วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวเด่นประเด็นร้อนข่าวกีฬารถไฟฟ้าสายสีส้ม...ถอยหลังลงคลอง (ของจริง) !

รถไฟฟ้าสายสีส้ม…ถอยหลังลงคลอง (ของจริง) !

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กลายเป็น มหกรรมปาหี่ แกงประชาชนกันเป็นรายวัน!

กับเรื่องของการบริหารจัดการวัคซีนต้านโควิดที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ “หักดิบ” พรรคร่วมรัฐบาลด้วยการ ยึดอำนาจบริหารจัดการจากรัฐมนตรีทั้งคณะมาอยู่ในกำมือ ด้วยข้ออ้างเพื่อให้การบริหารจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสมฤตยู “โควิด-19” เป็นไปอย่างมีเอกภาพ

แต่ทำไปทำมากลับยิ่งเต็มไปด้วยความโกลาหล ประชาชนคนไทยที่จองฉีดวัคซีนต้านโควิดผ่านแอปต่าง ๆที่มี่อยู่นับสิบต้องถูกเท ถูกแกงเป็นรายวัน เพราะถูกเลื่อน ถูกยกเลิกคิวฉีดจนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใคร กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ก็อ้างถูกริบอำนาจการอนุมัตินำเข้าและกระจายวัคซีนไปโดย ศบค.ไปหมดแล้วจะมาถามหาความรับผิดชอบจาก สธ..ได้อย่างไร ฟากฝั่ง กทม.ก็โยนกลองได้รับจัดสรรวัคซีนมาไม่ครบโดสตามที่ขอจะให้จัดสรรโควตาฉีดให้ครบไปซะทุกแอปได้อย่างไร

เห็นแล้วก็ให้นึกย้อนไปถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ที่เคยโอ่นักโอ่หนาว่าเป็นผลงาน”ชิ้นโบแดง” ที่เหนือกว่ารัฐบาลชุดไหน ๆ ในอดีต แต่เอาเข้าจริง แค่การผ่าทางตันสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียวที่คาราคาซังมาตั้งแต่รัฐบาล คสช.เมื่อ 7 ปีก่อน จนป่านนี้ก็ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน

แค่จะให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เคาะโต๊ะจะเอายังไงกับสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียวจะต่อขยายสัมปทานให้ บมจ.ระบบขนส่งมวลนกรุงเทพ (BTS)เพื่อสะสางปัญหาหนี้ท่วมของ กทม.หรือเปิดประมูลหาเอกชนรายใหม่กันดี ก็กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ยิ่งกับโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ของ “การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)” ด้วยแล้ว ยิ่งมองเห็นผลงานความไม่เอาถ่านของรัฐบาลชุดนี้ เพราะไม่เพียงเส้นทางการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุน(พีพีพี)ในโครงการนี้จะ “ติดหล่ม” ไม่ขยับไปไหน ยังถอยหลังลงคลองจ่อจะไปเกิดหรือประมูลกันเอาชาติหน้าด้วยอีก

เรื่องของเรื่องที่ทำให้โครงการนี้ต้องล้มลุกคลุกคลานนั้น ก็เพราะฝ่ายบริหารรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกเกิดอุตริลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามเอกสารประกวดราคา (RFP ) ทั้งที่ได้ปิดขายซองประมูลไปแล้ว และเลยขั้นตอนการจัดทำประชาพิจารณาเพื่อปรับรื้อหรือกำหนดเกณฑ์ประมูลเหล่านี้ไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว

ผลพวงจากการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศดังกล่าว ที่นัยว่าเพื่อหวังจะประเคนโครงการออกไปให้กลุ่มทุนทางการเมือง “กากี่นั๊ง”ที่แทบจะเข้าไป “สิงร่าง”ฝ่ายบริหาร รฟม.อยู่แล้ว จึงยังผลให้ถูกบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูล ลุกขึ้นมาฟ้อนเงี้ยวร้องแรกแหกกระเชอไปยังกระทรวงคมนาคมต้นสังกัด ทั้งยังวิ่งโร่ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ประมูลเจ้าปัญหาที่ว่า

ก่อนที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งให้ รฟม.ทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์เจ้าปัญหาดังกล่าว จนทำเอาโครงการประมูลที่กำลังเดินมาถึงโค้งสุดท้ายต้องสะดุดกึก และแม้ รฟมจะพยายามแก้ลำทั้งการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและสุดท้ายถึงขั้นงัดไม้ตายสั่งยกเลิกการประมูลไป ด้วยหวังจะจัดประมูลใหม่ โดยนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหาที่ว่ามาใช้ตั้งแต่แรก โดยไม่รอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด

แต่สุดท้ายผลพวงจากการดั้นเมฆดันทุรังของฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก ก็กลับทำให้โครงการประมูลเผชิญทางตัน เพราะไม่เพียงผู้บริหาร รฟม.และกรรมการคัดเลือกจะถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบกราวรูดแล้ว ยังถูกฟ้องต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกันยกกระบิกันด้วยอีก

แม้จะมีความพยายามตีปี๊บตัวเต็งที่จะคว้าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ จะเป็นกลุ่มทุนใดไปไม่ได้ นอกจากกลุ่มทุนการเมือง “กากี่นั๊ง”ที่แทบจะสิงร่างฝ่ายบริหาร รฟม.อยู่เวลานี้ แต่เส้นทางฮุปสัมปทานดังกล่าว วันนี้กล่าวได้ว่า แทบจะ “ปิดประตูลั่นดาน” กันไปแล้วในเวลานี้ หากนายกฯลุงตู่ ยังไม่คิดจะลงจากภูมาโม่แป้งด้วยตนเอง!

หากนับเนื่องจากวันที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติหลักการให้รฟม.จัดประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการถไฟฟ้า สายสีส้ม ตามมติครม.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2562 จนถึงวันนี้ที่ผ่านมากว่า 1 ปี 5 เดือนเข้าไปแล้ว โดยยังไม่มีทีท่าว่า รฟม.จะผ่าทางตันสางปัญหาคาราคาซังที่มีอยู่ได้ และยิ่งกับแนวทางการประมูลหลุดโลกที่ รฟม.ดั้นเมฆจะนำมาใช้ โดยที่ยังไม่มีการนำเสนอขออนุมัติหลักการใดๆ จาก ครม.ด้วยแล้ว ถึงประมูลไปก็คงไม่พ้นถูกฟ้องคาราคาซังในชั้นศาลอยู่ดี

ยิ่งหากป.ป.ช.หรือศาลทุจริตชี้ขาดออกมาว่าโครงการนี้มีทุจริต หรือมีการแก้ไขเกณฑ์คัดเลือกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายหนึ่งรายใดดังผลไต่สวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ด้วยแล้ว ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ฝ่ายบริหาร รฟม.และกระทรวงคมนารคมจะอยู่ไม่ได้เลย ตัวนายกฯลุงตู่เองก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เพราะทั้งหลายทั้งปวงนั้นล้วนเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลชุดนี้ที่ป่าวประกาศยืนยัน นั่งยันมาโดยตบอดว่าไม่มีการทุจริตใด ๆ เกิดขึ้น

ก็คงได้แต่เตือนสติ นายกฯลุงตู่ด้วยความปรารถนาดีไว้ตรงนี้ หากนายกฯไม่ยอม “หักดิบ”พรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบโครงการนี้ แล้วปล่อยให้ บริหาร รฟม.และคณะกรรมการคคัดเลือกตามมาตรา 36 “ดันทุรัง”จัดประมูลกันไปจตามยถากรรมเช่นนี้ต่อไป เส้นทางการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีส้ม รวมทั้งสายสีม่วงใต้ที่จะเจริญรอยตามมาในอนาคตอันใกลบ้ก็คงได้”ม้วนเสื่อ” เกิดใหม่อีกเป็นสิบชาติก็ไม่มีทางสำเร็จแน่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่