วันศุกร์, กันยายน 20, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1984

อิ่มบุญมอบรองเท้าให้นักเรียน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=2915
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ททท. ประกาศผล 10 สุดยอดทริปเอาใจสายเที่ยว Gen Y

0

http://www.natethip.com/news.php?id=2914
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

เอเชียประกันภัย จับมือ เก็ทอินชัวร์ และ โคโรเนทโบรกเกอร์ เปิดตัวประกันรถยนต์แนวคิดใหม่ “เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เอเชียประกันภัย ร่วมกับ เก็ทอินชัวร์ และ โคโรเนทโบรกเกอร์ เปิดตัว ประกันรถยนต์แนวคิดใหม่ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ได้แก่ พลัสสะออนประกันผ่อนพิมพ์ไทยได้, 2พลัส ระยะสั้น, ประกันยืนหนึ่งพลัส และ ยืนหนึ่งคู่กระบะ ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี เปิดจำหน่ายออนไลน์ผ่าน https://get-insure.com ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้ “ ปรางค์ อภินรา ศรีกาญจนา” ตัวแทนบริษัทฯ มาร่วมสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่ให้กับ ประกันพลัสสะออน ตั้งเป้ากวาดรายได้ 100 ล้านบาทในปีแรกนายจุลพยัพ ศรีกาญจนา ประธานคณะกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า “เอเชียประกันภัย ในฐานะผู้นำด้านประกันภัยรถยนต์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่สู่วงการประกันภัย เพื่อมอบบริการที่ให้ความคุ้มค่า สมัครง่ายและสะดวกแก่ลูกค้า ล่าสุดร่วมกับ โคโรเนทโบรกเกอร์ และ เก็ทอินชัวร์ ขยายบริการการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ประกันรถยนต์แนวคิดใหม่ พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก ประกอบด้วย พลัสสะออนประกันผ่อนได้, 2พลัส ระยะสั้น, ประกันยืนหนึ่งพลัส และ ยืนหนึ่งคู่กะบะ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่ https://get-insure.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป“สำหรับ การเปิดตัว ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก ในครั้งนี้ ยังได้ “ปรางค์ อภินรา ศรีกาญจนา” ในฐานะผู้บริหารและตัวแทนคนรุ่นใหม่ มาร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย สะท้อนการบริการที่คุ้มค่าตอบโจทย์คนยุคปัจจุบัน ลงในสื่อประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ ให้แก่ บริษัทฯ อีกด้วย ”นายสุรเดช จงยิ่งศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโรเนทโบรกเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น การได้จับมือกับ เอเชียประกันภัย ผู้นำด้านประกันภัยรถยนต์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับความน่าเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้ามายาวนาน และ อีสแอมอาร์ ดอทเน็ท ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ โดยมีฐานข้อมูลการสำรวจความต้องการของคนรุ่นใหม่ ว่ามีความต้องการใช้ประกันภัยรถยนต์ในรูปแบบใดบ้าง และได้นำมาจัดสรรแผนประกันให้ตอบโจทย์โดนใจ ทำให้มั่นใจว่า ยอดขาย ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ผ่าน https://get-insure.com จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ตั้งเป้ารายปี 2563 นี้ ไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และ จะเติบโตอีกประมาณ 30% ในปีหน้านายจักรพันธ์ พวงแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสแอมอาร์ ดอทเน็ท จำกัด กล่าวว่า “ เก็ทอินชัวร์ หรือ https://get-insure.com เป็น Online Insurance Platform ที่ให้บริการภายใต้แนวคิด “แผนประกันง่ายๆ คุ้มๆ เก็ท เลือกให้” คัดเฉพาะแผนประกันที่คุ้มค่าและมีจุดเด่น โดยขจัดความยุ่งยากของแผนประกันออกไป ทำให้เงื่อนไขเข้าใจง่ายและง่ายต่อการตัดสินใจเลือก “ไม่ว่าจะเลือกแบบประกันไหน ก็ได้แต่ของดี” ที่สำคัญช่วยให้วางแผนการเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในยุคโควิดได้อย่างมั่นใจ โดย เก็ทอินชัวร์ จะเลือกเฉพาะแผนที่น่าสนใจที่มีอยู่ในตลาดมานำเสนอ และมี Innovative Product ใหม่ๆ ที่เป็น Exclusive Product เฉพาะบนเว็บ เก็ทอินชัวร์ เท่านั้น สำหรับ ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” คือ Exclusive Product อีกหนึ่งบริการที่มอบให้แก่ลูกค้าผ่าน “เก็ทอินชัวร์” เท่านั้น ซึ่งมีให้ครบ ทั้งทางเลือกที่เหนือระดับและความคุ้มค่า เพื่อมอบให้กับลูกค้าทุกคน ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี สำหรับ ประกันรถยนต์ “พลัสสะออน ประกัน 4 ทางเลือก” ภายใต้แนวคิด เข้าใจง่าย แบ่งจ่ายได้ เงื่อนไขดี โดยมีรายละเอียดดังนี้

• พลัสสะออนประกันผ่อนได้ ประกันภัยชั้น 1 ผ่อนได้ 3 เดือน ชำระเบี้ยเพียงเดือนละ 1,950 บาท ทุนประกันคุ้มครอง 100,000 บาท ที่สำคัญ “ไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้” (ค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท)

• 2 พลัส ..ระยะสั้น ประกันภัย แผนความคุ้มครองราย 3 เดือน คุ้มครองคล่องตัว รถยนต์ ราคา 1,300 บาท รถกระบะ หรือรถตู้ ราคา 1,600 บาท ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ รถหาย ไฟไหม้ สามาถทำประกันได้ทุกคัน เพราะ ” ไม่จำกัดอายุรถ”

• ประกันยืนหนึ่งพลัส ประกันภัยชั้น 1 มอบความสบายใจให้มากกว่าเดิม ด้วยความคุ้มครองแบบเต็มทุน ที่ให้ลูกค้าผ่อนจ่ายสบายๆ ราย 3 เดือน “สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสภาพรถ” (แค่แนบแบบประกันเดิมที่ยังไม่หมดอายุ)

• ยืนหนึ่งคู่กะบะ มอบประกันภัยราคาพิเศษให้กับรถกระบะ ทะเบียนต่างจังหวัด ก็สามารถทำประกันได้

พร้อมบริการ “จองโปรฯ ดีก่อนประกันหมด” โดยสามารถจ่ายเงินจองประกันในแบบต่าง ๆ ก่อนล่วงหน้าได้ 6 เดือน พบ 4 แผนประกันง่ายๆ กับความคุ้มครองอัพเกรด จากเอเชียประกันภัย เก็ทอินชัวร์ และ โคโรเนทโบรคเกอร์ ที่มั่นใจว่าจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายและความคุ้มครองเร้าใจที่สุด

Landing Page
• พลัสสะออน bit.ly/p-PlusSaorn
• ประกันยืน 1 bit.ly/p-Yuen1
• ยืน 1 คู่กระบะ bit.ly/p-Yuen1PickUp
• 2+ ระยะสั้น http://bit.ly/p-CarCo2:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

SACICT เปิดรันเวย์ประชันไอเดีย “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” เฟ้นสุดยอดดีไซเนอร์รุ่นใหม่ปลุกกระแสแฟชั่นผ้าไทย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่่อข่าวรายงานว่าศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดกิจกรรมสุดสร้างสรรค์
SACICT AWARD 2020 ประชันไอเดีย “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” ครั้งแรกในประเทศไทย เฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบหน้าใหม่ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และสร้างสรรค์แฟชั่นเครื่องแต่งกายจากผ้าไทยให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนทุกเจเนอเรชั่น เผยกระแสตอบรับล้นหลามจากนักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมส่งผลงานกว่า 300 ชิ้นงาน พร้อมคัดเลือก 50 สุดยอดผลงานจากทั้ง 5 ประเภท พร้อมนำเสนอ 50 ผลงาน บนรันเวย์การประกวดในรอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท พร้อมชมการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจากแบรนด์ชั้นนำ ในวันที่ 22 กันยายน 2563 นี้ เวลา 13.00-16.00 น. ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อวันที่  1 กันยายน 2563 ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ได้จัดงานแถลงข่าว การประกวด“ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” โดยได้รับเกียรติจาก นายอดิศักดิ์ จันทร์วิทัน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินการประกวด ดร.หญิงฤดี ภูมิศิริรัตนาวดี ผู้ก่อตั้งยุทธศาสตร์ทุนคนไทย (Thainess Capital), รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) ระพี ลีละสิริ ดีไซเนอร์และเจ้าของ
แบรนด์ ระพี ลีลา, นายอธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Surface, อาร์ต-อารยา อินทรา สไตลิสต์และดีไซเนอร์ และนายเฉลิมเกียรติ คติเกษมเลิศ เจ้าของแบรนด์ Wonder Anatomie เสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่ 4minute เกิร์ลกรุ๊ป จากประเทศเกาหลีใส่ถ่ายปกอัลบั้ม ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “ร้อยพันเรื่องราว ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” ก่อนจะปิดท้ายด้วยแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจาก โบว์-เมลดา สุศรี ศิลปินดาราจากช่อง 3 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ
นายอดิศักดิ์ จันทร์วิทัน รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) เปิดเผยว่า SACICT
เป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่คุณค่าความเป็นไทยสู่สากลผ่านผลงานศิลปหัตถกรรม เพื่ออนุรักษ์คุณค่าแห่งศิลปาชีพและต่อยอดมูลค่าเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานด้านศิลปาชีพและงานศิลปหัตถกรรมไทยในแต่ละท้องถิ่นซึ่งล้วนเป็นความงดงาม
อันทรงคุณค่ายิ่งของแผ่นดินไทย เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศและในเวทีโลกได้สัมผัสและตระหนักถึงคุณค่าแห่งความเป็นไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสังคม มีความเป็นสากลและคงอยู่คู่กับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน
SACICT ได้จัดการประกวด “ผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถได้นำเสนอแนวคิดการสร้างสรรค์ผลงานศิลปหัตถกรรม ประเภทแฟชั่นและเครื่องแต่งกาย โดยมุ่งเน้น การผสมผสานองค์ความรู้ และภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทยเข้ากับทักษะการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายผ้าไทยในรูปแบบหัตถกรรมร่วมสมัยให้สอดรับกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน และนำไปสู่การเชื่อมโยงผลงานสู่ภาคอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ตลอดจนช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่างานผ้าศิลปาชีพ รวมทั้งผ้าไทยทอมือประเภทต่างๆ จากทั่วประเทศ โดยในการประกวดแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

1.ประเภทชุด Finale 2.ประเภทชุด Baby Boomer 3.ประเภทชุด Generation X 4.ประเภทชุด Generation Y และ 5.ประเภทชุด Generation Z
โดยการนำเสนอจุดเด่นและคุณค่าของผ้าศิลปาชีพ รวมทั้งผ้าไทยทอมือจากแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศไทยมาใช้เป็นวัสดุหรือวัตถุดิบหลักในการนำเสนอแนวคิดการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายให้มีความโดดเด่น ประณีต งดงาม คงความเป็นเอกลักษณ์ และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างร่วมสมัย ตอบโจทย์ความต้องการคนในทุกเจเนอเรชั่น เพื่อชิงเงินรางวัล มูลค่ารวมกว่า 700,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
“การจัดประกวดผ้าไทยใส่ได้ทุก GEN ได้กระแสตอบรับดีมากๆ โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวนกว่า 300 ผลงาน จึงถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญที่จะเชื่อมโยงและจุดประกายไอเดียให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจผ้าไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ SACICT ในการส่งเสริมการนำผ้าไทยซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิต
คนในทุกๆ เจเนอเรชั่น ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ของนักออกแบบที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้นำผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า
เครื่องแต่งกายที่มีความร่วมสมัย สวมใส่ได้ทุกโอกาส ซึ่งจะเกิดประโยชน์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เนื่องจากเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชน เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนทั่วประเทศ โดย SACICT จะพัฒนาและต่อยอดผลงานจากการประกวดสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งในระดับประเทศและระดับสากลต่อไป” นายอดิศักดิ์ กล่าวสำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวด “ผ้าไทยใส่ได้ทุก Gen” ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้ชมการแสดงแฟชั่นโชว์ทั้ง 50 ผลงาน โดยนายแบบและนางแบบจำนวน 50 คน บนรันเวย์การประกวดในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยจากแบรนด์ชั้นนำ โดยศิลปินดาราชื่อดัง อาทิ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ และตั๊ก-นภัสกร มิตรธีรโรจน์ ในวันอังคารที่ 22 กันยายนศกนี้ เวลา 13.00-16.00 น. ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิเศษ!
สำหรับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รับ “เข็มกลัดผ้าไทย”(จำนวนจำกัด) สนใจลงทะเบียนได้ที่ Line ID : SACICTAWARD :Cr;มณสิการ รามจันทร์

อาร์แบคจัดโครงการพี่สอนน้อง “ดร.ประเวศ” หนุนต่อเนื่อง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// มหาวิทยาลัยรัตนบัณทิตจัดโครง​การคลีนิคพี่สอนน้องพวกเราชาว RBAC ครั้งที่ 1 ที่ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต โดยเป็นการรวมรุ่นพี่นัก

ฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอาทิ ธนิศร์ อารีย์สง่ากุล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย,​สาธิต เบ็ญโส๊ะ ผู้ฝึกสอนฟุตบอลสุราษฎร์ธานี,​ รักษ์พล สายเนตรงาม ผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย และกวินวัฒน์ เรือนบุรี เจ้าของเสื้อกีฬา I am sport , รุ่งโรจน์ สว่างศรี ผู้ฝึก​สอนฟุตบอลขอนแก่น เอฟซี และได้มอบลูกฟุตบอลไว้ให้กับรุ่นน้องใช้ฝึกซ้อมอีกด้วย
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านอธิการบดี รศ.ดร.ประเวช รัตนเพียร ให้จัดกิจกรรมเผยว่า​ “การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับ นักกีฬารุ่นน้องและรุ่นพี่ได้พบปะพูดคุยกัน​ โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องทักษะเกมกีฬาของตัวเองเพื่อพัฒนาต่อยอดต่อไปในอนาคต​ เชื่อว่าการจัดคลีนิคพี่สอนน้องจะดำเนินกันทุกปีอย่างต่อเนื่องและให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด”

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

Airbnb ลงMOUกรมการพัฒนาชุมชน ชูแคมเปญ Meet Thailand’s Villages เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ผนึกกำลังครั้งใหญ่ ขับเคลื่อนท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี สู่สายตาทั่วโลก นำร่องแคมเปญใน 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ เชียงใหม่ สมุทรสงคราม และเลย พร้อมแสดงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก โดย Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชนยังเฟ้นหาชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อร่วมเป็นผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญดังกล่าวต่อไปจนถึงสิ้นปีAirbnb แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) สังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและนำเสนอท่องเที่ยวชุมชนที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นของไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักผ่านแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก ต่อยอดแคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่” หรือ “Meet Thailand’s Villages, Beyond Big Cities initiative” โดยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้เดินตามรอยความสำเร็จของแคมเปญทางการตลาด “นอกเหนือจากเมืองใหญ่” ที่ Airbnb เปิดตัวในประเทศไทยปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการโปรโมทจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ที่ชูโรงท่องเที่ยวชุมชนอย่างจังหวัดบุรีรัมย์ และสระบุรีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า “แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง Airbnb ช่วยเปิดโอกาสให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้แสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมชุมชนอันโดดเด่นของประเทศไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ในนามของกรมการพัฒนาชุมชนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ Airbnb ซึ่งเราจะยังเดินหน้าเสริมแกร่งชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อช่วยให้ทุกชุมชนได้รับประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง” นางอานิต้า รอธ ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์และนโยบาย Airbnb กล่าวว่า “Airbnb
มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดทำแคมเปญนี้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเปิดโอกาสให้ชุมชนแต่ละท้องถิ่นได้นำเสนอวิถีชีวิต และวัฒนธรรมในแต่ละท้องที่ให้กับคนทั่วโลกผ่านเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ของ Airbnb
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้การท่องเที่ยวเดินทางทั่วโลกได้ถูกจำกัด แต่ Airbnb ยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและชุมชนเพื่อสร้างสรรค์ และร่วมกันหาทางออกเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยมุ่งกระจายผลประโยชน์ไปยังชุมชนทั่วประเทศ”ขับเคลื่อนผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่นเฟสแรกของแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก” จะเป็นการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ โดยตัวแทนของชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลายของประเทศไทย ผ่านทาง เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ ของ Airbnb ซึ่งได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวมา โดยเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ เป็นช่องทางที่ช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นสร้างรายได้ จากการที่นักเดินทางนับล้านทั่วโลกสามารถเข้าร่วมเปิดประสบการณ์ผ่านออนไลน์ได้จากที่บ้าน ในช่วงที่สถานการณ์ของการท่องเที่ยวเดินทางยังไม่กลับเป็นปกติAirbnb ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อสรรหาชุมชนท้องถิ่นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ โดยชุมชนท้องถิ่น 5 แห่งแรกที่จะนำร่องการนำเสนอท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถีสู่ตลาดโลก ได้แก่
• จากมหาสมุทรสู่โต๊ะอาหาร ติดตามชีวิตชาวประมงแสนสนุก (บ้านปากมาบ สมุทรสงคราม)
• สัมผัสเครื่องปั้นดินเผาด้วยมือจากครูช่างล้านนา (บ้านเหมืองกุง เชียงใหม่)
• เยี่ยมชมถนนสายเครื่องเงินของภาคเหนือ (บ้านวัวลาย เชียงใหม่)
• ค้นพบหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ (บ้านนาป่าหนาด เลย)
• วิถีชีวิตชาวเลบ้านไหนหนัง (บ้านไหนหนัง กระบี่)

เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ที่จัดโดยชุมชนนวัตวิถีไทยเหล่านี้จะเป็นรายการล่าสุดของเอ็กซ์พีเรียนซ์กว่า 700 รายการทั่วโลก หลังจากที่ Airbnb เปิดตัวเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เสริมแกร่งชุมชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นอกเหนือจากการโปรโมทการท่องเที่ยวในชุมชนแล้ว ความร่วมมือระหว่าง Airbnb กับกรมการพัฒนาชุมชน ยังรวมถึงการผลักดันและเสริมศักยภาพให้กับชุมชนท้องถิ่น ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็น
การดำเนินแคมเปญอย่างต่อเนื่อง Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชน ยังคงดำเนินการคัดเลือกชุมชนในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยที่สามารถโปรโมทวิถีชุมชนจากการจัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Airbnb จนถึงสิ้นปีนี้

ความร่วมมือระยะยาวนี้รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ (e-learning) ผ่านแหล่ง ข้อมูลออนไลน์ ซึ่งจัดทำเป็นภาษาไทยเพื่อให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ในชุมชนท้องถิ่น นอกจากนั้น Airbnb จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ของกรมการพัฒนาชุมชนและนักการตลาดของกรมฯ ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งให้ความช่วยเหลือชุมชนที่ต้องการโปรโมทและขายสินค้า OTOP บนช่องทางออนไลน์ และยังสามารถต่อยอดความรู้นำไปสร้างสรรค์กิจกรรมและพัฒนาชุมชนเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวต่อไปได้อีกด้วยทั้งนี้ รายงานวิจัยล่าสุดของอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) ชี้ว่า Airbnb มีส่วนช่วยสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2562 ถึง 4.37 หมื่นล้านบาท และสำหรับยุคหลังโควิด-19
การท่องเที่ยวชุมชนอันมีเอกลักษณ์บนแพลตฟอร์ม Airbnb จะเป็นพลังสำคัญในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการเป็นพันธมิตรกับกรมการพัฒนาชุมชนครั้งนี้นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Airbnb ในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย ชุมชนท้องถิ่น เจ้าของที่พักและผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ รวมถึงนักเดินทางทุกคนอีกด้วย

สำหรับ Airbnb Airbnb เป็นหนึ่งในตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับที่พักและเอ็กซ์พีเรียนซ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยให้บริการที่พักกว่า 7 ล้านแห่ง และมีเอ็กซ์พีเรียนซ์ที่จัดเตรียมอย่างดีกว่า 50,000 รายการ ซึ่งล้วนขับเคลื่อนด้วยเจ้าของที่พักและผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ในท้องถิ่น Airbnb เปรียบเสมือนเครื่องมือเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการให้เช่าที่พักและผู้จัดประสบการณ์นับล้านคนสร้างรายได้จากที่พักและความชอบของตน ซึ่งทำให้ชุมชนได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอีกด้วย Airbnb ได้ต้อนรับจำนวนผู้เข้าพักมากกว่า 500 ล้านคนตั้งแต่เปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน และให้บริการแพลตฟอร์มที่รองรับถึง 62 ภาษาในประเทศและภูมิภาคต่างๆ มากกว่า 220 ประเทศ จึงทำให้ Airbnb ส่งเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ชุมชน และความไว้วางใจไปทั่วโลก สามารถติดตามข่าวสารของ Airbnb ภาคภาษาไทยได้ที่ https://news.airbnb.com/th/:Cr;มณสิการ รามจันทร์

เยาวชนอายุ 6 ปี ดวลศึกเทนนิส 10s ชิงแชมป์ปทท.ปีแรกคึกคัก เชื่อขยายฐานสร้างนักหวดไทย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ตามที่สมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันเทนนิส รายการ ” Tennis 10s ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2020 ” รุ่นอายุไม่เกิน 6 ปี ขึ้นเป็นครั้งแรก วันที่ 5 – 6 กันยายนนี้ ที่ สนามเซ็นเตอร์คอร์ท ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี
ล่าสุด นายไทยทนุ วรรณสุข เลขาธิการสมาคมกีฬาเทนนิสฯ กล่าวถึงการแข่งขันรายการดังกล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้สมาคมได้จัดการแข่งขันเทนนิสเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประชาชนทั่วไปแล้ว กำลังจะจัดการแข่งขันเทนนิสเยาวชน เพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย แข่งขันของเยาวชนตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 8 – 18 ปี แต่ก็ยังมีเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่ง มีอายุต่ำกว่า 8 ปี งไม่มีเวทีแข่งขัน เนื่องจากเป็นกลุ่มเด็กเล็กที่เพิ่งหัดเล่นกีฬาเทนนิส เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างขวัญกำลังใจ และกระตุ้นให้เยาวชนกลุ่มนี้มีใจรักและอยากพัฒนาฝีมือการเล่นเทนนิสต่อไปในอนาคต สมาคมฯ จึงจัดการแข่งขัน” Tennis 10s ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2020 ” ขึ้นมาเป็นครั้งแรก
“เทนนิส 10s ป็นการสร้างพื้นฐานการเล่นเทนนิสสำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 10 ปี ได้อย่างดี เพราะเล่นง่ายใช้ลูกบอลที่นิ่ม เด้งต่ำและช้า สนามและไม้เทนนิสเล็กลง เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งพื้นฐานการตีและรูปแบบการเล่นเกมส์ ที่หลากหลาย เริ่มต้นด้วยเสิร์ฟ ตีโต้ไปเรื่อย ๆ และหาจังหวะทำแต้ม มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องแต่ไม่ไกลหรือยากเกินความสามารถ ซึ่งปัจจุบันในเมืองไทยมีกลุ่มผู้ฝึกสอนเยาวชนเหล่านี้ และมีการขยายฐานลงไปสอนในโรงเรียนต่าง ๆ มากขึ้น และเพื่อสนับสนุนเยาวชนเหล่านี้มีขวัญกำลังใจ แรงกระตุ้นที่จะพัฒนาฝีมือการเล่นกีฬาเทนนิส สมาคมฯจึงเห็นสมควรให้จัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สำหรับกลุ่มเยาวชนเหล่านี้”
แม่บ้านสมาคมกีฬาเทนนิสฯ กล่าวอีกว่า หลังจากสมาคมระกาศจัดการแข่งขัน และเปิดรับสมัครมาก็มีกระแสตอบรับที่ดีมาก มีผู้ปกครองมาสมัครส่งบุตรหลานลงแข่งขันจำนวนมาก ทำให้ในอนาคตก็จะขยายรุ่นอายุทั้งไม่เกิน 8 ปี และไม่เกิน 10 ปี รวมถึงอาจจะเปิดเวทีแข่งขันให้มีมากขึ้นด้วย
“เทนนิส 10s ถือเป็นก้าวแรกให้เยาวชนหันมาสนใจในกีฬาเทนนิส ตามนโยบายของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ เองก็มีจุดประสงค์ที่จะให้เด็กเล็ก ๆ เข้าถึงการเล่นเทนนิสมากขึ้น แต่การจะไปฝึกซ้อมเทนนิสเลยอาจจะเป็นการยากและหนักเกินไปด้วยข้อจำกัดเรื่องอุปกรณ์และสนาม แต่เทนนิส 10s ใช้สนามที่เล็กลง อุปกรณ์ก็ไม่เป็นอันตราย เด็ก ๆ เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยสร้างพื้นฐานการเล่นเทนนิสได้อย่างดี และเด็ก ๆ ก็มีความสุข สนุกสนานกับการเล่น และผมเชื่อว่าเมื่อมีเวทีให้เด็กเหล่านี้ได้ลงแข่งขันจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ แรงจูงใจ และกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้มีกำลังใจพัฒนาการเล่นกีฬาเทนนิสให้ดีมากยิ่งขึ้นแน่นอน” นายไทยทนุ กล่าว

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สุพรรณบุรี พร้อมจัดสองล้อ ศึกบีเอ็มเอ็กซ์-เสือภูเขา -ปั่นเพื่อชีวิต

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ชูชีพ พงษ์ไชย” รอง ผวจ.สุพรรณบุรี ชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ วางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้อย่างยอดเยี่ยมและมีความเป็นมืออาชีพ มั่นใจจัดศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย วันที่ 5-6 กันยายน ที่ สนามเสมอกันเซอร์กิต และเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) รวมทั้ง “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราขชทานฯ วันที่ 12-13 กันยายน ที่ อ.ดอนเจดีย์ ได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งยืนยันสนับสนุนเต็มที่ และขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่เป็นต้นแบบ จัดการแข่งขันกีฬาอื่น ๆ ที่ จ.สุพรรณบุรี เป็นเจ้าภาพต่อไปในอนาคต

นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานการประชุมเตรียมจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 2 และ 3 วันที่ 5-6 กันยายน ที่ สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วยการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 1 วันที่ 12-13 กันยายน ที่ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี

พลเอกเดชา กล่าวว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมกับ จังหวัดสุพรรณบุรี จัดการแข่งขันจักรยาน 2 รายการใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ สมาคมฯ ได้จัดทำเอกสารและวีดีทัศน์แผนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นำเสนอไปยัง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ซึ่งเราจัดแข่งขันในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal โดยยึดมาตรการหลัก 5 ข้อของ ศบค. อย่างเคร่งครัด
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า การจัดแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ครั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะปิดกั้นพื้นที่ 100% มีการเข้า-ออกทางเดียว แล้วอนุญาตให้เข้าสนามเฉพาะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งแต่ละทีมต้องส่งรายชื่อนักกีฬา พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำทีมในสัดส่วนนักกีฬาไม่เกิน 3 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน รวมทั้งการแข่งขันเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ก็จะปิดพื้นที่ 100% เช่นเดียวกัน จะอนุญาตเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมการ

แข่งขันเข้าภายในพื้นที่ นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนจะเข้าสนามแข่งขันต้องผ่านจุดคัดกรองที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดตั้งเอาไว้ที่หน้าสนาม เริ่มจากการตรวจสอบรายชื่อ จากนั้นจะผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โม สแกน, การลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”, รับไอดีการ์ด, ผ่านการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจักรยาน พร้อมกับติดสติกเกอร์บนรถจักรยาน ก่อนจะเข้าไปภายในสนาม นอกจากนี้เมื่อแข่งจบแล้วจะไม่มีพิธีมอบรางวัล โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดตั้งแท่นรับรางวัล ซึ่งวางพานที่มีถ้วยรางวัล เหรียญรางวัล ใบประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัล ให้นักกีฬาไปหยิบเอง ในการจัดแข่งขันทุกรายการ สมาคมกีฬาจักรยานฯ หวังสร้างนักกีฬาเยาวชนให้เกิดขึ้นมาประดับวงการ นอกจากนั้นก็ยังมุ่งหวังเรื่องการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น
ด้าน นายชูชีพ พงษ์ไชย กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรี ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันทุกรายการ โดยทุกหน่วยงานในจังหวัดก็ พร้อมที่ดำเนินการตามที่สมาคมฯ ขอความอนุเคราะห์มา ทั้งสาธารณสุขจังหวัด, กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี, โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช, มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี, โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี, อพปร., มูลนิธิ, อำเภอเมืองสุพรรณบุรี, อำเภอดอนเจีดีย์, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ
ทั้งนี้ นักกีฬาที่ต้องการสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 และ 3 สมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th โ ปิดรับสมัครในวันที่ 3 กันยายน ก่อนเวลา 12.00 น. ส่วนการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” จะปิดรับสมัครวันที่ 10 กันยายน ก่อนเวลา 12.00 น. (ทุกรายการจะไม่รับสมัครที่หน้างาน) หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“บอลยูลีกหญิง ออกสตาร์ท 4 ก.ย. เปิดตัว “โกแฮร์”สปอนเซอร์หลัก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ​บอลยูลีกหญิงคัมแบ็ก ประเดิมสนาม วันที่ 4 ก.ย.นี้ “เจ้าภาพ” สวนสุนันทา ดวล มกช.ชลบุรี เอ็นบีที 2 เอชดี ถ่ายทอดสด 15.00 น. พร้อมเปิดตัว “ผ่องพรรณ ไพพรรณรัตน์” หญิงแกร่งเจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “โกแฮร์” เป็นประธานจัด นำทีมพลังหญิงร่วมผลักดันการแสดงความสามารถด้านต่างๆ ของสาวไทย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ดร.ผ่องพรรณ ไพพรรณรัตน์ ประธานบริษัท ไพพรรณรัตน์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในเครือไพพรรณรัตน์กรุ๊ป ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 หรือ “ยูลีกหญิง” ชิงเงินรางวัลรวม 1,735,000 ล้านบาท ที่จัดขึ้นโดยหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬาฟุตบอลอาชีพ วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เป็นประธานการแถลงข่าวความคืบหน้าของการจัดการแข่งขัน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4 ก.ย. – 25 ธ.ค.นี้
โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมถึง 2 นักเตะทีมชาติไทย “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่กำลังศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬาฟุตบอลอาชีพ ด้วย
ดร.ผ่องพรรณ กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ที่มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาฝีเท้าและความสามารถ ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงของประเทศไทย อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ด้วยการกิจกรรมการเล่นกีฬา ที่จะนำไปสู่การห่างไกลจากยาเสพติด อันจะเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งของการพัฒนาสังคมในอนาคตต่อไป

“การแข่งขันครั้งนี้ มีความมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันกีฬาฟุตบอลหญิงให้มีการพัฒนา ซึ่งเราหวังว่าจะมีการค้นพบดาวดวงใหม่ๆ เพื่อเป็นกำลังเสริมสำหรับทีมชาติไทยในอนาคต ขณะเดียวกันยังเป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้มีการแสดงออกในด้านต่างๆ อาทิ การประกวดเน็ตไอดอลของแต่ละสถาบัน การดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม หรือซีเอสอาร์ ฯลฯ ทำให้เครือไพพรรณรัตน์กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโกแฮร์ พร้อมพันธมิตรอื่นๆ มีความยินดีที่จะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน”
ขณะเดียวกัน ยังได้ทาบทามหญิงเก่งมากความสามารถในสังคมไทยหลายท่าน เข้ามาเป็นทีมงานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เพื่อร่วมกันเป็นพลังหญิงช่วยกันผลักดันให้การแข่งขันประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้าน ดร.นาที รัชกิจประการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมการแข่งขันรายการนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 เม.ย. – 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ทว่าด้วยการแพร่ระบาดของ “โควิด 19”
ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปจนมาเป็นกำหนดการล่าสุด ซึ่งจะเตะกันแน่นอนตามโปรแกรมใหม่ คือ ระหว่าง
วันที่ 4 ก.ย.- 25 ธ.ค.นี้ พร้อมวางมาตรการเรื่องความปลอดภัยวิถีนิวนอร์มอล ตามแนวทางที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้ทุกประการ
“การแข่งขันยูลีกหญิงครั้งนี้ยังคงได้รับความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นจากพันธมิตรทั้ง 10 สถาบัน ประกอบด้วย “เจ้าภาพ” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร และมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอ่างทอง ทำการเตะแบบเหย้า-เยือน ระหว่างวันที่ 4 ก.ย.- 25 ธ.ค.นี้ โดยทีมที่มีคะแนนสูงสุดจะได้ตำแหน่งชนะเลิศไปครอง พร้อมถ้วยและเงินรางวัล 200,000 บาท”

น.ส.บุญธิดา ตันตยานุรักษ์ ประธานบริษัทฮอไรซัน โลจิติค ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า ในส่วนของพิธีเปิดการแข่งขันในวันที่ 4 กันยายนนี้ จะเป็นการพบกันระหว่าง “เจ้าภาพ” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พบ มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี ที่สนาม ร.ร.นนทบุรี วิทยาลัย เวลา 15.00 น. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที
ในส่วนของการแข่งขันที่จะเตะกันทุกสัปดาห์ๆ ละ 5 นัด ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์วันละ 1 คู่ ในเวลา 15.00 น. และจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที 2 เอชดี ในการแข่งขันคู่ที่เล่นกันในวันศุกร์ทุกสัปดาห์รวม 18 นัด นอกจากนี้การแข่งขันทุกคู่ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ของการแข่งขัน, Facebook Live และ YouTube Channel ครบทุกนัดอีกด้วย
“การลงเตะทุกนัด เราจะมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น เชิญชวนนิสิต นักศึกษาของสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขัน และผู้สนใจเข้ามาชม และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้น ทั้งกิจกรรมที่เกิดขึ้นในสนาม และกิจกรรมออนไลน์ ซึ่งจะมีการชิงของรางวัลมากมาย”
ขณะที่ผู้สนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โกแฮร์ ธนาคารออมสิน โครงการปัญจทรัพย์ ปาร์ค ปิ่นเกล้า สถานีบริการน้ำมันพีที ร้านพุงฟาร์ม ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ คลินิกความงาม เคเอส ซีเคร็ท บริษัท ฟุตบอลล์ไทย สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ จำกัด บริษัท สยามสปอร์ต ซิทดิเคท จำกัด สวิสแคร์ ไบโอซายน์ พลัส และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที 2 เอชดี

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์