พิมพ์ไทยออนไลน์// นักเทควันโดจาก “นนทบุรี” กระหึ่มคว้าถ้วยคะแนนรวมศึก “พัทยา เทควันโด พุมเซ่ บีซ 2020” ที่ พัทยา หลังนักกีฬาคว้าเหรียญทองรายการต่างๆไปอย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่นักกีฬายอดเยี่ยมชาย ด.ช.ศุภณัฐ เรืองดำ ทีมปิยะวัฒน์
การแข่งขันเทควันโดพุมเซ่ รายการ “พัทยา เทควันโด พุมเซ่ บีซ 2020” รูปแบบใหม่ “นิวนอร์มอล” ครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา วันสุดท้าย ที่ บริเวณชายหาดโรงแรมแอมบาสเดอร์ฯ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจ ประเภทฟรีสไตร์ อายุต่ำกว่า 11 ปี คู่ผสม เหรียญทอง ณัฐนารี คำสะอาด กับ ภูมิใจ อภิญญาพันธ์จา จากสโมสรพงษ์พิทักษ์, เหรียญเงิน นิธิกร ยิ้มประเสริฐ / กัญญภัทร ใหม่เจริญ จากสโมสรดับเบิ้ลยูซีอาร์ และ เหรียญทองแดง กมลเทพ สินธินัน / พรลวิน นาคบุรี ของทีมปิยะวัฒน์, ฟรีสไตร์ อายุ 12-14 ปี คู่ผสม เหรียญทอง ศิริญาพร แสงห่วง และ พีรชาญ มานุมุงประเสริฐ ทีมบี.ซี.เทควันโด, เหรียญเงิน พีรพัฒน์ ตระกานวิชิต / ธนัตสุดา เตียสุวรรณ ทีมปิยะวัฒน์ และ เหรียญทองแดง ณิชา เทาสกุล / ศุภณัฐ รุ้งดำ ทีมปิยะวัฒน์ กับ สริสา ไทยทองหลาง / ปภัทรกร ธีรโสระไกร ทีมเดอะคิก

ขณะที่ รอบชิงชนะเลิศ พุมเซ่ คู่ผสม อายุ 12-14 ปี เหรียญทอง โซลชุมทางเทควันโด เหรียญเงิน โอลิมปิกเทควันโด, คู่ผสม อายุ 15-17 ปี เหรียญทอง โซลชุมทาง เทควันโด เหรียญเงิน ตราด เทควันโด และ คู่ผสม อายุ 18 ปีขึ้นไป เหรียญทอง ทีมนนทบุรี เหรียญเงิน ไทเกอร์ ไทยแฟมิรี่
ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาย อายุไม่เกิน 11 ปี เหรียญทอง นนทบุรี เทควันโด, เหรียญเงิน ไทเกอร์ ไทย แฟมิรี่, ทีมหญิง อายุไม่เกิน 11 ปี เหรียญทอง นนทบุรี เทควันโด, เหรียญเงิน ไทเกอร์ ไทยแฟมิรี่, ทีมชาย อายุ 12-14 ปี เหรียญทอง เชียงใหม่ เทควันโด ริมปิง, เหรียญเงิน เดอะเบส ไทยเกอร์ และ ประเภททีมหญิง อายุ 18 ปีขึ้นไป เหรียญทองตกเป็นของ ทีมดับเบิ้ลยูซีอาร์ ที่เอาชนะ ทีมโซลชุมทาง ไปได้ 5-0 คะแนน
สำหรับถ้วยรางวัลคะแนนรวมยอดเยี่ยมในครั้งนี้ แชมป์ ได้แก่ นนทบุรี เทควันโด คลับ ของ “อ.เป็ด” น.ส.กนิษฐา กนิษฐสวัสดิ์ ผู้ฝึกสอนฝีมือดี ที่ได้พานักกีฬาคว้าเหรียญทองมากมาย อันดับ 2 ทีมโซลชุมทาง อันดับ 3 ดับบริวซีอาร์ อันดับ 4 ทีมปิยะวัฒน์ และ อันดับ 5 ไทเกอร์ ไทยแฟมิรี่
ด้านนักกีฬายอดเยี่ยมเดี่ยวชาย ประเภทพุมเซ่ มาตรฐาน ศุภณัฐ เรืองดำ ทีมปิยะวัฒน์ ส่วนรางวัลยอดเยี่ยมเทควันโดแด้นซ์ ทีมดับบริวซีอาร์, ยอดเยี่ยมเทควันโดเบรกกิ้ง ที.เอ.เอฟ.แพร่, ยอดเยี่ยมฟรีสไตร์พุมเซ่ อายุ 12-14 ปี ดับบริวซีอาร์

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// สุดปัง ! กระแสแรงมาก คนไทยห่วงใยสุขภาพ แห่ฟังเสวนาชี้เป้าเลือกใช้สมุนไพรธรรมชาติ หมอชื่อดังชี้วิธีเลือกสมุนไพรให้ได้ผล ต้องดูละเอียดตั้งแต่ต้นทาง บอสใหญ่วงการสมุนไพรมั่นใจตอบโจทย์ด้านสุขภาพ
ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ที่ อิมแพคเมืองทองธานี (2-6 ก.ย. 63) ปรากฎมีประชาชนให้ความสนใจไปเยี่ยมชมงานอย่างหนาแน่น พร้อมกับเก็บเกี่ยวข้อมูลและความรู้ด้านการใช้และประโยชน์ของสมุนไพรธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับการเสริมสร้างสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วย

โดยในงานนี้ จัดให้มีการเสวนาเชิงวิชาการ และทางบริษัท เนเจอร์ไบโอเทค ร่วมจัดเสวนาเพื่ออัพเดทนวัตกรรมสมุนไพรธรรมชาติในยุค New Normal ท่ามกลางผู้เข้ามาร่วมฟังจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ โดยมี นายแพทย์ดำรงค์ เลาหะพรสวรรค์ หมอชื่อดังที่มีความรู้ทั้งด้านสมุนไพรธรรมชาติและการแพทย์แผนปัจจุบัน ด้านหู คอ จมูก ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสมุนไพร
นพ.ดำรงค์ กล่าวว่า การเลือกใช้ยาจากสมุนไพรธรรมชาติจะทำให้เราหลีกเลี่ยงสารเคมีในยาทั่วๆไปได้ โดยยาสมัยใหม่อาจจะทานแล้วหายเร็ว แต่ตัวยามีสารเคมีเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ขณะที่ยาจากสมุนไพรธรรมชาติ ปลอดสารเคมีแน่นอน และ มีผลดีต่อสุขภาพ

สำหรับการเลือกใช้ยาหรืออาหารเสริมจากสมุนไพรธรรมชาติให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องพิจารณาตั้งแต่ต้นทางหรือที่มา ตั้งแต่แหล่งผลิตที่ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างดี หรือ จากโรงงานผลิตมีมาตรฐานสูงระดับสากล รวมถึงการดูแลหลังการขายจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่าย ที่พร้อมจะให้ข้อมูลและคำปรึกษา
บนเวทีเสวนา ยังมีดาราชื่อดัง ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี กับ กันตา ดานาว มาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้สมุนไพรธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งดาราสาวทั้งสองคนยอมรับด้วยความมั่นใจถึงผลและประสิทธิภาพจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ทำให้มีสุขภาพดีและดูสวยสดชื่นอ่อนเยาว์

ด้าน นายชูพงษ์ เลาหะพรสวรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนเจอร์ไบโอเทค กล่าวว่า สำหรับ เนเจอร์ไบโอเทค ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ อาทิเช่น หลินจือมิน, หลินจือมินเอ็กซ์ตร้า, EX8 ถั่งเช่า, และ G2X โสมแดงเกาหลีผสานเห็ดหลินจือแดง ซึ่งปัจจุบันสามารถตอบโจทย์ความต้องการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพจากกลุ่มคนวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ ทางบริษัทฯดำเนินการมา มากกว่า 10 ปี ได้สร้างมาตรฐานได้รับการยอมรับทั่วไป
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มีความรู้และประสบการณ์ พร้อมให้คำแนะนำการรับประทานแก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือ เข้ามาดูข้อมูลและรายละเอียดได้ที่ https://www.naturebiotec.com

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ //. สมศักดิ์ รมว.ยุติธรรมย้ำ ลดนักโทษล้น คุก เน้นติดกำไล EM ใช้กับกลุ่มระหว่างการพิจารณาคดี เป็นคดีที่ไม่รุนแรง เริ่มกลาง กันยายน นี้

วันที่ 6 ก.ย ย. 63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกว่า ที่นอนของผู้ต้องขังเดิมก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งนั้นรับได้ 2.2 แสนคน ที่นอนแล้วจะไม่แออัดแต่เป็นแบบนอนพื้น และเมื่อได้เข้ามาทำงานตรงนี้ มีนโยบายเพิ่มที่นอนโดยการทำเตียงสองชั้นเพิ่มซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังได้อีก 8 หมื่นคน ต้องบริหารนักโทษ ในเรือนจำ ทั่วประเทศ จึงมีเรื่องของกำไล EM เข้ามา ซึ่งเรากำลังจะเริ่มทำในกลางเดือน ก.ย.นี้ เมื่อก่อนกำไล EMมีปริมาณน้อยและได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว และทำใหม่มีจำนวน 3 หมื่นเครื่อง โดยจะใช้กับกลุ่มผู้ต้องขังไม่เด็ดขาด คือกลุ่มที่ศาลยังไม่มีคำสั่งให้จำคุก หรือปล่อยตัวยังไม่เด็ดขาด หรือกลุ่มคดียังไม่สิ้นสุด มีการประกันตัว อาทิ พวกนักโทษทางการเมือง นักโทษที่เกียวกับคดีเช็ค คดีที่ไม่ร้ายแรงมากและเป็นคดีที่ทำให้คนไม่วิตกกังวล โดยในส่วนของกลุ่มที่ได้รับการพักโทษนั้นตรงนี้เราจะมีคณะอนุกรรมการพักโทษ เพื่อมาพิจารณา หากผู้ต้องขังคนไหนเข้าเงื่อนไข ก็จะนำมาติดกำไร EM และมีการประเมินแล้วว่าผลที่ได้รับออกมาดีมาก ในวันข้างหน้าเราอาจจะจัดหาเพิ่ม

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า มาตรฐานกำไลนี้จะเหมือนของศาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องการถอด หากมีการถอดจะถูกเพิ่มโทษและถูกส่งกลับเข้าเรือนจำ นอกจากนี้ผู้ที่ติดกำไล จะต้องมีการรายงานตัวอยู่เสมอ ในส่วนของผู้ต้องหาคดีร้ายแรง เช่น ฆ่าข่มขืน ตรงนี้เราจะไม่มีการลดโทษให้และจะไม่มีการใช้กำไลกับคดีเหล่านี้ ซึ่งตรงนี้จะต้องออกเป็นกฎหมายให้ชัดเจน โดยตนจะเข้าพบกับท่านอัยการสูงสุด เพราะตอนนี้มีกฎหมายกักกันตัวอยู่ฉบับหนึ่ง ซึ่งต้องหารือรายละเอียดเกี่ยวกับนักโทษที่คดีหนักๆ เราอาจจะต้องติดตามตัวอีกสัก 1-2 ปีด้วย เพื่อให้สังคมช่วยระวังกัน หากอัยการเห็นด้วยกับเรื่องนี้เราก็อาจจะออกเป็นกฎหมายได้

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1159935247010055449
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ยอดนักบิดไทยแชมป์ 3 สมัยซ้อนจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ทุบสถิติเวลาต่อรอบ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ทำลายสถิติเดิมตัวเอง พร้อมผงาดคว้าโพลโพซิชั่นครั้งที่สองในศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนาม 2 หวังทวงแชมป์ในสุดสัปดาห์นี้
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ OR BRIC Superbike Championship ( โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ) มีคิวดวลความเร็วสนาม 2 ของฤดูกาล วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ 8)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา รอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ในสนามที่ 2 ในรุ่นใหญ่ที่สุดประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (เอสบี1-เอสบี2) ซึ่งมีแชมป์ประเทศไทยเป็นเดิมพัน “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ 3 สมัยติดต่อกันจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ยังสร้างผลงานยอดเยี่ยม ทุบสถิติ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ตัวเองทำได้ลงอย่างราบคาบ คว้าโพลที่ 2 ของปีนี้ไปครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.103 วินาที (สถิติเดิม 1 นาที 35.238 วินาที)

ส่วนกริดที่ 2 เป็นของ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์สนามแรกจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.420 วินาที ตามด้วย “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก จีเอ็มที 94 ในกริดที่ 3 ตามหลัง 0.851 วินาที ด้าน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4
การลุ้นแชมป์ในคลาส ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (เอสบี1-เอสบี2) อยู่ในสถานการณ์ที่น่าสนใจอย่างมาก เมื่อ ฐิติพงศ์ และ อนุภาพ ไม่มีคะแนนจากสนามแรก และทั้งคู่ตั้งเป้าที่จะกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ให้ได้เร็วที่สุด โดยจ่าฝูงก่อนแข่งในสนามนี้เป็นของ อภิวัฒน์ มี 25 คะแนน ตามด้วย นครินทร์ ในอันดับ 2 ตามหลัง 5 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชัยวิชิต นิสกุล จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังจ่าฝูง 9 คะแนน

ส่วนไฮไลต์รุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี เอสที1 โพลสนามนี้ ชานนท์ ชุ่มใจ ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 38.614 วินาที เหนือกริดที่ 2 อย่าง สิรภพ พูลศรี ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต ทีม 0.398 วินาที ส่วนกริดที่ 3 รัชฎา นาคเจริญศรี ยอดนักบิดสาวจาก ตาล เรซซิ่ง คอนเน็ค ตามหลังหัวแถว 0.505 วินาที
รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ตำแหน่งโพลในสนามนี้ สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.181 วินาที เหนือ คณาทัต ใจมั่น คู่แข่งจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 อยู่ 0.652 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ นิติพงศ์ แสงสว่าง จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.819 วินาที
ขณะที่กริดสตาร์ทในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ตำแหน่งโพล วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด 1 นาที 47.620 วินาที เหนือ จิรายุ สายยนต์ นักบิดหนุ่มจาก คาวาซากิ โรนิน เรซซิ่ง ทีม กริดที่ 2 อยู่ 0.756 วินาที ส่วนกริดที่ 3 รัฐพงศ์ บุญเลิศ ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็มเอ็น8 น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ตามหลังหัวแถว 1.398 วินาที

ส่วนกริดสตาร์ทในรุ่น สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี (เอสพี. และ เอสพี จูเนียร์) ตำแหน่งหัวแถว นักบิดดาวรุ่งในคลาสจูเนียร์อย่าง ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก เอ๋ เซอร์วิส ทีซี เอ็นจิ้น ปื๊ด สะพานแดง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 51.277 วินาที ทิ้งห่างกริดที่ 2 อย่าง ชนะชัย บุญงาม จาก ยัวร์ เฮลเม็ต พิเรลลี ไทยแลนด์ ทีม ถึง 1.371 วินาที ด้านกริดที่ 3 เป็นของ ธนเทพ เทพแสน จาก อะไหล่ MN8 สปริงวาล์ว Promatt มานพ เซอร์วิส แปดริ้ว ตามหลัง 1.861 วินาที
นอกจากนี้ การแข่งขัน OR BRIC Superbike Championship 2020 สนาม 2 เดินหน้าแผนการขยายความนิยม ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านกล่อง MVBOX อย่าง สปป.ลาว รับชมทางช่อง MVL, เมียนมาร์ รับชมทางช่อง MVM และ กัมพูชา รับชมทางช่อง TV3 ถ่ายทอดสดไปสู่ประเทศอาเซียน เพื่อนบ้านของไทยเป็นครั้งแรก
สำหรับแฟนความเร็วในประเทศไทย บัตรเข้าชมการแข่งขัน ที่นั่ง Grandstand ราคา 100 บาท / 1 วัน ซื้อได้ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าทางขึ้น Grandstand สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ ส่วนผู้ชมทางบ้าน รับชมถ่ายทอดสดทาง True4U ช่อง 24 วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563 เวลา 14.30-17.00 น. หรือชม Live Streaming ทางเพจ Bric Superbike และ Chang Circuit Buriram และ Youtube : Bric Channel ตั้งแต่ เวลา 08.00 น.

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนเมืองไทย พี 80-ทรู หัวหิน ไทยแลนด์ คัพ 2020 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ที่ ทีบีซี สนุกเกอร์ เซนเตอร์ คลับ ซอยรามคำแหง 89/1  ผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบ 16 คน คนสุดท้าย ไปแข่งขัน สนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการที่ 5 “พี 80 หัวหินคัพ” วันที่ 14-19 กันยายน 2563 ที่ โรงแรมหัวหินแกรนด์ แอนด์ พลาซา ประจวบคีรีขันธ์
โดยวันสุดท้ายรอบคัดเลือก รัชโยธิน โยธารักษ์ ( เชค นครนายก) พบกับ ภาสกร สุวรรณวัฒน์ ( กร นครปฐม ) แชมป์ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคู่นี้สไตล์การเล่นค่อนข้างคล้ายคลึงกันมาก เน้นความแน่นอน “ช้าแต่ชัวร์” ต่างคนต่างรู้วิธีการเล่นซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี โดย 6 เฟรม เสมอกัน 3-3 ต้องตัดสินในเฟรมสุดท้าย และเป็น เชค นครนายก ที่แทงผิดพลาดมากกว่า จึงส่งผลให้ กร นครปฐม เบียดชนะไป 4-3 เฟรม

ส่วนผลคู่อื่น ธนวัฒน์ ถิรพงษ์ไพบูลย์ ชนะ นพดล นภจร (หนู ดาวดึงส์ ) 4-2 เฟรม เดชาวัต พุ่มแจ้ง (แจ๊ค สระบุรี ) ชนะ อภิสิทธิ์ หมู่มาก (โดม ศิษย์อิศ ) 4-0 เฟรม  พุธกานต์ ขิมสุข (พุธ รังสิต ) ชนะ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี ( หยิก สำโรง ) 4-3 เฟรม  บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล ( ไฟว์ นครนายก) ชนะ ณรงค์เดช ตาขันทอง (โฟน เนวาด้า ) 4-3 เฟรม  กอบกิจ พลาจิณ ( ชิม ศิษย์ต่าย ) ชนะ สุรเทพ ภูแฉล้ม (ช้าง ป่าโมกข์ ) 4-1 เฟรม บรรดิษฐ์ เขียวสุทธิ ชนะ พงศกร จงใจรักษ์ 4-3 เฟรม ยุทธภพ ภาคพจน์ (นุ้ก จันท์) ชนะ นคร ชาพล (โอ๋ โคราช ) 4-2 เฟรม อิศรา กะไชยวงษ์ (อิศ จันท์) ดีกรีแชมป์ปรแทศไทย 4 สมัย แพ้ ประมวล จันทร์ทัด (แมน เมืองสมุทร) แชมป์ประเทศไทย ปี 2555 ด้วยสกอร์ 3-4 เฟรม สจ๊วต แพทแมน (อังกฤษ) ชนะ มงคล จูยิ้ม 4-0 เฟรม นิธิวรรธก์ กาญจนศรี (นัท แปดริ้ว ) ชนะ ไพฑูรย์ ผลบุญ (ตัวเล็ก สำโรง ) 4-0 เฟรม พชร มาเยอะ ชนะ สุชาติ ภูฆัง 4-1 เฟรม
ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ประกอบด้วย ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ ( แมน นครปฐม ) เดชาวัต พุ่มแจ้ง ( แจ๊ค สระบุรี ) พุธกานต์ ขิมสุข ( พุธ รังสิต ) บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล ( ไฟว์ นครนายก ) กอบกิจ พลาจิณ ( ชิม ศิษย์ต่าย ) บรรดิษย์ เขียวสุทธิ ยุทธภพ ภาคพจน์ (นุ้ก จันท์ ) ประมวล จันทร์ทัด (แมน เมืองสมุทร ) จ๊วต แพทแมน (อังกฤษ) นิธิวรรธก์ กาญจนศรี (นัท แปดริ้ว ) พชร มาเยอะ ภาสกร สุวรรณวัฒน์ (กร นครปฐม)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “น้องของขวัญ” เพชรพราว เพชรพูล หนูน้อยวัย 9 ปี คว้าแชมป์เทควันโดพุมเซ่บีซ 2020 เป็นครั้งแรก ที่เมืองพัทยา ท่ามกลางนักกีฬาและเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 คน “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประมุขใหญ่ ยกนิ้วชื่นชมฝ่ายจัดการแข่งขันทำได้ดีเยี่ยม พร้อมพัฒนาให้เทียบเท่าประเภทเคียวรูกิ หรือ ต่อสู้
การแข่งขันเทควันโดพุมเซ่ รายการ “พัทยา เทควันโด พุมเซ่ บีซ 2020” รูปแบบใหม่ “นิวนอร์มอล” ครั้งแรกของเมืองไทย ภายใต้การรับรองจากสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ บริเวณชายหาดโรงแรมแอมบาสเดอร์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 500 คน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ พุมเซ่, ฟรีสไตร์พุมเซ่, เทควันโดแดนซ์ และ เทควันโดเบรกกิ้ง อายุตั้งแต่ 9 ปีไปจนถึงประชาชนทั่วไปทั้งชาย-หญิง โดยมี นายฐากูร ชวนะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมมีการถ่ายทอดสดทางช่อง ที สปอร์ต ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.
สำหรับไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจ พุมเซ่เดี่ยวหญิง อายุ 9 ปี เหรียญทอง “น้องของขวัญ” เพชรพราว เพชรพูล สโมสรดับเบิ้ลยูอาร์ซี, เหรียญเงิน กัญญานัตถ์ ทันวิบูลย์ ของไทเกอร์ ไทยแฟมิลี่ และ เหรียญทองแดง มัชตาชนก วงวันจันทร์ (ที เอ เอฟ แพร่) กับ นันนดา นำธงชัย (ไทเกอร์ ไทย แฟมิลี่) พุมเซ่เดี่ยวชาย อายุ 11 ปี เหรียญทอง กัณฑ์อเนก รักษ์แสงทอง จากสโมสรโซลชุมทาง เทควันโด, เหรียญเงิน อดุลวิทย์ อิศราเสนารักษ์ สโมสรแอดว้าน ทีเคดี และ เหรียญทองแดง ภิราภัทร ศรีเมือง กับ ดนิต คณิตอัศวัฒน์ (นนทบุรี ทีเคดี)

ส่วนเทควันโดเบรกกิ้ง (ชกกระเบื้อง)อายุ 15 ปีหญิง เหรียญทอง ชญานิศา บุญศิริ จากสโมสรเดอะเบส ไทเกอร์, เหรียญเงิน พรรณพัฒน์ ประเสริฐพงศ์ สโมสรเดอะเบส ไทเกอร์ และ เหรียญทองแดง ธนัชชาพร ศรีเทา แอดว้านซ์ ทีเคดี
“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ส่วนตัวต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีรวมไปถึง “บิ๊กแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ที่ให้ความร่วมมือและเตรียมงานมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะฝ่ายจัดการแข่งขันได้วางระบบต่างๆทั้งจุดคัดกรอง, การเว้นยะระห่าง, ระบบขนส่ง และ ที่พักสำหรับนักกีฬาโค้ชและเจ้าหน้าที่นับเป็นพันคน จนทำให้ศึกเทควันโดพุมเซ่บีซเกิดขึ้่นสำเร็จเป็นครั้งแรก แถมยังเป็นการชิงชัยในรูปแบบใหม่คือ “นิวนอร์มอล” เพื่อห่างไกลโรคโควิด-19 ภาพทุกอย่างที่ปรากฏออกมาในวันนี้จะเห็นได้ว่า กีฬาได้รับความสนใจและความร่วมมือจากสโมสรเทควันโดต่างๆทั่วประเทศ จึงได้ส่งนักกีฬายุวชนและเยาวชน ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกว่า 500 คน แสดงว่า ทุกอย่างเราเดินมาถูกทางแล้ว และตัวเองก็ต้องการพัฒนาเทควันโดพุมเซ่ให้สร้างชื่อเสียงโด่งดังในเวทีนานาชาติไม่แพ้ประเภทเคียวรูกิ หรือ ต่อสู้ แต่อย่างใด
ขณะเดียวกันสมาคมเรายังได้ส่ง “ลี นายอน” เฮดโค้ชพุมเซ่ทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ มาติดตามดูผลงานและความสามารถนักกีฬาทีมชาติว่า มีมาตรฐานและความสามารถดีมากน้อยแค่ไหน หรือ ใครฟอร์มตกอย่างใดบ้าง เพื่อเอาไปประกอบพิจารณาต่อไป นอกจากนี้เราก็ยังเปิดโอกาสให้กับนักกีฬาสายเลือดใหม่ที่สร้างผลงานดีในรายการนี้ได้มีโอกาสปูทางไปสู่แคมป์ทีมชาติต่อไปในอนาคต จึงขอเป็นกำลังใจให้กับเด็กๆทุกคนประสบความสำเร็จในครั้งนี้
ส่วนผลรุ่นอื่นดังนี้ พุมเซ่เดี่ยวหญิง 11 ปี ทอง ภูริดา ศิลาอ่อน (นนทบุรี ทีเคดี), เงิน ภิญาภัทร คนผิวเกลี้ยง (ไทเกอร์ ไทย แฟมิลี่), ทองแดง ปณิตา สิงการณ์ (แอดว้าน ทีเคดี), นดี สาวิกจินดา (ไทเกอร์ ไทย แฟมิลี่) พุมเซ่หญิงเดี่ยว 9 ปี ทอง กัลญภัทร ไหมเจริญ (ดับเบิ้ลยูซีอาร์) เงิน อดิศา ชัยชมวงศ์ (ดับเบิ้ลยูซีอาร์) ทองแดง ศุภการญ์ บัวมาศ (เดอะเบส ไฟท์เตอร์ ทีเคดี) กับ ศุภกิตตา ปัญญาไทราศ (ไทเกอร์ ไทย แฟมิลี่) พุมเซ่เดี่ยวหญิง รุ่น 12-14 ปี ทอง ชิมมณี รัตติกาลสุขา (ซีทีซี ชลบุรี) เงิน ดังกรนิตย์ โดทันอุพงศ์ (เชียงใหม่ ทีเคดี) ทองแดง ลลิตาวดี หาญศรีวิจิตรย์ (สิภากร จูเนี่ยร์)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ฉลามพลังเพลิง” ล้มทั้งยืนโดน มอภาคฯ เชือด 2-1 หลังเสี่ยงเล่นเพาเวอร์เพลย์ท้ายเกมในช่วงเสมอ 1-1 แต่มาพลาดนาทีสุดท้าย ทำให้แพ้เป็นนัดแรก ขณะที่ สุราษฎร์ธานี เจ๊า ห้องเย็นท่าข้าม 0-0
สุราษฏร์ธานี 0-ห้องเย็นท่าข้าม 0
ฟุตซอลไทยลีก 2020 เมื่อวันที่ 5 ก.ย.เป็นเกมนัดที่ 8 แข่งขันกันที่สนาม บางกอก อารีนา สุราษฎร์ธานี พบ ห้องเย็นท่าข้าม เกมนี้ทั้งคู่ต่างเล่นกันอย่างระมัดระวัง ไม่ผลีผลามกันเท่าไหร่ โอกาสเข้าทำมีกันน้อยครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลังรูปเกมไม่ต่างจากครึ่งแรก เกมแทบจะเล่นกันไม่ถนัด จังหวะจบก็ไม่เด็ดขาดพอ หมดเวลาคู่นี้เสมอกัน 0-0 แบ่งแต้มกันไป

มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 – พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 1
เกมระหว่างจ่าฝูง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ชนะมา 7 นัดรวด พบกับ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกมนี้ น.9 มอภาคฯ มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก ชัยพงษ์ อัญญโพธิ์ ที่ตวัดยิงเข้าสามเหลี่ยมสวยงาม ทัพ “ฉลามพลังเพลิง” มาตีเสมอได้ต้องรอถึงครึ่งหลัง น.26 ศุภกร บวรรัชฏากุล ซัดนอกเขตเสยคานบน 1-1 แข้งฉลามโหมหนัก จน 3 นาทีท้ายตัดสินเล่นเพาเวอร์เพลย์ และนาทีสุดท้ายมาพลาด จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ไปยิงชนคานบอลกระเด้งลงมาเข้าทาง อรุณโรจน์ สุโพธิ์ ตวัดยิงไกลเข้าไป จบเกมมอภาคฯ พลิกชนะ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม ส่วนพีทีที บลูเวฟ แพ้นัดแรกยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ เคารพในการตัดสินใจของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยบางคน ที่ถอนตัว ไม่ขอเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตัน โธมัส-อูเบอร์คัพ 2020 วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่เดนมาร์ก โดยที่ผ่านมา ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า สหพันธ์แบดมินตันโลก มีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง และระหว่างแข่งขัน แต่ทั้งนี้ ก็ได้ให้โอกาส ตามความสมัครใจ ด้วยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นอย่างดี โดยรายชื่อนักกีฬาทั้งหมด สมาคมฯ ส่งให้ สหพันธ์ฯ ไปแล้ว จะต้องแจ้งเปลี่ยนชื่อต่อไป กรณีเปลี่ยนได้ จะนำนักกีฬาลำดับอื่น ไปร่วมแข่งขันแทน และนักกีฬายินดีที่จะไป แต่หากไม่สามารถเปลี่ยนได้ จำนวนนักกีฬาจะไม่พอ ทำให้อาจต้องถอนทีมไปโดยปริยาย
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สมาคมฯ เคารพ ในการตัดสินใจของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยบางคน ที่ถอนตัว ไม่เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตัน ประเภททีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก โธมัส-อูเบอร์คัพ 2020 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่เมืองออร์ฮุส เดนมาร์ก
โดยที่ผ่านมา สมาคมฯ โดยฝ่ายพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ได้แจ้งให้นักกีฬา ทั้งที่สังกัดสมาคมฯ และสังกัดสโมสรต่าง ๆ ซึ่งได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งขันในครั้งนี้ รวมถึงผู้ฝึกสอนทราบแล้วว่า สหพันธ์ฯ มีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง และระหว่างแข่งขัน จะมีการตรวจแบบเข้มงวดถี่มาก

โดยแนวทางปฏิบัติหลัก สหพันธ์ฯ จะดำเนินการออกไอดีการ์ด หรือบัตรประจำตัวสำหรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมในการแข่งขันทุกคน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสีเขียว, สีส้ม และสีแดง เฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มสีเขียว คือ กลุ่มนักกีฬา เจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมในการแข่งขัน ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขัน โดยผู้ที่จะได้รับการจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในกลุ่มสีเขียว ต้องได้รับการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง และนำผลตรวจยืนยันการปลอดเชื้อ ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทันทีที่เดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเข้าสู่พื้นที่โรงแรมที่พัก สนามฝึกซ้อม และสนามแข่งขัน ซึ่งถือเป็นนพื้นที่ควบคุมตามมาตรการการป้องกันของสหพันธ์ฯ ระหว่างการแข่งขัน ก็จะมีการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวต่อว่า ได้ให้โอกาส ตามความสมัครใจของนักกีฬา และผู้ฝึกสอน ด้วยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นอย่างดี ตลอดจนสมาคมฯ ได้ประสานการปฏิบัติกับกระทรวงการต่างประเทศ และเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเดนมาร์ก ในเรื่องของการอำนวยความสะดวกและดูแล เรื่องความปลอดภัยของนักกีฬาและทีมงานที่จะเดินทางไปแข่งขันแล้วเป็นอย่างดี โดยรายชื่อนักกีฬาทั้งหมด สมาคมฯ ได้ส่งให้ สหพันธ์ฯ ไปแล้ว สมาคมฯ จะต้องแจ้งเปลี่ยนชื่อนักกีฬาต่อไป กรณีเปลี่ยนได้ จะนำนักกีฬาลำดับอื่น โดยพิจารณาจากอันดับโลก และผลงานจากรายการโตโยต้าชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งล่าสุด ไปร่วมแข่งขันแทน โดยนักกีฬาต้องยินดีที่จะไปด้วย แต่หากไม่สามารถเปลี่ยนได้ จำนวนนักกีฬาไม่พอ ทำให้อาจต้องถอนทีมไปโดยปริยาย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์