พิมพ์ไทยออนไลน์// จ่าสิบเอก ณภัทร เกลื่อนเพชร จอมเก๋ากองทัพบกโชว์ความเหนือชั้น ชนะทีมชาติไทยรุ่นน้อง คว้าแชมป์ฟันดาบชิงแชมป์ประเทศไทย 2563 ประเภทเอเป้บุคคลชาย
การแข่งขันกีฬาฟันดาบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ที่ ลานแสดงสินค้า ชั้น 2 ศูนย์การค้า เซียร์ รังสิต เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยวันสุดท้าย ประเภทเอเป้บุคคลชาย ชนะเลิศ จ่าสิบเอก ณภัทร เกลื่อนเพชร กกองทัพบก อดีตทีมชาติจอมเก๋า กระดูกเหนือกว่าเอาชนะ นิติพงษ์ สิงห์คำ ม.รัตนบัณฑิต ทีมซีเกมส์ 2019 เหรียญทองแดงทีม 15-6 คะแนน ส่วนเหรียญทองแดง กันตพัฒน์ อนุพงษ์กุลกิจ ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ และ สิบตำรวจตรี กรกช จึงอำนวยชัย ทีมชาติซีเกมส์ ปี 2019 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ประเภทเซเบอร์บุคคลชาย เหรียญทอง จ่าอากาศตรี วรกันต์ ศรีนวลนัด กองทัพอากาศ 2 เหรียญเงิน ซีเกมส์ 2019 ชนะ ปณชัย วิริยะตั้งสกุล จาก จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 15-10 สำหรับเหรียญทองแดง พันจ่าอากาศตรี วีระเดช โคธนีย์ กองทัพอากาศ และคณิศร แปงมูล ชมรมอิสระ
ประเภทฟอยล์บุคคลหญิง เพื่อนร่วมทีมซีเกมส์ 2019 เหรียญทองแดงทีม ระหว่าง ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค กองทัพอากาศ และ ศศินภัสสร์ ดวงพัตรา จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ชญานุศภัฒน์ ทำได้ดีกว่าชนะไป 15-6 คะแนน ส่วนเหรียญทองแดง นวลจันทร์ พิมพ์แก้ว สังกัดหมูหัน และ ชญาดา สมิทธิสุกุล ม.เกษตรศาสตร์

โดยมีพลเรือเอก สมเดช ทองเปี่ยม นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทย ฯ พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ อาทิ พลเอก ชาญชัย ยศสุนทร เลขาธิการสมาคมฯ พลอากาศโท เรืองวิทย์ ศรีนวลนัด ประธานจัดการแข่งขัน ให้เกียรติมอบเหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร และของที่ระลึก ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ รองชนะเลิศอันดับ 2 การแข่งขันกีฬาฟันดาบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ที่ ลานแสดงสินค้า ชั้น 2 ศูนย์การค้า เซียร์ รังสิต

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ต.ค.63 ที่ผ่านมา นายอัมพรรณ์ กล้าหาญ ประธาน “กลุ่มเพื่อนด่านสำโรง” เป็นประธานจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนๆ ย่านด่านสำโรง ที่เกษียณอายุราชการในปี 2563 ณ.ร้านอาหารฝ้ายคำ ถนนบางนา-ตราด เยื้องเซ็นทรัลบางนา โดยมีเพื่อนๆ เข้าร่วมสังสรรค์กันอย่างชื่นมื่น.

Cr. : นายณรงค์ ลาภเกิน (แป๊ะ ท่าเรือ) ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ พิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // จิรวัฒน์ ฉลองเบิร์ธเดย์สุดแฮปปี้ทั้งยิงทั้งจ่าย – มูฮัมหมัด โชว์ซัดเบิ้ล นำทัพ “ฉลามพลังเพลิง” เฉือน ท่าข้าม สุดมัน 5-4 ยังรั้งจ่าฝูงเหนียวแน่น การท่าเรือ ถล่ม มอภาคฯ 7-2 จี้ติด 2 แต้ม เท่าเดิม
ศึกฟุตซอลไทยลีก 2020 นัดที่ 17 เมื่อ 25 ต.ค.ที่บางกอก อารีนา การท่าเรือ เอเอสเอ็ม รองจ่าฝูง มี 40 แต้ม ลงเจอกับ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันดับ 9 มี 19 แต้ม น.2 มอภาคฯ พังประตูออกนำก่อนจากฟรีคิกของ เอลลิสัน บรังโก้ 1-0 ท่าเรือพยายามทวงคืนแต่ น.5 วิคเตอร์ อคาสซิโอ้ ได้จังหวะสวนกลับแล้วซัดเป็น 2-0 น.9 วิษณุ มีมากบาง ยิงให้การท่าเรือไล่มา 1-2 และ น.11 มาร์กอส กดเต็มข้อตีเสมอ 2-2 ท่าเรือคุมเกมได้หมด น.14 ธนพล มณีเพชร ซัดเป็น 3-2 และนาทีต่อมา ธนัญขัย ชมบุญ ก็บวกสกอร์เป็น 4-2 ในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง น.31 ธนาธิป แสงสังข์ ประเดิมทำสกอร์แรกให้ตัวเองกับการท่าเรือ ยิงเป็น 5-2 น.36 ไรอัน โกเมส มาบวกสกอร์ให้ทีมเป็น 6-2 น.39 สุทธิพร กลัดเจริญ ได้โอกาสซัดเข้าไปอีกลูก จบเกมการท่าเรือชนะ

7-2 เก็บเพิ่ม 43 คะแนน

พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 5 – ห้องเย็นท่าข้าม 4
“ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี มี 42 แต้ม พบ “เทพพระชัย” ห้องเย็นท่าข้าม ทีมอันดับ 3 เกมนี้มีประตูแรกเกิดขึ้น นาทีที่ 14 ชลบุรี นำก่อน 1-0 มูฮัมหมัด อุสมานมูซา เข้าแย่งบอลก่อนจะกดเสียบเสาสองเข้าไป 2-0 น.22 จังหวะเสียบอลในแดนห้องเย็นท่าข้าม เข้าทาง มาร์คัส กาว่า จ่ายเร็วให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เข้าดวลเดี่ยวไม่พลาด “ฉลามพลังเพลิง” หนีห่าง 2-0 ซึ่งถือเป็นการยิงฉลองวันคล้ายวันเกิดของเจ้าตัวในวันนี้ด้วย น.25 ห้องเย็นท่าข้าม ขยับไล่มา 1-2 จังหวะ เคลโอดอน เนโต้ จ่ายให้ คลีตัน อันตูเนส หลุดเข้าไปยิงไม่พลาด น.28 ชลบุรี ขยับหนีห่างอีกครั้ง 3-1 มาร์คัส กาว่า จ่ายให้ วรุฒ หวังสะมาแอล วิ่งเข้าซัดเสียบเสาเข้าไป น.32 ห้องเย็นท่าข้าม เสียบอลในแดน ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ฉกเข้าไปยิง สกอร์ 4-1 และถัดมาอีก 1 นาที จังหวะพลิกหนีของ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา เข้าไปยิงให้ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี นำห่าง 5-1
“เทพพระชัย” เล่นพาวเวอน์เพลย์ นาทีที่ 35 ไล่มา 2-5จังหวะยิงไกลของ อันตูเนส ถัดมา น.37 ท่าข้าม ได้จุดโทษที่สอง อันตูเนส รับหน้าที่สังหารแต่ติดเซฟของ คทาวุธ หาญคำภา ห้องเย็นท่าข้ามเล่นพาวเวอร์เพลย์ต่อเนื่องและมาได้ 2 ประตูรวด จาก นพรุจ เชื้อหมอดู น.38 และ เคลโอดอน เนโต้ น.39 สกอร์ 4-5 จบเกม พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ชนะ ห้องเย็นท่าข้าม ไป 5-4 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน ยังรั้งจ่าฝูงนำ การท่าเรือ 2 แต้ม เท่าเดิม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” เมื่อวันที่ 6-16 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal ประสบความสำเร็จอย่างมาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกภูมิภาค จนกระทั่งได้รับการชื่นชมจากทุกฝ่าย
พลเอกเดชา กล่าวว่า ล่าสุด สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เริ่มที่จะได้รับคำถามจากชาติพันธมิตรในทวีปเอเชีย ซึ่งไต่ถามถึงความเป็นไปได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์เอเชีย แทนชาติต่าง ๆ ที่รับเป็นเจ้าภาพ ปี 2020 และ 2021 แต่ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไรัสโควิด-19

“ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะรับหน้าเสื่อการเป็นเจ้าภาพ จากการตรวจสอบ พบว่าการแข่งขันรายการระดับชิงแชมป์เอเชียครั้่งล่าสุด ก็คือไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ เชียงราย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนรายการอื่น ๆ ในรอบปี 2020 ต่างก็ถูกยกเลิกการแข่งขันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์เอเชียประเภทถนน ทีมาเลเซียเจ้าภาพก็ถูกยกเลิก หรือบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย ที่ อินโดนีเซียเจ้าภาพ ก็เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด”
สำหรับในรอบปี 2020 ยอมรับว่าเวลาที่เหลือไม่เพียงพอ เตรียมความพร้อม หากรับเป็นเจ้าภาพรายการใดรายการหนึ่ง แต่ปี 2021 เท่าที่ตรวจสอบปฏิทินแข่งขันของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) มีเพียงการแข่งขันประเภทลู่ และจักรยานคนพิการชิงแชมป์เอเชีย ที่ คาซักสถานจ้าภาพได้รับการขึ้นทะเบียนบรรจุปฏิทินการแข่งขัน ปลายเดือนพฤษภาคม 2564 ส่วนอีกสามประเภท ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน

“การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2021 เดิมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเจ้าภาพ ส่วนการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2021 จะเป็นจีน ขณะที่บีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2021 เป็นฟิลิปปินส์ หรืออินโดนีเซีย ที่เลื่อนจากปี 2020 อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มเป็นไปได้มากที่แต่ละรายการ ต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนอาจต้องเลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขัน ซึ่งพิจารณาสถานการณ์และมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทย มั่นใจศักยภาพว่าสามารถรับมือจัดเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพ ควบคู่ไปกับมาตรการที่ดีเยี่ยม ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากบุคคลที่มาจากต่างประเทศ นักกีฬา เจ้าหน้าที่ หรือกรรมการผู้ตัดสินได้อย่างแน่นอน”

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า ปัจจัยสำคัญรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ รายการใดรายการหนึ่งดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ขณะที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย จะต้องนำเรื่องเข้าหารือกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำเสนอโครงการไปยังคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ความเห็นชอบการดำเนินงานต่อไป
“จากประสบการณ์เตรียมความพร้อมจัดแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020 ทำให้ไม่หนักใจหากต้องรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ การจัดจักรยานชิงแชมป์เอเชีย 2021 เพราะเนื้องานในส่วนของประเทศจะน้อยลง เนื่องจากจัดการแข่งขันในสถานที่จำกัดเพียงจังหวัดเดียว ต่างจาก ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ ใช้เส้นทางผ่านถึง 6 จังหวัด และใช้ระยะทางการแข่งขันมากถึงกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร ปัญหามีเพียงมาตรการด้านสาธารณสุข เรื่องการกักตัว 14 วัน และการเดินทางนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ มายังไทย แต่ก็เชื่อว่ามาตรการจำกัดการเดินทางน่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี จนสามารถเดินทางทางอากาศได้ในปีหน้า” พลเอกเดชา กล่า

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส, สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (เทมซ่า) และบริษัท มูฟ เอเชีย จํากัด ผนึกกำลังร่วมกันจัด การประชุมวิ่งมาราธอนระดับโลก ครั้งที่ 2 “เชียงราย โกลบอล รันนิ่ง ซัมมิท 2020“ (Chiang Rai Global Running Summit 2020) และงานวิ่ง “ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020” ทั่ เชียงราย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย มร.ทาเคโอะ โนดะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ร่วมเป็นประธานเปิดการแข่งขันวิ่ง “ยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020” งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนนานาชาติ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 บนดินแดนเหนือสุดแห่งแผ่นดินสยาม ในรูปแบบPoint To Point ภายใต้มาตรฐาน New Normal Race ออกสตาร์ทที่วัดร่องขุ่น-เข้าเส้นชัยที่สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติฯ แข่งขัน 2 แบ่ง ระยะทาง ฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.) และ มินิมาราธอน (10 กม.) มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมชิงชัยกว่า 5,00 คน

ไฮไลท์ประเภทฮาล์ฟมาราธอน แชมป์ Overall Championship Athlete ฝ่ายชาย สัญชัย นามเขต ลมกรดทีมชาติไทย เหรียญเงินมาราธอนชายซีเกมส์ครั้งล่าสุด เข้าเส้นชัยเวลา 01:06:56 ชม. คว้าแชมป์และเงินรางวัล 15,000 บาทไปครอง ส่วนอันดับ 2 ณัฐวุฒิ อินนุ่ม แชมป์เก่าปีที่แล้วและเจ้าของสถิติประเทศไทย 01:08:10 ชม. รับเงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับ 3 บุญถึง ศรีสังข์ ปอดเหล็กทีมชาติไทยดีกรีโอลิมปิกเกมส์ เวลา 01:08:41 ชม.รับเงินรางวัล 8,000 บาท

ขณะที่ แชมป์ Overall Championship Athlete ฝ่ายหญิง ปิยะนุช สุขชาติ ทำเวลาดีที่สุด 01:24:55 ชม. คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท และเป็นการสร้าง New PB ของตัวได้สำเร็จ อันดับ 2 ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย เวลา 01:25:54 ชม. รับเงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับ 3 นนวรัตน์ ฤทัยภัทร เวลา 01:30:15 ชม. รับเงินรางวัล 8,000 บาท
ด้านประเภทมินิมาราธอน 10 กม. แชมป์ฝ่ายชาย ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม เวลา 00:31:41 ชั่วโมง และฝ่ายหญิง ปารียา สนเส็ม เวลา 00:40:06 ชั่วโมง คว้าแชมป์และเงินรางวัลคนละ 8,000 บาท

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160359114910054261
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ขุนตาล พวงเพชร แชมป์โลก ประกาศความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ เพาะกายรายการไทยแลนด์อีสาน คลาสสิค บอดี้บิวดิ้ง แอนด์ ฟิสิค สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ 2020 ไปครอง เช่นเดียวกับ 2 สาว ทีมชาติสุดสวย ตรีรักษ์ สระป้อมแก้ว ได้แชมป์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 164 ซม. และ “กวาง”ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ แชมป์โลก 2018 คว้าแชมป์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 164 ซม.
การแข่งขันกีฬาเพาะกายรายการไทยแลนด์อีสาน คลาสสิค บอดี้บิวดิ้ง แอนด์ ฟิสิค สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ 2020 (THAILAND E-SAN CLASSIC BODYBUILDING AND PHYSIQUE SPORTS CHAMPIONSHIPS 2020) ที่ห้องขอนแก่น ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 ต.ค.วันแรก โดยมี นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย โดยมีนักกีฬาเข้าแข่งขันกว่า 200 คน

สำหรับวันแรก มีการชิงชัยทั้งหมด 9 รุ่น ผลปรากฏว่า เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. ขุนตาล พวงเพชร แชมป์โลกเพาะกายทีมชาติไทย คว้าแชมป์ตามคาด ตามมาด้วย ที่ 2 สุวิทย์ เกตุจินสา แชมป์อาเซียน ที่ 3 เดชณรงค์ ประเทศ แชมป์โลกเยาวชน
โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 164 ซม. ที่ 1 ตรีรักษ์ สระป้อมแก้ว รองแชมป์เอเชีย 2019 ที่ 2 ชญาภา จันทร์หอม ที่ 3 ชมบงกช ช่างเหล็ก
โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 164 ซม.ที่ 1 “กวาง”ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ แชมป์โลก 2018 ที่ 2 สุชาดา เทพมณี ที่ 3 เปรมยุดา เพ็ญแพง เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.ที่ 1 ชัยวิทย์ บัวเลิศ ที่ 2 เอกรัตน์ ศรีโสภา ที่ 3 ธนชัย ยอดสิงห์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก.ที่ 1 พวษ์ศิริ พรหมจรรย์ ที่ 2 จักรวัฒน์ อินทะรังษี ที่ 3 ชัยพิพัฒน์ ลิ่วตระกูล เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก.ที่ 1 ฉัตรมงคล ที่ 2 ธวิทย์ พวงเพชร ที่ 3 กฤตภาส แจ้งกระจ่าง

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 80 กก.ที่ 1 กิตติศักดิ์ วุฒิการณ์ ที่ 2 วิชิต สิงห์ทอง ที่ 3 พรเทพ สุขเกษม โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม.ที่ 1 ธัญญารัตน์ แจ่มใส ที่ 2 กนกลักษณ์ ชัยสุริยะเดชา ที่ 3 มัณฑนา เก๋วัน แอธเลติกฟิสิคหญิง รุ่นทั่วไป ที่ 1 สิมรา ชุ่มชื่น ที่ 2 สุชานาถ สิงคิวิบูลย์ ที่ 3 เจตสุภา อันทะศรี
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รายการนี้ เป็นการแข่งขันประจำปีของงสมาคมฯ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้โปรแกรมแข่งขันในปีนี้ ต้องเลื่อนออกไป จนทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ทำให้สามารถจัดการการที่แข่งขันได้ และสืบเนื่องจากทางภาครัฐบาลเน้นนโยบายการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การแข่งขันรายการอีสาน คลาสสิค เป็นหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว ”
“สำหรับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน 200 กว่าคน เป็นนักกีฬาไทยจากทั่วประเทศ รวมไปถึงนักกีฬาต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย ทำให้การท่องเที่ยวในขอนแก่นค่อนข้างคึกคัก ส่วนรายการต่อไป ที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี เดือนพ.ย.และ ที่เชียงใหม่ เดือนธ.ค. โดยทั้ง 3 รายการสมาคมฯ จัดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระจายแมตช์แข่งขันไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สอยคิวชิงแชมป์ประเทศไทย พี-80 จันทบุรีคัพ ได้ 13 คนสุดท้าย รอรอบ 16 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “กฤษณัส เลิศสัตยาทร” แชมป์ 3 รายการ มือ 1 ของไทย หวิดเอาตัวไม่รอดต้องตัดสินกันถึงเฟรมสุดท้าย อิศ จันท์ และ นุ้ก จันท์ ต้องไปวัดดวงในรอบ 32 คน ที่ จันทบุรี วันที่ 2 พ.ย.นี้
การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนประเทศไทย รายการพี 80-ทรู​ จันทบุรีคัพ​ 2020​ ไทยแลนด์ แรงกิ้ง สนามที่​ 7​ ชิงแชมป์ประเทศไทย รอบคัดเลือก​ เมื่อวันที่​ 24 ต.ค.​ ที่ ทีบีซี.สนุกเกอร์​ เซนเตอร์​ ซ.รามคำแหง​ 89/1​  ​ชิงเงินรางวัลรวม 1,522,000 พบกันในรอบ 32 คน ใช้ระบบ 4 ใน 7 เฟรม ผู้ชนะจะผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 คนสุดท้าย ที่ จันทบุรี วันที่ 2-7 พ.ย.นี้
คู่ระหว่าง ไพทูรย์ ผลบุญ (ตัวเล็ก สำโรง ) กับ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง (ขวัญ สระบุรี) ทั้งคู่ต่างเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ซึ่ง ตัวเล็ก สำโรง ประเภทพูล ทีมชาติไทย ขณะที่ ขวัญ พุ่มแจ้ง ทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน อินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ กลางปีหน้า ที่ ไทย ทั้งคู่ประสบการณ์ ความสามารถใกล้เคียงกันมาก อยู่ที่โอกาสและจังหวะว่า ใครจะเข้าเบรกได้ก่อนกันเท่านั้น
โดย 2 เฟรมแรก ขวัญ สระบุรี ออกคิวได้อย่างไหลลื่นกว่า ขึ้นนำก่อน 2-0 แต่อีก 2 เฟรมต่อมาเป็น “ตัวเล็ก สำโรง” ที่สามารถเอาคืนได้ ทำให้เสมอกันที่ 2-2 เฟรม
จากนั้นเฟรมที่ 5 ทั้งคู่เริ่มออกคิวได้อย่างระแวดระวัง แต่จังหวะสุดท้าย ตัวเล็ก สำโรง ที่พลาดก่อน โดน ขวัญ สระบุรี เบียดขึ้นนำไปอีกครั้ง 3-2 เฟรม ในเฟรมที่ 6 “ตัวเล็ก สำโรง” จะยิ่งแทงยิ่งเกร็ง ขวัญ สระบุรี สอยอย่างสบาย และสุดท้าย สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี ชนะไป 4-2 เฟรม ( 75-54 / 64-19 / 36-62 / 34-69 / 75-28 และ 66-32 ) ขวัญ สระบุรี เข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้สำเร็จ

อีกคู่ กฤษณัส เลิศสัตยาทร (นุ้ก สงขลา ) มืออันดับ 1 ทีมชาติไทย แชมป์ประเทศไทย 3 รายการติดต่อกัน พบกับ สงขลา จงจิตร หรือ เอฟ สากล โดย 3 เฟรมแรก “นุ้ก” สามารถออกคิวได้อย่างเฉียบคมกว่าชนะไปก่อน 3-0 เฟรม จากนั้น “เอฟ สากล” เริ่มเรียกฟอร์มตัวเองกลับมาได้ และเอาชนะติดต่อกัน 3 เฟรมรวดสมอกัน 3-3 เฟรม
ในเฟรมตัดสิน “นุ้ก สงขลา” รวมรวบสมาธิออกมากวาดไม้เดียวแต้มขาดลอย ชนะไปชนิดที่หายใจไม่ทั่วท้อง 4-3 เฟรม ( 93-5 / 57-26 / 73-65 / 45-75 / 18-90 / 54-58 และ 60-0 ) ส่งผลให้ กฤษณัส เลิศสัตยาทร “นุ้ก สงขลา” เข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย เพื่อไปสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ประเทศไทย 4 รายการติดต่อกัน
ส่วนผลคู่อื่น ๆ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล ( นุ้ก คอนหวัน ) ชนะ อานนท์ สนธิทิพย์ 4-2 เฟรม / ธัญยธรณ์ ธนพสิฐพงศ์ ( สอง วัดพุทธ) ชนะ บรรดิษฐ เขียวสุทธิ 4-3 เฟรม / พชร มาเยอะ (จิ๋ว เชียงราย) ชนะ ศุภโชค ส่อเสริมสุข 4-1 เฟรม / ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ (แมน นครปฐม) ชนะ กิตติ มงคลสละ (กอล์ฟ บางพระ ) 4-2 เฟรม / นพดล แสงนิล (แซค โซโฟน ) ชนะ พีร ปานประยูร ( จิ๊บ โพธิ์สามต้น ) 4-2 เฟรม / สุชาติ สุขเลี่ยม ( เปา โพธิ์สามต้น ) ชนะ ทวีทรัพย์ คงกิจเชิดชู ( โต้ ศิษย์ตุ้ม ) 4-2 เฟรม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ฟุตซอลไทยลีก 2020 เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่สนามบางกอก อารีนา เป็นนัดที่ 17 “ม้าศึกลูกแม่โดม” ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน อันดับ 12 มี 13 คะแนน พบกับ “มังกรเทพ” บางกอก ซิตี้ อันดับ 7 ที่มีอยู่ 20 แต้ม เกมนี้ทางธรรมศาสตร์ มีการเสริมตัว2 ใหม่จากแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด รองแชมป์ดิวิชั่น 1 เข้ามาใหม่ 5 ราย ขณะที่ 2 แข้งบราซิลยังอยู่ระหว่างการกักตัว
ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน 2 – บางกอก ซิตี้ 0
เกมค่อนข้างเล่นกันด้วยความระมัดระวัง ต่างคุมเกมรับกันเหนียวแน่น น.17 สมภพ แจ้งเกษตร ได้ซัดเหน่งๆแต่ติดปลายมือ ภานุวัฒน์ นวลศรีไพร และนาทีท้าย สมภพ อีกครั้งตัดบอลหลุดเข้าไปซัดติดขา ภานุวัฒน์ อีก ครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง ทั้งคู่ยังคงระมัดระวังไม่กล้าผลีผลามกันเท่าไหร่ น.38 ม้าศึกลูกแม่โดม ได้ฟรีคิกนอกเขต ณัฐศักดิ์ โพธิ หลอกจ่ายออกทางขวาให้ อุลิศ รศนากาญจน์ ที่เข้ามาเสริมใหม่ยิงเข้าไป ธรรมศาสตร์ ออกนำ 1-0

บางกอก ซิตี้ ใช้เพาเวอร์เพลย์ทันทีแต่ไม่สามารถตีเสมอได้ และอีก 10 วินาทีบางกอก มาพลาด โดน บงกชธร ทนคง ตัดแล้วยิงตอกฝาโลงปิดฉากให้ ธรรมศาสตร์ชนะไป 2-0 พร้อมรับโบนัสอัดฉีด 1 แสนบาทจาก “คุณไต๋” ทักขศิษฏ์ จิตติวาณิชย์ ประธานสโมสร
โดย ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน เก็บดพิ่มเป็น 16 แต้มขึ้นอันดับ 11 ส่วนบางกอก ซิตี้ เท่าเดิม
ราชภัฏเพชรบุรี 3- ราชนาวี 3
ราชภัฏเพชรบุรี บ๊วยของตารางคะแนนมี 11 แต้ม เจอกับ “ตะหานน้ำ” ราชนาวี อันดับ 6 เกมนาทีแรก “ไอ้หนุ่มเมืองเพชร” ก็ออกนำเร็วจาก ณัฐวัติ ลักษณะโต ยิงจ่อๆ 1-0 น.5 เปคูโน่ แข้งบราซิลจิ้มยิงฉีดยานอกกรอบเสียบสามเหลี่ยมให้ราชภัฏเพชรบุรี หนีไป 2-0
“ตะหานน้ำ” ต้องเร่งเกม น.10 มาได้ฟรีคิก อิทธิชา ประภาพันธ์ ซัดผ่านกำแพงเสียบโคนเสาไล่มา 1-2 และ น.14 อิทธิชา อีกครั้งทำชิ่งหลุดกดตุตาข่ายเข้าไป ครึ่งแรกเสมอกัน 2-2
ครึ่งหลัง เกมเล่นกันด้วยความระมัดระวัง น.38 เพชรบุรี ขึ้นนำจาก ปัญญา บัวคำ ซัดนอกเขตเข้าไป 3-2 ราชนาวีใช้เพาเวอร์เพลย์ลุย และเหลืออีก 28 วินาที พันธวัช ธงชัย ยิงตีเสมอได้สำเร็จ จบเกม 3-3 แบ่งไปทีมละแต้ม ราชนาวี มีเพิ่ม 26 คะแนนอยู่อันดับ 6 เช่นเดิม ส่วนราชภัฏเพชรบุรีมี 12 แต้ม เท่าบีเคซี ปราจีนบุรี แต่ลูกได้เสียดีกว่าจึงขยับหนีบ๊วยมาอยู่ที่ 13

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์