วันอาทิตย์, กันยายน 14, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 41

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1175029090377319067
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

พยุงราคาผลไม้ @“Thai Fruits Festival 2025” กระตุ้นบริโภคคึกคัก

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10231
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

แนะชาวสวน “ทุเรียนภูเขาไฟ” รับมือ “เถ้าแก่-ล้ง” กดราคาซื้อต่ำติดดิน!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10230
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

กองทุน FTA อนุมัติงบ 24.98 ล้านบาท หนุนโครงการนำร่องถั่วเหลืองอินทรีย์–แฟร์เทรด ยกระดับต้นแบบการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันภาคเกษตรไทย

0

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการนำร่องศูนย์ต้นแบบการผลิตถั่วเหลืองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด ของกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ กองทุน FTA ณ อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ครั้งที่ 3/2568 ณ ห้องประชุมสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยทางคณะกรรมการบริหารกองทุน FTA ได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 24.98 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการนำร่องต้นแบบการผลิตถั่วเหลืองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด

สำหรับโครงการนำร่องต้นแบบการผลิต ถั่วเหลืองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด ทางกรมวิชาการเกษตร และวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ได้ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันของประเทศ งบประมาณ 24,978,860 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับโครงสร้างกระบวนการผลิตถั่วเหลืองของเกษตรกร สมาชิกวิสาหกิจชุมชน ด้วยโมเดลต้นแบบ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงและแปลงผลิตได้การรับรองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด มุ่งพัฒนาเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนให้สามารถผลิตเมล็ดและเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองอินทรีย์หมุนเวียน รองรับความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ เพิ่มรายได้ของเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนจากการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตถั่วเหลืองอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตร
โครงการฯ มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 5 ปี (พ.ศ. 2568 – 2572) มีหน่วยงานในพื้นที่ร่วมดำเนินงานดังนี้ 1) วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แฟร์เทรดศรีสะเกษ 2) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรศรีสะเกษ ตำบหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ 3) ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี 4) ศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช ขอนแก่น 5) ศูนย์วิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตรขอนแก่น 6) สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 และ7) กองวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งโครงการมีกิจกรรมในการดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 ต้นแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองเพื่อความยั่งยืนตามมาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์ กิจกรรมที่ 2 พัฒนาเกษตรกรและเพิ่มผลผลิตถั่วเหลือง(หลังนา) ตามมาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด (5 ปี) กิจกรรมที่ 3 พัฒนาเกษตรกสู่ระบบเกษตรอินทรีย์สากลและแฟร์เทรด และกิจกรรมที่ 4 เงินกู้สำหรับกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกถั่วเหลืองในแปลงเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากลและแฟร์เทรดเพื่อความยั่งยืน

“จากความสำเร็จของโครงการนำร่องต้นแบบการพัฒนา​เกษตรกร​ผู้ปลูกข้าวสู่การรับรองมาตรฐาน​เกษตร​อินทรีย์​สากล​ EU/NOP ด้วยวิธีบริหาร​จัดการ​น้ำเพื่อการทำเกษตร​อินทรีย์​ จึงเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าว จะสามารถนำร่องต้นแบบการผลิตถั่วเหลืองตามมาตรฐานอินทรีย์ให้วิสาหกิจชุมชนฯ มีเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองชั้นพันธุ์จำหน่ายสำหรับปลูกหลังนาพื้นที่ 500 ไร่ ในปีที่ 2 – 4 และหากประสบความสำเร็จ จะสามารถลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย และชีวภัณฑ์ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ได้ผลผลิต ถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจากเดิม 49 กก./ไร่ เป็น ได้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 200 กก./ไร่ในปีที่ 5 อีกทั้งเกิดโอกาสในการจำหน่ายสร้างรายได้เพิ่ม นำความรู้และประสบการณ์ผลิตถั่วเหลืองในระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ EU/NOP ไปใช้ในแปลงผลิตของตนเอง จัดการผลิตได้อย่างเหมาะสม สามารถผลิตและมีแหล่งปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ สำหรับใช้ในแปลงถั่วเหลืองในพื้นที่ต่อไป โดยสศก. จะมีการติดตามโครงการต่อเนื่องในทุกไตรมาส เพื่อให้โครงการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบรรลุทุกวัตถุประสงค์ของโครงการที่ตั้งไว้ต่อไป”

 

 

 

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1175020629073943438?
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

GULF AIS JAS ผนึกกำลังคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีกยิงสดครบทุกลีก นำเทคโนโลยียกระดับ พัฒนากีฬาไทยสู่ระดับโลก!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10226
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

เปลี่ยน “น้ำมันพืช” ใช้แล้ว.. เป็น “น้ำมันเครื่องบิน”

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10224
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สายช็อบ ห้ามพลาด!งานแสดงและจำหน่ายสินค้า ฮักหลาย…มหาสารคาม160 ปี

0

สายช็อบ “ ห้ามพลาด ”
“งานแสดงและจำหน่ายสินค้า ฮักหลาย…มหาสารคาม160 ปี
สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากล”ครั้งที่ 2
โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองมหาสารคาม และร่วมเข้าชมนิทรรศการที่จะทำให้คุณหลงใหล และเพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนในการเพิ่มช่องทางการตลาดได้อย่างแพร่หลาย

พร้อมกันนี้ภายในงานยังจัดกิจกรรมร่วมสร้างธุรกิจและการเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจการค้า ( Business Matching) ไปกับผู้ประกอบการ OTOP SMEs เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพและยกระดับการค้า การลงทุนให้ผู้ประกอบการจังหวัดมหาสารคามเป็นที่ยอมรับของตลาดสากล และตลาดดิจิทัลมากขึ้น

ภายในงานท่านจะได้พบกับความบันเทิงและกิจกรรมสุดฮิตติดเทรนด์ สัมผัสใกล้ชิดกับศิลปินลูกทุ่งขวัญใจทุกวันที่มาร่วมสร้างสรรค์ความบันเทิงให้กับผู้เข้าร่วมช็อป ชิม ชิล แช๊ะ แชร์ และสินค้าจากผู้ประกอบการของจังหวัดมหาสารคาม กว่า 43 คูหา ซึ่งประกอบด้วย เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อาหารสด อาหารแปรรูป ของใช้ ของประดับตกแต่ง ของที่ระลึก และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีการจับคู่เจรจาธุรกิจ นิทรรศการผลิตภัณฑ์ของดีของเด่นจังหวัดมหาสารคาม

ขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “ ฮักหลาย…มหาสารคาม160 ปี สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากล” ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.30 น. นี้

# สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม
#ฮักหลายมหาสารคาม
#เทศกาลอาหาร
# งานแสดงสินค้ามหาสารคาม

สศท.5 ชูผลสำเร็จ “กลุ่มปลูกกล้วยหอมทองส่งออกหนองบัวแดง” @ชัยภูมิ สร้างรายได้ปีละ 36 ล้านบาท

0

​นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นแหล่งปลูกกล้วยหอมทองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่สร้างรายได้ให้จังหวัด เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์คอสมอสแซล หรือพันธุ์กาบดำ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ผลไม่ใหญ่มากพอดีคำ มีเนื้อเหนียวนุ่มละเอียด ผลดิบสีเขียวนวล ผลสุกสีเหลืองนวล ไม่มีจุดดำที่เปลือก เปลือกหนาเนื้อกล้วยจึงไม่ช้ำง่าย รสชาติหอมหวาน จนได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สร้างอาชีพ สร้างรายได้งามให้แก่เกษตรกรในจังหวัดชัยภูมิ เป็นอย่างดี ​​​​​​​​​​​​

จากการลงพื้นที่ติดตามของ สศท.5 พบว่า พื้นที่ปลูกกระจายอยู่ในอำเภอหนองบัวแดง อำเภอแก้งคร้อ อำเภอเมือง อำเภอจัตุรัส อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ โดยเกษตรกรในพื้นที่มีการรวมกลุ่มแปลงใหญ่เพื่อบริหารจัดการผลผลิตร่วมกัน คือ กลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการวางแผนการผลิตและการตลาดอย่างเป็นระบบ ผลผลิตผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI กลุ่มเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร รวม 570 ไร่ (ปลูกเฉลี่ย 5 – 10 ไร่/ครัวเรือน) มีเกษตรกรสมาชิก 35 ราย โดยมีนายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งภายในกลุ่มมีการบริหารจัดการให้ผลผลิตออกสู่ตลอดทั้งปี โดยการหมุนเวียนการปลูกของสมาชิกภายในกลุ่ม ด้านสถานการณ์การผลิตของกลุ่ม ปี 2568 เกษตรกรจัดสรรพื้นที่ปลูก 1 ไร่ ปลูกประมาณ 400 ต้น ระยะเวลาเพาะปลูก จนถึงเก็บเกี่ยว 8 – 9 เดือน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,950 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต ผลตอบแทนเฉลี่ย 63,608 บาท/ไร่/รอบการผลิต ทั้งนี้ หากคิดเป็นรายได้ของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 36.25 ล้านบาท/ปี

​ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย ณ เดือนพฤษภาคม 2568 กลุ่มตัดกล้วยหอมทองจำหน่ายแบบยกเครือ แบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรด A (น้ำหนักลูกมากกว่า 110 กรัมขึ้นไป) ราคาอยู่ที่ 17 บาท/หวี , เกรด B (น้ำหนักลูกอยู่ระหว่าง 95 – 109 กรัม) ราคาอยู่ที่ 13 บาท/หวี สำหรับกล้วยหอมที่ไม่ได้มาตรฐานในการส่งออกจะจำหน่ายภายในประเทศ (น้ำหนักลูกน้อยกว่า 95 กรัม) ราคาอยู่ที่ 10 บาท/กิโลกรัม โดยสัดส่วนของกล้วยหอมทองเกรด A มีมากถึงร้อยละ 79 รองลงมาเกรด B ร้อยละ 20 และกล้วยตกเกรด ร้อยละ 1 โดยกลุ่มมีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่ม มีการวางแผนการผลิตให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงเน้นการปลูกแบบ 1 แปลง ห่างกัน 2 เดือนต่อเนื่อง ในเกษตรกรแต่ละราย และมีการไว้ผลผลิตตอที่ 2 ประมาณร้อยละ 25 เพื่อลดต้นทุนการผลิต ด้านการจำหน่ายผลผลิต ของกลุ่ม แบ่งเป็น กล้วยหอมทอง ร้อยละ 95 จำหน่ายให้บริษัท เจ เฟรช จำกัด ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลผลิตทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 4,000 – 5,000 กิโลกรัม เพื่อส่งจำหน่ายต่างประเทศ ทำให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ตลาดทั่วไป ประกอบกับกลุ่มรักษามาตรฐานสินค้า GI ทำให้สร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพต่อผู้บริโภค และผลผลิต ร้อยละ 5 ส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าในประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับตลาดทั่วไปชึ่งมีทั้งผู้บริโภคทั่วไปและโรงงานแปรรูป

​ทั้งนี้ กลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการผลิต กล้วยหอมทองเพื่อส่งออก ซึ่งกลุ่มได้มีการพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มยังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานพลังงานจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด เข้ามาสนับสนุนให้ผลผลิตกล้วยหอมทองของกลุ่มได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI และที่สำคัญกลุ่มยังพัฒนาและรักษามาตรฐานของผลผลิตเน้นการผลิตโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจกับคุณภาพกล้วยหอมทอง หากท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตกล้วยหอมทองของกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา โทร 09 4472 4767