พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา , นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกกท. พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจความพร้อมของ อาคารกีฬานิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อเตรียมใช้เป็นศูนย์แรกรับและส่งต่อ ผู้ป่วยโควิด ตามนโยบายของรัฐบาลสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับการจัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 (Pre Admission Center) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดใช้อาคารกีฬานิมิบุตร เพื่อจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อ ผู้ป่วยโควิด โดยบุคลากรของกรมพลศึกษา และกลุ่มจิตอาสา 904 ร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับผู้ป่วยได้ 171 เตียง ตามมาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด อาทิ การบริการทางการแพทย์, การบริหารจัดการด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม, ระบบการกำจัดขยะระบบไฟฟ้า, ระบบการขนส่ง เพื่อส่งต่อผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามอื่น ๆ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 จะเข้ามารองรับและแก้ปัญหาเตียงเต็มในกทม.ให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลของแพทย์ ด้วยอุปกรณ์รักษาพยาบาลโรคโควิด 19 ครบครัน ก่อนนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่อไป และในอนาคต
หากสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ป่วยลดจำนวนลงแล้ว ศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาคารนิมิบุตร สามารถปรับใช้เป็น
สถานที่ฉีดวัคซีนเพื่อบริการแก่ประชาชนทั่วไปด้วย
ดร. ก้องศักด ยอดมณี เผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กกท.ได้ให้ความร่วมมือกับจังหวัดที่ต้องการใช้สถานที่ในสนามกีฬากลางของแต่ละจังหวัด จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ป่วยแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ ตรัง, เพชรบูรณ์ ,แม่ฮ่องสอน, อำนาจเจริญ, นราธิวาส และ กระบี่
สำหรับ อินดอร์สเตเดี้ยม หลังเล็กและศูนย์กีฬาในร่ม ภายใน กกท.หัวหมาก กระทรวงสาธารณสุข เตรียมใช้เป็นสถานที่สำรองในกรณีที่มีเคสผู้ป่วยจากอาคารกีฬานิมิบุตร มีมากจนรองรับไม่พอ ซึ่ง กกท. ยืนยันความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้เราผ่านช่วงสถานการณ์แบบนี้ไปให้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาสุขภาพของตนเอง ด้วยความไม่ประมาท และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
Cr : วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์