http://www.natethip.com/news.php?id=3168
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3168
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว “แอมมี่” พร้อมพวกรวม 19 ราย คดีชุมนุม 13 ต.ค. ตีราคาประกัน 2 หมื่น ทำผิดเงื่อนไขถอนประกันทันที
วันที่ 19 ต.ค. 63 ที่ศาลแขวงดุสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องฝากขัง ผู้ต้องหา 19 ราย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 จากกรณีร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 13 ต.ค. 2563 ประกอบด้วย นายวชิรวิชญ์ ลิมป์ธนวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 1,นายปริญญ์ รอดระหงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2,นายปวริศ แย้มยิ่ง ผู้ต้องหาที่ 3,นายฐิติสรรค์ ญาณวิกร ผู้ต้องหาที่ 4,นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 5 ,นายวันชัย สุธงสา ผู้ต้องหาที่ 6 ,น.ส.วรางคณา แสนอุบล ผู้ต้องหาที่ 7,นายนันทพงศ์ ปานมาศ ผู้ต้องหาที่ 8 ,นายทวีชัย มีมุ่งธรรม ผู้ต้องหาที่ 9 ,นายเมยาวัฒน์ บึงมุม ผู้ต้องหาที่ 10 ,นายธนกฤต สุขสมวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11,นางเพ็ญศรี เจริญเณรรักษา ผู้ต้องหาที่ 12 ,น.ส.อภิชญา เพิ่มพงษ์พิพัฒน์ ผู้ต้องหาที่13,นายมุสิก ผิวอ่อน ผู้ต้องหาที่14,นายภักดี ศรีรัตอำไพ ผู้ต้องหาที่ 15 ,นายนวพล ต้นงาม ผู้ต้องหาที่ 16,นายกิตติภูมิ ทะสา ผู้ต้องหาที่ 17,นายทรงพล สนธิรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 18 ,นายจิรวัฒน์ รูปใหญ่ ผู้ต้องหาที่ 19 ซึ่งเป็นชุดที่ถูกจับกุมพร้อมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน โดยไม่ได้รับการประกันตัวนั้น
ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 19 ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่ให้ประกันตัวดังกล่าว ซึ่งวันนี้ (19 ต.ค.) ศาลแขวงดุสิตได้อ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 1, 3, 6 – 10, 13, 16-19 กำลังอยู่ในระหว่างศึกษา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2, 4-5, 14-15 ประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะ ส่วนผู้ต้องหาที่ 11-12 อายุมากและมีโรคประจำตัว ประกอบกับผู้ต้องหาทั้ง 19 คน มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดในระหว่างสอบสวน โดยตีราคาประกันคนละ 2 หมื่นบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาทั้ง 19 คน ไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง หรือกระทำการลักษณะที่ละเมิดต่อกฎหมาย และให้ผู้ต้องหาทั้ง 19 คน มารายงานตัวต่อศาลแขวงดุสิตซึ่งเป็นศาลชั้นต้น 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง ตามวันเวลาที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควรกำหนด ทั้งนี้ หากมีพฤติการณ์ว่าผู้ต้องหารายใดกระทำผิดเงื่อนไขข้างต้น หรือจะหลบหนี หรือจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ก็ให้ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนประกันตัวผู้ต้องหาทันที
Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศาลรับฟ้องคดีมีมูล อาจารย์อ๊อด ฟ้อง “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.ประชารัฐ ปมตรวจสอบหน้ากากอนามัยแจกประชาชนไม่ได้มาตรฐาน นัดสอบคำให้การและตรวจหลักฐาน 23 พ.ย.นี้
วันที่ 19 ต.ค.63 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดี อ.809/2563 ที่ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย ทนายความเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ดูหมิ่นซึ่งหน้า และดูหมิ่นโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย จำนวน 5 ล้านบาท
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า โจทก์เป็นรองศาสตราจารย์ ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ โจทก์ได้ใช้เฟซบุ๊กในการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่เป็นประเด็นสำคัญที่น่าสนใจต่อประชาชนทั่วไป สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 นายสิระได้แจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน ต่อมามีสื่อมวลชนสำนักหนึ่ง ส่งหน้ากากอนามัยมาให้โจทก์ตรวจสอบว่ามีอันตรายต่อสุขภาพของผู้สวมใส่หรือไม่เนื่องจากมีลักษณะบาง และมีกลิ่นเหม็นที่ผิดปกติ จากการตรวจสอบพบว่า หน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน มีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
ต่อมาวันที่ 13 มี.ค.2563 เวลา 10.00 น.ที่ สน.ทุ่งสองห้อง จำเลยได้กล่าวว่าโจทก์ บน สน.ทุ่งสองห้อง ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ให้ข่าวว่าจำเลยนำหน้ากากอนามัยที่มีสารก่อมะเร็งแจกจ่ายให้กับประชาชน จากนั้นในช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. จำเลยยังได้แถลงข่าวและนำบันทึกประจำวันไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.และแขวงถนนไชยศรี เขตดุสิต กทม.
โดยในวันนี้ รศ.ดร.วีรชัย หรือ อาจารย์อ๊อด พร้อมทนายความเดินทางมาฟังคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การกระทำมีมูลเป็นลักษณะใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม และทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา และนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 23 พ.ย.2563 เวลา 09.00 น.
Cr.: นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160306827310058953
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ จัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” และจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสร็จสิ้นลงไ ปเมื่อวันที16 ตุลาคมที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทั้งด้านการจัดการแข่งขัน และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากผลงานของนักปั่นไทยทั้งทีมชายและทีมหญิงเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ได้ขยับไปอยู่อันดับที่สูงขึ้น ซึ่งสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ประกาศอันดับประจำสัปดาห์อย่างเป็นทางการ ช่วงกลางดึกของวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม คาดว่าคะแนนในเวิลด์ แรงกิ้ง (World Ranking) ประเภททีมหญิง คะแนนประเทศไทย จะขยับอันดับที่สูงขึ้นแน่นอน จากปัจจุบันอยู่อันดับ 34 มี 338 คะแนน ส่วนคะแนนป
ระเภทบุคคล “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ทีมอาเล่ ลูบจาย่า ในอิตาลี ล่าสุดอยู่อันดับที่ 62 มี 233 คะแนน และได้เพิ่มมาจากการชนะเลิศ ศึก “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” อีก 125 คะแนน จุฑาธิปมีอันดับขยับสูงขึ้นอย่างน้อย 2-3 อันดับ
ส่วนประเภททีมชาย ประกาศไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คะแนนในเอเชีย แรงกิ้ง ทัวร์ (Asia Ranking Tour) คะแนนประเทศ (Nation Ranking) ประเทศไทย ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 มี 530 คะแนน, คะแนนประเภททีม ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 มี 471 คะแนน ส่งผลให้ได้สิทธิรับเชิญเข้าแข่งขันระดับ 2.1 และ 2.2 ทุกรายการทวีปเอเชีย ขณะที่ประเภทบุคคล สิบโท สราวุฒิ ศิริรณชัย ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มี 146 คะแนน
“สิ่งสำคัญคือ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับคำชื่นชมจาก มร.เฟดเดอริก ชาน หัวหน้าผู้ตัดสินชาวฮ่องกง ผู้แทนจากสหพันธ์นานาชาติ หรือ ยูซีไอ ว่าการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020 จัดแข่งขันได้ดี เป็นรายการเดียวของทวีปเอเชียที่ไม่ถูกยกเลิก อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการแข่งขันให้แก่รายการอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย และเป็นต้นแบบให้แก่การแข่งขันทั่วโลก
พลเอกเดชา เผยอีกว่า จากความสำเร็จการจัดแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ทำให้ ยูซีไอ เกิดความเชื่อมั่นศักยภาพของไทย จึงได้บรรจุการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021” ลงในปฏิทินการแข่งขันปีหน้าเรียบร้อยแล้ว แข่งขันระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2564 ซึ่งฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ได้สำรวจ
เส้นทางแข่งขันเอาไว้คร่าว ๆ แล้ว สำหรับทีมชายจะแข่งขันเส้นทางในจังหวัดสงขลา-พัทลุง-ตรัง-สตูล วันที่ 1-6 เมษายน 2564 ส่วนทีมหญิงแข่งขันเส้นทางในจังหวัดสงขลา-พัทลุง วันที่ 8-10 เมษายน 2564 หลังจากนี้ฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ไปสำรวจเส้นอย่างอย่างละเอียด เพื่อจะนำเสนอให้ ยูซีไอ ได้รับทราบ
สำหรับรายการต่อไปที่สมาคมกีฬาจักรยานฯจัดขึ้น คือการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2563 สนามที่ 5 สนามสุดท้าย วันที่ 7-8 พฤศจิกายน ที่สนามเขาขยาย จังหวัดชัยนาท และปิดท้ายด้วยการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2563 สนามที่ 2 ซึ่งเป็นสนามสุดท้าย ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก วันที่ 14-15 พฤศจิกายน
ผู้ที่สนใจสมัครเข้าแข่งขันทั้ง 2 รายการ สมัคได้ที่เว็บไซต์สมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th โดยจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 5 เปิดรับตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน ก่อนเวลา 12.00 น. (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) ส่วนการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 2 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน ก่อนเวลา 12.00 น. (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล ดาวบิด คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานยอดเยี่ยมเข้าวิน ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามสุดท้ายของฤดูกาล ขณะ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม จบเรซอันดับ 4 เพียงพอให้คว้าแชมป์ประจำปีครั้งแรก ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่้นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมิ่อวันที่ 18 ต.ค.ทีผ่านา ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร
รุ่นใหญ่ที่สุดของไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จ่าฝูง ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม มี 61 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ เพียง 5 แต้ม ด้านแชมป์เก่า “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังจ่าฝูง 16 คะแนน “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล ทีมเมท ที่ตามหลังจ่าฝูงอยู่ 18 คะแนน มีลุ้นคว้าแชมป์ได้เช่นกัน “ตี” อนุภาพ ซามูล จีเอ็มที94 หมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว มีเพียง 27 คะแนน จาก 3 สนาม
กริดสตาร์ทเรซนี้ อภิวัฒน์ เจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย นครินทร์ และ ฐิติพงศ์ ในกริดที่ 2 และ 3 ส่วนกริดที่ 4 และ 5 ชัยวิชิต และ อนุภาพ ตามลำดับ การ วันนี้มีฝนปรอยลงมาสลับหยุด พร้อมกับสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดทั้งวัน สร้างความยากลำบากให้ทีมในการเซ็ตอัพอย่างมาก
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำของ อภิวัฒน์ ตามด้วย ชัยวิชิต และ ฐิติพงศ์ อนุภาพ ดวงแตกตั้งแต่รอบแรก รถแข่งมีปัญหาต้องออกจากเรซ เพียง 2 โค้ง โดยมีควันพุ่งออกมาจากท่อไอเสียอย่างมาก ผ่านรอบแรกของการแข่งขัน ชัยวิชิต ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ ตามด้วยทีมเมทอย่าง ฐิติพงศ์ อันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 ในช่วงต้นเรซ อภิวัฒน์ ช่วง 5 รอบสุดท้าย นครินทร์ ขยับแซง อภิวัฒน์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ
จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม แชมป์ในเรซสุดท้ายของฤดูกาล ชัยวิชิต ที่นำม้วนเดียวจบ ทิ้งห่างทีมเมทอย่าง ฐิติพงศ์ อันดับ 2 ถึง 14.588 วินาที ส่วนอันดับ 3 นครินทร์ ตามหลังแชมป์ 29.800 วินาที อภิวัฒน์ จบเรซในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 37.497 วินาที
ทั้งนี้จบการแข่งขัน 4 สนามในปีนี้ แชมป์ประจำปี “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จ่าฝูง ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ที่ผงาดบัลลังก์ครั้งแรกในรายการนี้ เก็บไปทั้งสิ้น 74 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง นครินทร์ เพียง 2 คะแนนเท่านั้น ด้านอันดับ 3 ชัยวิชิต เจ้าของชัยชนะสนามสุดท้าย ตามหลัง 7 คะแนน แชมป์เก่าอย่าง ฐิติพงศ์ อันดับ 4 ตามหลังแชมป์อยู่ 9 คะแนน
รุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี ชานนท์ ชุ่มใจ จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที ที่ออกสตาร์ทจากโพลก่อนนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะสนามสุดท้ายไปครอง ด้วยเวลา 22 นาที 4.380 วินาที เหนือ อภิเดช บุญศรี พีทีที ซูเปอร์ไบค์ นุด้า 80 ทีม ที่ตามเข้าป้ายอันดับ 2 ถึง 15.588 วินาที ส่วนอันดับ 3 อัศวิน คงทนไพศาล โกโก้ เรซซิ่ง บาย ยูทีอาร์ ตามหลังแชมป์ 35.707 วินาที โดยจบฤดูกาลนี้ ชานนท์ ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีไปครอง
รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี แชมป์สนามสุดท้าย “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ยอดนักบิดไทยจาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 22 นาที 23.767 วินาที เฉือน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด อันดับ 2 เพียง 0.627 วินาที ส่วนอันดับ 3 รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 3.763 วินาที “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง จบเรซอันดับ 7 แต่ยังเพียงพอที่จะคว้าแชมป์ประจำปีในคลาสนี้
แชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี สนามสุดท้าย จิรายุ สายยนต์ คาวาซากิ โรนิน เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 13 นาที 2.329 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง รัฐพงษ์ บุญเลิศ ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็มเอ็น 8 น้ำบาน โก๋ท่ามะกา เพียง 0.250 วินาที อันดับ 3 เป็นของ สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ตามหลังแชมป์ 4.483 วินาที
สำหรับเกมคลาสเล็กสุดอย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี แชมป์สนามสุดท้าย ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ดี.ไอ.ดี. เอ็นจีเค เออห์ลิน อู่ช่างขวัญ เซอร์วิส เข้าป้ายคันแรกด้วยเวลา 13 นาที 13.157 วินาที เหนือ ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก เอ๋ เซอร์วิส. ทีซี เอ็นจิ้น ปี๊ด สะพานแดง เพียง 2.827 วินาที ตามด้วย ชนะชัย บุญงาม จาก ยัวร์ เฮลเม็ต พิเรลลี ไทยแลนด์ ทีม ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 5.707 วินาที
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 19 ปี โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สร้างชื่อในฐานะนักบิดไทยหนึ่งเดียวบนเวทียุโรป ศึกบิดชิงแชมป์ดาวรุ่งรายการใหญ่ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2020 ที่สนามอารากอน สเปน ด้วยผลงานยอดเยี่ยม หลังออกสตาร์ทกริดที่ 18 สามารถเร่งแซงคู่แข่ง จบการแข่งขันเรซแรกในตำแหน่งท็อปเท็นอันดับที่ 10 พร้อมประเดิมแต้มแรกได้สำเร็จ เก็บได้ 6 คะแนน
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งนักบิดไทย หมายเลข 5 แข่งขันเรซที่สอง วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคมนี้ เวลา 21:30 น. ตามเวลาในไทย ผ่านการถ่ายทอดสด Online Live Streaming ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Red Bull MotoGP Rookies Cup พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเหล่านักบิดดาวรุ่งจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // นักหวดเยาวชนไทย “ลัลนา – กันตินันท์” คว้าแชมป์การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “เจ5 นนทบุรี” ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ วีคแรก ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม มีผลดังนี้
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ มือวาง 2 ลัลนา ธาราฤดี คว้าแชมป์หลังหวดชนะ มือวาง 1 พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช 2 เซตรวด 6-2, 6-4 / ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ มือวาง 2 กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส คว้าแชมป์หลังหวดชนะ มือวาง 1 ธนภัทร นิรันดร 2-1 เซต 3-6, 6-2, 6-0
ภายหลังการแข่งขัน นายธานี แสนยาอุโฆษ กรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน สมาคมกีฬาเทนนิสฯ มอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ทั้งประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว โดยนักกีฬาที่ชนะเลิศ ได้คะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) 30 คะแนน และรองชนะเลิศ ได้ 18 คะแนน
สำหรับการแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “เจ5 นนทบุรี” วีค 2 ประเภทชายเดี่ยว รอบคัดเลือกรอบแรก ปูนทอง โกมลพิสุทธิ์ ชนะ วิธวิทย์ กิตติธีระนนทร์ 6-0, 6-0 ชนาธร กางทอง ชนะ พีรณัฐ ศรีระวีวงศา 6-1, 6-0 กฤติน แอบเอี่ยม ชนะ ฉัตรฐิติ บุญประคอง 6-4, 6-4 มาร์ค ชาน ชนะ ดนุนัย ภู่เกษร 6-2, 6-1 ราฮัฟ ซันดาราราแมน (อินเดีย) ชนะ นำทัพ ปัญญาภู 6-1, 6-2 และประเภทชายเดี่ยว รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย กฤติน แอบเอี่ยม ชนะ มาริอุส คือร์ชไตเนอร์ 6-1, 6-1 ชนาธร กางทอง ชนะ ธีรเมธ ฉิมอ้อย 6-0, 4-6, 10-7 (ซุปเปอร์ไทเบรก) มาร์ค นิลเซน ชนะ ปูนทอง โกมลพิสุทธิ์ 7-6 (4), 6-4 ราฮัฟ ซันดาราราแมน (อินเดีย) ชนะ มาร์ค ชาน 6-2, 6-2
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย อัชลี่ แม็คเคนซี่ (ฟิลิปปินส์) ชนะ ซานน่า การาโนว่า (รัสเซีย) 6-1, 6-0 คิมเบอร์ลี่ แม็คเคนซี่ (ฟิลิปปินส์) ชนะ ลัลน์ลลิต บุษดี 6-1, 6-2 ลิรอน ลอยเตอร์ (สิงคโปร์) ชนะ ศานตมล รังสิพราหมณกุล 7-6 (5), 6-1 ดาเรีย นาซาเรนโก้ (รัสเซีย) ชนะ แจสมิน คอนราด (เนเธอร์แลนด์) 6-0, 6-3
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ทัพนักบิดฮอนด้า” สร้างผลงานยอดเยี่ยม ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนามสุดท้าย โดย “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ดาวรุ่งเอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ หมายเลข 188 ประเดิมซิวท็อปไฟว์ ขณะ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ บู๊ระห่ำขึ้นนำ ด้าน “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ผงาดคว้าชัยชนะส่งท้ายปี ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ที่มีดาวบิดระดับเอเชียลงดวลอย่างคับคั่ง ชิงชัยกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
โดยยอดดาวรุ่งอย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ เจ้าของหมายเลข 188 เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เริ่มเกมในแถวหน้าจากกริดที่ 3 ส่วนทีมเมทอย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ เจ้าของหมายเลข 123 เริ่มเกมจากกริดที่ 5
ออกสตาร์ทเรซ ด้วยการทะยานขึ้นนำของ ภาสวิชญ์ ที่พุ่งขึ้นมาจากกริดที่ 5 ทว่าหลังผ่านโค้ง 3 กลับกลายเป็น ปิยวัฒน์ ที่ไต่ขึ้นมารั้งหัวแถวได้ในรอบแรกของการแข่งขัน โดยมี “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ที่ตามอยู่ในอันดับ 2
หลังผ่าน 5 รอบแรกของการแข่งขัน สิทธิศักดิ์ รองจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ขยับขึ้นมาเป็นหัวแถวได้สำเร็จ ทว่าเกมยังคงพลิกผันตลอดเวลา เพราะมีนักบิดถึง 6 คนที่มีโอกาสคว้าชัยชนะในเรซนี้ จากนั้นรอบถัดมา ภาสวิชญ์ แซงขึ้นมาเป็นผู้นำ ทว่ากลับพลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย
จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม แชมป์เรซนี้ สิทธิศักดิ์ ที่ควบรถแข่ง Honda CBR600RR เข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์เรซส่งท้ายฤดูกาล 2020 ไปครอง ส่วน ปิยวัฒน์ เข้าป้ายอันดับ 5 ประเดิมสนามรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ได้ยอดเยี่ยม ตามหลังแชมป์ 18.880 วินาที
ทั้งนี้ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่แม้จะส่งทีมลงแข่งขันใน 2 สนามสุดท้าย แต่สามารถยกระดับเกมดวลความเร็วและสร้างความแตกต่างให้กับเรซได้อย่างมาก จากการขึ้นมาขับเคี่ยวในกลุ่มนำ และแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการสร้างทีมในระดับสากลได้อย่างชัดเจน
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์