ทัน จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังเนเธอร์แลนด์พยายามจะบุก และมีโอกาสงาม ดอนเยล์ มาเลน พลิกหนีแนวรับเช็กไปดวลกับ โทมัส วัซลิก แต่กลับจะพยายามล็อกหลบ วัซลิกคว้าบอลจากเท้าไปได้ ชวดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง นาทีที่ 52 เนเธอร์แลนด์เจอจังหวะสวนกลับของเช็ก แต่เดอ ลิกต์ ไปเสียหลักล้มก่อนจะใช้มือคว้าบอล ผู้ตัดสินเป่าฟาล์วแล้วให้ใบเหลือ หลังจากเช็กวีเออาร์ มองว่าเดอ ลิกต์ เป็นกองหลังคนสุดท้าย เปลี่ยนคำตัดสินเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
จนนาทีที่ 68 เช็กได้ระตูขึ้นนำ โทมัส คาลาส โหม่งชงให้โทมัส โฮเลช โหม่งผ่านบล็อกแนวรับของเนเธอร์แลนด์เข้าประตูไป ให้ทีมขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 80 โฮเลช ฉกบอลในแดนเนเธอร์แลนด์ เปิดกลับให้พาทริก ชิก ยิงเข้าประตูไปหนีห่างเป็น 2-0 จบเกม เช็ก ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-0 เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับ “โคนม” เดนมาร์ก ที่สนามกีฬาโอลิมปิก กรุงบากู อาเซอร์ไบจาน ในคืนวันที่ 3 กรกฎาคมนี้
เบลเยียม ล้มแชมป์เก่า “โปรตุเกส” ทะลุเจอ “อัซซูรี่”
ศึกยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เอสตาดิโอ เด ลา คาร์ตูฆา เมืองเซบีย่า สเปน เกมนี้โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ปรับทัพถึง 5 ตำแหน่ง แต่เอาตัวจริงกลับมาลงสนามทั้งหมด นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนสำคัญ, เอเด็น อาซาร์ และโรเมลู ลูกากู ประสานงานกันในแนวรุก ขณะที่โปรตุเกส แชมป์เก่า นำโดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้, แบร์นาโด้ ซิลวา และดิโอโก้ โชต้า เป็น 3 ประสานแดนหน้าเช่นเคย
เริ่มเกมทั้งสองทีมเล่นกันแบบระมัดระวัง โปรตุเกสทักทาย เรนาโต้ ซานเชส ตัดบอลตรงกลางสนาม แล้วจ่ายออกซ้ายให้โชต้า ลองยิง แต่บอลหลุดออกเสาสองไป ช่วงท้ายนาทีที่ 42 เบลเยียมที่ได้ประตูก่อน จากจังหวะยิงไกล ธอร์กัน อาซาร์ เข้าประตูไปเบลเยียมนำ 1-0 จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง โปรตุเกสครองเกมเพื่อหวังทำประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถหาทางเจาะเข้าทำประตูได้ นาทีที่ 75 โรนัลโด้ ก็ยิงไปตรงตัวกูร์ตัวส์ เกมเริ่มทวีความดุเดือด ทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้าบอลกันรุนแรง ทำให้ใบเหลือปลิวว่อน โปรตุเกสที่ เปเป้ โดน และเบลเยียมทั้งโทมัส แฟร์ และโทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ โดนไปทั้งคู่
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายโปรตุเกสโหมบุกหนัก แต่ทำอะไรไม่ได้ จบเกมเบลเยี่ยมชนะไปหวุดหวิด 1-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับ “อัซซูรี่” อิตาลี ที่อลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก เยอรมนี ในคืนวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์