วันศุกร์, ธันวาคม 27, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2026

หอการค้าฯ จับมือ สสส. และภาคีเครือข่ายกับการ Restart ครั้งใหญ่ ฝ่าวิกฤตโควิด–19

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ภาคสาธารณสุข ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ผนึกกำลังจัดงานสัมมนา มองอนาคต “กีฬาและมหกรรมมวลชนเพื่อสุขภาพทั้งกาย–ใจ” กับการ Restart ครั้งใหญ่ฝ่าวิกฤตโควิด–19 ระดมทัพผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากทุกภาคส่วน ร่วมถกทุกประเด็นเทรนด์กีฬา–บันเทิง–เทศกาลงานประเพณี ด้วยวิถีธุรกิจแบบใหม่ ภายใต้ข้อจำกัดด้านมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนโครงการเปิดเมือง ปลอดภัย เดินหน้าเศรษฐกิจไทยแบบ Next Normal
ที่ ห้อง Activity Hall สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ก.ย.ที่ผ่านมา นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นประธานเปิดงานสัมมนามองอนาคต “กีฬาและมหกรรมมวลชนเพื่อสุขภาพทั้งกาย–ใจ” กับการ Restart ครั้งใหญ่ฝ่าวิกฤตโควิด–19” ซึ่งจัดโดยเครือข่ายภาคเอกชน ภาคสาธารณสุข ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมระดมวิทยากร ผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขับเคลื่อนโครงการเปิดเมือง ปลอดภัย ซึ่งในช่วงเช้าเป็นการสัมมนาในหัวข้อ“มหกรรมมวลชนเพื่อสุขภาพ บนชีวิตวิถีใหม่” โดย

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา หัวหน้าศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้เชี่ยวชาญภาคประชาสังคม นอกจากนี้ยังมีประเด็น“แนวทางการขับเคลื่อนมหกรรมมวลชนเพื่อสุขภาพ บนฐานธุรกิจยุคใหม่” โดย ดร.ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ปรึกษาสมาพันธ์ชมรมเดิน–วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย และอนุกรรมการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย นายสุรวัช อัครวรมาศ อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) พร้อมด้วย นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ผู้แทนสมาคมการค้าผู้จัดกีฬามวลชนไทย (TMPSA) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด
นายภูมินทร์ หะรินสุต กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจกีฬาและบันเทิงในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นมูลค่ามหาศาล เนื่องจากมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากมายที่ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจกีฬาและบันเทิง ทั้งค้าปลีก การบริการ การท่องเที่ยว การขนส่ง และการสื่อสาร เช่น การจัดงานวิ่งที่นอกจากจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ(Health Tourism) และนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) สามารถสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่จากวิกฤตโควิด–19 ที่ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถดำเนินกิจการหรือกิจกรรมได้ตามปกติ

นอกจากนี้ยังพบว่ามีแรงงานในธุรกิจบันเทิงไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ต้องตกงานและขาดรายได้ จากการสั่งปิดสถานบันเทิง ปิดโรงภาพยนตร์ และงดจัดงานคอนเสิร์ต ซึ่งการหยุดชะงักของธุรกิจกีฬาและบันเทิง รวมถึงงานประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่น ส่งผลต่อการจ้างงานและกระทบเป็นเป็นลูกโซ่ต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้กิจการและกิจกรรมด้านกีฬาและบันเทิง รวมถึงมหกรรมมวลชนด้านประเพณีให้กลับมาเริ่มต้น (Restart) กิจการหรือกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไขการจัดงานที่ปลอดภัย ด้วยวิถีธุรกิจยุคใหม่ (Next Normal) เช่น การลดความหนาแน่น การจำกัดจำนวนผู้เข้าการแข่งขันหรือร่วมงาน และการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกีฬาที่เป็นมหกรรมมวลชนเพื่อสุขภาพบนชีวิตวิถีใหม่จะต้องมองให้ครบทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ระดับบุคคล สังคม สิ่งแวดล้อม และระบบให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้เพื่อให้เกิดการปรับตัวไปพร้อมๆ กัน และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในการป้องกันโรคระบาด เช่น การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย การรักษาร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง การเว้นระยะห่าง และการลดความแออัด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ นอกจากการใช้มาตรการเชิงนโยบายและการบังคับใช้ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด และการ์ดต้องไม่ตกแล้ว ยังต้องส่งเสริมภูมิต้านทานทางกายในทุกกลุ่มอายุ ด้วยการออกกำลังกายหรือการมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ เพื่อสร้างสุขภาวะบนฐานวิถีชีวิตใหม่ให้เกิดความสมดุล ทั้งกาย ใจสังคม และปัญญา ต้องทำให้เกิดกระบวนการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและเป็นบรรทัดฐานหรือวิถีใหม่ด้านสุขภาพของคนไทย เพื่อที่หากในอนาคตโรคอุบัติใหม่หรือความท้าทายอื่นๆ เข้ามาก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ในทุกวิกฤต

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เปิดตัวแอปใหม่เอาใจคอบอล.. “ขอบสนามGG” สตาร์ทอัพน้องใหม่วงการกีฬา

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เปิดตัวอีกหนึ่งแอปพลิเคชัน “ขอบสนามGG” สตาร์ทอัพน้องใหม่ ที่สร้างด้วยฝีมือคนไทยโดยบริษัท วอท อะ วันเดอร์ฟูล แอพ จำกัด ร่วมกับ official partner สื่อกีฬา “ขอบสนาม”…โดยแอปพลิเคชัน “ขอบสนามGG” นี้ พร้อมมอบประสบการณ์สำหรับคอบอลอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเกมส์
ฟุตบอลแฟนตาซี ผลบอล Live Score สดทุกคู่ รวมถึงข่าวสารวงการฟุตบอลที่ให้คุณเข้าถึงทีมโปรดได้ก่อนใคร อย่ารอช้า! รีบดาวน์โหลดมาลองเล่นก่อนใครได้แล้ววันนี้
สำหรับ Official Partner ในครั้งนี้ “เบลล์ ขอบสนาม” ผู้ดูแลคอมมูนิตี้ฟุตบอลที่มีผู้ติดตามรวมกว่า 7 ล้านคน กล่าวว่า “นี่คือมิติใหม่สำหรับคอบอลตัวจริง โดยแอปพลิเคชัน ขอบสนามGG จะมอบข่าวสารฟุตบอลครอบคลุมลีกดังทั่วโลก รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของทุกนักเตะและคนดังในวงการฟุตบอลแบบนาทีต่อนาทีนาที”

เมื่อถามถึงด้านความโดดเด่น หรือความฉลาดของแอปพลิเคชัน ที่จะสร้างความแตกต่างในวงการฟุตบอล คุณเบลล์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอบสนามGG นี้ สามารถทำให้คุณเข้าถึงข่าวสารและทุกสิ่งเกี่ยวกับทีมรักในรูปแบบของคุณเองที่ไม่เหมือนใครผ่าน “ฟีเจอร์ติดตาม” อาทิ หากคุณเป็นแฟนบอล “ผีแดง” เพียงกดติดตาม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ทุกข่าวสารที่เกี่ยวกับทีม ผลบอล การซื้อขายนักเตะ ความเป็นส่วนตัวของนักเตะ ฯลฯ จะพร้อมแจ้งเตือนผ่านระบบ Notification ให้คุณทราบก่อนใครทุกวัน พร้อมข้อมูลสถิติแบบเจาะลึกมากขึ้น รายงานตรงจากทุกสนามทั่วโลก”

และที่พลาดไม่ได้กับเกมที่คนไทยชื่นชอบ Football Fantasy (ฟุตบอลแฟนตาซี) ให้คุณได้เป็นเจ้าของทีมหรือการจัดทีมฟุตบอลจำลองในแบบของคุณเอง เพื่อส่งทีมของคุณเข้าแข่งขันชิงเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท ทุกสัปดาห์

สุดท้าย เบลล์ ขอบสนาม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่คือแอปพลิเคชัน สตาร์ทอัพเมืองไทยที่ควรสนับสนุน และเป็น แอปพลิเคชันที่จบทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคอลูกหนังอย่างแท้จริง บอกคำเดียวว่าพลาดไม่ได้นะครับ”

โดย ขอบสนามGG แอปพลิเคชัน สำหรับคอบอลตัวจริง สามารถดาวน์โหลดทั้งในระบบ Android และ iOS หรือใช้งานผ่านเว็บไซต์ www.ggapp.live ได้แล้ววันนี้:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“แก้วทิพย์-พนมพร” ผงาดคว้าแชมป์ชูตติ้ง เปตองชิงแชมป์ปทท. ที่ เพชรบูรณ์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2563 ที่ สนามกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง ประเภทชูตติ้งหญิงและชูตติ้งชายท่ามกลางกองเชียร์จำนวนมากกว่าพันคน

ประเภทชูตติ้งหญิงประเดิมชิงเหรียญทองแรก ระหว่าง “นก” ร.อ.ทองสี ตะมะโคตร รน.อดีตแชป์โลก 6 สมัย ชมรมวังโบราณ ที่ผ่านประสบการณ์การเล่นเปตองระดับโลกมาอย่างโชกโชน โคจรมาพบกับ ดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่กำลังแรง อย่าง ส.ต.ท.แก้วทิพย์ กรรโณ ชมรมเปตองตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเกมดำเนินไปอย่างสนุก ผลัดกันทำแต้ม จนกองเชียร์ลุ้นกันระทึก ปรากฏว่า ส.ต.ท.แก้วทิพย์ กรรโณ เล่นได้อย่างแม่นยำ เป็นฝ่ายเอาชนะไป 31-28 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ ประเภทชูตติ้งชาย พันจ่าเอกพนมพร จันทร์โสภา ชมรมเปตองราชพฤกษ์ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โชว์ฟอร์การเล่นได้ดีกว่า เอาชนะ อานนท์ มาจ๊ะ ชมรมเปตองการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปอย่างหวุดหวิด 38-35 คว้าแชมป์ไปครอง
สำหรับผลแข่งขันรอบรองชนะเลิศดังนี้ ประเภทชูตติ้งหญิง “นก” ร.อ.หญิง ทองสี ตะมะโคตร รน.อดีตแชมป์โลก 6 สมัย ชมรมเปตองวังโบราณ เชนะ ณัฐกมล ทองเจริญ ดาวรุ่งรุ่นใหม่ ชรมเปตองจังหวัดลพบุรี 33-29 ส.ต.ท.หญิง แก้วทิพย์ กรรโณ ชมรมเปตองตำรวจตระเวนชายแดน ชนะ ร.ต.หญิง พันธุ์ทิพา วงศ์ชูเวศ อดีตแชมป์โลก ชมรมเปตองกองทัพอากาศ 33-27

ประเภทชูตติ้งชาย อานนท์ มาจ๊ะ ชมรมเปตองการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชนะ อส.ทพ.คมสันต์ หันสันเทียะ ชรมเปตองนาควรางกูล 46-36 พันจ่าอากาศเอกพนมพร จันทร์โสภา ชมรมเปตองราชพฤกษ์ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ชนะ จิรวัฒน์ อ่อนนี จังหวัดสิงห์บุรี 34-27

ภายหลังจบเกม เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โดยภาพรวมของ การแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ถือว่ามีทีมเข้าแข่งขันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จำนวน 957 ทีม โดยทางจังหวัดเพชรบูรณ์จัดการแข่งขันได้ดีมากทุกด้าน สนามมาตราฐานแข่งขันได้ถึง 300 กว่าทีมพร้อมกัน รายการนี้พบว่ามีนักกีฬาดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่ฝีมือที่ดี แจ้งเกิดหลายคน และสามารถขึ้นมาทดแทนนักกีฬารุ่นเก่าได้

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ชาวบ้านสระโบมถ์ เมืองละโว้ ขอบคุณชัชวาลล์ หน.พรรคพพลังท้องถิ่นไท

0

พืมพ์ไทยออนไลน์ // ฃาว อ.สระโบสถ์ เมืองละโว้ ลพบุรี ขอบคณ ชัชวาลล์ หน.พรรคพลังท้องถิ่นไท   ที่ให้ความช่วยเหลืิอเจรจาคัดค้านการทำเหมืองแร่ ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน  ยังหาข้อสรุปไม่ได้

จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 3 ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.มหาโพธิ ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 นายอภิชัย ศรีเมือง นายอำเภอสระโบสถ์ ได้ออกหนังสือเรียกชาวบ้านร่วมประชุม เพื่อชี้แจงและเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านและผู้ประกอบการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ขอสัมปทานบัตร พ.ศ.2561 ลงวันที่ 18 เม.ย.61 โดยมี นายนิรันด์  คำล้าน ปลัดอำเภอสระโบสถ์ รักษาราชการแทนนายอำเภอสระโบสถ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย น.ส.อภิญญา ชุ่มฤทธื์ ปลัด อบต.มหาโพธิ, นายสุทัศนัย สุวรรณศิลป์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเหมืองแร่ ในฐานะตัวแทนบริษัทเหมืองแร่, นางสมบูรณ์ ฉิมพลี ชาวบ้านหมู่ 3, นายวรายุทธ์  รักษาทรัพย์  อดีตผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน 10 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 400 คน เข้าร่วมรับฟังคำขี้แจงจากผู้ประกอบการเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ดำเนินการขออนุญาต เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินเพอร์ไลต์ ตามคำขอประทานบัตรที่ 7/2560 หมายเลขหลักเหมืองแร่ที่ 29275 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี

ซึ่ง ชาวบ้านที่มาร่วมฟังไม่เห็นด้วยต่างชูป้ายเขียนข้อความว่า “เราไม่เอาเหมืองแร่”การเจราจาต้องยุติลง ด้วยเหตุที่ชาวบ้านไม่พอใจและไม่ต้องการเหมืองแร  เพราะจะกระทบกับวิถีชีวิต เนื่องจากพื้นที่ในการขออนุญาตนั้น ห่างจากหมู่บ้านแค่ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น ถ้าเกิดมีการทำเหมืองแร่ เวลามีการขนถ่ายสินค้า ก็จะมีรถขนาดใหญ่ทั้งรถ 10 ล้อ รถพ่วงวิ่งผ่านหมู่บ้าน จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัย  ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ หากมีการเปิดเหมืองแร่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชุมชน

ทางด้าน นายสุทัศนัย สุวรรณศิลป์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเหมืองแร่ ในฐานะตัวแทน  กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น ตรวจพบว่ามีชาวบ้านหมู่ 3 ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนนั้น มีการปลอมแปลงลายเซ็นต์ จำนวนกว่า 100 ราย แต่การชี้แจงเพื่อหาข้อยุติ ชาวบ้านไม่รับฟังเหตุผล ผมต้องขอโทษด้วย จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน และจะส่งหมายเรียกชาวบ้านมาเป็นรายบุคคลต่อไป
ขณะที่ นายวรายุทธ์  รักษาทรัพย์  อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า   ส่วนเรื่องที่ว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นนั้น อาจจะมีลูกหลานผู้ป่วยติดเตียงเซ็นชื่อเองไม่ได้ เลยให้ลูกหลานเซ็นแทน
มันมีปัญหาตรงนี้ จริงๆวันนี้จะพูดอยู่แล้วว่า ขอมติในที่ประชุมเลยให้มันจบๆไป เพราะชาวบ้านเขาต้องทำมาหากินไม่ต้องเสียเวลาในเรื่องนี้อีก เพราะมันยืดเยื้อมานานพอสมควรแล้ว

“ที่ผ่านมาพวกชาวบ้านหมู่ 3 ต้องขอขอบคุณชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งพวกเราที่เดือดร้อนได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อท่าน  ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ท่านจึงได้ประสานงานทีมทนายความ และสื่อมวลชน เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุม เพื่อหาข้อยุติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวด้วย” อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าว

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สรรพสามิตชี้แจงปรับขึ้นภาษียาเส้น

0

http://www.natethip.com/news.php?id=2961
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1159969787410055476
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

แอร์ฯ ลิงก์ ก้าวสู่ปีที่ 10 สานต่อความเป็นผู้นำตามมาตรฐานสากล พร้อมรับผู้โดยสาร คาดทะลุ 200 ล้านคนในปี 2021

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 สานต่อความเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร พร้อมรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารตามวิถี New Normal คาดปี 2021 ผู้โดยสารทะลุ 200 ล้านคน
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยภายในงาน “ลงเรือลำเดียวกัน ครบ 1 ทศวรรษการให้บริการ” ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ว่า ในปี 2564 ที่จะมาถึง บริษัทจะครบรอบ 10 ปี หรือ 1 ทศวรรษในการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี บริษัทได้ดำเนินงานยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อที่จะก้าวเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ขององค์กร
โดยบริษัทได้นำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาใช้ในการดำเนินงานทั้งการซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการเดินรถ และให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนผ่านการรับรอง ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุง และขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV ( Bureau Veritas )
ด้วยระบบบริหารคุณภาพรับรอง ISO 9001 : 2015 ทำให้การดำเนินงานของบริษัทมีมาตรฐาน และประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งในงานซ่อมบำรุง และการให้บริการ โดยงานวิศวกรรมซ่อมบำรุงสามารถซ่อมบำรุงใหญ่ขบวนรถไฟฟ้า ( Overhaul ) และซ่อมบำรุงทั่วไป จนสามารถกลับมาให้บริการรถไฟฟ้าได้เต็มจำนวน 9 ขบวนรวมถึงปรับเปลี่ยนภายในขบวนรถไฟฟ้าด่วน ( Express ) ทำให้สามารถอำนวยความสะดวก และรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนในด้านงานบริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร บริษัทได้ดำเนินการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยภายในสถานีตามหลักการ Universal Design หรือการออกแบบเพื่อการใช้งานของคนทุกกลุ่มในสังคม มีการสร้างลิฟต์ บันไดเลื่อน เพิ่มเติมจากตอนเริ่มโครงการ รวมทั้งหมด 140 ตัว ในปัจจุบันนอกจากนั้นยังได้มีสร้างราวกั้นชั้นชานชาลา และยางปิดช่องว่างระหว่างขอบชานชาลา และประตูรถไฟฟ้า ( Platform Gap Filler ) เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการของผู้โดยสาร รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ทางพาดพับได้สำหรับรถเข็นวีลแชร์ ( Portable wheelchair ramp ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ทุพพลภาพ และคนพิการให้สามารถเข้าสู่ขบวนรถไฟฟ้าได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นนอกจากนี้บริษัทยังมอบสิทธิพิเศษ ให้แก่ผู้โดยสารมากมาย ทั้งการให้สิทธ์เดินทางฟรี และจัดแคมเปญพิเศษในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันเด็ก , วันสงกรานต์ (ผู้สูงอายุ) , วันแม่ , วันพ่อ และวันปีใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมการตลาดเอาใจผู้โดยสารมากมาย อาทิเช่น “Early Bird #ตื่นเถิดคนกรุง” เพื่อส่งเสริมให้ผู้โดยสารใช้บริการในช่วงเช้า ด้วยการมอบส่วนลดในการเดินทาง , บัตรชมภาพยนตร์ และเสิร์ฟอาหารเช้าให้แก่ผู้โดยสาร หรือออกมาตรการลดค่าโดยสารนอกช่วงเวลาเร่งด่วน (Off Peak Hour) วันจันทร์-วันศุกร์ ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 05.30 – 07.00 น., 10.00 – 17.00 น. และ 20.00 – 24.00 น. ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) จากอัตราค่าโดยสารปกติ 15-45 บาท เหลือ 15-25 บาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้โดยสาร ลดภาระค่าครองชีพที่ใช้จ่ายประจำวัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่การดำเนินธุรกิจเท่านั้นที่บริษัทให้ความสำคัญ ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมก็ถือเป็นนโยบายที่บริษัท ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้จัดกิจกรรม CSR กับชุมชน และโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ หลายต่อหลายโครงการ อาทิเช่น โครงการส่งต่อความรู้สู่มือน้อง โครงการประกวดวาดภาพระบายสีนักเรียนชั้นประถม และมัธยมศึกษาตอนต้น หรือโครงการตรวจสุขภาพ เป็นต้น
ด้วยการดำเนินงานที่มีมาตรฐาน และประสิทธิภาพ ทำให้ผู้โดยสารมีความพึงพอใจในการใช้บริการ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สังเกตได้จากผลสำรวจความพึงพอใจประจำปีที่มีแนวโน้มดีขึ้นมาโดยตลอด ล่าสุดผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารประจำปี 2563 ซึ่งมีการเก็บรวบรวมถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่าผู้โดยสารมีความพึงพอใจในการให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ในระดับที่ดีมาก โดยคะแนนเต็ม 5 ในด้านความปลอดภัยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.36 , ด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 , ด้านการให้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 4.33 , ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 , ด้านบัตรโดยสาร และการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 4.19 และด้านการประชาสัมพันธ์ และการให้ข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 4.17
ในการก้าวสู่ปีที่ 10 บริษัทยังคงเดินหน้าสานต่อการดำเนินงานต่างๆที่ผ่านมา เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กรต่อไป โดยคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 185 ล้านคน จะทะลุเกิน 200 ล้านคนอย่างแน่นอน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งแม้จะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการ ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 เช่นเดิม โดยมีการติดตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิ ที่บริษัทได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือ เทอร์โมสแกน ซึ่งเป็นกล้องสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส และตรวจตราการสวมหน้ากากอนามัยของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการอย่างเข้มงวด รวมถึงยังคง

มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) ที่ขอความร่วมมือผู้โดยสารเว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ หรือยืนในระยะห่างที่เหมาะสมขณะใช้ลิฟต์ และบันไดเลื่อน รวมทั้งมีการจัดระเบียบผู้โดยสารในชั้นชานชาลาให้มีระยะห่างระหว่างกันอย่างเหมาะสม ซึ่งหากในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น จะดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลา และภายในขบวนรถไฟฟ้า โดยกำหนดพื้นที่ในการยืนรอห่างกัน 1 เมตร งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และมีการเพิ่มความถี่ในการดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบริเวณสถานี และในขบวนรถไฟฟ้า
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการสานต่อวิสัยทัศน์ในความเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล และความเข้มงวดในมาตรการจะช่วยอำนวยความสะดวก และรักษาความปอลดภัยให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

ผู้สูงอายุเฮ สปส.ขยายอายุถึง 65 ปี

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 9.30 นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระรุ่นที่ 1-2 (ส่วนภูมิภาค) โดยมีนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภอเมืองชลบุรี นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ณ ห้องแสนสุข โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีภารกิจสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพประชาชน โดยการสร้างหลักประกันทางสังคม เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากร กลุ่มด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สูงวัย จำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางสังคม จากการสำรวจข้อมูลแรงงานภาคอิสระของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2562 พบว่ามีแรงงานภาคอิสระจำนวน 20.4 ล้านคนทั่วประเทศ แต่มีเพียงจำนวน 3.40 ล้านคน หรือร้อยละ 16.67 ที่เข้าถึงระบบความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 และยังมีแรงงานภาคอิสระจำนวน 17.00 ล้านคน หรือร้อยละ 83.33 ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบความคุ้มครอง ดังนั้นเพื่อลดปัญหาดังกล่าว กระทรวงแรงงาน ได้มีการส่งเสริม สนับสนุนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ในวัยกำลังแรงงาน ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้เห็นความสำคัญของการมีหลักประกันทางสังคม โดยการสมัครเข้าสู่ระบบความคุ้มครองประกันสังคมอย่างทั่วถึง และเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วยนายสุเทพฯ กล่าวต่อว่า การจัดโครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 และสร้างแรงจูงใจ ให้แรงงานภาคอิสระ เข้าถึงการมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับตนเองและครอบครัวที่อยู่ในวัยแรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ด้วยการรณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้และรับสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วยเครือข่ายประกันสังคม แรงงานภาคอิสระ และผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี รวม 300 คน ซึ่งภายในงานจัดให้มีนิทรรศการเกี่ยวกับความคุ้มครองประกันสังคมสำหรับแรงงาน ภาคอิสระ การรับสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และการออกร้านผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายประกันสังคม ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แรงงานภาคอิสระ และสมาคมผู้สูงวัยของจังหวัดชลบุรีด้วย ซึ่งคาดหมายว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว จะมีส่วนส่งเสริม สนับสนุนให้แรงงานภาคอิสระในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเกิดความตื่นตัว และร่วมเป็นเครือข่ายในการสนับสนุนการขยายความคุ้มครองประกันสังคมเพื่อให้แรงงานภาคอิสระได้รับความคุ้มครองประกันสังคมเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย:Cr;:มณสิการ รามจันทร์

เปิด “ศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ” รับยุค Big Data

0

http://www.natethip.com/news.php?id=2960
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)