พิมพ์ไทยออนไลน์ // กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ (Thai Youth League 2021) ภายใต้โครงสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกับเป็นเวทีพัฒนาศักยภาพนักฟุตบอล ตั้งแต่รุ่นยุวชนจนถึงระดับ ก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพ และความเป็นเลิศระดับนานาชาติ
ที่ ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23ก.พ.ที่ผ่านม ได้มีพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย การจัดแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ (Thai Youth League 2021) ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี, 12 ปี, 14 ปี, 16 ปี, 18 ปี และ 21 ปี ตั้งเป้าสร้างต้นแบบการทำงานร่วมกันที่เป็นระบบการพัฒนาฟุตบอลของประเทศที่เป็นหนึ่งเดียว
ภายในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ได้รับเกียรติ จาก นาย นภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท และ พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน
พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการลงนาม MOU ครั้งนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ เป็นปิรามิดฟุตบอลของประเทศ ที่สมาคมฯจัดวางแผนแม่บทระยะยาว 20 ปี โดยเล็งเห็นถึงการวางกลยุทธ์ มีหลักคิดและจุดประสงค์การจัดการแข่งขันแต่ละรุ่นอายุอย่างละเอียด แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือช่วงวัยเรียนรู้ วัยพัฒนา และวัยที่ต้องแสดงศักยภาพเพื่อความเป็นเลิศ
การแข่งขันภายใต้โครงสร้างใหม่ เพิ่มรุ่นอายุให้ฟุตบอลไทยขับเคลื่อนอย่างสมบูรณ์แบบ เปิดเวทีรองรับนักกีฬาตั้งแต่วัยเริ่มเข้าสู่ฟุตบอล รุ่นยุวชน (U10, U12, U14) เยาวชน (U16, U18) จนไปถึงการส่งต่อนักฟุตบอลเข้าสู่เวทีฟุตบอลอาชีพ (U21) เป็นการเพิ่มประชากรเข้าสู่วงการกีฬาฟุตบอล และลดปัญหาการหายไปของนักฟุตบอลในช่วงอายุที่ออกจากรั้วโรงเรียน เข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลสโมสรอาชีพ
การจัดวางปฏิทินการแข่งขันอย่างเหมาะสม ไม่ทับซ้อนกับโปรแกรมทีมชาติ และเป็นเวทีให้กับเยาวชนได้แสดงศักยภาพเพิ่มประสบการณ์ กำหนดจำนวนแมตช์การแข่งขันที่เพียงพอเหมาะสมต่อนักกีฬาแต่ละช่วงอายุในแต่ละปี อีกทั้งยังช่วยผลักดันให้สโมสรฟุตบอลอาชีพ รวมถึงสมาคมกีฬาจังหวัดต่างๆ เกิดความตื่นตัวในการพัฒนาเยาวชนมากขึ้น เพราะมีเวทีรองรับให้ในทุกช่วงอายุแล้วหลังจากนี้
การแข่งขันในแต่ละรุ่นอายุ ได้มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน เช่น รุ่นอายุไม่เกิน 10 และ 12 ปี จะเป็นการแข่งขันเพื่อปลูกฝังและสร้างความสนุกสนาน สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ มีชอบในกีฬาฟุตบอล ได้สัมผัสการแข่งขัน สร้างทักษะและเรียนรู้เป็นหลัก
ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี, 16 ปี, 18 ปี เพื่อความต่อเนื่อการพัฒนาทักษะฟุตบอล และรองรับการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ รุ่น 21 ปี จะเปรียบเสมือนเวทีที่รองรับนักกีฬาเข้าสู่สโมสรฟุตบอลอาชีพ และเป็นลีกที่ให้นักฟุตบอลได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญจะเป็นแหล่งคัดสรรนักกีฬารวมกันนักฟุตบอลในลีกอาชีพ เตรียมเข้าสู่การแข่งขันที่มีการจำกัดอายุเช่น มหกรรมกีฬาซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ และคัดโอลิมปิก ต่อไป
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์