วันพุธ, กันยายน 10, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2117

ส.มวยจัดกำปั้นชิงแชมป์ปทท. เฟ้นนักชกเสริมทีมชาติ รูปแบบนิวนอร์มอล

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ยืนยัน จัดการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย แบบนิวนอร์มอล(ไม่มีผู้ชม) เพื่อเฟ้นหานักกีฬาฝีมือดีเสริมทีมชาติ ที่ศูนย์ฝึกกีฬามวยแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี วันที่16-22พ.ย.นี้ รับสมัครถึงวันที่ 30 ต.ค.นี้
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ท.อุชุกร สาครนาวิน รองเลขาธิการสมาคมฯ เป็นประธานการประชุม การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับ ความคืบหน้าการเตรียมจัดแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย หลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ทำให้การเตรียมความพร้อมทุก ๆ ด้าน เกิดการสะดุด ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศคลายล็อค และให้กีฬากลับมาแข่งขันได้ปกติ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องแข่งแบบปิดสนาม(ไม่มีผู้ชม)ตามนโยบายของรัฐบาลและกกท.

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา กล่าวว่า วัตถุประสงค์ที่จัดการแข่งขันรายการชิงแชมปืประเทศไทย เพื่อให้นักกีฬามวยสากลได้มีโอกาสได้ขึ้นชกหาประสบการณ์บนเวทีและหานักชกฝีมือดีเข้มาเสริมทีมชาติต่อไป หลังรัฐบาลคลายล็อคผ่อนปรนให้มีการจัดการแข่งขันกีฬา โดยปีนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ด้วยการจัดแข่งขันในรูปแบบ นิว นอร์มอล (ไม่มีผู้ชม) สมาคมฯจึงต้องจัดแข่งขันอย่างกระชับรัดกุม จำนวน 7 วัน เน้นเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญ คณะกรรมการจัดการแข่งขันประชุมกันหลายรอบและได้ข้อสรุปว่าจะใช้ศูนย์ฝึกแห่งชาติมวกเหล็ก สระบุรี เป็นสถานที่จัดการแข่งขันรายการนี้ เพราะมีความพร้อมทั้งอุปกรณ์การแข่งขันและเวที รวมถึงที่พักนักกีฬาและเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ การแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปีนี้จะแข่งขันวันที่ 16-22 พ.ย.นี้ ที่ศูนย์ฝึกกีฬามวยแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี แบ่งออกเป็นชาย 6 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น49กก. ,รุ่น52กก. ,รุ่น57กก. ,รุ่น63กก. ,รุ่น69กก. และ รุ่น75กก.ขณะที่ หญิง 5 รุ่น ประกอบด้วยรุ่น 48กก. ,รุ่น51กก. ,รุ่น57กก.รุ่น60กก.และรุ่น69กก.โดยสมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 ต.ค นี้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จะส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกีฬามวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25 ก.ค. – 9 ส.ค. 2021 และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 วันที่ 24 พฤศจิกายน – 2 ธ.ค.2021 ที่เวียดนาม

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง” ได้ฤกษ์เปิด 1 พ.ย.นี้ พร้อมตั้งศูนย์กีฬา “อคาเดมี่เปตอง” ดึงแชมป์โลกสอนเด็กเยาวชน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตองแห่งแรกของเมืองไทย เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการ วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 9 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร “ไกรสีห์ กรรณสูต” ประธานมูลมินิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ปิ้งไอเดียเปิด”อคาเดมี่เปตอง” ตั้งเป้าสร้างเด็กเยาวชนไทยให้หันมาเล่นเปตองให้มากยิ่งขี้น และผลักดันก้าวไปสู่ทีมชาติในอนาคต พร้อมจัดผู้ฝึกสอนระดับมือโปร และดีงนักเปตองแชมป์โลก ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มาช่วยฝึกสอนเด็กเยาวชน และประชาชนที่สนใจเล่นเปตอง ตามกติกาสากลของ สหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP)

นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตองแห่งแรกของเมืองไทย เผยว่า การจัดตั้งมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตองขึ้นมานั้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ เพื่อเผยแพร่กีฬาเปตองให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นไปทั่วประเทศไทย และเป็นส่งเสริมให้เด็กเยาวชนหันมาเล่นเปตอง และห่างไกลยาเสพติด อีกทั้งยังเป็นการสร้างเด็กเยาวชนที่มีความสามารถ และฝือมือการเล่นเปตองได้ดี เพื่อผลักดันให้ก้าวไปสู่ทีมชาติไทยในอนาคต

โดยทางมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง จะเปิดศูนย์พัฒนากีฬาเปตอง “อคาเดมี่เปตอง” โดยจะมีผู้ฝึกสอนที่มีความชำนาญ หรือมือโปรด้านกีฬาเปตองโดยเฉพาะ พร้อมกันนี้จะมีนักเปตองที่เคยคว้าแชมป์โลก และแชมป์นานาชาติ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มาช่วยกันสอนเด็กเยาวชน รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่สนใจเล่นเปตองอย่างใกล้ชิด ตากติกาสากลของสหพันธ์เปตองนานาชาติ (FIPJP)

ด้านนายชุริน ภัทรดิลก อุปนายกสมาคกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในฐานะเหรัญญิกมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตองแห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 9 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ โดยจะมีอาคารมูลนิธิฯ เพื่อใช้เป็นสำนักงานและห้องฝึกอมรม พร้อมมีสนามเปตองในร่มจำนวน 16 สนาม และมีการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง มีที่นั่งชมการแข่งขันสำหรับคนดูและกองเชียร์ นอกจากนี้ยังมีสนามกลางแจ้งที่ได้มาตราฐานอีก 80 สนาม ซึ่งสามารถใช้จัดการแข่งขันเปตองได้ ประมาณ 300 ทีม และยังมีสถานที่จอดรถอีกประมาณ 400 คัน ซึ่งสนามแห่งนี้สามารถจัดแข่งขันเปตองระดับนานาชาติ หรือจัดเปตองการกุศลได้

นอกจากนี้มูลนิธิฯยังเปิดบริการจัดงานเลี้ยงสรรสรรค์ หรืองานประชุมทุกชนิด โดยมีเชฟชั้นนำบริการด้านอาหารให้อร่อยถูกปากตามความต้องการ เพื่อนำรายได้สมทบทุนเข้ามูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตองต่อไป
สำหรับหน่วยงานใดที่จะจัดแข่งขันเปตองภายใน หรือผู้ที่สนใจจัดแข่งขันเปตองการกุศล หรือจัดแข่งขันโดยทั่วไป สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณชุริน ภัทรดิลก มือถือ 0819315064 หรือที่อีเมล churinpetanque@gmail.com

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

นักปั่น “ทีม ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง” ทำเสื้อชมพู เสื้อเขียวหลุด ทีมไบค์ เอด เยอรมนี แย่งไปครอง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ประเภททีมชาย สเตจที่ 2 เริ่มปล่อยตัวจากอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปเข้าเส้นชัยที่บริเวณหน้าเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 108.45 กม. โดยมี พลตรีอภัย อรัญทิมา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ เป็นประธาน ร่วมกับ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เส้นทางการแข่งสเตจที่ 2 นักกีฬาปั่นผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของประจวบคีรีขันธ์ เช่น หาดสามร้อยยอด, อ่าวน้อย, เขาช่องกระจก เป็นต้น สำหรับผลการแข่งขันในช่วง 20 กม. ก่อนถึงเส้นชัย มีนักปั่น 3 คน ประกอบด้วย “เฟรม” สิบตรี ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักปั่นจากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม พร้อมด้วย ลูคัส คาร์สเตนเซน และ นิโกเดมัส โฮลเลอร์ สองนักปั่นชาวเยอรมัน ทีมไบค์ เอด ปั่นฉีกหนีกลุ่มใหญ่ทิ้งห่างเกือบ 2 กม. และช่วงสปริ้นต์เข้าเส้นชัย ปรากฏว่า ลูคัส คาร์สเตนเซน เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ตามด้วย ธนาคาร ไชยยาสมบัติ และ นิโกเดมัส โฮลเลอร์ ด้วยเวลา 2.17.57 ชั่วโมงเท่ากัน

ด้านผู้นำเวลารวมเปลี่ยนมือจาก “ปาง” จ่าอากาศเอก ธนาวุฒิ สนิกวาที แชมป์สเตจแรก ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ซึ่งสเตจนี้เข้าอันดับที่ 15 เป็น ลูคัส คาร์สเตนเซน ด้วยเวลา 5.28.08 ชั่วโมง ทำให้ คาร์สเตนเซน แย่งเสื้อชมพูไปครอง พร้อมกับเป็นผู้นำคะแนนรวม โดยมี 29 คะแนน คว้าเสื้อเขียวไปครองอีก 1 ตัว ส่วนรางวัลเจ้าความเร็ว (IS) อาเดรียนัส เจสซี่ ทีมไบค์ เอด เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม “เฟรม” สิบตรี ธนาคาร ไชยยาสมบัติ มากู้หน้าให้ทีมได้ด้วยการคว้าแชมป์รุ่นยู-23 (รุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปี) และเป็นผู้นำเวลารวมรุ่นยู-23 ด้วยเวลา 5.08.32 ชั่วโมง ได้ครองเสื้อสีม่วง รวมทั้งได้รับตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดยอมเยี่ยม ประจำสเตจที่ 2 ไปครอง
ด้าน พลเอกเดชา เปิดเผยว่า เกมวันนี้เป็นไปตามที่ได้กล่าวไว้เมื่อวันก่อนว่า ทีมไบค์ เอด สภาพร่างกายเขาฟื้นตัวแล้ว และสเตจแรกเขารอดูฟอร์มนักปั่นไทย วันนี้จึงโชว์ฟอร์มอย่างเต็มที่ แต่ในสเตจที่ 3 ระยะทาง 204.20 กม. นักกีฬาไทยอาจจะได้เปรียบนิดหน่อยเรื่องความคุ้นชินกับสภาพอากาศที่ร้อน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับ “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอน ว่าจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะนักกีฬาของเราต้องช่วยเหลือกัน ทั้งทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ และทีมชาติไทย ทั้งนี้เหลือการแข่งขันอีก 4 สเตจ เราต้องวางแผนแก้ไขกันต่อไป

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ล่าสุด มร.เฟดเดอริก ชาน หัวหน้าผู้ตัดสินชาวฮ่องกง ได้ส่งผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการไปยังสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ จากนั้น ยูซีไอ ได้ลงผลในเว็บไซต์ว่าเป็นการแข่งขันในระดับ 2.1 ก็เบาใจเนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามแผน นอกจากนี้เป็นโอกาสดีสำหรับทีมระดับสโมสรต่าง ๆ ที่แข่งขันในครั้งนี้ ถ้าทีมไหนมีคุณสมบัติเหมาะสม สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะสนับสนุนให้ก้าวไปสู่ทีมระดับอาชีพ หรือ คอนติเนนตัล ทีม ต่อไป เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศที่มีทีมอาชีพหลายทีม และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่เบาบางลง สามารถจัดการแข่งขันในระดับ 2.1 ได้ เพราะเป็นไปตามข้อกำหนดของ ยูซีไอ
“เฟรม” ธนาคาร กล่าวว่า ดีใจที่ได้อันดับที่ 2 สเตจที่ 2 รวมทั้งคว้าแชมป์รุ่นยู-23 และเป็นผู้นำเวลารวม พร้อมด้วยตำแหน่งนักบู๊ยอดยอมเยี่ยมอีก 1 รางวัล สำหรับในสเตจต่อ ๆ ไปจะพยายามทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถ เพื่อพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคน

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“เสี่ยโบ๊ท” ฉลองเบิร์ดเดย์ จัดชิง 2 รุ่น มวยมันส์ 9 ต.ค.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มไฟแรง เพชรยินดี สมนาคุณแฟนมวย จัดฉลองครบรอบวันเกิดตนเอง ด้วยการประกบคู่มวย ชิงแชมป์มวยมันส์วันศุกร์ ถึงพิกัด 2 รุ่น พร้อมคู่มวยสูสีชาย-หญิงอันแน่นทั้งรายการ วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคมนี้ ที่ เวทีมวยรังสิต พร้อมถ่ายทอดสด ช่อง 24 ทรูโฟร์ยูเช่นเดิม ตั้งแต่ 18.00-20.00 น. และต่อเนื่องรับชมได้ทางแฟนเพจอีกด้วย
ที่ เพชรยินดีคิงดอม ซอยจรัญ 34 กทม.เมื่อวันที่ 7 ต.ค. “เสี่ยเน้า”วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ประธานจัดอันดับ “มวยมันส์วันศุกร์” มอบหมายให้ นายยชช์ ปรีดา แพรทองคำ รองประธาน พร้อมคณะกรรมการจัดอันดับ พิจารณาผลงาน นักมวยไทย ประจำเดือนตุลาคม 2563 รวมทั้งเปลี่ยนชื่อสถาบันใหม่เป็น “มวยมันส์วันศุกร์” นับแต่นี้เป็นต้นไป สรุปประเด็นสำคัญ มีการอนุมัติชิงแชมเปี้ยนมวยไทย 2 รุ่น ได้แก่ ชิงแชมป์รุ่นแบนตัมเวต 118 ปอนด์ เพชรไทยแลนด์ ม.ราชภัฏสุรินทร์ พบ ยอดธง สจ.โต้งปราจีน และชิงแชมป์รุ่น ซูเปอร์แบนตั้มเวต 122 ปอนด์ บุญหลง คลองสวนพลูรีสอร์ท พบ เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นท์ ส่วนคู่เอก หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ พบ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม (ช่วงถ่ายทอดสด)
ส่วนคู่เอกหลังถ่ายทอด ปืนกล ต.สุรัตน์ พบ เพชรสมหมาย ส.สมหมาย รวมทั้งมวยหญิงอีก 2 คู่ท้ายรายการ ซึ่งถือเป็นรายการซูเปอร์ไฟต์ ที่ เวทีมวยนานาชาติ รังสิต จ.ปทุมธานี วันศุกร์ที่ 9 ต.ค.ศกนี้ พร้อมถ่ายทอดสดช่อง 24 ทรูโฟร์ยูเช่นเดิม เวลา 18.00-20.00 น. สำหรับคู่มวยในช่วงหลังนั้น ติดตามชมถ่ายทอดสดได้ทาง FB Fanpape : มวยเด็ด 789 / มวยไทย 2000 โดยรายการดังกล่าวถือเป็นคู่มวยที่อัดแน่นถูกใจแฟนๆมวย และเป็นนัดฉลองครบรอบคล้ายวันเกิดของ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มอายุ 33 ปี อีกด้วย

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเผยช้างไทยในภาคท่องเที่ยว 70% มีความเป็นอยู่ย่ำแย่วอนเที่ยวเฉพาะปางช้างสวัสดิภาพดี

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเปิดเผยรายงานฉบับใหม่ พบว่าช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 70% มีสภาพความเป็นอยู่ในเกณฑ์ย่ำแย่ ถูกใช้งานในการโชว์ช้างและขี่ช้าง ขาดอิสรภาพ ไม่ได้รับอาหารเพียงพอ และอยู่ในสภาพแวดล้อม ตึงเครียด ขณะที่อีก 25% มีสภาพความเป็นอยู่ปานกลาง ไม่มีการโชว์ช้าง อาหารและสภาพแวดล้อมเหมาะสม แต่ยังมีกิจกรรมที่ ช้างต้องปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวอย่างการอาบน้ำช้างอยู่บ้าง ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือช้างที่มีสภาพความเป็นอยู่ดี ไม่ถูกบังคับให้สร้างความบันเทิงให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินเล่น หาอาหาร อาบน้ำได้อย่างอิสระ มีโอกาสแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ
ข้อค้นพบนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานเรื่อง Elephants. Not Commodities. หรือ “ช้างไม่ใช่สินค้า” ซึ่งนอกจากการประเมินสภาพความเป็นอยู่ของช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้ว เนื้อหายังครอบคลุมภาพรวมและแนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับช้าง ทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่อการใช้สัตว์ป่าสร้างความบันเทิง สวัสดิภาพของควาญช้าง ตลอดจนวิธีการฝึกช้างที่มีความโหดร้ายทารุณด้วย
รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการของนักท่องเที่ยวและผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อนความโหดร้ายทารุณต่อช้าง โดยการนำช้างมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้นั้นจำเป็นจะต้องผ่านกระบวนการฝึกที่สร้างความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิดใจให้กับช้าง เช่น การแยกลูกช้างจากแม่ช้างตั้งแต่ยังเล็ก การขังในซองแคบๆ การใช้ตะขอสับและขูดที่หัวลูกช้าง การใช้ไม้ทุบตี การล่ามโซ่สั้นๆ ไปจนถึงการบังคับให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดอื่นๆ เพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ข้อมูลเดือนมกราคม 2563 ระบุว่าเรามีช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2,798 ตัว เพิ่มขึ้นถึง 70% จากเมื่อ 10 ปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนถึง 73% ของช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วเอเชีย ด้วยประชากรช้างขนาดใหญ่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ ความเสี่ยงเรื่องสวัสดิภาพย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักจากวิกฤตโควิด-19”
นายฉัตรณงค์ เปิดเผยด้วยว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกหันมาใส่ใจประเด็นสวัสดิภาพสัตว์และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบมากขึ้น โดยผลการสำรวจในปี 2562 ขององค์กรฯ พบว่านักท่องเที่ยวเริ่มนิยมการเที่ยวชมสัตว์ป่าในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติและเลือกชมช้างในสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่ร่วมกิจกรรมขี่ช้างก็ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งครอบคลุมสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยถึง 26% ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจว่านักท่องเที่ยวเห็นว่ากิจกรรมขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่ยอมรับได้มีสัดส่วนลดลงถึง 11% เทียบกับปี 2557 การปรับปรุงสวัสดิภาพช้างให้ดีขึ้นจึงไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ช้างเท่านั้น แต่ยังเป็นทางรอดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอนาคตด้วย
ด้านนางสาวโรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่าโควิด-19 ส่งผลให้ ปางช้างจำนวนมากขาดรายได้ ทำให้ช้างส่วนใหญ่ที่มีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่อยู่แล้วยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก ทั้งในด้านอาหาร สุขภาพ สภาพความเป็นอยู่ของช้าง ไปจนถึงสวัสดิภาพของควาญช้างด้วย ซึ่งทางองค์กรฯ และภาคประชาสังคมอื่นๆ กำลังให้ความช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางแก้ปัญหาสวัสดิภาพช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ได้เรียกร้องไปยังนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้หยุดสนับสนุนสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับช้าง และหันมาดูช้างในแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติหรือในปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้างแทน

นอกจากนี้ ยังเสนอเรียกร้องไปยังภาครัฐและเอกชนให้ร่วมปรับปรุงพัฒนาสวัสดิภาพช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบด้วย
“ช่วงที่การท่องเที่ยวหยุดชะงักถือเป็นโอกาสดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะได้ทบทวน พัฒนา และปรับปรุงสวัสดิภาพช้างและสัตว์ป่าอื่นๆ ให้ดีขึ้น ทั้งเพื่อช้าง ควาญช้าง และเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจเอง ขณะที่ภาครัฐก็ควรหันมาแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจังมากขึ้น ในระยะสั้น เราอยากเห็นภาครัฐรับเรื่องร้องเรียนและช่วยเหลือช้างที่ถูกทารุณกรรมอย่างโปร่งใสและทันท่วงที ปรับปรุงมาตรฐานปางช้างขั้นต่ำให้ดีขึ้น ส่วนในระยะยาวเราอยากเห็นการนำ พ.ร.บ.ช้าง กลับมาทบทวนและปรับปรุงใหม่ โดยต้องครอบคลุมประเด็นด้านสวัสดิภาพช้างอย่างครบถ้วน” นางสาวโรจนากล่าว
รศ. ดร. ธนพร ศรียากูล กรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประธานอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้การถ่ายโอนภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตอบรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย โดยระบุว่าภาครัฐควรกระจายภารกิจด้านการสอดส่องดูแลและตอบสนองเรื่องร้องเรียนด้านสวัสดิภาพสัตว์ไปสู่ส่วนท้องถิ่นมากขึ้น ขณะที่ส่วนกลางก็ควรนำ พ.ร.บ.ช้าง ที่มีเนื้อหาครบถ้วนกลับมาพิจารณาและผลักดันใหม่ นอกจากนี้ ยังระบุถึงแนวคิดที่หน่วยงานรัฐต่างๆ ต้องให้รางวัลหรือประโยชน์ทางการเงินแก่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานด้านสวัสดิภาพมากขึ้น
รศ. ดร. ธนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้ ควรให้รางวัลสนับสนุนทั้งด้านการเงิน สิ่งของ ใบรับรอง หรือลดภาษีเงินได้แก่สถานประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีรายได้จากสัตว์ประเภทต่างๆ หากมีการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นชัดเจนด้านสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนจัดทำบทลงโทษ สร้างอุปสรรคเพื่อให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน หากดำเนินธุรกิจที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์”

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://bit.ly/2GwHr5L และร่วมลงชื่อยุติความโหดร้ายทารุณต่อช้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ที่ https://www.worldanimalprotection.or.th/elephant-breeding-ban :Cr;มณสิการ รามจันทร์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160203126610058767
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

MEA รุกคืบจ่ายไฟ “รถไฟฟ้าสายสีแดง-สถานีกลางบางซื่อ”

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3115
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

BAM SUPER GRAND SALES อัดโปรลดกระหน่ำ ฟรีค่าธรรมเนียมโอน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3114
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

บัณฑิตเอเซีย นำห่างบอลโกแฮร์ยูลีกหญิง ปทุมธานี ถล่ม อ่างทองสนุกแข้ง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ไดโนเสาร์พิฆาต” วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เปิดบ้านรับการไปเยือน ”แข้งสาวเมืองเจดีย์ใหญ่” มรภ.นครปฐม พร้อมกับเดินหน้าคว้าชัยชนะเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน เมื่อถล่มทีมเยือน 8-อ “แข้งสาวเมืองดอกบัว” ม.ปทุมธานี กลับมาคว้าชนะได้อีกครั้ง ชนะ “พยัคฆ์สาวรวงทอง” มกช.อ่างทอง 5-1 ศึกลูกหนังโกแฮร์ยูลีกหญิงชิงถ้วยประทาน “กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” นัดที่ 6
​การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นัดที่ 6 ของฤดูกาล เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา
​ที่สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน “ไดโนเสาร์พิฆาต” วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เปิดสนามรับ “แข้งสาวเมืองเจดีย์ใหญ่” มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เกมนี้ เจ้าบ้านที่กวาดชัยชนะมา 5 นัดรวด ส่งนักเตะหลักลงสนามเกือบจะเต็มทีม ส่วนทีมเยือน ขนนักเตะที่ดีที่สุดลงไปสู้ เจ้าบ้านเหนือกว่าเยอะ เป็นฝ่ายเดินหน้าบดเอาชนะทีม

เยือนไปไม่ยาก 8-0 ได้ประตูจาก “เป๊กกี้”อุไร ยงกุล นาทีที่ 21 และนาทีที่ 56 “พลอยชมพู”พลอยชมพู สมนึก นาที่ที่ 22, 25 “ไอซ์” พิตตินันท์ บาคาล กองหลังนครปฐมทำเข้าประตูตัวเองนาทีที่ 29 “เนย” ภัทรนันท์ อุปชัย นาทีที่ 36 “โบ” ชนินาถ มณีโชติสวัสดิ์ นาทีที่ 54 และ “ฝ้าย” ธมลวรรณ รักศาภักดิ๋ นาทีที่ 65 เก็บ 18 แต้มเต็ม จาก 6 นัด ส่วนทีมเยือน แพ้เป็นนัดที่ 3 จาก 6 นัด มี 9 คะแนนเท่าเดิม
​ที่สนามราชคราม “แข้งสาวเมืองดอกบัว”มหาวิทยาลัยปทุมธานี เปิดบ้านรับการไปเยือนของ “พยัคฆ์สาวรวงทอง” มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอ่างทอง โดยเจ้าบ้าน ชนะนัดแรกนัดเดียวแพ้รวด 3 นัดติด ล่าสุดเสมอกับสวนสุนันทา 0-0 นัดนี้ตั้งเป้าเก็บ3 คะแนนจากทีมเยือนที่แพ้รวดมา 5 นัด ไม่มีแต้ม ไม่มีประตูได้ มีแต่ประตูเสีย 27 ลูก และเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า ชนะไปได้ 5-1โดยประทุมธานีได้ประตูจาก “ไหม” ธานีกานต์ แดงดา ทำแฮททริก เหมายิงคนเดียว 3 ตุง นาทีที่ 16, 18 และ 42 อ่างทองตามคืนได้มีลูกหนึ่ง จาก “ออม” มัฒชิมา กองทิพย์ นาทีที่ 40 เป็นประตูแรกของอ่างทองที่รอคอยมานานถึง 490 นาที ครึ่งหลังมีสกอร์ขยับจาก “เฟื่อง” นันทิยา พลแสน นาทีที่ 81 และ “แก้ว” ฑณัฏฐา สังข์ทอง นาที่ 90 บวก 2 จบเกม ปทุมธานีชนะอ่างทอง 5 ประตูต่อ 1 มี 7 แต้ม จาก 6 นัด ส่วนอ่างทอง ยังไม่มีคะแนนจาก 6 นัด

สำหรับการแข่งขัน วันที่ 8 และที่ 9 ต.ค. นัดที่ 7 มีแข่งขันรวม 5 คู่ วันที่ 8 ต.ค. มรภ.นครปฐมกับ มรภ.สวนสุนันทา ที่สนาม มรภ.นครปฐม เริ่ม 15.00 น., มกช.สมุทรสาครกับ ว.บัณฑิตเอเซีย ที่สนาม มกช.สมุทรสาคร เริ่มเวลา 16.00 น.
​ศุกร์ที่ 9 ต.ค. มกช.ชลบุรี กับ ม.ปทุมธานี ที่สนามโรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี, มกช.อ่างทอง กับ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่สนาม มกช.อ่างทอง เริ่ม 16.00 น.พร้อมกัน และ ม.เกษตรศาสตร์ กับ ม.เกษมบัณฑิต ที่สนามอินทรี จันทรสถิตย์ 15.00 น. ถ่ายทอดสดทาง NBT2HD และทุกคู่ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุค women University League

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์