พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับแจ้งจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า ทีมจักรยานอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ปิดฤดูกาลแข่งขันจักรยานประเภทถนนเอเชีย ทัวร์ 2020 มีคะแนนสะสมเป็นอันดับที่ 3 โดยมี ทีมซาปูรา จากมาเลเซีย และ ทีมวิโน แอสตานา จากคาซัคสถาน ปิดฤดูกาลในอันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการเป็น 1 ในท็อป 3 ทีมของเอเชียดังกล่าว ส่งผลให้ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” จะได้สิทธิ์ในการรับเชิญจากเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานอาชีพ ของทวีปเอเชียทุกรายการในฤดูกาล 2021 ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จก้าวใหญ่อีกระดับของวงการกีฬาสองล้อไทย เนื่องจากสิทธิ์ดังกล่าวจะทำให้ทีมสองล้ออาชีพของไทยมีโอกาสเลือกเข้าแข่งขันรายการใหญ่ ด้วยเป้าหมายทั้งล่าเงินรางวัล และเก็บคะแนนสะสมกีฬาจักรยานโลกของ ยูซีไอ ทั้งในระดับบุคคล, ระดับทีม และระดับทีมชาติ
“นอกเหนือจากสิทธิ์การเลือกลงแข่งขัน รายการที่บรรจุในเอเชีย ทัวร์ ฤดูกาล 2021 แล้ว จะเป็นเครดิตสำคัญในการอ้างอิงกรณีที่ทีมอาชีพ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม มีแผนที่จะไปตระเวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีมาตรฐานกีฬาจักรยานสูง อย่างทวีปยุโรปหรืออเมริกา ขณะเดียวกันเป็นโอกาสอันดีที่นักปั่นไทยในทีมอาชีพจะเก็บคะแนนสะสม เพื่อเป็นฐานสำหรับการคัดเลือกนักปั่นชายในประเภทถนน เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ กรุงปารีส ฝรั่งเศส หรืออีก 3 ปีข้างหน้า”

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากในรอบปี 2019 และ 2020 นักปั่นทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ไม่ว่าจะเป็น “วุฒิ” สิบโท สราวุฒิ สิริรณชัย, “มะตูม” จ่าอากาศเอก พีระพล ชาวเชียงขวาง, “ป๋อม” ร้อยตำรวจเอก ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, “ปาง” จ่าอากาศเอก ธนาวุฒิ สนิกวาที, “ดอย” สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่ จนถึงน้องใหม่ของทีมอย่าง “เจ้าเฟรม” สิยตรี ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ต่างก็ทำผลงานการแข่งขันต่าง ๆ จนเป็นที่จับตาของวงการสองล้อทวีปเอเชีย
“สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ยังมีนโยบายการส่งเสริมนักปั่นไทยเข้าสู่ทีมอาชีพ และส่งแข่งขันอย่างต่อเนื่องในปี 2021 ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยคุณเอกชัย เศวตสมภพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ในฐานะอุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อผลักดันกีฬาสองล้อไทยให้ยืนหยัดเป็นหนึ่งในมหาอำนาจกีฬาจักรยานของภูมิภาคเอเชียให้ได้ในอนาคต”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กฟผ. ร่วมกับ จ.นครราชสีมา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพปากช่อง จัดการแข่งขันวิ่งโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 แบบ New Normal ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ นักวิ่งจากทั่วทุกสารทิศร่วมประลองฝีเท้า เคล้าลมหนาว ชมวิวหมื่นล้านของอ่างพักน้ำตอนบนและทุ่งกังหันลมโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมีนายชฎาลม วงศ์ด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานกกท.จังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่วนราชการ เอกชน ประชาชน รวมถึงนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกสารทิศ จำนวน 2,500 คน เข้าร่วมแข่งขัน ที่ อ่างพักน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา บ้านเขายายเที่ยงเหนือ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย กล่าวว่า การแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองกีฬา (Sports City) โดยใช้กีฬาเป็นกิจกรรมขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยวในชุมชนรอบพื้นที่ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น
นายประเสริฐ อินทับ กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 บนเส้นทางอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมด้านการกีฬา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ จัดภายใต้รูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ลงทะเบียนก่อนเข้างาน และต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ และเพื่อความสะดวกรวดเร็วการตรวจสอบผลวิ่งหลังจบการแข่งขัน นักวิ่งสามารถรับผลการแข่งขันด้วยการสแกน QR Code บนบิบ Korat Half Marathon Loifaa 9th ซึ่งนอกจากตอบสนองต่อแนวคิดรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดการใช้กระดาษ และรักษาระยะห่างทางสังคมอีกด้วย

สำหรับการแข่งขัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กม. มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กม. ฟันรัน ระยะทาง 3.5 กม.ผู้ทีชนะเลิศชาวไทยประเภทฮาล์ฟมาราธอน ได้รับรางวัลถ้วยประทานฯ พร้อมเงินสด คนละ 15,000 บาท ชาวต่างชาติได้รับรางวัลถ้วยพร้อมเงินสด คนละ 15,000 บาท
ส่วนผลผู่ชนะเลิศศแต่ละประเภทมีดังนี้ ประเภทชาวไทยทั่วไป (Thai Citizen Overall) ชาย สุทัศน์ กัลยาณกิตติ สถิติ 1 ชั่วโมง 25 นาที 13 วินาที ประเภทชาวไทยทั่วไป (Thai Citizen Overall) หญิง สุดารัตน์ สีนอก สถิติ 1 ชั่วโมง 49 นาที 25 วินาที ประเภทนานาชาติทั่วไป (Foreigner Overall) ชาย Julius Kiptum Mutai สถิติ 1 ชั่วโมง 25 นาที 10 วินาที และประเภทนานาชาติทั่วไป (Foreigner Overall) หญิง Dorcas Jebotip Tarus สถิติ 1 ชั่วโมง 35 นาที 21 วินาที

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเบสบอลชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 63 หรือรายการ “เบสบอล ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ” เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศวันสุดท้าย ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา คลองหก จ.ปทุมธานี โดยมีนายปริญญา ถวัลย์อรรณพ ผู้อำนวยการสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ, นายวุฒิชัย อุดมกาญจนนันท์ นายกสมาคมกีฬาเบสบอลแห่งประเทศไทย และ “มาดามเจี๊ยบ” นางศิริณี กันทา อุปนายกสมาคมฯ ร่วมเป็นประธานปิดการแข่งขัน

ผลปรากฏว่า ประเภทเมเจอร์ ทีมพลศึกษาสุพรรณบุรี อาศัยทีมเวิร์คและประสบการณ์ที่เหนือกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะ ทีมชาร์ค ไปแบบหายห่วง 11-6 คว้าแชมป์ไปครองสมใจ ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 ทีมไนส์ เอาชนะ ทีมเคบี โคเรียล ไปขาดลอย 18-3 ขณะที่ประเภทไมเนอร์ แข่งขันแบบพบกันหมดเพื่อเก็บคะแนนสะสม อันดับ 1 ได้แก่ ร.ร.กีฬาสุพรรณบุรี แข่ง 5 นัดชนะรวดมี 10 คะแนน อันดับ 2 ทีมดิแอนนิมอล ชนะ 4 นัดมี 8 คะแนน อันดับ 3 ร.ร.เชียงใหม่ ชนะ 3 นัดมี 6 คะแนน และอันดับ 4 บีเคเค ธันเดอร์ ชนะ 2 นัดมี 4 คะแนน และปิดท้ายกันที่ประเภท ยู 12 ปี แชมป์ในปีนี้ตกเป็นของ บีเคเค ธันเดอร์ อันดับ 2 ไอบีเอส (IBS) และ อันดับ 3 ไทยญี่ปุ่น

หลังการแข่งขันครั้งเสร็จสิ้นลง ทางสมาคมฯมีโปรแกรมจัดการประเภทยุวชน U 12 และ U 15 อีกครั้ง ในเดือนมีนาคมปี 64 เพื่อต้องส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการยกระดับและมาตรฐานเด็กไทยให้สูงขึ้น ก่อนจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในระดับอาเซี่ยน และ ชิงแชมป์เอเชียต่อไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันฟุตบอลไทย วีเมนส์ ลีก ดิวิชั่น 1 สัปดาห์ที่ 6 คู่แรก ที่ สนามภายในศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬา ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา บีอาร์ยู บุรีราษฎร์ อะคาเดมี่ ทีมอันดับ 5 พบกับ โรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง ทีมอันดับสุดท้ายที่ไม่มีแต้ม ครึ่งแรกเกมออกมาสูสี แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนทำประตูกันได้ทำให้สกอร์ได้เสมแกัน 0-0
ครึ่งหลัง นาที 53 บีอาร์ยู บุรีราษฎร์ อะคาเดมี่ นิสา ร่มเย็น ดาวยิงประจำทีมที่ยิงให้ทีมออกนำโรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง 1-0 ช่วงเวลาที่เหลือ บุรีราษฏร์ พยายามเจาะเพิ่มแตไม่สำเร็จ จบเกม บีอาร์ยู บุรีราษฎร์ อะคาเดมี่ ชนะ บีโรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง 1-0 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ บีอาร์ยู บุรีราษฏร์ อะคาเดมี มีเพิ่มเป็น 8 คะแนน กระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ในโซนลุ้นแชมป์ ส่วน โรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง จบอันดับสุดท้ายในเลกแรกแน่นอนแล้ว ไม่มีแต้มเลย
โปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป อาร์ยู บุรีราษฎร์ อะคาเดมี่ พบกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลจังหวัดชลบุรี วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลา 19.00 น. ส่วน โรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง พบกับ โรงเรียนกีฬาชลบุรี วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เวลา 16.00 น. โดยทั้งสองคู่จะแข่งขันที่สนามภายในศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬา ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ และบอร์ดโอซีเอ เผย ในปีหน้า คณะกรรมาธิการวัฒนธรรม โอซีเอ วางแผนที่จะนำเสนอการจัด “โอซีเอ นิวเวฟ” ซึ่งเป็นแนวคิดการจัดงานเอ็กซ์โป ด้านกีฬาที่มีการผสมผสานกันกับเทศกาลอาหาร แฟชั่น และดนตรี ไว้ด้วยกัน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ซึ่งกิจกรรมนี้ จะหมายรวมถึงการจัด เอเชียน สปอร์ต เอ็กซ์โป และการสัมมนากีฬานานาชาติ ด้วย โดยจะจัดควบคู่กับไป 3 มหกรรมกีฬาใหญ่ เอเชียนบีชเกมส์ เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ และ เอเชียนยูธเกมส์
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ วัฒนธรรม และมรดกโอลิมปิก ไอโอซี และ กรรมการบริหารสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม โอซีเอ เปิดเผยหลังร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม โอซีเอ 90 ประเทศ ผ่าน วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จะดำเนินควบคู่ไปกับ การแข่งขันกีฬาหลายรายการของโอซีเอ ว่า ในปีหน้าเรา วางแผนที่จะนำเสนอการจัด “โอซีเอ นิวเวฟ” ซึ่งเป็นแนวคิดการจัดงานเอ็กซ์โป ด้านกีฬาที่มีการผสมผสานกันกับเทศกาลอาหาร แฟชั่น และดนตรี ไว้ด้วยกัน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ซึ่งกิจกรรมนี้ จะหมายรวมถึงการจัด เอเชียน สปอร์ต เอ็กซ์โป และการสัมมนากีฬานานาชาติ ด้วย ถ้ามีกิจกรรมเทศการอาหาร แฟชั่น และดนตรี เข้าด้วยกันกับกิจกรรมเอเชียน สปอร์ต คณะกรรมการทุกท่านให้ความเห็นว่า สามารถดึงดูดผู้ชมที่สนใจ ทั่วโลก ในการถ่ายทอดสดไม่ต่ำกว่า 2000ล้านครัวเรือน

สำหรับ โอซีเอ มีมหกรรมกีฬาที่จะจัดการแข่งขันในปี 2021 จำนวน 3 กีฬา ได้แก่ เอเชียนบีชเกมส์ ที่ เมืองซานย่า ประเทศจีน เดือนเมษายน, เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ กรุงเทพฯและชลบุรี เดือนพฤษภาคม และปิดท้ายด้วย เอเชียนยูธเกมส์ ที่ เมืองซัวเถา ประเทศจีน เดือนพฤศจิกายน ซึ่งโอซีเอ จะเริ่มทยอยจัด “โอซีเอ นิวเวฟ” อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับรายการดังกล่าว และจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ ก่อนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ปี 2022 ที่ เมืองหางโจว ประเทศจีน
คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม ปีหน้า ไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี จะนำเอา “โอซีเอ นิวเวฟ” เข้ามาร่วมระหว่างการแข่งขันด้วย เพื่อให้ผู้ชมได้รับการศึกษา และรับความบันเทิงเกี่ยวกับวัฒนธรรม และกีฬา
“สำหรับการจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ในไทย ต้นปี 2021 สหพันธ์แบดมินตันโลก สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และหน่วยงานท้องถิ่นในกรุงเทพฯ ได้จัดทำมาตรการ “บับเบิ้ล” พิเศษ ซึ่งจะให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่จากชาติต่าง ๆ อยู่ในเขตโรงแรมสนามฝึกซ้อมสถานที่แข่งขันและการกักกัน เพื่อให้การจัดการแข่งขันสามารถเดินหน้าไปได้อย่างปลอดภัย และผู้ชมก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมกีฬาใหม่เช่นกันเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการตรวจสุขภาพด้วย” คุณหญิงปัทมา กล่าว

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ดาวดังขนไก่โลกตบเท้าร่วมชิงชัยศึกแบดมินตัน บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เดือนมกราคมศกหน้า ภายใต้มาตรการคุมเข้มตามมาตรการของสาธารณสุขไทยรองรับ การจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติอย่างเคร่งครัด
สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจาก สหพันธ์แบดมินตันโลก ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันรายการสุดยิ่งใหญ่ 3 รายการติดต่อกันในระยะเวลา 3 สัปดาห์ในเดือนมกราคม ปีหน้า ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ในรอบ 110 ปี ของเวทีขนไก่โลก ประเดิมรายการแรกด้วยศึกเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 รายการ “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคม 2564 ต่อด้วยศึกเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 รายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2564

ล่าสุดได้มีการประกาศรายชื่อนักแบดมินตัน แข่งขัน 2 รายการแรก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเภทชายเดี่ยว นำทัพโดย เคนโตะ โมโมตะ มือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น, โจว เทียนเฉิน มือ 2 ของโลกจากญี่ปุ่น , อันเดรส แอนทอนเซ่น มือ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก, วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก, แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มือ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย

ประเภทหญิงเดี่ยวนำโดย ไถ้ ซื่อหยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน, เฉิน ยู่เฟย มือ 2 ของโลกจากจีน, โนโซมิ โอกูฮาระ มือ 3 ของโลกจากญี่ปุ่น, อกาเนะ ยามากูชิ มือ 4 ของโลกจากญี่ปุ่น, คาโลริน่า มาริน มือ 6 ของโลกจากสเปน, พี.วี.สินธุ มือ 7 ของโลกจากอินเดีย, อัน เซยอง มือ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้
ประเภทชายคู่นำโดย กิลเดี้ยน มาร์คัส เฟอร์นัลดี้ กับ เคลวิน ซานจาย่า ซูคัลโมโจ มือ 1 ของโลกจากอินโดนีเซีย, โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน มือ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย, ลี จุนฮุย กับ หลิว นู่ เฉิน มือ 3 ของโลกจากจีน, ทาเคชิ คามูระ กับ เคอิโกะ โซโนดะ มือ 4 ของโลกจากญี่ปุ่น, ฮิโรยูกิ เอนโดะ กับ ยูตะ วาตานาเบ้ มือ 5 ของโลกจากญี่ปุ่น รวมไปถึง ลี ยองแด กับ โค ซังฮุน จากเกาหลีใต้
ประเภทหญิงคู่นำโดย เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน มือ 1 ของโลกจากจีน, ยูกิ ฟูกูชิมะ กับ ซายากะ ฮิโรตะ มือ 2 ของโลกจากจีน, มายุ มัตสึโตโม กับ วากานะ นากาฮาระ มือ 3 ของโลกจากญี่ปุ่น, ลี โซฮี กับ ชิน ซองชาน คู่มือ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้, คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง มือ 7 ของโลกจากเกาหลีใต้
ขณะที่คู่ผสมนำทัพโดย เชง ซีเว่ย กับ หวง หย่าเชียง มือ 1 ของโลกจากจีน , หวัง ยี่ลู่ กับ หวง ดองปิง มือ 2 ของโลกจากจีน , ปราวีน จอร์แดนร กับ เมลาติ อ๊อตตาเวียนติ มือ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย , ยูตะ วาตานาเบ้ กับ อริสะ ฮิกาชิโนะ มือ 5 ของโลกจากญี่ปุ่น , ชาง เป็งสุน กับ โก๊ะ หลิวหยิง มือ 8 ของโลกจากมาเลเซีย

ด้านนักแบดมินตันไทย นำโดย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมือ 5 ของโลก, “กัน” กันตภณ หวังเจริญ ชายเดี่ยวมือ 15 ของโลก, “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ชายเดี่ยวมือ 23 ของโลก, “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยวมือ 25 ของโลก, “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ ชายเดี่ยวมือ 33 ของโลก, “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ หญิงเดี่ยวมือ 13 ของโลก , “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล หญิงเดี่ยวมือ 22 ของโลก, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ หญิงเดี่ยวมือ 13 ของโลก, “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ หญิงเดี่ยวมือ 27 ของโลก, “อาท” บดินทร์ อิสสระ กับ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร ชายคู่มือ 40 ของโลก, “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ 11 ของโลก, “เอิร์ธ” พุธิตา สุภัคจิรกุล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย หญิงคู่มือ 20 ของโลก, “เบสท์” ชญานิฐ ฉลาดแฉลม กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ หญิงคู่มือ 34 ของโลก, “นั่ง” ชาสินี โกรีภาพ กับ ”เจน” ขวัญชนก สุขใจประภารัตน์ หญิงคู่มือ 50 ของโลก, “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนรชัย คู่ผสมมือ 3 ของโลก, “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ จับคู่กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มือ 44 ของโลก
ทั้งนี้จะมีการจับสายการแข่งขันทั้ง 2 รายการ วันที่ 29 ธันวาคมนี้ และมีการยืนยันจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ว่า คะแนนสะสมของนักกีฬาที่จะได้รับการเข้าแข่งขันรายการนี้ จะประกาศหลังจบการแข่งขัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น
โดย บีดับเบิ้ลยูเอฟ ระบุว่า นักแบดมินตันเดี่ยว 8 อันดับแรกและนักกีฬา 8 อันดับแรกประเภทคู่ ที่มีคะแนนในการจัดอันดับ HSBC BWF Road to Bangkok จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่กำหนดให้มีชาติละ 2 คนหรือ 2 คู่เท่านั้น นักกีฬาจำเป็นต้องเข้าแข่งขันทั้ง โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น เพื่อให้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการสุดท้าย เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล ต่อไป
การแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับนักกีฬาที่จะเข้าร่วมเวิลด์ทัวร์ ไฟนอล ได้แก่ ไซเอ็ด โมดี้ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019, มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2020, อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2020, ปริ้นเซส สิริวรรณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2020, บาร์เซโลน่า สเปน มาสเตอร์ส 2020, โยเน็กซ์ ออล อิงแลนด์ โอเพ่น 2020, เดนิสา เดนมาร์ก โอเพ่น 2020, โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2021 และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2021
สำหรับการจัดการแข่งขันแบดมินตัน ดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้มาตรการของรัฐบาลไทย ที่กระทรวงสาธารณสุขรองรับ ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าประเทศไทยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ และการเดินทางถึงโรงแรมที่พัก ส่วนบริเวณสนามแข่งขันจะมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่การแข่งขันต้องอยู่ในสถานที่กักตัวที่จัดใว้ให้เท่านั้น ส่วนการสัมภาษณ์นักกีฬาเป็นการสัมภาษณ์ผ่านระบบออนไลน์ โดยทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขไทยและบีดับเบิ้ลยูเอฟอย่างเคร่งครัด

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // 2 นักหวดเยาวชนทีมชาติไทย แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ และ สลักทิพย์ อุ่นเมือง คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยว ด้วยสกอร์ 2 เซตรวด เช่นเดียวกัน การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “แอลทีเอที ไอทีเอฟ จูเนียร์” วีคที่ 5 เก็บคะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 รอบชิงชนะเลิศ ผลมีดังนี้
ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง 2 นักหวดดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี มือวาง 1 ของรายการ ธนภัทร นิรันดร พบกับ มือวาง 4 แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย) ปรากฎว่า แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ หวดได้อย่างหนักแน่นและแม่นยำกว่า เป็นฝ่ายชนะ ธนภัทร นิรันดร 2 เซตรวด 6-3, 6-4 ใช้เวลาในการแข่งขัน 1 ชั่วโมง 15 นาที

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง 2 นักหวดดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี มือวาง 1 ของรายการ สลักทิพย์ อุ่นเมือง พบกับ มือวาง 2 วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ ปรากฏว่า สลักทิพย์ อุ่นเมือง อาศัยการวางบอลท้ายคอร์ดได้ดีกว่า รักษาเกมส์เสิร์ฟและเบรกเกมส์เสิร์ฟ เป็นฝ่ายชนะ วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ 2 เซตรวด 6-1, 6-4 ใช้เวลาในการแข่งขัน 1 ชั่วโมง 35 นาที
ประเภทชายเดี่ยว ปัญณ์ณวัชญ์ สุทธิสมบูรณ์ ชนะ ณัฐพงศ์ มะโน 6-0, 6-0 เพิ่ม ธรารักษ์ ชนะ นิเซล ลิยานากี้ (ศรีลังกา) 6-2, 6-4 วงศ์วรัณ วงศ์เจริญ ชนะ นิธิวัต สกุลวงศ์ธนา 3-6, 6-1, 10-5 (ซุปเปอร์ไทเบรก) ชยนนท์ รอดน้อย ชนะ ชินตะ ซาโต้ (ญี่ปุ่น) 5-7, 6-0, 10-8 (ซุปเปอร์ไทเบรก) วิทวินท์ อุปริพุทธิพงศ์ ชนะ อัสทาฮัน นิยาซี่ (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) 5-7, 6-4, 10-8 (ซุปเปอร์ไทเบรก) ริกุ ฮิกาชิ (ญี่ปุ่น) ชนะ นฤต พงศาชำนาญกิจ 6-4 (นฤต ขอยอมแพ้ เนื่องจากเจ็บข้อมือขวา) ไรเนอร์ อิริค เชคสเตก (ออสเตรีย) ชนะ เศรษฐวุฒิ สินภิบาล 6-3, 6-2 กาอิโตะอิชิกูโร่ (ญี่ปุ่น) ชนะ กฤษฏ์ พรศิริกุล 6-2, 6-1 เคนโกะ โอตะ (ญี่ปุ่น) ชนะ ศุภรักษ์ สุวรรณรักษ์ 6-0, 6-3 เชน อามิรี (ฮ่องกง) ชนะ มาริอุส คือร์ชไตเนอร์ (ลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์) 6-0, 6-3

ภายหลังการแข่งขัน ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล อุปนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ มอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ทั้งประเภทชายเดี่ยวและประเภทหญิงเดี่ยว โดยนักกีฬาชนะเลิศ ได้คะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) 30 คะแนน และรองชนะเลิศ ได้ 18 คะแนน

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย และบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด ผู้ก่อตั้งและเจ้าของสิทธิ์การจัดการแข่งขัน เตรียมระเบิดศึกวิ่ง “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” การแข่งขันวิ่งมาราธอนกลางคืนมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ภายใต้การรับรองของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (World Athletics) ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้เพิ่มความพิเศษได้ “RUKKIT” รักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมรังสรรค์ผลงานเนรมิตงานวิ่งให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ในรูปแบบ New Normal Race เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 ที่ บริเวณสนามหลวง โดยคาดว่าจะมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 8,000 คน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.63 นายสมพงษ์ อเนกวิสูตรวงศ์ เลขานุการบริษัท และผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายแผนงานและประสานงานองค์กร บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์การแข่งขัน เป็นประธานจัดกิจกรรมพิเศษ “ยูเมะพลัส คลีน เดอะ ซิตี้ (Umay+ Clean The City)” โดยเปิดรับอาสาสมัคร 50 คน ร่วมเป็นจิตอาสา ทำความสะอาดพื้นที่และเส้นทางการแข่งขัน ที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ยูเมะพลัส ได้ให้ความสำคัญกับการรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จึงเป็นที่มาของกิจกรรม “ยูเมะพลัส คลีน เดอะ ซิตี้” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนและนักวิ่งหันมาใส่ใจ เรื่องการรักษาความสะอาด โดยร่วมมือกันดูแลพื้นที่จัดงานให้มีความสะอาด สวยงาม และปลอดภัย ซึ่งจิตอาสาทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมจะได้รับเสื้อ Easy Run with Umay+ limited edition เป็นที่ระลึก แสดงถึงความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนนักวิ่งทุกท่านร่วมเป็น “ECO Race Runner” หรือนักวิ่งเชิงอนุรักษ์ เพื่อเป็นต้นแบบการสร้างจิตสำนึกที่ดี ไม่สร้างขยะ ลด ละ และเลิกใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อลดปัญหาขยะล้นเมือง ด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นแบบให้กับงานวิ่งอื่นๆ ต่อไปในอนาคต และเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนกลางคืน “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันความเสี่ยงตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ศบค. ในยุค New Normal พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยการจับมือกับ “RUKKIT” หรือ รักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมรังสรรค์ผลงาน นำมาสู่ธีมของการจัดงานและเสื้อแข่งในปีนี้ คือ “ปลากัด (Siamese Fighting Fish)” สัตว์น้ำประจำชาติ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ตัวแทนของยอดแห่งนักต่อสู้ โดยจะออกสตาร์ทและเข้าเส้นชัยที่สนามหลวง ชิงชัยเป็น 2 ระยะทาง ประกอบด้วย ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และมินิมาราธอน 10 กม. โดยเส้นทางวิ่งจะผ่านสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเกาะรัตนโกสินทร์อย่าง ถนนราชดำเนิน วัดพระแก้ว พระบรมหาราชวัง พระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Bangkok Midnight Marathon (www.facebook.com/Bangkokmidnightmarathon)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // รายการไทยออยล์ พร้อมสานฝันให้เด็กไทยก้าวสู่ การเป็นนักกีฬาอาชีพ พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำเเห่งประเทศไทย กล่าวถึง การแข่งขันว่ายน้ำไทยออยล์ชิงชนะเลิศ ประจำปี 2563 เมื่แวันที่ 10-11ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาว่ายน้ำเเละไทยออยล์ ในการใช้กีฬาว่ายน้ำ เพื่อสร้างศักยภาพเเละส่งเสริมสุขภาพของเยาวชน ที่อยู่ในชุมชนพื้นที่ปฏิบัติของไทยออยล์รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงใน จ.ชลบุรี
ปีนี้มีเยาวชนจาก 30 สโมสรสมาชิก จำนวน 261 คน เเข่งขัน นับเป็นโครงการดีๆของไทยออยล์ที่มีเยาวชน ในระดับภูมิภาคให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตามเเนวนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ต้องการขยายานนักกีฬาว่ายน้ำสู่ภูมิภาคมากขึ้น จะเห็นได้จากพัฒนาการของนักกีฬาในปีนี้ที่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ ต้องขอบคุณไทยออยล์ในความร่วมมือครั้งนี้ ที่พร้อมสานฝันให้กับเยาวชนไทยที่อยากเป็นนักกีฬาอาชีพ

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์