https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160773446210055227
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์//วันนี้ (12 ธ.ค. 63) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมแสดงความยินดีกับพม. ร่วมแสดงความยินดี นางสาวเสาวลักษณ์ ทองก๊วย สตรีพิการไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ สมัยแรก

สตรีพิการไทย เป็นผู้สมัครจากประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการ วาระ 4 ปี (ค.ศ. 2020 – 2024) เป็นสมัยแรก

โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disabilities – CRPD) สมัยที่ 13 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Committee on the Rights of Persons with Disabilities) โดยเป็นการประชุมวาระเฉพาะกิจเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ รอบที่ 3 โดยประเทศไทยมีนางสาวเสาวลักษณ์ ทองก๊วย สตรีพิการไทยเป็นผู้สมัครจากประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยแรก

ทั้งนี้ นางสาวเสาวลักษณ์ เป็นหนึ่งในผู้สมัคร 88 คน ที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการ วาระ 4 ปี (ค.ศ. 2020 – 2024) ทดแทน 9 ตำแหน่งที่หมดวาระลง นางสาวเสาวลักษณ์ฯ ได้ให้คำมั่นว่า จะมุ่งมั่นจะสานต่อการทำงานของนายมณเฑียร บุญตัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึง (accessibility) สำหรับคนพิการ การเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลักดันมิติเกี่ยวกับคนพิการในการดำเนินงานของสหประชาชาติในทุกด้าน รวมถึงการพิทักษ์สิทธิมนุษยชน​และการส่งเสริมให้สตรีมีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการเพิ่มมากขึ้น การขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีและเด็กพิการ การดำรงชีวิตอิสระ การมีส่วนร่วมของคนพิการบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกัน และการส่งเสริมการประสานงานระหว่างคณะกรรมการ CRPD กับองค์กรอื่นๆ ภายใต้กรอบสหประชาชาติ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ในการสนับสนุนและส่งเสริมการลงสมัครเลือกตั้งฯ ของผู้แทนไทย ในครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรณรงค์หาเสียงผู้แทนประเทศไทย การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานของ​ผู้สมัคร ณ นครนิวยอร์ก เมื่อปี พ.ศ. 2562 – 2563 ที่ผ่านมา กิจกรรมรณรงค์หาเสียงฯ และการแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ที่กระทรวงการต่างประเทศ และการสนับสนุนกิจกรรม โครงการด้านการพิทักษ์สิทธิคนพิการของนางสาวเสาวลักษณ์ฯ โดย พก. พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันสู่สิทธิคนพิการในระดับสากลต่อไป

สำหรับ นางสาวเสาวลักษณ์ ทองก๊วย เป็นคนจังหวัดพิจิตร สำเร็จการศึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ จากมหาวิทยาลัย​รามคำแหง และได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรในระดับอาเซียนและในต่างประเทศมากมาย นับเป็นสตรีที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลบุคคลในภาคเอกชนดีเด่น ด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนสตรี ปี 2551 เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์เกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ประกอบกับการทำงานด้านพิทักษ์สิทธิคนพิการอย่างเข้มแข็ง ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมส่งเสริมศักยภาพสตรีพิการ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมัชชาคนพิการอาเซียน และเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการทำงานด้านพิทักษ์สิทธิมนุษยชน กลุ่มสตรีและเด็กพิการมาอย่างต่อเนื่อง การผลักดันแผนสตรีพิการ เด็กพิการ และแผนการจัดการภัยพิบัติ เป็นผู้นำผู้ประกอบการสตรีในระดับอาเซียนที่มีความโดดเด่น รวมทั้งได้รับเชิญไปร่วมเสวนาสร้างแรงบันดาลใจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งในและต่างประเทศเสมอ จึงเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นางสาวเสาวลักษณ์ฯ เป็นแกนนำสำคัญที่ร่วมมือกับภาครัฐในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และร่วมออกนโยบายในการช่วยเหลือคนพิการในภาวะวิกฤติดังกล่าวด้วย:Cr;มณสิการ รามจันทร์

พิมพ์ไทยออนไลน์//วันที่ 10 ธ.ค. 63 เวลา 12.00 น.  นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และนางสาวนริศา อดิเทพวรพันธุ์ ประจำสำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และทีม พม. One Home ลงพื้นที่ ณ ชุมชนบ้านช้าง หมู่ 7 ตำบลท่าเรืออำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนและกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมทั้งเดินลุยน้ำและนั่งเรือเพื่อนำอาหารปรุงสุก สด สะอาดจากครัวกลางชุมชน และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ไปแจกจ่ายให้ชาวชุมชนที่บ้านยังคงถูกน้ำท่วมและเดินทางออกมาภายนอกด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดนางพัชรี กล่าวว่า ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมหรือประสบภัยพิบัติต่างๆ สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยตนเองได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด:Cr;มณสิการ รามจันทร์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020 สัปดาห์ที่ 14 ที่เอสซีจี สเตเดี้ยม ระหว่างเจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 9 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตาราง ที่ สนามเอสซีจี าเคเดี้ยม เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.63โดยผลงานในลีกล่าสุดของทั้งสองทีมทาง “กิเลนผยอง” บุกพ่าย การท่าเรือ 0-2 ขณะที่ทีมเยือน “ต่อพิฆาต” เปิดบ้านเอาชนะ ตราด เอฟซี 4-2
การจัดทัพฝั่งเจ้าบ้าน “กิเลนผยอง” ภายใต้การคุมทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ส่งผู้เล่นตัวจริงมี ดัง วัน ลัม ลงเฝ้าเสา แผงแนวรับวาง ไดซึเกะ ซาโตะ, ลูคัส โฮช่า, มาร์โก บัลลินี่ และ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ มิดฟิลด์ส่ง วัฒนา พลายนุ่ม, ฉัตรมงคล ทองคีรี, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ คอยสร้างสรรค์เกม ส่วนคู่หัวหอกเป็น แดร์เลย์ และ ปรเมศย์ อาจวิไล ลงล่าตาข่าย

เริ่มเ

กมมาได้เพียง 13 นาที เอสซีจี เมืองทองฯ ขึ้นนำเร็ว 1-0 ลูกเตะมุมของ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ บอลเลยมาถึง แดร์เลย์ วิ่งมาชนบอลเข้าประตูไป นาทีที่ 17 พีที ประจวบฯ ได้โอกาสจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ วิลเลี่ยม เอ็มริเก้ แต่บอลยังพุ่งตรงตัว ดัง วัน ลัม รับไว้ได้ติดมือ พีที ประจวบฯ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 35 จากบอลชิ่งเร็ว วิลเลน โมต้า ไหลบอลให้ วิลเลี่ยม เอ็มริเก้ วิ่งมายิงด้วยซ้ายหน้าเขต บอลพุ่งเรียดเสียบเสาเข้าไป จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 พีที ประจวบฯ พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะกระชากเข้าเขตโทษของ วิลเลี่ยม เอ็มริเก้ ก่อนแปเรียดบอลพุ่งผ่านมือ ดัง วัน ลัม เข้าประตูไป นาทีที่ 69 เจ้าบ้านมาได้ลูกที่จุดโทษเมื่อ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ แดร์เลย์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด “กิเลนผยอง” ตามตีเสมอเป็น 2-2
นาทีที่ 75 ทีมเยือนมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ ศรัณยู อินต๊ะราช ไปเล่นนอกเกมใส่ แดร์เลย์ ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนควักใบแดงแนวรับ พีที ประจวบฯ ออกไป นาทีที่ 82 พีที ประจวบฯ มาได้ประตูพลิกขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 จากบอลโยนเข้าเขตโทษแล้วเป็น วิลเลน โมต้า ที่โฉบมาโหม่ง บอลกระดอนพื้นเข้าประตูไป
เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้ นาทีที่ 87 มาได้ประตูตามตีเสมอ 3-3 จากบอลเรียดเข้าเขตโทษ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ วิ่งมาชาร์จบอลผ่านมือ ขวัญชัย สุขล้อม เข้าไป ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นโหมบุกหนัก แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเยือนได้ จบเกม 90 นาที เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านเสมอกับ พีที ประจวบฯ 3-3 แบ่งกันทีมละ 1 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ดัง วัน ลัม (GK), ไดซึเกะ ซาโตะ (สรวิทย์ พานทอง น.64), ลูคัส โฮช่า (ชาติชาย แสงดาว น.41), มาร์โก บัลลินี่, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, วัฒนา พลายนุ่ม (สหรัฐ กันยะโรจน์ น.54), ฉัตรมงคล ทองคีรี, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, แดร์เลย์, ปรเมศย์ อาจวิไล ใบเหลือง : วีระเทพ ป้อมพันธุ์
พีที ประจวบ เอฟซี : ขวัญชัย สุขล้อม (GK), ยู จุน ซู, ยานโต บาสน่า, อดุลย์ หมื่นสมาน, ศรัณยู อินต๊ะราช, รัชพล นาวันโน (พีฬาวัช อรรคธรรม น.75), ชุติพนธ์ ทองแท้ (วันเฉลิม ยิ่งยง น.84), กิตติศักดิ์ โฮชิน, เอียน แรมซี่ย์ (อมร ธรรมนาม น.90), วิลเลี่ยม เอ็นริเก้, วิลเลน โมต้า ใบเหลือง : วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ ใบแดง : ศรัณยู อินต๊ะราช

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ธนาคารออมสิน ร่วมงาน Thailand Smart Money กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2563 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานเปิดงาน Thailand Smart Money กรุงเทพ และนายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานจัดงานฯ ให้เกียรติเยี่ยมชมและเปิดบูธบริการทางการเงินธนาคารออมสิน โดยมี นายอิสระ วงค์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสิน ให้การต้อนรับ ที่ ห้องสกายฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
ปีนี้ธนาคารออมสินจัดบูธภายใต้แนวคิด ธนาคารเพื่อสังคม GSB Social Bank : ธนาคารออมสิน “สร้างโอกาส สร้างความสุขให้คนไทย” กับธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายมาให้บริการ อาทิ – เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 107 ดอกเบี้ยเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.52% ต่อปี – สินเชื่อเคหะ ดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี นาน 3 ปี – สินเชื่อธุรกิจ GSB D-Vers วงเงินสูงสุดถึง 100 ล้านบาท- GSB SMEs Startup No.1 วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ผ่อนต่ำอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.07% ต่อปี พร้อมด้วยกิจกรรมและของสมนาคุณอื่น ๆ อีกมากมาย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ไดโนเสาร์พิฆาต” วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ใกล้จะได้ครองถ้วยประทาน “กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” ทุกขณะ เปิดสนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ถล่มอาคันตุผู้ไปเยือน “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” 8 ประตูต่อ 0 ขณะที่“ลูกพระพิรุณ” ม.เกษตรศาสตร์ บุกไปถล่ม “แข้งสาวเมืองเจดีย์ใหญ่” มรภ.นครปฐม 3 ประต 0 การันตีตำแหน่งที่ 3 ของตารางแน่นอนแล้ว
​การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นัดที่ 16 ของฤดูกาล เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
​ที่ สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน “ไดโนเสาร์พิฆาต” วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ทีมยักษ์ใหญ่จากขอนแก่น ทีมนำอันดับ 1 ซึ่งยึดหัวหาดใช้เป็นสนามเหย้า ฤดูกาลนี้ มี “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทีมอันดับ 4 ยกพลไปเยือน คู่นี้ นัดแรกที่เจอกันที่ร่มเกล้า บัณฑิตเอเซียของ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ชนะเกษมบัณฑิต ของ “โค้ชดิว” ไกรวิทย์ วงศ์คำปวน 6 ประตูต่อ 0 และนัดนี้ทีมเยือนเตรียมตัวไปดี แต่ศักยภาพรองทีมเป็นทีมเจ้าบ้านทุกด้าน ดวลกันครบ 80 นาที บัณฑิตอเซียย้ำแค้นชนะไปได้ 8 ประตูต่อ 0โดยได้ประตูจาก “เป๊กกิ้”อุไรพร ยงกุล นาทีที่ 13 “พลอยชมพู” พลอยชมพู สมนึก นาทีที่ 22 และ 78 “อองลี” ธนากร จันทะวัน นาทีที่ 24 และ 33 “มิ้น”กัญญาณัฐ เชษฐบุตร นาทีที่ 42 “เติ่ล”ทิพาพร สวัสดิ์นะที ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 71 “ซาร่า” อรพินท์ แหวนเงิน นาทีที่ 73

​

ชนะนัดนี้ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย มี 48 คะแนน ชนะรวด 16 นัด นำห่างวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี ทีมอันดับ 2 เป็น 3 แต้มอีกครั้ง ส่วนเกษมบัณฑิต ทีมแพ้มี 24 คะแนน อยู่อันดับที่ 4 ตามเดิม
​ที่ สนามมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ทีม“แข้งสาวเมืองเจดีย์ใหญ่” มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ทีมอันดับที่ 7 เปิดบ้านรับ “ลูกพระพิรุณ” ม.เกษตรศาสตร์ คู่นี้ นัดแรกเจอกันที่สนามอินทรี จันทรสถิติย์ เกษตรศาสตร์ถล่มเอาชนะไปได้ 5 ประตูต่อ 0 เริ่มเกม เกษตรศาสตร์ ทีมเยือน เปิดเกมบุกใส่เจ้าถิ่น อย่างหนัก งฝั่งทีมผู้มาเยือน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก “นาเดีย” นาเดีย เจะดะ นาทีที่ 8 และ ได้ประตูเพิ่มอีก จาก”จี” จิรภาพร ดำหาย นาทีมี่ 20 เป็น 2-0 หมดครึ่งแรกนำ 2-0
ครึ่งหลัง มรภ.นครปฐม เจ้าถิ่นพยายามตอบโต้ แต่ก็ไม่สามารถ ทำระตูได้ แต่ฝั่ง ม.เกษตรศาสตร์ ที่ทำได้ดีกว่า ได้ประตูเพิ่มจาก “จี” จิรภาพร ดำหาย นาทีที่ 57 เป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ จบเกม มรภ.นครปฐม พ่ายให้กับ ม.เกษตรศาสตร์ 0 ประตูต่อ 3 ​ชนะนัดนี้ เกษตรศาสตร์ มี 36 คะแนนอยู่ที่ 3 ต่อไป นครปฐมแพ้มี 13 คะแนนเท่าเดิม และอยู่อันดับที่ 7

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สองนักหวด วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์-ตปณีย์ บุญวัฒน์ คว้าแชมป์สมัย 2 หวดชนะ กมรวรรณ ก้อนศิลา-ไทร่า ลิธิบี (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) 2-1 เซต 6-7 (4), 6-3, 10-7 (ซุปเปอร์ไทเบรก) การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “แอลทีเอที ไอทีเอฟ จูเนียร์” วีคที่ 5 เก็บคะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 รอบชิงชนะเลิศ มีผลดังนี้

ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ คู่มือวาง 1 ของรายการ วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ จับคู่กับ ตปณีย์ บุญวัฒน์ คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังหวดชนะ มือวาง 2 กมรวรรณ ก้อนศิลา จับคู่กับ ไทร่า ลิธิบี (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) 6-7 (4), 6-3, 10-7 (ซุปเปอร์ไทเบรก) ส่วนประเภทชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ คู่มือวาง 3 ของรายการ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย จับคู่กับ ศิวณัฎฐ์ อุ้ยตยะกุล คว้าแชมป์หลังหวดชนะ ศุภเศรษฐ์ สินเจริญวัฒนา จับคู่กับ แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ (ลูกครึ่งไทย-อิตาลี) 6-3, 6-2
ทั้งประเภทหญิงคู่และชายคู่ โดยนักกีฬาชนะเลิศ ได้คะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) 25 คะแนน และรองชนะเลิศ ได้ 13 คะแนน
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ มือวาง 1 ของรายการ สลักทิพย์ อุ่นเมือง ที่ชนะ ไทร่า ลิธิบี (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) 7-6 (4), 6-3 สลักทิพย์ อุ่นเมือง เข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ มือวาง 2 วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ ที่ชนะ มือวาง 4 ณัฏฐณิชา แก้วเจริญวงษ์ 6-3, 6-2 และในประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ มือวาง 1 ของรายการ ธนภัทร นิรันดร หวดชนะ ธาม โรจนสุนทร 6-3, 7-6 (5) ธนภัทร นิรันดร เข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ มือวาง 4 แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย) ที่ชนะ มือวาง 2 ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย 7-5, 6-4

มอบรางวัล….นายธานี แสนยาอุโฆษ กรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน สมาคมกีฬาเทนนิสน เป็นประธานมอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่-ชายคู่ เทนนิสเยาวชนนานาชาติ แอลทีเอที ไอทีเอฟ จูเนียร์ วีคที่ 5 ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เตรียมระเบิดศึก “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” งานวิ่งมาราธอนกลางคืนมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จัดเต็มสีสันสุดอลังการแสงไฟแห่งเกาะรัตนโกสินทร์ พร้อมเปิดมิติใหม่ด้วยการดึง “RUKKIT” สตรีทอาร์ตระดับแนวหน้า ร่วมรังสรรค์ผลงานเนรมิตธีมงานในลวดลาย “ปลากัด” ตัวแทนของนักสู้หนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย วันที่ 13 ธ.ค.นี้ ที่สนามหลวง
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย มูลนิธิปลูกป่าในใจคนฯ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด ผู้ก่อตั้งและเจ้าของสิทธิ์การจัดการแข่งขัน เตรียมระเบิดศึกวิ่ง “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” การแข่งขันวิ่งมาราธอนกลางคืนมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ภายใต้การรับรองของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (World Athletics) ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้เพิ่มความพิเศษได้ “RUKKIT” รักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมรังสรรค์ผลงานเนรมิตงานวิ่งให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ในรูปแบบ New Normal Edition จัดขึ้นเฉพาะระยะ 21.1 กม. และ 10 กม.วันที่ 13 ธ.ค.63 ที่ บริเวณสนามหลวง คาดว่าจะมีนักวิ่งร่วมกิจกรรมกว่า 8,000 คน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.63 ดร.นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. มร.ทาเคโอะ โนดะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์ ดร.ชลันดา ชอบจิตร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ กกท. และนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันพร้อมด้วยผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน ร่วมแถลงข่าวประกาศความพร้อมก่อนการแข่งขัน ที่สถานีแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ มักกะสัน
ดร.นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม กล่าวว่า สสส. มุ่งมั่นฟื้นฟูการมีกิจกรรมทางกายเพียงพอของคนไทย ผ่านการผลักดันงานวิ่งในประเทศไทยให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ภายใต้มาตรการป้องกันความเสี่ยงซึ่งงานวิ่ง “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” ในครั้งนี้ นอกจากจะยึดรูปแบบการจัดงานตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ศบค. ในยุค New Normal แล้ว อยากเชิญชวนนักวิ่งทุกท่านเป็น

ส่วนหนึ่งในการ “ร่วมยกระดับและสร้างมาตรฐานวงการวิ่งเมืองไทยแบบชีวิตวิถีใหม่” หรือ Boost up yourself, Boost up Your New Standard ไปด้วยกัน ด้วย 6 พันธกิจ 1. NO BIB = NO RIGHT 2. CHECK IN ก่อน START 3. ออกตัว ไม่แซง ไม่แทรก 4. วิ่งครบทุกหมุด ฟินสุดตลอดเส้นทาง 5. รอยยิ้มและน้ำใจ อาวุธใหม่ในการวิ่ง 6. วิ่งแบบมีมาตรฐาน ร่วมสร้าง SPIRIT ในตัวคุณ และสร้างชีวิตวิถีใหม่ 3 อย่างห่างไกลโควิด 19 เริ่มจากการ ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังวิ่ง สวมหน้ากากก่อนและหลังวิ่งอยู่เสมอ วิ่งแบบรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร และการเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนลงสู่สนามเป็นสิ่งสำคัญที่นักวิ่งต้องตระหนักอยู่เสมอ
มร.ทาเคโอะ โนดะ ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์ กล่าวว่า ยูเมะพลัสมีความยินดีที่ได้สนับสนุนการจัดงานวิ่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญ “อีซี่รัน วิท ยูเมะพลัส” (Easy Run with Umay+) เพื่อร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เริ่มวิ่ง รวมถึงเป็นพลังใจให้นักวิ่งทุกคนที่มีความมุ่งมั่น และมีเป้าหมาย พร้อมกันนี้เรายังให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมพิเศษ ยูเมะพลัส คลีน เดอะ ซิตี้ (Umay+ Clean The City) เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนและนักวิ่งหันมาใส่ใจเรื่องการรักษาความสะอาด โดยชวนนักวิ่งมาร่วมเป็น “ECO Race Runner” หรือนักวิ่งเชิงอนุรักษ์เพื่อเป็นต้นแบบการ

สร้างจิตสำนึกที่ดี ไม่สร้างขยะ ลด ละ และเลิกใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อลดปัญหาขยะล้นเมือง ด้วยการเปิดรับสมัครจิตอาสามาร่วมทำความสะอาดพื้นที่บริเวณเส้นทางการแข่งขัน เพื่อให้พื้นที่จัดงานสะอาด สวยงาม และปลอดภัย โดยกิจกรรมมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ที่ บริเวณสนามหลวง ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจิตอาสาทุกคนจะได้รับเสื้อ Easy Run with Umay+ limited edition เป็นที่ระลึกด้วย
นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ กล่าวว่า ความพิเศษของงานวิ่ง “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” ปีนี้ นักวิ่งจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จุดปล่อยตัวใหม่ ที่ “ท้องสนามหลวง” ซึ่งนับเป็นใจกลางของเกาะรัตนโกสินทร์ โดยนักวิ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศอันสวยงาม และแสงสีอันน่าหลงใหลของกรุงเทพมหานคร ที่ประดับประดาไปด้วยไฟประดับหลากสีสันตลอดเส้นทางวิ่ง ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายในเดือนธันวาคม

นอกจากนี้เรายังได้จับมือกับ “RUKKIT” หรือ คุณรักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมรังสรรค์ผลงาน สร้างมิติใหม่ของเทศกาลวิ่งยามค่ำคืนให้พิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการดึงอัตลักษณ์ของงานวิ่งยามค่ำคืนแห่งเกาะรัตนโกสินทร์ ผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยนำลวดลายเลขาคณิตมาตัดทอด ผสมการไล่เฉดสีของท้องฟ้าในบรรยากาศที่ต่างกัน นำมาสู่ธีมของการจัดงานและเสื้อแข่งในปีนี้ คือ “ปลากัด (Siamese Fighting Fish)” สัตว์น้ำประจำชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย ตัวแทนของยอดแห่งนักต่อสู้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่านักวิ่งที่มาร่วมงานทุกท่านจะได้รับความประทับใจกลับไปแน่นอน
สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนกลางคืน “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” ออกสตาร์ทและเข้าเส้นชัยที่ สนามหลวง แบ่งการชิงชัยเป็น 2 ระยะทาง ประกอบด้วย ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และมินิมาราธอน 10 กม. โดยเส้นทางวิ่งจะผ่านสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเกาะรัตนโกสินทร์อย่าง ถนนราชดำเนิน วัดพระแก้ว พระบรมหาราชวัง พระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Bangkok Midnight Marathon (www.facebook.com/Bangkokmidnightmarathon)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์​ ศิริวัฒน์​ ได้มติเสียงเอกฉันท์ให้นั่งประธานสมาพันธ์ฟลอร์บอลแห่งเอเชีย-โอเชียเนียอีกสมัย​ ปีนี้มีการขยายเวลาตำแหน่งจาก​ 2​ ปีเป็น​ 4​ ปี เพื่อให้สอดคล้องกับฟลอร์บอลโลก​ ซึ่งคณะกรรมการบริหารบอร์ดชุดใหม่จะร่วมประชุมกัน ที่ ไทย​ในช่วงจัดเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์​มา​ร์เชีย​ลอาร์ต​เกมส์​ เดือนพ.ค​นี้​ พร้อมกับเสนอ​ “ภัก​ดิ์​กมล​ ศิริวัฒน์” กรรมการ​ AOFC​ ชิงตำแหน่งบอรด์บริหารของฟลอร์บอลโลกในโควต้า​ 2​ คนจากฝั่งเอเชีย-โอเชียเนีย

“บิ๊กแนต” นายกองเอกชัยภักดิ์​ ศิริวัฒน์​ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทย​ และประธานสมาพันธ์ฟลอร์บอลแห่งเอเชีย-โอเชียเนีย เผยว่า​ ได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาเสมือนจริงเป็นครั้งแรก ของสมาพันธ์​ฟลอร์บอลแห่งเอเชีย-โอเชียเนีย​ (AOFC)​ ในระบบซูมซึ่งทาง​ AOFC​ โดยมีมิสเตอร์โทมัส​ อีริคสัน​ ประธานฟลอร์บอลโลก​ (IFF)​ เข้าร่วมประชุมด้วย​ ซึ่งการประชุมสมัชชาครั้งนี้ มีการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารทุก 2 ปี​ พร้อมการแก้ไขกฎเกณฑ์และรายงานประจำปีได้รับการอนุมัติ และการพัฒนาระดับภูมิภาค มีการเสนอแผน
การประชุม AOFC ที่ถูกเลื่อนออกไปจากเดือนมีนาคม 2020 เมื่อประเทศ​ไทยต้องยกเลิกการเป็นเจ้าภาพ WFCQ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด​
ประเด็นหลักในวาระการประชุมคือ การแก้ไขธรรมนูญและการลงคะแนนของคณะกรรมการกลาง สำหรับการแก้ไขกฎเกณฑ์เพื่อปรับเปลี่ยนระยะเวลาจากปี 2020-2022 (2 ปี) เป็น 2020-2024 (ระยะเวลา 4 ปี) โดยทางคณะกรรมการส่วนใหญ่ต่างเห็นดีด้วย การปรับเปลี่ยนการบริหารงานเข้ากับระยะเวลาของฟลอร์บอลโลกที่ดำรงค์ตำแหน่ง​ 4​ ปี​

เข้าสู่วาระการเลือกหาประธานคนใหม่ต่อจากนายกองเอกชัยภักดิ์​ ศิริวัฒน์​ ที่หมดวาระลง​ คณะกรรมได้มีการเสนอชื่อนายกองเอกชัยภักดิ์​ ศิริวัฒน์​ เป็นระธานสมาพันธ์ฟลอร์บอลแห่งเอเชีย-โอเชียเนีย​ แบบไร้คู่แข่งขัน ​ซึ่งจะนั่งตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลา​ 4​ ปีเป็นคนแรกของ​ AOFC​
ในส่วนตำแหน่งรองประธานสมาพันธ์​ AOFC​ เสนอชื่อทั้งหมด​ 6​ คน​ ปรากฏว่า​ พล.ร.อ.ไกรวุธ​ วัฒนธรรม​ จากไทยได้รับเลือก​ พร้อมกับ​ นายสตีเฟน​ คิง ออสเตรเลีย, มร.อาตุล​ กู๊ปต้า อินเดีย, มร.โซอิชิ คาโตะ ญี่ปุ่น​ และ​มร.ชิง​ ไซ​ เจง​ จีน​ โดยมีผู้แทนจากอิหร่านและผู้แทนปากีสถานไม่ได้รับเลือก​ สำหรับตำแหน่งเลขาธิการมีการเปลี่ยนแปลงได้นายกฟลอร์บอลสิงคโปร์​นั่งตำแหน่งนี้​ พร้อมกับ​ ดร.​เปนไท​ ศิริวัฒน์​ เป็นรองเลขาธิการควบคู่กับ ผู้แทนจากจีน​ ส่วนตำแหน่งเหรัญญิก​คือ​ มร.คิม เซ​ วอง​ เกาหลีใต้

นายกองเอกชัยภักดิ์​ ศิริวัฒน์​ กล่าวว่า​ การปรับเปลี่ยนการบริหาร​ที่เพิ่มจาก​ 2​ ปีเป็น​ 4​ ปี อยู่ระหว่างปี 2563 ถึง 2567 และการประชุมสมัชชาครั้งต่อไป จัดที่กรุงเทพฯ ระหว่างการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์มา​ร์เชีย​ลอาร์ต​เกมส์​เดือนพฤษภาคม 2564​ เป็น​การหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันฟลอร์บอลในภูมิภาคในอนาคต เน้นการพัฒนาระดับเยาวชนต่อไป​ นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารบอร์ด​ชุดใหม่ของ​ AOFC​ มีการพิจารณาการส่งผู้แทนจากเอเชีย-โอเชียเนีย​ ไปนั่งบริหารบอร์ดใหญ่ของฟลอร์บอลโลกด้วย ซึ่งได้มา​ 2​ โควต้าเลยมีการเสนอชื่อของ​ สตีเฟ่น​ คิง​ ออสเตรเลีย​ และน.ส.ภัก​ดิ์​กมล​ ศิริวัฒน์​ เข้าร่วมพิจารณา​ให้กับทางบอร์ดของฟลอร์บอลโลก​ (IFF)​ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว​

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์