http://www.natethip.com/news.php?id=2916
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=2916
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1159900467610059930
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เตรียมพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยในการใช้บริการให้แก่ผู้โดยสารช่วงวันหยุดยาว 4 – 7 กันยายน 2563
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาว 4 – 7 กันยายน 2563 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้เตรียมพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการเดินทาง โดยมีแผนดำเนินการ ดังนี้
ด้านการอำนวยความสะดวก มีการประชาสัมพันธ์จุดให้บริการรถรับจ้างสาธารณะ (Taxi) ที่แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีพญาไท และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีมักกะสัน
ด้านการรักษาความปลอดภัยมีการจัดทำประกาศ และแจ้งข้อมูลด้านความปลอดภัยในการโดยสารรถไฟฟ้า รวมทั้งมีมาตรการยกระดับการป้องกันอันตรายด้านการเดินรถ โดยให้สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานีมีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดจุดตรวจสัมภาระผู้โดยสารก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า เพื่อตรวจหาวัตถุต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า รวมทั้งประกาศแจ้งเตือนผู้โดยสารเกี่ยวกับการระมัดระวังทรัพย์สิน และกระเป๋าสัมภาระที่ไม่มีเจ้าของในระบบรถไฟฟ้า พร้อมกำชับสถานีต่างๆ ให้ควบคุมติดตามการใช้งานโทรทัศน์วงจรปิด ( CCTV ) และเฝ้าระวังหน้าจอมอนิเตอร์อยู่เสมอ รวมถึงมีการตรวจตราบนขบวนรถไฟฟ้าโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เพื่อขอกำลังเข้าสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานประจำสถานี รวมถึงจัดชุดตรวจผสม และชุดสุนัขตรวจวัตถุระเบิด (K9) ออกตรวจสอบพื้นที่ในระบบรถไฟฟ้า รวมทั้งกำหนดวัตถุต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้ามาในระบบรถไฟฟ้า ได้แก่ อาวุธ ของมีคม ลูกโป่ง และพลุดอกไม้ไฟทุกชนิด
นอกจากนั้นบริษัทยังเข้มงวดในมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 โดยมีการตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิ ที่บริษัทได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือ เทอร์โมสแกน ซึ่งเป็นกล้องสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส และตรวจตราการสวมหน้ากากอนามัยของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการอย่างเข้มงวด รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) ที่ขอความร่วมมือผู้โดยสารเว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ หรือยืนในระยะห่างที่เหมาะสมขณะใช้ลิฟต์ และบันไดเลื่อน รวมทั้งมีการจัดระเบียบผู้โดยสารในชั้นชานชาลาให้มีระยะห่างระหว่างกันอย่างเหมาะสม ซึ่งหากในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น จะดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลา และภายในขบวนรถไฟฟ้า โดยกำหนดพื้นที่ในการยืนรอห่างกัน 1 เมตร งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และมีการเพิ่มความถี่ในการดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบริเวณสถานี และในขบวนรถไฟฟ้า
หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link :Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดกระบี่เปิดตัวงาน“ยลเมืองศิลป์ กินของหรอย จังหวัดกระบี่”เพื่อสร้างความสุขหลังโควิด-19 แบบ New Normal
ทั้งนี้จังหวัดกระบี่ผนึกกำลังทุกภาคส่วน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) หอการค้าจังหวัดกระบี่ สวทช. สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิด 3 งาน New Normal “ยลเมืองศิลป์ กินของหรอย จังหวัดกระบี่” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ณ เวทีลานปูดำ อ.เมือง จ.กระบี่ ประกอบด้วย เวทียลเมืองศิลป์ โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ งานแสดงสินค้าภูมิปัญญา อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคของภาคใต้ และเวทีของหรอย (เทศกาลซีฟู๊ด) รวมผู้ประกอบการอาหารพื้นถิ่นกระบี่กว่า 50 ร้าน โดย นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดย นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับ พร้อมแขกผู้มีเกียรติที่มีชื่อเสียงร่วมงาน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางเกสร กำเหนิดเพชร วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ นางสาวทิพย์สุดา อินทรสุวรรณ พาณิชย์จังหวัดกระบี่ และนายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดกระบี่ นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต ที่ปรึกษาประจำสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมด้วยหัวหน้าหน่วยงานราชการและเอกชนจังหวัดกระบี่ โดยทุกภาคส่วนร่วมมืออย่างเข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายใต้มาตรการ New Normal การป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตรการจากสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ และอุปกรณ์ทันสมัยการคัดกรองจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นอย่างดี ตลอดงาน
กิจกรรมไฮไลท์โซนศิลปวัฒนธรรม “ยลเมืองศิลป์” โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย กิจกรรมเพ้นท์เรือหัวโทงลายอัตลักษณ์กระบี่โดยศิลปินพื้นถิ่น ประติมากรรมสร้างสรรค์โดยศิลปินจังหวัดตรัง การวาดภาพสามมิติบนถนน โดยศิลปินสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช คาราวานท่องเที่ยวชุมชนคุณธรรมบรม-บวร ออนทัวร์ ชมประติมากรรมการแจ้ง จิตรกรม และ Srteet Art Performance จากครือข่ายศิลปินอันดามัน ร่วมด้วยเวทีการแสดงคอนเสิร์ตจาก ศิลปิน GETSUNOVA สนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และได้มีการร่วมมือกันวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ยังมีการเปิดงานเทศกาลอาหารซีฟู้ด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าจังหวัดกระบี่ และสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ ทุกฝ่ายพร้อมใจกันนำวัตถุดิบพื้นถิ่นที่มีคุณภาพ มาปรุงอาหารจำหน่ายภายในงาน โดยการจัดงานยังได้รับมาตรฐาน SHA ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรม ในรูปแบบวิถีใหม่ New Normal
งานยลเมืองศิลป์ กินของหรอย จังหวัดกระบี่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 สิงหาคม 2563 นี้ ณ ลานปูดำ ริมเขื่อนเขาขนาบน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีการออกร้านขนานเขื่อนริมทะเลทอดยาวระยะทางกว่า 700 เมตร วัตถุประสงค์ในการจัดงานเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดกระบี่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำให้เกิดการท่องเที่ยว หลังจากวิกฤตโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวอย่างมาก ดังนั้นเพื่อทำให้ประชาชนกล้าออกมาใช้ชีวิต และท่องเที่ยวตามเดิม โดยคำนึงถึงมาตรการต่าง ๆ ในการสร้างความมั่นใจให้คนไทยพร้อมปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ และการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป หรือ New Normal เป็นการท่องเที่ยวแบบสวมหน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และใช้เจลล้างมือสม่ำเสมอ ต้องสแกน QR Code ไทยชนะ และใช้อุปกรณ์ทันสมัยป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดูแลด้านความปลอดภัย และร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ โดยกิจกรรมคอนเสิร์ตจะมีการวางมาตรการเป็นพิเศษ
จุดเด่นของงานคือ การแสดงบอลลูนไลท์แอนด์ซาวน์ โชว์บอลลูนลอยน้ำเปลี่ยนสีได้ และน้ำพุกลางน้ำบรรยากาศเขาขนาบน้ำประกอบดนตรี การแสดงศิลปะร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ และศิลปะในรูปแบบ Street Art ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ การออกบูธของผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดกระบี่ ร้านอาหารอินเตอร์ฯ จากวัตถุดิบพื้นถิ่นมาปรุงอาหารตามแนวคิด “Farm To Table” เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบพื้นถิ่น อาหารฮาลาล อาหารจากโรงแรมชื่อดัง อาหารทะเลซีฟู้ดจากแพ และกระชังในท้องทะเลอันดามันให้นักท่องเที่ยวเลือกช้อป โดยปรุงสดใหม่ และยังมีสินค้าอุปโภค บริโภค จากบูธของ สสว. รวมทั้งงานศิลปะและอาหารทั้งหมดราว 100 บูธ เวิร์คช้อปการตกแต่งอาหารจานเด็ด Signature dish เพื่อยกระดับร้านอาหารของจังหวัดกระบี่เทียบสู่ระดับอินเตอร์โดย คุณดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ Food stylist ชื่อดังจากนิตยสาร Harper’s Bazaar Thailand และการบันทึกภาพกิจกรรมแข่งกินแหลกเพื่อออกอากาศในรายการ “ศึกเจ้านักกิน” ของบริษัท กันตนา จำกัด เพื่อเผยแพร่ทาง ช่อง 7HD พร้อมชมการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้ง “นิว – จิ๋ว” ในวันเปิดงาน “ฉอย อันดามัน” วันที่ 27 สิงหาคม 2563 “แอ็ค โชคชัย ผู้ชนะ The Golden Song season 1” วันที่ 28 สิงหาคม “Getsunova” วันที่ 29 สิงหาคม และ Foto Café ในวันที่ 30 สิงหาคม 2563 โดยผู้ร่วมงานทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดเท่านั้น
ภายในงาน ททท. ยังมอบคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท เพื่อจับจ่ายใช้สอยในงาน ให้แก่นักท่องเที่ยวจะต้องเข้าพักกับโรงแรมที่ร่วมรายการในจังหวัดกระบี่ (โรงแรมที่เปิดในช่วงนั้น) จะได้คูปอง 2 ใบ/ห้อง/คืน หากเข้าพัก 2 คืนก็จะได้ 4 ใบเมื่อนักท่องเที่ยวได้รับคูปองแล้วสามารถนำคูปองมาใช้ภายใน งานนี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสค้าขาย และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วยังทำให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง:Cr;มณสิการ รามจันทร์
http://www.natethip.com/news.php?id=2915
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=2914
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//เอเชียประกันภัย ร่วมกับ เก็ทอินชัวร์ และ โคโรเนทโบรกเกอร์ เปิดตัว ประกันรถยนต์แนวคิดใหม่ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ได้แก่ พลัสสะออนประกันผ่อนพิมพ์ไทยได้, 2พลัส ระยะสั้น, ประกันยืนหนึ่งพลัส และ ยืนหนึ่งคู่กระบะ ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี เปิดจำหน่ายออนไลน์ผ่าน https://get-insure.com ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้ “ ปรางค์ อภินรา ศรีกาญจนา” ตัวแทนบริษัทฯ มาร่วมสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่ให้กับ ประกันพลัสสะออน ตั้งเป้ากวาดรายได้ 100 ล้านบาทในปีแรกนายจุลพยัพ ศรีกาญจนา ประธานคณะกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า “เอเชียประกันภัย ในฐานะผู้นำด้านประกันภัยรถยนต์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่สู่วงการประกันภัย เพื่อมอบบริการที่ให้ความคุ้มค่า สมัครง่ายและสะดวกแก่ลูกค้า ล่าสุดร่วมกับ โคโรเนทโบรกเกอร์ และ เก็ทอินชัวร์ ขยายบริการการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ประกันรถยนต์แนวคิดใหม่ พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก ประกอบด้วย พลัสสะออนประกันผ่อนได้, 2พลัส ระยะสั้น, ประกันยืนหนึ่งพลัส และ ยืนหนึ่งคู่กะบะ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่ https://get-insure.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป“สำหรับ การเปิดตัว ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก ในครั้งนี้ ยังได้ “ปรางค์ อภินรา ศรีกาญจนา” ในฐานะผู้บริหารและตัวแทนคนรุ่นใหม่ มาร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย สะท้อนการบริการที่คุ้มค่าตอบโจทย์คนยุคปัจจุบัน ลงในสื่อประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ ให้แก่ บริษัทฯ อีกด้วย ”นายสุรเดช จงยิ่งศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโรเนทโบรกเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น การได้จับมือกับ เอเชียประกันภัย ผู้นำด้านประกันภัยรถยนต์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับความน่าเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้ามายาวนาน และ อีสแอมอาร์ ดอทเน็ท ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ โดยมีฐานข้อมูลการสำรวจความต้องการของคนรุ่นใหม่ ว่ามีความต้องการใช้ประกันภัยรถยนต์ในรูปแบบใดบ้าง และได้นำมาจัดสรรแผนประกันให้ตอบโจทย์โดนใจ ทำให้มั่นใจว่า ยอดขาย ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ผ่าน https://get-insure.com จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ตั้งเป้ารายปี 2563 นี้ ไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และ จะเติบโตอีกประมาณ 30% ในปีหน้านายจักรพันธ์ พวงแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสแอมอาร์ ดอทเน็ท จำกัด กล่าวว่า “ เก็ทอินชัวร์ หรือ https://get-insure.com เป็น Online Insurance Platform ที่ให้บริการภายใต้แนวคิด “แผนประกันง่ายๆ คุ้มๆ เก็ท เลือกให้” คัดเฉพาะแผนประกันที่คุ้มค่าและมีจุดเด่น โดยขจัดความยุ่งยากของแผนประกันออกไป ทำให้เงื่อนไขเข้าใจง่ายและง่ายต่อการตัดสินใจเลือก “ไม่ว่าจะเลือกแบบประกันไหน ก็ได้แต่ของดี” ที่สำคัญช่วยให้วางแผนการเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในยุคโควิดได้อย่างมั่นใจ โดย เก็ทอินชัวร์ จะเลือกเฉพาะแผนที่น่าสนใจที่มีอยู่ในตลาดมานำเสนอ และมี Innovative Product ใหม่ๆ ที่เป็น Exclusive Product เฉพาะบนเว็บ เก็ทอินชัวร์ เท่านั้น สำหรับ ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” คือ Exclusive Product อีกหนึ่งบริการที่มอบให้แก่ลูกค้าผ่าน “เก็ทอินชัวร์” เท่านั้น ซึ่งมีให้ครบ ทั้งทางเลือกที่เหนือระดับและความคุ้มค่า เพื่อมอบให้กับลูกค้าทุกคน ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี สำหรับ ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี โดยมีรายละเอียดดังนี้
• พลัสสะออนประกันผ่อนได้ ประกันภัยชั้น 1 ผ่อนได้ 3 เดือน ชำระเบี้ยเพียงเดือนละ 1,950 บาท ทุนประกันคุ้มครอง 100,000 บาท ที่สำคัญ “ไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้” (ค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท)
• 2 พลัส ..ระยะสั้น ประกันภัย แผนความคุ้มครองราย 3 เดือน คุ้มครองคล่องตัว รถยนต์ ราคา 1,300 บาท รถกระบะ หรือรถตู้ ราคา 1,600 บาท ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ รถหาย ไฟไหม้ สามาถทำประกันได้ทุกคัน เพราะ ” ไม่จำกัดอายุรถ”
• ประกันยืนหนึ่งพลัส ประกันภัยชั้น 1 มอบความสบายใจให้มากกว่าเดิม ด้วยความคุ้มครองแบบเต็มทุน ที่ให้ลูกค้าผ่อนจ่ายสบายๆ ราย 3 เดือน “สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสภาพรถ” (แค่แนบแบบประกันเดิมที่ยังไม่หมดอายุ)
• ยืนหนึ่งคู่กะบะ มอบประกันภัยราคาพิเศษให้กับรถกระบะ ทะเบียนต่างจังหวัด ก็สามารถทำประกันได้
พร้อมบริการ “จองโปรฯ ดีก่อนประกันหมด” โดยสามารถจ่ายเงินจองประกันในแบบต่าง ๆ ก่อนล่วงหน้าได้ 6 เดือน พบ 4 แผนประกันง่ายๆ กับความคุ้มครองอัพเกรด จากเอเชียประกันภัย เก็ทอินชัวร์ และ โคโรเนทโบรคเกอร์ ที่มั่นใจว่าจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายและความคุ้มครองเร้าใจที่สุด
Landing Page
• พลัสสะออน bit.ly/p-PlusSaorn
• ประกันยืน 1 bit.ly/p-Yuen1
• ยืน 1 คู่กระบะ bit.ly/p-Yuen1PickUp
• 2+ ระยะสั้น http://bit.ly/p-CarCo2:Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่่อข่าวรายงานว่าศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดกิจกรรมสุดสร้างสรรค์
SACICT AWARD 2020 ประชันไอเดีย “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” ครั้งแรกในประเทศไทย เฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบหน้าใหม่ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และสร้างสรรค์แฟชั่นเครื่องแต่งกายจากผ้าไทยให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนทุกเจเนอเรชั่น เผยกระแสตอบรับล้นหลามจากนักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมส่งผลงานกว่า 300 ชิ้นงาน พร้อมคัดเลือก 50 สุดยอดผลงานจากทั้ง 5 ประเภท พร้อมนำเสนอ 50 ผลงาน บนรันเวย์การประกวดในรอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท พร้อมชมการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจากแบรนด์ชั้นนำ ในวันที่ 22 กันยายน 2563 นี้ เวลา 13.00-16.00 น. ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ได้จัดงานแถลงข่าว การประกวด“ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” โดยได้รับเกียรติจาก นายอดิศักดิ์ จันทร์วิทัน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินการประกวด ดร.หญิงฤดี ภูมิศิริรัตนาวดี ผู้ก่อตั้งยุทธศาสตร์ทุนคนไทย (Thainess Capital), รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) ระพี ลีละสิริ ดีไซเนอร์และเจ้าของ
แบรนด์ ระพี ลีลา, นายอธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Surface, อาร์ต-อารยา อินทรา สไตลิสต์และดีไซเนอร์ และนายเฉลิมเกียรติ คติเกษมเลิศ เจ้าของแบรนด์ Wonder Anatomie เสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่ 4minute เกิร์ลกรุ๊ป จากประเทศเกาหลีใส่ถ่ายปกอัลบั้ม ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “ร้อยพันเรื่องราว ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” ก่อนจะปิดท้ายด้วยแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจาก โบว์-เมลดา สุศรี ศิลปินดาราจากช่อง 3 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ
นายอดิศักดิ์ จันทร์วิทัน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) เปิดเผยว่า SACICT
เป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่คุณค่าความเป็นไทยสู่สากลผ่านผลงานศิลปหัตถกรรม เพื่ออนุรักษ์คุณค่าแห่งศิลปาชีพและต่อยอดมูลค่าเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานด้านศิลปาชีพและงานศิลปหัตถกรรมไทยในแต่ละท้องถิ่นซึ่งล้วนเป็นความงดงาม
อันทรงคุณค่ายิ่งของแผ่นดินไทย เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศและในเวทีโลกได้สัมผัสและตระหนักถึงคุณค่าแห่งความเป็นไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสังคม มีความเป็นสากลและคงอยู่คู่กับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน
SACICT ได้จัดการประกวด “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถได้นำเสนอแนวคิดการสร้างสรรค์ผลงานศิลปหัตถกรรม ประเภทแฟชั่นและเครื่องแต่งกาย โดยมุ่งเน้น การผสมผสานองค์ความรู้ และภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทยเข้ากับทักษะการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายผ้าไทยในรูปแบบหัตถกรรมร่วมสมัยให้สอดรับกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน และนำไปสู่การเชื่อมโยงผลงานสู่ภาคอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ตลอดจนช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่างานผ้าศิลปาชีพ รวมทั้งผ้าไทยทอมือประเภทต่างๆ จากทั่วประเทศ โดยในการประกวดแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.ประเภทชุด Finale 2.ประเภทชุด Baby Boomer 3.ประเภทชุด Generation X 4.ประเภทชุด Generation Y และ 5.ประเภทชุด Generation Z
โดยการนำเสนอจุดเด่นและคุณค่าของผ้าศิลปาชีพ รวมทั้งผ้าไทยทอมือจากแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศไทยมาใช้เป็นวัสดุหรือวัตถุดิบหลักในการนำเสนอแนวคิดการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายให้มีความโดดเด่น ประณีต งดงาม คงความเป็นเอกลักษณ์ และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างร่วมสมัย ตอบโจทย์ความต้องการคนในทุกเจเนอเรชั่น เพื่อชิงเงินรางวัล มูลค่ารวมกว่า 700,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
“การจัดประกวดผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN ได้กระแสตอบรับดีมากๆ โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวนกว่า 300 ผลงาน จึงถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญที่จะเชื่อมโยงและจุดประกายไอเดียให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจผ้าไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ SACICT ในการส่งเสริมการนำผ้าไทยซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิต
คนในทุกๆ เจเนอเรชั่น ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ของนักออกแบบที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้นำผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า
เครื่องแต่งกายที่มีความร่วมสมัย สวมใส่ได้ทุกโอกาส ซึ่งจะเกิดประโยชน์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เนื่องจากเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชน เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนทั่วประเทศ โดย SACICT จะพัฒนาและต่อยอดผลงานจากการประกวดสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งในระดับประเทศและระดับสากลต่อไป” นายอดิศักดิ์ กล่าวสำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวด “ผ้าไทยใส่ได้ทุก Gen” ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้ชมการแสดงแฟชั่นโชว์ทั้ง 50 ผลงาน โดยนายแบบและนางแบบจำนวน 50 คน บนรันเวย์การประกวดในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจากแบรนด์ชั้นนำ โดยศิลปินดาราชื่อดัง อาทิ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ และตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์ ในวันอังคารที่ 22 กันยายนศกนี้ เวลา 13.00-16.00 น. ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิเศษ!
สำหรับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รับ “เข็มกลัดผ้าไทย”(จำนวนจำกัด) สนใจลงทะเบียนได้ที่ Line ID : SACICTAWARD :Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์// มหาวิทยาลัยรัตนบัณทิตจัดโครงการคลีนิคพี่สอนน้องพวกเราชาว RBAC ครั้งที่ 1 ที่ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต โดยเป็นการรวมรุ่นพี่นัก
ฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอาทิ ธนิศร์ อารีย์สง่ากุล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย,สาธิต เบ็ญโส๊ะ ผู้ฝึกสอนฟุตบอลสุราษฎร์ธานี, รักษ์พล สายเนตรงาม ผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย และกวินวัฒน์ เรือนบุรี เจ้าของเสื้อกีฬา I am sport , รุ่งโรจน์ สว่างศรี ผู้ฝึกสอนฟุตบอลขอนแก่น เอฟซี และได้มอบลูกฟุตบอลไว้ให้กับรุ่นน้องใช้ฝึกซ้อมอีกด้วย
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านอธิการบดี รศ.ดร.ประเวช รัตนเพียร ให้จัดกิจกรรมเผยว่า “การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับ นักกีฬารุ่นน้องและรุ่นพี่ได้พบปะพูดคุยกัน โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องทักษะเกมกีฬาของตัวเองเพื่อพัฒนาต่อยอดต่อไปในอนาคต เชื่อว่าการจัดคลีนิคพี่สอนน้องจะดำเนินกันทุกปีอย่างต่อเนื่องและให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด”
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์