วันเสาร์, กรกฎาคม 19, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2113

กกท.ดัน “ซุปเปอร์บอน” นักมวยอัจฉริยะคืนถิ่น ติวเข้มสร้างแรงบันดาลใจ เยาวชนเมืองลุง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ซุปเปอร์บอน” นักชก วัย 29 ปี ยอดฝีมือระดับโลก ชาวจังหวัดพัทลุง หวนตอบแทนบ้านเกิด ในกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ตามโครงการสืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย จัดโดย กกท. ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร จ.พัทลุง เพื่อติวเข้มเผยแพร่ทักษะมวยไทยให้กับนักมวยเยาวชนจากค่ายต่าง ๆ ในจังหวัดพัทลุง รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เวทีระดับโลกให้กับนักมวยรุ่นจิ๋วในท้องถิ่น

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.เผยว่า ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ในโครงการ “สืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย” เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกีฬามวยไทย โดยมีกิจกรรมพิเศษด้วยการนำ “ซุปเปอร์บอน” ศุภชัย หมื่นสังข์ นักมวยชื่อดัง ชาวพัทลุง มาถ่ายทอดประสบการณ์สู่นักมวยเยาวชนในจังหวัดพัทลุง ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ซึ่งมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิด ร่วมด้วย นางสาว “อราเบลล่า สิตานัน เกรโกรี่” ทูตการกีฬา จ.พัทลุง, ผู้บริหารกกท. และ ผู้บริหารภาคส่วนภายในจังหวัดพัทลุง ร่วมในพิธี

นายเขมพล อุ้ยตยะกุล กล่าวว่า “กีฬามวยไทย มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับนักมวย นักกีฬาอาชีพ และบุคคลากรในวงการกีฬามวย ทั้งจากกิจกรรมกีฬามวยโดยตรง และจากการท่องเที่ยว เพื่อเข้าฝึกซ้อมและชมการแข่งขัน จนเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กีฬามวยไทยและบุคลากรในวงการประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์ การจัด “กิจกรรมมวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” จึงเป็นหนึ่งในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมรณรงค์ เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ศิลปะกีฬามวยไทย เเละเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย”

นายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย องค์กรศิลปะต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก กล่าวว่า ทางเราได้นำ “ซุปเปอร์บอน” นักมวยซูเปอร์สตาร์ วัน แชมเปียนชิพ มาร่วมงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและคาดหวังที่จะสร้างวีรบุรุษมวยไทยในรุ่นต่อไปจากกิจกรรมนี้ โดยซุปเปอร์บอน ถือเป็นนักกีฬา อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้มากที่สุดคนหนึ่ง คว้าแชมป์มามากมาย ทั้งมวยไทยอาชีพ มวยไทยสมัครเล่น และคิกบ็อกซิ่ง พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร ไต่เต้าตนเองจากท้องถิ่น ปัจจุบันประสบความสำเร็จในระดับโกลบอล ซูเปอร์สตาร์ เป็นโอกาสอันดีของเยาวชนที่กำลังก้าวเข้าสู่อาชีพมวยไทย ได้ศึกษากุญแจสู่ความสำเร็จ สร้างโอกาสให้ตนเองก้าวสู่การเป็นนักกีฬาเงินแสน เงินล้าน ประสบความสำเร็จเหมือนกับซุปเปอร์บอนในอนาคต
ด้าน “ซุปเปอร์บอน” หรือ ศุภชัย หมื่นสังข์ กล่าวว่า “ผมมีบ้านเกิดอยู่ที่ ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สมัยเด็กได้เรียนรู้วิชามวยจากพ่อที่ชื่นชอบกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่วัย 5-6 ขวบ พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร กว่าจะได้พิสูจน์ตัวเอง สร้างฝีมือสร้างชื่อจนได้รับการยอมรับในการเป็นนักชกเบอร์ต้นๆ ระดับประเทศหรือระดับโลก ต้องใช้ทั้งการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและจิตใจที่รักกีฬาอย่างแท้จริง”
“ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาถ่ายทอดทักษะและสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ ให้กับน้องๆ เยาวชนในท้องถิ่น ที่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของผม เพราะตัวผมเองก็เกิดจากการเป็นดาวรุ่งในเขตภูธร เหมือนที่เขาว่าช้างเผือกก็ต้องอยู่ในป่า”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ประธานไอโอซี ใช้กีฬาสร้างสันติภาพโลก มูลนิธิวัฒนธรรมกรุงโซล ให้รางวัลสำคัญ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เผย มูลนิธิวัฒนธรรมรางวัลสันติภาพแห่งกรุงโซล ให้รางวัลสำคัญ Seoul Peace Prize แก่ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ที่ใช้กีฬาสร้างสันติภาพ และการอุทิศตนต่อการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว พยองชาง 2018 โดยให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ร่วมทีมเดียวกันภายใต้ธงคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงการสนับสนุนนักกีฬาผู้ลี้ภัย เข้าแข่งขันอีกหลายรายการ โดยจะมีการมอบรางวัลให้ประธานบาค ในช่วงปลายปีนี้
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล่าวว่า มูลนิธิวัฒนธรรมรางวัลสันติภาพแห่งกรุงโซล ของประเทศเกาหลีใต้ ได้ให้รางวัลสำคัญ Seoul Peace Prize หรือ รางวัลสันติภาพแห่งกรุงโซล แก่ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ที่ใช้กีฬาสร้างสันติภาพ และการอุทิศตนต่อการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว พยองชาง 2018
โดย โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้รับรางวัล Seoul Peace Prize จากความตั้งใจในการส่งเสริมสันติภาพและการมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว พยองชาง 2018 โดยทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ร่วมทีมเดียวกันภายใต้ธงคาบสมุทรเกาหลีในการเดินพาเหรดเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาว ครั้งดังกล่าว และยังได้ผลักดันให้มีการรวมทีมเกาหลีเหนือ-ใต้ในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงเป็นครั้งแรกในประวิติศาสตร์โอลิมปิก

สำหรับรางวัลนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เพื่อเป็นอนุสรณ์ความสำเร็จของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 1988 ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองความสามัคคีและมิตรภาพของการแข่งขัน โดยมูลนิธิวัฒนธรรมรางวัลสันติภาพแห่งกรุงโซล ระบุว่า บาค เป็นกลไกสำคัญในการรับรองการมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือ ในการแข่งขันกีฬา พยองชาง 2018 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ บาค ยังมีบทบาทสำคัญทำให้สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติลงมติใช้ “Olympic Truce” หรือการพักรบระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพื่อให้ทั้ง 2 ชาติสงบสุขในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาว หลังจากมีความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและการยิงขีปนาวุธ ในเดือนพฤศจิกายน 2017
ขณะเดียวกัน มูลนิธิวัฒนธรรมรางวัลสันติภาพแห่งกรุงโซล ได้ตระหนักถึงบทบาทของบาค การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 3 ครั้งติดต่อกัน โดย โตเกียว 2020 แข่งขันในปีหน้า และโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง แข่งขันในปี 2022
ไม่เพียงเท่านั้น บาค ยังช่วยจัดตั้งทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัย ทำให้นักกีฬาที่ไม่ได้รับการส่งชื่อจากรัฐบาล มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขัน อีกด้วย โดยทีมนี้เปิดตัวครั้งแรกที่ โอลิมปิก ริโอ 2016
โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 200,000 เหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะมีพิธีมอบรางวัล ที่ กรุงโซล ปลายปีนี้

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“อัลตร้า เทรล ไทยแลนด์ ซีรีย์ 1 พัทลุง” ต้นแบบ เรียกความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานปล่อยตัวนักวิ่ง การจัดการแข่งขันวิ่งเทรล รายการ อัลตร้า เทรล ไทยแลนด์ ซีรีย์ 1 พัทลุง โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายวิษณุ ไล่รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายบริหาร, ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหาร กกท. เข้าร่วมในพิธี ที่ เทศบาลตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา

กีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน คือ การแข่งขันวิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแข่งขันวิ่งตามภูมิประเทศ หรือ การวิ่งเทรล ที่เป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ในส่วนของจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศสวยงาม และเป็นจังหวัดที่สำคัญด้านการท่องเที่ยว จึงเกิดแนวคิดการสนับสนุนให้จังหวัดพัทลุง มีรายการแข่งขันวิ่งเทรลที่มีมาตรฐานสูง เพื่อดึงนักวิ่งเทรลจากทั่วประเทศ ให้มาสัมผัสกับธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่มีความน่าตื่นเต้น และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

โดยการปล่อยตัวนักกีฬาในครั้งนี้ นำโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ปล่อยตัวนักกีฬาในระยะ 25 กม. ระยะ 10 กม.และระยะ 5 กม.ในระยะ 60 กม.ปล่อยตัวตั้งแต่ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี และคณะผู้บริหาร กกท.
นายพิพัฒน์ เปิดเผยถึงการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กกท. และจังหวัดพัทลุง ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ จัดวิ่งเทรล รายการ “อัลตร้า เทรล ไทยแลนด์ ซีรีย์ 1 พัทลุง” ซึ่งจังหวัดพัทลุง ถือเป็นอีก 1 จังหวัด ที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นเมืองกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sports City ตามนโยบายที่มีเป้าหมายในการใช้กีฬาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่  โดยการจัดกิจกรรมการแข่งขันวิ่งเทรลในครั้งนี้ เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดพัทลุง ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบในการเตรียมความพร้อม และเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักกีฬารวมถึงนักท่องเที่ยว ให้เข้าใจและปรับตัวภายใต้วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal อีกทั้งเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ชุมชน และอุตสาหกรรมกีฬา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง”
ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันครั้งต่อไป รายการ อัลตร้า เทรล ไทยแลนด์ ที่ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ วันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160117157510058215
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ร่วมออกบูธจัดกิจกรรมให้ความรู้กฎหมายการจ้างงาน (คนพิการ) ในงาน Job Expo Thailand 2020

0

สมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ร่วมออกบูธจัดกิจกรรมให้ความรู้กฎหมายการจ้างงาน (คนพิการ) ในงาน Job Expo Thailand 2020
ช่วยคนไทยมีงานทำกว่าล้านอัตรา ขณะที่เด็กจบใหม่แห่สมัครงานคึกคัก

นายกรัฐมนตรี เปิดงานมหกรรมล้านงานเพื่อล้านคน Job Expo Thailand 2020 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2563 เวลา 15.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Job Expo Thailand 2020 พร้อมด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีเปิดงานในครั้งนี้ ณ บริเวณเวทีกลาง ฮอลล์ 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร

ในโอกาสนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวรายงานการจัดงานว่าเพื่อเสริมสร้างการจ้างงานใหม่สำหรับนักศึกษาจบใหม่ โดยภาครัฐ วิสาหกิจและเอกชน ส่งเสริมการจ้างงานเพิ่มเติมเพื่อทดแทนแรงงานต่างด้าว การรักษาการจ้างงานเดิมโดยเน้นในสาขาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ กิจกรรมการจัดทำฐานช่องทางรวบรวมข้อมูลการจ้างงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้วย แพลทฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” ด้วยการนำตำแหน่งงานกว่า 1 ล้านอัตรา จากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตำแหน่งงานว่าง จากกรมการจัดหางานจำนวน 475,725 อัตรา, ตำแหน่งการจ้างงานโดยภาครัฐ จำนวน 101,716 อัตรา, ตำแหน่งงานต่างประเทศ จำนวน 114,433 อัตรา, ตำแหน่งงานโครงการเงินกู้(รออนุมัติ) 287,147 ตำแหน่ง, การจ้างงานกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ จำนวน 260,000 ตำแหน่ง (Co-payment) รวมกว่า 1,239,091 อัตรา มารองรับเพื่อให้คนไทยมีงานทำ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงาน ใจความว่า “การจัดงานในครั้งนี้จะเห็นได้ว่ามีการจัดกิจกรรมต่างๆ ตอบสนองกับยุทธศาสตร์ชาติทั้งในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาคนในทุกมิติ ทำให้วัยแรงงานได้รับยกระดับจากผู้ใช้แรงงาน เป็นผู้ใช้พลังสมอง ที่สามารถเข้าถึงแหล่งทุน นวัตกรรม เทคโนโลยี และข่าวสารข้อมูลได้สะดวก” พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินเยี่ยมชมโซนต่างๆภายในงาน อาทิ โซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย โครงการจิตอาสา 904 โซนประกันสังคม กับการเปิดตัวกิจกรรมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับผู้ประกันตนกลุ่มผู้สูงอายุ โซนไทยมีงานทำ ที่จะประชาสัมพันธ์และแสดงศักยภาพความสามารถของแพลทฟอร์มไทยมีงานทำ และโซนนวัตกรรม นำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้พร้อมรับมือกับอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-curve และโซนกิจกรรมรวมใจ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้ก้าวสู่การเป็น Start up เจ้าของของกิจการ และอีกหนึ่งโซน คือ Franchise & Food truck รวมธุรกิจร้านอาหารชื่อดังทั่วไทย มาให้ผู้เข้าชมงานได้เลือกซื้อเลือกชิมและเลือกเจรจาธุรกิจกันได้อีกด้วย

สำหรับกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจ ซึ่งมีตลอดทั้ง 3 วัน ได้แก่ วันที่ 26 กันยายน รับฟัง การเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางแรงงานไทยในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” การอบรม หัวข้อ “ภาษาอังกฤษกับการพัฒนาศักยภาพแรงงานไทย” โดยคุณคริสโตเฟอร์ ไรท์” กิจกรรมโซนรวมใจ สร้างงาน สร้างอาชีพ Workshop ทำหมูกรอบ, ซาลาเปา, การดัดลวด, การทำน้ำหอม ลิปสติก
มินิคอนเสิร์ตจากคุณเบิ้ล ปทุมราช วันที่ 27 กันยายน การเสวนาในหัวข้อ “ตลาดแรงงานไทยหลังยุค COVID-19 การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและยั่งยืน”การอบรม หัวข้อ “Digital marketing อีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดีย โดยคุณประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช” และ หัวข้อ “อีสปอร์ต (eSports) เปลี่ยนคนติดเกมสู่เส้นทางอาชีพ”
กิจกรรม Workshop สร้างอาชีพ การทำวุ้น 3 มิติ, การถักเชือก, การบิดลูกโป่ง มินิคอนเสิร์ตจากวง MUSKETEERS และวันที่ 28 กันยายน การเสวนาในหัวข้อ “แรงงานไทย ก้าวไกล สู่ตลาดแรงงานโลก โดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ”
การอบรมพัฒนาทักษะอาชีพและเตรียมความพร้อม หัวข้อ“อาชีพดีไซน์เนอร์ไทย สู่สายตาชาวโลก โดยคุณสุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์” และ หัวข้อ “Startup รุ่งหรือร่วง มีคำตอบ” กิจกรรมแรงบันดาลใจสร้างอาชีพ Workshop การทำกาแฟ, การทำเป็ดกีตาร์, การทำบูมเมอแรง มินิคอนเสิร์ตจาก GUNGUN เจ้าของเพลง ปลาวาฬเกยตื้น เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่จัดงานและหลีกเลี่ยงการจราจร แนะนำให้ทุกท่านเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าลงสถานีบางนา ทางออกที่ 1 หรือเดินทางด้วยรถประจำทางสาย 38,46,48,132,180,552,558 โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Job Expo Thailand 2020 ได้ที่ฮอลล์ 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 28 กันยายนนี้
ทางสมาคมฯชอบพระคุณ กระทรวงแรงงาน ที่ให้โอกาส คนพิการได้ร่วมงาน และ ยังส่งเสริมให้ “คนพิการ” มีงานทำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

ประวัติศาสตร์แบดไทย เจ้าภาพจัด 3 รายการรวด ระดับสูงสุดของโลก ต้นปีหน้า

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เผยว่า “สหพันธ์แบดมินตันโลก ประกาศให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันระดับสูงสุดของโลก 3 รายการติดต่อกัน ในเดือนมกราคม 2564 เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่การแข่งขันแบดมินตันจะได้กลับมาแข่งขันกันต่อ นับเป็นประวัติศาสตร์ไทยที่ได้จัดรายการระดับนี้เป็นครั้งแรก กำหนดจัดแข่งขันกีฬาแบดมินตัน 3 รายการติดต่อกัน ประกอบด้วย Asia Open I (Super 1000) ในวันที่ 12-17 มกราคม 2564 , Asia Open II – (Super 1000) ในวันที่ 19-24 มกราคม 2564 และ HSBC BWF World Tour Finals 2020 ในวันที่ 27-31 มกราคม 2564”
“สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ได้ประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ในการกำหนดมาตรการป้องกันโรคเพื่อให้นักกีฬาต่างชาติที่เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และอนุญาตให้สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ จัดการแข่งขันดังกล่าว” คุณหญิงปัทมากล่าว
“การจัดการแข่งขัน World Tour Finals และรายการ Super 1000 สองรายการ นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยและของโลก ไม่เคยมีชาติใดได้รับโอกาสจัดการแข่งขันแบบนี้มาก่อน เป็นการพิสูจน์ว่า ไทยมีศักยภาพในการจัดการแข่งระดับโลก และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการจัดการกับโควิด-19”
“รายการ World Tour 1000 เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่มากเพราะนักกีฬาต้องเป็น 32 คนที่มีอันดับมือดีที่สุดของโลก เข้ามาแข่งขัน ส่วนรายการ World Tour Finals เป็นเวทีสำหรับยอดฝีมือนักแบดมินตันระดับโลกอันดับที่ 1-8 ที่เก็บคะแนนสะสมสูงสุดในปีนั้น ทั้งนี้ นักกีฬายอดฝีมือจากหลายประเทศบอกว่าถ้าไทยเป็นเจ้าภาพจะมาแข่งในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในมาตรการความปลอดภัยของประเทศไทย พี่น้องชาวไทยจะมีโอกาสเห็นนักกีฬาระดับชั้นนำที่สุดของโลก เดินทางมาแข่งขันในบ้านเราเอง ประเทศไทยได้รับเกียรติอย่างยิ่งใหญ่จากสหพันธ์แบดมินตันโลก”
“การจัดการแข่งขันครั้งนี้เป็นการจัดการแข่งขันแบดมินตันในระดับโลกที่มีความสำคัญสูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและยังช่วยพัฒนาวงการกีฬาของประเทศไทย นำรายได้มาสู่ประเทศไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นถึงศักยภาพด้านสาธารณสุขของประเทศไทยในการควบคุม กำกับดูแล และบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขันแพร่ภาพไปทั่วโลก ซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 1,000 ล้านครัวเรือน อันเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยในระยะยาว” คุณหญิงปัทมากล่าว
คุณหญิงปัทมา นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติม “สำหรับวิธีดำเนินการ สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ได้ออกมาตรการที่เรียกว่าบับเบิ้ล (Bubble) หลักการของมาตรการนี้ เพื่อให้นักกีฬายังคงสามารถฝึกซ้อมก่อนแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยของผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยการกักตัวร่วมกันในสถานที่ที่จัดไว้”
“มาตรการบับเบิ้ลนี้ มีแนวทางการปฏิบัติ คือ นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมทุกคนต้องผ่านการตรวจเชื้อ COVID-19 ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง เมื่อเดินทางมาถึงไทย นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมทุกคนต้องแสดงใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานว่าปลอด COVID-19 นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมจะได้รับการตรวจเชื้อ COVID-19 อีกหลายครั้งในช่วงกักตัว 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครติดเชื้อขณะที่อยู่ในบับเบิ้ล”
“การแข่งขันรายการแรกยังไม่อนุญาตให้มีผู้เข้าชม แต่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศและทั่วโลก แฟนกีฬาจะได้รับอนุญาตให้เข้าชมได้ในรายการที่ 2 และรายการที่ 3”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ภาสวิชญ์-มุกข์ลดา” ซิวกริดสตาร์ทแถวหน้า ล่าโพเดี้ยม โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3 สุดสัปดาห์นี้

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 ยอดนักบิดไทย ระดับแถวหน้าเอเชียของเอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างผลงานยอดเยี่ยมกดเวลาคว้ากริดที่ 3 ของ ศึกซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพสนาม 3 ขณะทีมเมทสาวสุดแกร่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช หมายเลข 44 เร่งเครื่องตามติดในกริดที่ 4 พร้อมเดินหน้าล่าโพเดี้ยมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี วันอาทิตย์นี้ ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยอดทีมแข่งไทยในระดับเอเชีย ปรับแผนส่ง 2 นักบิดของทีมอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ2020 สนามที่ 3 ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ หลังจากที่เกมสองล้อชิงแชมป์เอเชียประกาศยกเลิกการแข่งขันฤดูกาลนี้อย่างเป็นทางการ

ล่าสุดในวันเสร์ที่ 26 กันยายน รอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทหลังจากที่ทั้ง มุกข์ลดา และ ภาสวิชญ์ ทำงานอย่างหนักร่วมกับทีมตลอด 2 วันที่ผ่านมา(พฤหัสบดี-ศุกร์) การซ้อมและเก็บข้อมูลการเซ็ตอัพ เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้
ผลการควอลิฟายปรากฏว่า 2 นักบิดจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ภาสวิชญ์ ควบรถแข่ง CBR600RR หมายเลข 123 กดเวลามาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.665 วินาที ได้ออกสตาร์ทจากแถวหน้า
ด้าน มุกข์ลดา กับรถแข่งหมายเลข 44 ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับการขยับขึ้นมาแข่งขันในคลาส 600 ซีซี เป็นครั้งแรก กดเวลามาเป็นอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.744 วินาที ได้ออกตัวจากกริดแรกในแถวที่ 2 มีลุ้นโพเดี้ยมทั้งคู่
ภาสวิชญ์ กล่าวหลังคว้ากริดที่ 3 มาครองว่า “เวลาในรอบควอลิฟายถือว่าน่าพอใจครับ เราหาเซ็ตอัพที่ดีสำหรับการแข่งขันได้แล้ว แต่ยังมีบางจุดที่ต้องแก้ไข กริดที่ 3 ในสุดสัปดาห์นี้ถือว่าสร้างความมั่นใจให้เราได้ดี พรุ่งนี้ผมหวังที่จะคว้าโพเดี้ยมให้ได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทีม”

ด้าน มุกข์ลดา เจ้าของกริดที่ 4 เผยว่า “เราทำการบ้านจากการซ้อมตลอด 2 วันที่ผ่านมา และก็ได้การเซ็ตอัพที่น่าพอใจ เพราะ มุกข์ เพิ่งขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น 600 ซีซี เป็นปีแรกทำให้ต้องปรับตัวหลายอย่าง แต่กริดที่ 4 ถือว่าไม่เลว ส่วนในเรซแรกของเรากับการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ เราวางแผนออกสตาร์ทให้รวดเร็ว และพยายามอย่างยิ่งที่จะคว้าโพเดี้ยมให้ได้”
สำหรับศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามที่ 3 จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนนนี้ โดยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี จะมีขึ้นในเวลา 15.00 น. แฟนความเร็วชาวไทย สามารถส่งแรงใจเชียร์ 2 นักบิด เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth และชมการถ่ายทอดสดทาง True4U และออนไลน์สตรีมมิ่งทาง เฟซบุ๊กเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ส.ว่ายน้ำ” ปลื้มว่ายน้ำมาสเตอร์ กระแสตอบรับดีเยี่ยม พัฒนาสู่ความเป็นเลิศ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย พอใจกระแสตอบรับการจัดแข่งขันกีฬาว่ายน้ำรายการแข่งขัน “1st Thailand Open Masters Game
2020” แข่งขันไปเมื่อวันที่ 17 – 19 กันยายนที่ผ่านมา ที่ สระว่ายน้ำ 50 เมตร กกท.
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า “จากการที่สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ได้รับเกียรติ จากสมาคมกีฬาสูงอายุไทย ให้มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์ เกมส์ 2020 ซึ่งการแข่งขัน

รายการนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมทั้งในส่วนของสโมสร และนักกีฬาที่เข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมกีฬาว่ายน้ำในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”
“ในส่วนของสมาคมว่ายน้ำเองมีการผลักดันกีฬาว่ายน้ำผู้สูงอายุอยู่แล้ว ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้นักกีฬารวมถึงประชาชนทั่วไปมีสุขภาพร่างกายภายใต้การออกกำลังกาย ทั้งนี้ทางสมาคมเตรียมการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เอาไว้แล้ว เพื่อผลักดันการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำผู้สูงอายุไปสู่ความเป็นเลิศต่อไปในอนาคตซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักกีฬาสูงอายุของไทยสามารถคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันกีฬาเวิลด์มาสเตอร์ เกมส์ ที่ ญี่ปุ่นได้สำเร็จ”
สำหรับการแข่งขัน “1st Thailand Open Masters Game 2020” มีแข่งทั้งหมด 26 รายการ มีทีมที่สมัครเข้าแข่งขันทั้งหมด 30 ทีม จำนวนนักกีฬา 285 แบ่งเป็น คน นักกีฬาชาย 197 คน นักกีฬาหญิงจำนวน 88 คน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

วาง 17 แผนแม่บท “กีฬาชาติ” เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ที่ สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านา พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์
การกีฬาได้เป็นวิทยากรให้ความรู้ในหัวข้อ “บริบทการกีฬาไทยกับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม” ให้กับผู้เข้าร่วมอบรมหลัก
สูตรการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารมืออาชีพทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ รุ่นที่ 4 จัดโดยกกท.ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า
พันโทรุจ แสงอุดม กล่าวว่า บริบทการกีฬาไทยกับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมนั้น ต้องบอกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก
กิจกรรมกีฬาและการแข่งขันกีฬาของประเทศ ประกอบด้วย เงินหมุนเวียนจากค่าใช้จ่ายการแข่งขัน, เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
จากการใช้จ่าย, เงินหมุนเวียนในระบบจากการเงินหมุนเวียน และระบบเศษฐกิจจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดกิจกรรมกีฬา
โดยเกิดจากช่องทางต่างๆ ดังนี้ 1. การจัดแข่ขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศระดับชาติ ได้แก่ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ

2. การจัดกาแข่งขันฬอาชีพ หมายถึง ก็ฬาที่จัดการแข่งขันอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล โดยมีนักกีฬาอาชีพเข้าร่วมการแข่งขัน
และมีรายได้จากการแข่งขัน ตามชนิดหรือประเภทที่คณะกรรมการกีฬาอาชีพประกาศเป็นกีฬาอาชีพตามพระราชบัญญัติส่งเสริมฬา
อาชีพ พ.ศ. 2556 และการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนั่นทนาการ (Sports Tourism) ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกกิจกรรม
กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนา การ ที่ฝ่ายธุรกิจและสิทธิประโยชน์ กกท. กำหนด 4. การจัดกิจกรมกีฬาอื่นๆ ที่ กกท. ให้การสนับ
สนุนในการดำเนินการ
พันโทรุจแสงอุดม กล่าวต่อว่าเมืองกีฬาหรือสปอร์ตซิตี้ในตอนนี้จังหวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็น Sports City ปี พ.ศ. 2561มี 1)
ชลบุรี,บุรีรัมย์, กระบี่, สุพรรณบุรี, อุดรธานี และ ศรีสะเกษ ปี 2562 กลุ่มที่ ด้านก็ฬาเชิงสุขภาพและออกกำลังกาย (Sports for Health & Exercise) มี กทม.จันทบุรี, และยะลา

กลุ่มที่ 2 : ด้านก็ฬาเพื่อการท่องเที่ยวกีฬาเชิงศิลปวัฒนธรรมและกีฬาการส่งเสริมกีฬาไทย (กีฬาพื้นบ้าน) (Sports Tourism and Sports Culture) มี เชียงราย,พัทลุง, และภูเก็ต กลุ่มที่ 3 : กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (Sports for Excellence) มี นครราชสีมา,สงขลา? และตรัง กลุ่มที่ 4 : กีฬาขั้นพื้นฐานและกี่หามวลชน (Basic Sports and Sports for all) มีอุบลราชธานี
“สุดท้ายนี้ในตัวแผนแม่บทและเป้าหมายของการบริหารกีฬาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของชาติมีด้วย 17 แผน มี 1.ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขัน, 2.สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา, 3.สปอร์ตอะคาเดมี่, 4.ศูนย์วิจัยและฝึกอบรม, 5.โพลี่คลีนิคและใก้คำปรึกษา, 6.ไทยแลนด์เกมส์,
7.สถาบันมวยไทย, 8.สมัชชาใหญ่การกีฬาแห่งประเทศไทย, 9.สำนักงานบริหารการแข่งขัน, 10.สำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัต
กรรม, 11.ช่องทีสปอร์ต ชาแนล, 12.กองทุนพัฒนาการกีฬา?แห่งชาติ, 13.คณะกรรมการรับเรื่องร้องทุกข์และไกล่เกลี่ยข้อพิพาท,
14.คณะกรรมการเตรียมการนักกีฬาแห่งชาติ, 15.ศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการกีฬา, 16.สำนักงานการสงเคราะห์และสวัสดิการ,
17.ศูนย์ประสานงานและสนับสนุนการปฎิบัติ”

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์