วันพุธ, ธันวาคม 3, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2114

แบดเดนมาร์ก โอเพ่น ประสบความสำเร็จ ป้องกันโควิด ปรับใช้ที่ไทย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) และรองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก เผย แบดมินตัน เดนมาร์ก โอเพ่น 2020 ที่เพิ่งจบลงไป ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้านการบริหารจัดการแข่งขันภายใต้สถานการณ์โควิด-19 มีการใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่ระบาดอย่างมีระบบ โดยมาตรการป้องกันดังกล่าว จะนำมาปรับใช้ในการแข่งขันที่ประเทศไทย 3 รายการใหญ่ เดือนมกราคม ปีหน้า
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก กล่าวว่า การจัดการแข่งขันแบดมินตัน เดนิซา เดนมาร์ก โอเพ่น 2020 (ซูเปอร์ 750) ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก การบริหารจัดการแข่งขันภายใต้สถานการณ์ของโควิด-19 ซึ่งในส่วนนี้มีการเตรียมการเป็นเวลาหลายเดือน ระหว่าง สหพันธ์แบดมินตันโลก และ เจ้าภาพเดนมาร์ก เพื่อสร้าง “บับเบิ้ล” หรือ สภาพแวดล้อมแบบปิดเพื่อรับมือกับ ไวรัสโคโรน่า ด้วยการใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อ และแพร่ระบาดอย่างมีระบบ
โดยให้นักกีฬา และ เจ้าหน้าที่ทีม อยู่ภายในเส้นทางระหว่าง โรงแรมที่พัก และ สนามแข่งขัน อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการตรวจอุณหภูมิของทุกคนตลอด เพื่อเฝ้าระวัง และเปิดให้ผู้ชมเข้าสนามได้เพียง 500 คน ภายใต้การปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่สำคัญของ เดนมาร์ก โอเพ่น ที่พิสูจน์แล้วว่า การจัดการแข่งขันสามารถจัดขึ้นได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แม้จะมีผู้เล่นหลายคนถอนตัว แต่ก็มีนักกีฬาชื่อดังหลายคนเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ โจ เทียน เฉิน, อันเดอร์ส แอนทอนเซ่น, คิดัมบี ศรีกาน, โนโซมิ โอคุฮาร่า, คาโรลิน่า มาริน เป็นต้น
ทั้งนี้รายการต่อไป เป็นการแข่งขัน เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ เอเชียน เลก ที่ กรุงเทพฯ เดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งได้รับการอนุญาต จากรัฐบาลไทยในการจัด 3 รายการ คือ เอเชีย โอเพ่น 1 (ซูเปอร์ 1000) วันที่ 12-17 มกราคม, เอเชีย โอเพ่น 2 (ซูเปอร์ 1000) วันที่ 19-24 ม.ค. และ ปิดท้ายด้วย เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 วันที่ 27-31 มกราคม ซึ่งจะนำเอามาตรการที่ใช้ใน เดนมาร์ก โอเพ่น มาปรับใช้ต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

BTS เฮ! ศาลปกครองเบรก รฟม.รื้อเกณฑ์ประมูลสายสีส้ม

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3179
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“วอยซ์ TV” เยาวชนปลดแอก เฮ! ศาลยกเลิกคำสั่ง “ปิด”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “วอยซ์ทีวี” สื่อออนไลน์-เยาวชนปลดแอก เฮ! ศาลอาญายกเลิกคำสั่ง”ปิด” ชี้ รธน. รับรองเสรีภาพ-คำร้องไม่ชัดเจน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ต.ค. 63 ที่ศาลอ่านคำสั่งภายหลังการไต่สวนกรณีศาลมีคำสั่งปิดเว็บไซต์ Voice TV เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกับตำรวจ ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบและระงับ 4 สำนักข่าวออนไลน์ กับเพจเยาวชนปลดแอกของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 35 วรรคสอง บัญญัติห้ามรัฐปิดสื่อมวลชนเพื่อลิดรอนเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร มาตรา 36 วรรคหนึ่ง บัญญัติรับรองเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกัน การตีความ .. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 2550 มาตรา 20 ก็ดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2548 มาตรา 9 (3) ก็ดี จึงต้องเป็นไปโดยสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว

ทั้งนี้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 20 ให้อำนาจศาลระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์ และมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.นี้ ระบุว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายถึงข้อมูล ข้อความ ในระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้น เจตนารมณ์ของกฎหมายย่อมมุ่งหมายที่จะให้ศาล ห้ามโดยเฉพาะเจาะจงซึ่งข้อมูลที่เป็นความผิดตามมาตรา 20 (1)-(3) โดยเฉพาะเจาะจงเป็นรายข้อความ ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 (3) ห้ามการเสนอข่าวที่มีข้อความทำให้ประชาชนหวาดกลัวนั้น กฎหมายประสงค์ให้ห้ามเป็นการเฉพาะข่าวหรือข้อความเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการห้ามเข้าถึงข้อมูลหรือข้อความที่มีการนำเสนอปรากฏต่อศาลในปัจจุบันแล้วว่าขัดต่อกฎหมาย กฎหมายหาได้มีเจตนารมณ์ที่จะให้ศาลมีคำสั่งปิดช่องทางการสื่อสารของบุคคลหรือสื่อสารมวลชนทั้งช่องทาง ซึ่งมีผลการนำเสนอข้อความในอนาคตที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดด้วย ส่วนความขัดข้องในเรื่องการปิดกั้นการเข้าถึงทางเทคนิคนั้นเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดี ไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงหลักกฎหมาย

ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม URL ทั้ง 12 รายการ ซึ่งเป็นการปิดช่องทางการสื่อสารของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี, สำนักพิมพ์ประชาไท, The Reporters, The STANDARD หรือของกลุ่มเยาวชนปลดแอก Free YOUTH โดยเหตุที่ผู้ร้องไม่ได้แสดงให้ชัดเจนว่าเป็นการขอให้ปิดสื่อทั้งช่องทาง ทำให้ศาลมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันถูกต้อง เข้าใจว่าเป็นการปิดกั้นเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่คัดนำเสนอต่อศาล คำสั่งศาลดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งศาลที่ให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในคดีนี้ ยกคำร้อง

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160324452410050491
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

คุมต้ว”เพนกวิ้น-รุ้ง” คดีร่วมชุมนุมและปักหมุด ทัองสนามหลวง ฝากขังศาลอาญา

0

พิมพ์ไทยออนไลน์. // ตำรวจชนะสงคราม คุมตัว เพนกวิน-รุ้ง 2 ผู้ต้องหาร่วมชุมนุมธรรมศาสตร์และปักหมุด ท้องสนามหลวงฝากขังศาลอาญา

วันที่ 21 ต.ค. 63 เวลา  11.45 น พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามควบคุมตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2 แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯตามมาตรา 116 เเงะข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง คดีชุมนุม ที่ ม.ธรรมศาสตร์และปักหมุดที่ท้องสนามหลวงวันที่ 19 ก.ย. โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเพื่อไปยังศาลอาญาเพื่อขออำนาจศาลฝากบัง เพนกวินเเละรุ้ง เปิดหน้าต่างรถคุมขังสน.ชนะสงคราม ออกมาชู 3 นิ้ว พร้อมสีหน้ายิ้มเเย้ม

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

K.S. Group นำเสนอโอกาสทางธุรกิจยุคโควิดให้แก่ตัวแทนจำหน่าย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//บริษัท K.S. International Management จำกัด ภายใต้ K.S. Group ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการร่วมเป็น Partner ทางการตลาดกับพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย จัดอบรมให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายสินค้า รวมถึงให้ความรู้ทางด้านขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 1,000 ล้านกล่อง โดยสนับสนุนโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับตัวแทน K.S. Group
คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหาร K.S. Group กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของโควิด – 19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบโดยตรง เราถือโอกาสในวิกฤตนี้ นำเสนอผลิตภัณฑ์ของทาง K.S. Group ว่ามีอะไรบ้างในช่วงนี้ โดยเฉพาะเรื่องของสุขอนามัย อาทิ ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ ซึ่งผู้ที่เข้ามาฟังส่วนมากจะเป็นตัวแทนของ K.S. Group ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจขั้นตอนการจำหน่ายถุงมือ รวมถึงขั้นตอนการปิดการขายว่าทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายตัวจริง
“ธุรกิจของ K.S. Group ภายใต้นิยามการดำเนินธุรกิจของผู้นำ คือ Intermedia Quality of Life & Environment สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม มากว่า 20 ปี นั้น เพื่อต้องการเป็นสื่อกลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ ความงาม และ สุขอนามัยแบบองค์รวม ที่มีผลทางด้านการป้องกัน และส่งเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพร่างกายในสถานการณ์โควิด -19 ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทในเครือ K.S. Group โดย บริษัท K.S. International Management จำกัด ขอเป็นสื่อกลางในการจัดจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ โดยมีการสั่งตรงจากโรงงานผู้ผลิต ถึงผู้ซื้อปลายทางยังต่างประเทศ ผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจใหม่สวนกระแสเศรษฐกิจโควิด-19 ในขณะนี้ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มองว่าเทรนด์ของสินค้าประเภทนี้ยังไปได้อีกยาวไกลมาก ด้วยความที่ว่าประเทศไทยเป็นแหล่งการผลิตถุงมือยางอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศมาเลเซีย ทำให้มีผู้ซื้อมากมายจากทั่วโลกติดต่อเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะโซนยุโรป และ อเมริกา เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นโอกาสของ K.S. Group ที่จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจนี้ไปได้อีกยาวไกล
สำหรับผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง และ ถุงมือทางการแพทย์ – ไนไตร นั้น บริษัท K.S. International Management จำกัด มีที่ปรึกษากิติมศักดิ์ คือ Mr.Nived Shashikant Kuvalekar, The first Asian to Qualify as an Engineer from the world’s first Rubber Technology Institute based on London UK ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านถุงมือยางทุกชนิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก ว่าทางบริษัทฯ มีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ ในการคัดเลือกถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมจากหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย อีกทั้ง ในอนาคตทาง K.S. Group กำลังจะร่วมมือกับกลุ่มบริษัทของเกาหลีผลิตสินค้าทางด้านสุขอนามัยออกจำหน่ายในประเทศ และส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของ K.S. Group ซึ่งจะผลิตออกมากจำหน่าย ในเร็วๆ นี้
คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหารของ K.S. Group ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ความต้องการของสินค้าทางด้านสุขอนามัย อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ ทั่วโลกยังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังเพิ่มความทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จึงถือพลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาสอันดีของ K.S. Group ที่จะดำเนินธุรกิจด้านนี้ต่อไป โดยตั้งเป้าทางการตลาดของถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ – ไนไตร ในปีนี้ไว้ 1,000 ล้านกล่อง โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้ซื้อจากโซนอเมริกา ส่วนที่เหลือ 10% เป็นโซนยุโรปและอื่นๆ ทั่วโลก
“ทั้งนี้บริษัทในเครือ K.S. Group ยังดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออแกนิคทางด้านความงาม ด้านสุขอนามัยแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก และผลิตภัณฑ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมมากว่า 20 ปี ภายใต้นิยมการดำเนินธุรกิจ “สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท รวมถึงมีบริษัทพันธมิตรเข้ามาร่วมสร้างเครือข่ายผู้บริโภคผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทในเครือ K.S. Group รวมถึงสนใจเข้ามาร่วมเป็นตัวแทนจำหน่าย กับทางเรา สามารถ ติดต่อได้ที่ K.S. Call Center 02 949 9885 ในวัน และ เวลาทำการ จันทร์ – ศุกร์ หรือส่งผ่านอีเมลล์ ksm2010bkk@gmail.com ขอเชิญเข้ามาร่วมเป็นสื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม กับเราซิคะ” คุณบุญญรัตน์กล่าวทิ้งท้าย:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

“ใบพัด ศรีราชา” ตกรอบคัดเลือก สนุกเกอร์ ปทท.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ใบพัด ศรีราชา แชมป์สนุกเกอร์หญิงทีมชาติไทย เครื่องชอตดื้อ ๆ แพ้ ต้อง ราชบุรี 2-3 เฟรม ตกรอบคัดเลือกสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการที่ 7 ไปอย่างน่าเสียดาย
การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนประเทศไทย รายการพี 80-ทรู​ จันทรบุรีคัพ​ 2020​ ไทยแลนด์ แรงกิ้ง สนามที่​ 7​ ชิงแชมป์ประเทศไทย รอบคัดเลือก​ เมื่อวันที่​ 20 ต.ค.​ ที่ทีบีซีสนุกเกอร์​ เซนเตอร์​ ซ.รามคำแหง​ 89/1​  กลับมาแข่งขันอีกครั้งแบบ​ New​ Normal​ ตามระเบียบของทางศบค.​ชิงเงินรางวัลรวม 1,522,000 ซึ่งนักกีฬา​ที่ทำแม็กซิมัมเบรค 147 แต้ม แอร์อีมิเน้นท์ มอบทองคำมูลค่า 5 แสนบาท
ไฮไลท์อยู่ที่คู่ระหว่าง ศิริภาพร นวนทะคำจันทร์ (ใบพัด ศรีราชา ) แชมป์สนุกเกอร์หญิงประเทศไทย ปีล่าสุด และนักกีฬาสนุกเกอร์หญิงทีมชาติไทย พบกับ ภูสิทธิ์ พันธุ์พงศ์ (ต้อง ราชบุรี)

เปิดฉาก 2 เฟรมแรกเป็น ใบพัด ศรีราชา ที่ออกคิวได้อย่างไหลลื่นกว่า ขึ้นนำ 2 เฟรมรวด แต่หลังจากนั้น กลับแทงสะดุดไปเฉย ๆ และปล่อยให้ ต้อง ราชบุรี ปล้นชัยชนะในเฟรมที่ 3 ตามด้วยเฟรมที่ 4 เสมอกัน 2-2 ต่อเนื่องด้วยในเฟรมที่ 5 “ต้อง ราชบุรี” ออกมาสอยไม้เดียวขาดลอย ทำให้ ภูสิทธิ์ พันธุ์พงศ์ หรือ ต้อง ราชบุรี ชนะไป 3-2 เฟรม ( 25-60 , 48-74 , 66-44 , 53-50 และ 60-21 ) ส่งผลให้ ใบพัด ศรีราชา ตกรอบ 128 คนสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย
หลังเกม ใบพัด ศรีราชา เปิดเผยว่า วันนี้รู้ตัวว่า แทงไม่ดีเลย น่าจะปิดเฟรมด้วยการชนะ 3-0 เฟรมด้วยซ้ำ แต่พอโดนตามมาเป็น 1-2 ทำให้แทงสะดุดไปเฉย ๆ ขณะที่คู่แข่งกลับออกคิวได้ดีกว่า ยอมรับว่าเสียดาย ครั้งต่อไปจะต้องนิ่งให้มากกว่านี้ มีสมาธิอยู่กับเกมอย่างเต็มที่ โดยจะไม่ติดประมาทอีกต่อไป
ส่วนผลคู่อื่น รอบ 128 คน กาญจน์ไชย วงษ์จันทร์ (เต่า หลังสวน ) ชนะ พงศกร สมจิตต์ 3-0 เฟรม / ณัทณพงศ์ ชัยกุล ชนะ ธีรยุทธ จันทา 3-1 เฟรม / เจริญ โพธิ์รัตน์ ชนะ ณัฐดนัย มะนานวม 3-1 เฟรม / ระชะตะ ขันตี ชนะ จ่าเอก อรรถชัย วงษ์ชื่น 3-1 เฟรม / สงขลา จงจิตร ชนะ บุญพร ตั้งอุปละ 3-1 เฟรม / อนุพันธ์ น้ำทิพย์ ชนะ ทวีศักดิ์ ธูปหอม 3 – 2 เฟรม

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เอ.พี.ฮอนด้า จัดแข่งทักษะขับขี่ครูฝึก โซนภาคเหนือ ลุ้นชิงโควต้า รอบตัดสินแชมป์ 29 ม.ค.นี้

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ประเดิมการแข่งขันรอบคัดเลือกกันอย่างคึกคัก สำหรับกิจกรรมการแข่งขันทักษะครูฝึกขับขี่ปลอดภัยระดับประเทศ ครั้งที่ 18 จัดโดย เอ.พี. ฮอนด้า ผู้บุกเบิกกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในประเทศไทย ภายใต้เป้าหมายการยกระดับความสามารถครูฝึกขับขี่ปลอดภัยประจำร้านผู้จำหน่าย Honda Wing Center กว่า 900 แห่ง เพื่อส่งมอบความรู้และวิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าผ่านทางเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ
ล่าสุด คิ๊กออฟโปรแกรมรอบคัดเลือกระดับภูมิภาคที่ภาคเหนือ จัดขึ้นที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากดีลเลอร์ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โซนภาคเหนือ ซึ่งพร้อมใจส่งทัพครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จำนวนทั้งสิ้น 48 คน เพื่อเข้าร่วมประชันความสามารถ ผ่านสถานีการทดสอบ 3 รูปแบบ ได้แก่ การขับขี่เลข 8 (Figure 8), การทรงตัวบนกระดานแคบ (Narrow Plank) และปิดท้ายที่การทดสอบข้อเขียน เพื่อให้ครูฝึกมีความรู้และความเข้าใจกฎหมายการจราจรตามมาตรฐานกรมขนส่งทางบก
โดยบรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มครูฝึกรถตลาดจาก Honda Wing Center โชว์การควบคุมรถสปอร์ต Honda CB150R ได้อย่างคล่องตัว ส่วนครูฝึกหญิงเลือกใช้สตรีทไบค์มาดเท่ Honda MSX125 แสดงศักยภาพได้ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ครูฝึกชาย ขณะที่ครูฝึกกลุ่มรถบิ๊กไบค์จาก Honda BigWing ขับขี่ Honda CB500F เน็กเก็ตไบค์สำหรับคนเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมแสดงสมรรถนะออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

]

สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่า ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ผู้ทำคะแนนได้สูงสุด 3 อันดับแรก ในแต่ละประเภท มาจากร้านผู้จำหน่ายฯ ดังนี้ กลุ่มรถตลาดจาก Honda Wing Center ครูฝึกชาย -อันดับที่ 1 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จากร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร -อันดับที่ 2 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร อันดับที่ 3 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร้าน บจก. กรีนวิง มาร์เก็ตติ้ง จังหวัดเชียงราย
กลุ่ม Honda Wing Center ครูฝึกหญิง อันดับที่ 1 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร อันดับที่ 2 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร อันดับที่ 3 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กร้าน หจก. แสงชัยพาณิชย์ จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มรถบิ๊กไบค์จาก Honda BigWing อันดับที่ 1 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร
อันดับที่ 2 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จากร้าน บจก. ที.เค.ซี. มอเตอร์ไบค์ จังหวัดกำแพงเพชร อันดับที่ 3 ครูฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จากร้าน บจก. กรีนวิง มาร์เก็ตติ้ง จังหวัดเชียงราย
โปรแกรมการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค เตรียมจัดการแข่งขันอีก 3 ครั้ง ภาคใต้ ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ภูเก็ต วันที่ 25 ต.ค. 63, ภาคอีสาน ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า บุรีรัมย์ยนตระการ วันที่ 1 พ.ย. 63 และสนามส่งท้ายที่ ภาคกลาง ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สมุทรปราการ วันที่ 8 พ.ย. 63
ผู้ที่สนใจกิจกรรมฮอนด้าขับขี่ปลอดภัย สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.aphonda.co.th/hondasafetythailand และกดติตดามสาระดีๆ เกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก : facebook.com/HondaSafetyThailand

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“บิ๊กอ๊อด” แจงจดทะเบียนสโมสรฯ เน้นนิติบุคคล ระเบิดศึก ไทยวีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2020-2021

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายจัดการแข่งขันและกิจกรรม ร่วมกับ ฝ่ายฟุตบอลหญิงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลหญิง ไทยวีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2020-2021 ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น ไทยวีเมนส์ลีกดิวิชั่น 1 และ ไทยวีเมนส์ลีกดิวิชั่น 2
ภายในงานแถลงข่าว นำโดย พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, พลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพกกท., พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ, ศิริมา พานิชชีวะ อุปนายกฝ่ายฟุตบอลหญิงสมาคมฯ, และผู่ที่เกี่บวข้องทุกฝ่าย พร้อมด้วยตัวแทนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิง ไทยวีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2020/2021 ทั้ง 16 ทีม เข้าร่วมงาน้วย

พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “การพัฒนาฟุตบอลหญิงก็คุยกันว่าถึงเวลาที่จะต้องทำฟุตบอลหญิงมีลีก สิ่งแรกที่สมาคมฯ ทำก็คือทำให้สโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เหมือนทีมฟุตบอลชาย ทำไมต้องเป็นนิติบุคคล ทำไมสโมสรฟุตบอลหญิงที่เข้าร่วมการแข่งขันลีกฟุตบอลหญิง ต้องเป็นนิติบุคคล เพราะว่าฟุตบอลชายอาชีพ ได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมฯ เงินที่มาเหล่านั้น ทั้งจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สปอนเซอร์ ได้นำไปใช้อย่างถูกต้อง ตามข้อบังคับ”
“แต่ที่ผ่านมา เราไม่สามารถให้เงินสนับสนุนสโมสรฟุตบอลลีกหญิงได้ เพราะสโมสรยังไม่เป็นนิติบุคคล ผมก็ได้มีการพูดคุยว่าเราจะทำให้ถูกต้อง ทำให้สโมสรที่เข้าร่วมฟุตบอลลีกหญิงเป็นนิติบุคคล เพื่อที่จะรับเงินสนับสนุนจากสมาคมฯ”
“ในเบื้องต้นหลายท่านอึดอัด เพราะสโมสรที่เข้าแข่งขันฟุตบอลลีกหญิง มีที่มาหลายๆที่แตกต่างกัน และแปรเป็นนิติบุคคลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราได้ทำงานร่วมกัน ทั้งสโมสรของท่าน และสมาคมฯ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และทำให้สโมสรฟุตบอลหญิงเป็นนิติบุคคล นับแต่นี้ต่อไป สมาคมฯ สามารถจ่ายเงินสนับสนุนให้กับสโมสรท่านได้ถูกต้อง เพราะว่าถ้าไม่เป็นนิติบุคคล สมาคมฯ ผมเอง ถึงแม้อยากให้เงินสนับสนุน ผมจะสนับสนุนไปในนามใคร ถ้าท่านไม่ใช่นิติบุคคล”

“แต่วันนี้ท่านเป็นนิติบุคคล มันเกิดความชอบ และความถูกต้อง นับเป็นครั้งแรกที่สโมสรฟุตบอลหญิงที่เข้าแข่งขันฟุตบอลหญิง เป็นนิติบุคคลสมบูรณ์ และนับแต่นี้ต่อไป สิทธิใดๆที่ฟุตบอลชายได้ ฟุตบอลหญิงก็จะได้เช่นกัน ตามความเหมาะสม เงินสนับสนุนอาจจะไม่เท่ากัน แต่เราก็มีให้แล้ว ทั้งเงินสนับสนุนทีม เงินรางวัลต่างๆนานา ซึ่งมันมีผลกับสโมสรของท่าน”
“ผมในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องขอบคุณผู้บริหารสโมสร นักกีฬาทุกคน รวมทั้งแฟนบอล สื่อมวลชน ที่ร่วมกันเสียสละ และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาฟุตบอลหญิง ผมก็ขออวยพรให้ทุกทีมสมหวังในการแข่งขันที่จะมีขึ้นในฤดูกาล 2020/21 ที่จะมาถึงนี้”
ด้าน ศิริมา พานิชชีวะ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันฟุตบอล Thai Women’s League 2020-21 หวังว่าจะเป็นเวทีให้นักฟุตบอลแสดงฝีเท้า และพัฒนาศักยภาพนักกีฬาให้แกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหญ่หรือสโมสรเล็กต้องพัฒนาไปพร้อมกัน เพื่อก้าวไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้อีกครั้ง อยากฝากทุกท่านเป็นกำลังใจให้ฟุตบอลหญิงด้วย ช่วยกันสนับสนุนฟุตบอลลีกหญิงให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป ขอยืนยันว่าฟุตบอลหญิงสนุก เล่นด้วยสปิริตไม่ต่างจากฟุตบอลชายแน่นอน”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์