วันเสาร์, กรกฎาคม 12, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1975

ทัพ “ตราชฎา” เปิดบ้านอัด กาญจนพัฒน์ 5-0 ขึ้นรองจ่าฝูงโซน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 โซนตะวันตก นัดที่ 17 ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 2ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าถิ่นทัพ “ตราชฎา” ราชประชา เอฟซี ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ กาญจนพัฒน์ เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของโซน โดยผลงานเจอกันเลกแรกที่บ้านของ กาญจนพัฒน์ เอฟซี ทัพ “ตราชฎา” บุกเอาชนะมาได้ 6-0

เริ่มเกมครึ่งแรกแค่นาทีที่ 4 ราชประชา ได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของ ออสการ์ ปลาเป้ แต่บอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป นาทีที่ 20 รณยศ มิ่งมิตรวัน ลองส่องไกลจากนอกเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 21 ราชประชา ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง รณชัย รังสิโย ทำชิ่งกับ ออสการ์ ปลาเป้ ก่อนที่บอลจะมาถึง รณชัย ยิงไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือน หมดครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้ ทั้งสองเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 46 ราชประชา เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกส่ง ศุภเสกข์ ไก่แก้ว เล่นแทน ธนินท์ เกียรติเลิศธรรม และเพียง “ตราชฎา” ได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ออสการ์ ปลาเป้ พาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดมาหน้าประตู รณชัย รังสิโย แตะบอลต่อให้ แองเจลโล่ มาชูก้า แตะหลบแนวรับทีมเยือน ก่อนจะยิงเข้าไปให้ ราชประชา ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 62 ราชประชา ออสการ์ ปลาเป้ แตะให้ ธรรมยุทธ ต้นคำ พาบอลแตะหลบแนวรับทีมเยือน ก่อนจะยิงเข้าไป หนีห่าง 2-0 นาทีที่ 63 ราชประชา ได้ประตูจากจังหวะที่ รณชัย รังสิโย งัดบอลให้ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว หลุดขึ้นไปทางขวากระดกข้ามหัวผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าไป “ตราชฎา” หนีเป็น 3-0
นาทีที่ 65 ราชประชา มาได้ประตู ออสการ์ ปลาเป้ หลุดเข้าไปยิงติดบล็อกผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่บอลยังมาเข้าทาง รณชัย รังสิโย แตะยิงเข้าไป นำห่าง 4-0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 89 ราชประชา เอฟซี ไได้ประตูจากจังหวะ ธรรมยุทธ ต้นคำ ฉกบอลจากแนวรับทีมเยือนก่อนเปิดกลับมาให้ ธนดล ศุภผล ยิงเข้าไปโล่งๆให้ทัพ “ตราชฎา” นำห่าง 5-0 จบเกมการแข่งขันทีมราชประชาชนะไปแบบขาดลอย 5-0 เก็บสามคะแนนได้สำเร็จ พร้อมขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงของโซน โดยทัพ “ตราชฎา” นัดต่อไปศึกไทยลีก 3 โซนตะวันตก นัดที่ 18 บุกเยือน สมุทรสงคราม เอฟซี วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 เวลา 15.30 ที่สนามกีฬา อบจ.สมุทรสงคราม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“บาส-ปอป้อ-เอิร์ธ” ซ้อมเข้ม พร้อมลุย 3 รายการใหญ่ในบ้าน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ความเคลื่อนไหวการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เดือนมกราคมปีหน้า รายการ “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 12 – 17 มกราคม 2564 รายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 19 – 24 มกราคม 2564 และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วน ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมแบบจุใจ
ล่าสุด “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 3 ของโลก เผยว่า “สภาพร่างกายฟิตเต็มที่ เรามีเวลาเตรียมตัวมาเกือบปี ทั้ง 3 รายการในบ้านเราเป็นศึกหนักมากๆ แล้วยิ่งในระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด ส่วนมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นเรื่องที่ดี ไทยมีระบบป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ดีอยู่แล้ว เพื่อนักกีฬาทุกคนที่เดินทางเข้ามาแข่งขัน เพราะว่าจะต้องเข้ากักตัวหรือบับเบิ้ลควอรันทีนเป็นเวลา 14 วัน สร้างความมั่นใจทั้งเราและนักแบดมินตันต่างชาติด้วย”

ปอป้อ ทรัพย์สิรี กล่าวว่า “ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะแข่งขันระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ในบ้านตัวเอง และเป็นรายการสูงสุดของเวิลด์ทัวร์ด้วย กองเชียร์พวกเราก็คอยสนับสนุนมาตลอด ทั้งบาสกับปอป้อก็เต็มที่ทุกแมตช์ที่แข่งขันตลอดเวลา เราก็ยังฝึกซ้อมตามโปรแกรมในช่วงที่ห่างสนามไปนานเกือบปี”
“ในเรื่องของเสียงเชียร์ในสนามไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร การแข่งขันต้องทำให้เต็มที่ รายการระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ในไทยเป็นเรื่องที่ดีมากที่จะได้มีเวลาพักผ่อน ไม่ต้องเดินทางไกล ช่วงที่เราได้รองแชมป์ออลอิงแลนด์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไม่ได้สูญเสียความมั่นใจมากนัก เราได้มีเวลาในการปรับส่วนที่ผิดพลาดของตนเองไปด้วย” บาส เดชาพล กล่าวเสริม
เป้าหมายศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ทั้งคู่ยอมรับว่าจะต้องเก็บคะแนนจาก 2 รายการแรกให้ได้มากที่สุด ขณะนี้อันดับคะแนน Race to Bangkok เรายังห่างจากท็อป 8 พอสมควร การแข่งขัน 2 รายการแรกจะต้องเข้ารอบรองชนะเลิศให้ได้ทั้งคู่ เพื่อลุ้นติด 1 ใน 8 ไปเล่นในรายการสุดท้าย และจะทำให้เต็มที่ที่สุด
“เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล หญิงคู่ทีมชาติไทย กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ดีที่ได้มีเวลาเตรียมตัวนานพอสมควร สภาพร่างกายตอนนี้ฟิตมาก พร้อมทุกๆด้านทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับการแข่งขันทั้ง 3 รายการ ต้นปีหน้า เป้าหมายจะโฟกัสไปทีละรอบ เพราะว่าทุกชาติไม่ง่าย ช่วงนี้มั่นใจเหมือนกัน จะพยายามทำผลงานเข้ารอบให้ลึกที่สุด ส่วนตัวมองว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบนัก เพราะว่ามีเวลาเตรียมตัวฝึกซ้อมเท่ากันๆ อยู่ที่ผลงานในสนามแล้วว่าใครจะทำผลงานได้ดีกว่ากัน”

ทั้งนี้แฟนแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลกได้ทางหลากหลายช่องทาง ทรูวิชั่นส์ ,ทรูโฟร์ยู, ทีเอ็นเอ็น และทรูไอดี ทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดทุกวันๆละ 2 สนามๆ ละ 10 คู่ รวมถ่ายทอดสดวันละ 20 คู่ โดยถ่ายทอดผ่านทาง truesports HD3 ช่อง 668, truesports 7 ช่อง 686 และ truesports HD2 ช่อง 667 รวมเป็นการถ่ายทอดรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่ และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 75 คู่
และรับชมผ่านทาง True4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน รายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและวันพุธ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น. วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. และวันเสาร์ระหว่างเวลา 16.30– 18.30 น. วันอาทิตย์ระหว่างเวลา 14.30 – 17.00 น., โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและพุธ ระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น. วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น., วันเสาร์ เวลา 16.30 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น., เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ จะถ่ายทอดสดวันพุธระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น., วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 17.00 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. และสามารถอัพเดททุกแมตช์ เกาะติดทุกการแข่งขันได้ทาง TNN 16

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ส.ยกน้ำหนัก​ เผยแผนลุยรายการระดับนานาชาติ ปี 2564

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ วางแผนลุยงานต่อเนื่อง ตลอดปี 2564 ปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมฯ เตรียมคัมแบ็คแข่งขันรายการระดับนานาชาติ พร้อมส่งจอมพลังทำศึกซีเกมส์ ปลายปี ที่ เวียดนาม รวมทั้งจัดชิงชัย ในประเทศ รายการ EGAT(อีแกท) ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่นประชาชน เยาวชน และยุวชน เช่นเดิม รวมทั้งจัดการพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน และการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars ควบคู่กันไปด้วย
นายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เผยถึงแผนงานของสมาคมฯ ปี 2564 ว่า สมาคมมีแผนดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563 เรื่องการพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ในเดือนมกราคม 2564 จะมีการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars วันที่ 25 มกราคม และการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2564 (Level 3) วันที่ 26-30 มกราคม โดยทั้ง 2 งานจัดที่ กาญจนบุรี
จากนั้น เดือน เมษายน จะมีการสัมมนาผู้ตัดสินกีฬายกน้ำหนักระดับชาติ ประจำปี 2564 วันที่ 28-30 เมษายน และการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars วันที่ 30 เมษายน ที่ อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช ต่อด้วย การอบรมผู้ตัดสินกีฬายกน้ำหนักระดับนานาชาติ ประจำปี 2564 วันที่ 1-5 พฤษภาคม ที่ นครศรีธรรมราช
ในส่วนนักกีฬามีการแข่งขัน จัดโดยสมาคมฯ 2 รายการ ได้แก่ การแข่งขัน EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ระดับประชาชน ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และระดับยุวชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 1-11 พฤษภาคม ที่อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช และการแข่งขันขัน EGAT(อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ระดับเยาวชนชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 10-15 ตุลาคม ที่ อุบลราชธานี
ทางสมาคมฯเรียกตัวนักกีฬาดาวรุ่งที่มีผลงานเป็นที่น่าพอใจ จากการแข่งขัน EGAT(อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา เข้าร่วมเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติอย่างต่อเนื่อง เตรียมแข่งขันเวทีระดับนานาชาติในอนาคต เนื่องจากกว่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลาร่วม 10 ปี ซึ่งถือเป็นการวางแผนระยะยาวของสมาคมฯ
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวดีสำหรับแฟนกีฬาชาวไทย สมาคมฯ เตรียมส่งจอมพลังชายและหญิงเข้าชิงชัยมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย เวียดนาม วันที่ 21 พฤศจิกายน- 2 ธันวาคม 2564 แบ่งเป็น หญิง 7 รุ่น ได้แก่ 45 กก., 49 กก., 55 กก., 59 กก., 64 กก., 71 กก. และมากกว่า 71 กก. รวมถึง ชายอีก 7 รุ่น ประกอบด้วย 55 กก., 61 กก., 67 กก., 73 กก., 81 กก., 89 กก. และมากกว่า 89 กก.
“สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนทุกราย ที่เป็นพันธมิตรที่ดีของสมาคมฯ รวมถึงแฟนกีฬาชาวไทย ที่ให้กำลังใจสมาคมฯ และนักกีฬายกน้ำหนักมาโดยตลอด ทางสมาคมฯพยายามอย่างหนักที่จะกลับมาสร้างผลงานในระดับโลกให้ได้ในเร็ววัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากทุกท่านเพื่อเป็นกำลังใจในการดำเนินงานต่อไป”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160954750910053503
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

กรุงเทพมหานคร สั่งปิดสนามทุกประเภท “บุญยะจินดา-แพท สเตเดี้ยม” ลุ้นตัวโก่ง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สนามกีฬา บุญยะจินดา โปลิศเทโรฯ เขต หลักสี่ และสนามแพท สเตเดี้ยม รังเหย้า เขต คลองเตย ทั้ง 2 สนามแข่งฟุตบอลไทยลีก 1 ที่ อยู่ในกทม. ต้อง รอลุ้น หลังกทม.สั่งปิดทุกสนามแข่งขัน และสถานบริการเพิ่มจำนวน 22 บริการ มีผลเที่ยงคืนวันนี้ 1 ม.ค.2564 เพื่อสกัดเชื้่อโควิด19
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มาตรการเพิ่มเติมควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ประกาศปิดสถานที่เพิ่มเติมสถานบริการ มี ดังนี้ สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล่น ตู้เกม เครื่องเล่นสำหรับเด็ก โต๊ะสนุ๊ก โต๊ะบิลเลียด สนามชนไก่ ชนโค กัดปลา ศูนย์พระเครื่อง ศูนย์เด็กเล็ก สถานเจาะผิวหนัง ร้านสัก โรงเรียน สถานกวดวิชา ร้านอินเทอร์เน็ต สถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่พักค้าง) โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ สนามมวย อาบอบนวด สนามแข่งทุกประเภท สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยงและที่มีลักษณะคล้ายกัน ส่วนห้างสรรพสินค้ายังไม่ปิด แต่จะมีมาตรการเพิ่มเติม ในวันที่ 2 ม.ค.64 เวลา 24.00น.
สำหรับศึกไทยลีก 1 มีสนามเหย้า 2 ทีมที่ตั้งอยู่ในกทม.คือ สนาม แพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี เขตคลองเตย และสนามกีฬา บุญยะจินดา ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เขต หลักสี่ ซึ่งจะต้องรอดูว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่าจะตัดสินใจอย่างไร กับกทม.และ ศบค. ที่อาจจะเตะแบบปิด

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ดร.ก้องศักด ” กำชับนักกีฬาการ์ดอย่าตก วอนสมาคมสอดส่องหวั่นติดโควิด

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย กำชับนักกีฬาตั้งการ์ดสูง ดูเเลตัวเองในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ในเมืองไทยเริ่มกลับมาระบาดใหม่ หลังพบมีการติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้น 3 หลักมาหลายวันเเล้ว วอนทุกคนตระหนัก ขอสมาคมช่วยสอดส่อง ดูเเล เเละป้องกัน เพื่อไม่ให้การระบาดในกลุ่มเจ้าหน้าที่ เเละนักกีฬา จนส่งผลกระทบกับการทำงานเเละการเตรียมทีมฝึกซ้อม
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้สมาคมกีฬาต่างๆ ไม่ได้ส่งนักกีฬาไทยทั้งในรายบุคคล คู่ เเละทีมกีฬาชนิดต่างๆไมได้เดินทางออกไปตระเวนทำการเเข่งขันอย่างที่ได้วางกำหนดการเเละโปรเเกรมเอาไว้ ซึ่งก็ประกอบกับที่ทัวร์นาเมนต์ต่างๆเลื่อนเเละยกเลิกการเเข่งขันออกไปด้วย
อย่างไรก็ตามในหลายชนิดยังคงให้นักกีฬาทำการเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเนื่อง ใช้มาตรการการป้องกันโควิด-19 ที่เคร่งครัดตามคำเเนะนำของสาธารณสุข เเละก็ได้ทราบมาอีกว่าหลายทีมไม่ได้ปล่อยให้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งก็ถือว่าช่วยในการป้องกันการเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดี
ผู้ว่าการกกท. เผยว่า กกท.คำนึงเเละมีความเป็นห่วงสุขภาพของนักกีฬา บุคลากร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ดังจะเห็นจากการออกมาตรการต่างๆ ทั้ง Work From Home ในกลุ่มของผู้บริหาร พนักงานกกท. การเลื่อนกิจกรรมกีฬา หรือการเเข่งขันกีฬาทัวร์นาเมนต์ต่างๆที่เป็นการรวมกันของคนหมู่มาก ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการเเพร่ระบาดในช่วงนี้ที่มียอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้น 3 หลักมาเป็นสิบๆวันออกไปก่อน เพื่อรอช่วงเวลาที่เหมาะสม
“ผมเองอยากฝากกำชับเเละย้ำเตือนไปถึงนักกีฬาทุกคน โดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาติ ให้ระมัดระวัง เเละดูเเลตัวเอง ใส่เเมสก์ ล้างมือ เว้นระยะห่าง เเละอย่าไปในพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพราะเเน่นอนว่าถ้าเกิดมีใครติดเชื้อขึ้นมา เพื่อนๆร่วมทีมกีฬาก็จะได้รับผลกระทบ ต้องเเยกกักตัว เเละหยุดทำการฝึกซ้อม ซึ่งช่วงนี้อาจจะเป็นเรื่องดีสักหน่อย ที่นักกีฬา
ไทยของเราไม่ได้มีโปรเเกรมเดินทางไปเเข่งขัน หรือกลับจากการเเข่งขันที่ต่างประเทศ ซึ่งมีการระบาดอย่างหนักมากนัก ก็ทำให้ลดความสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อลงไปได้มาก”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160946879610051735
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

MBK รับศักราชใหม่กับอาณาจักรแห่งการเรียนรู้ Learning Hub ชั้น 5 เต็มรูปแบบมีติวเตอร์ชื่อดังเข้าร่วมกว่า 20 สถาบัน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//พร้อมเปิดแล้ว 2 ม.ค.64 คลังแห่งความรู้ใจกลางเมือง Learning Hubรวมติวเตอร์ชื่อดังกว่า 20 สถาบัน ที่ยกชั้นเรียนมาไว้ ที่เอ็ม บี เค ประเดิมเปิดชั้น 5 ก่อน นำโดย OnDemand, DA’VANCE By A’Ping, Positive Learning, EP Focus เป็นต้น พบกับโปรเด็ด โปรดี รับสาขาใหม่ จากหลายสถาบัน กับส่วนลดสูงสุด 20% พร้อมลุยบิ๊กคลีนนิ่งอีกครั้ง กับมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดแก่สถาบันต่างๆและน้องๆนักเรียนทุกคน

หลังจากศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ประกาศปรับปรุงพื้นที่บริเวณ ชั้น 4,5,6 โซน D ที่มีพื้นที่รวมกว่า 6,000 ตารางเมตร เพื่อสร้างเป็นอาณาจักรแห่งการเรียนรู้ Learning Hub ใจกลางเมือง กับภาพลักษณ์ที่ดีไซน์ทันสมัย เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียน ที่มีกว่า 20 สถาบันและติวเตอร์ชื่อดังล่าสุดศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พร้อมรุกสู่ศักราชใหม่ 2564 เปิด Learning Hub ชั้น 5 อย่างเป็นทางการชั้นแรก พบกับสุดยอดติวเตอร์ชื่อดังจาก 9 สถาบันชั้นนำ อย่าง สถาบัน OnDemand โดยสุดยอดทีมครู นำโดย พี่โหน่ง สุธี อัสววิมล กับเทคนิคการสอนแบบเฉพาะ ด้วยหลักสูตรและเนื้อหาคุณภาพตั้งแต่ระดับชั้นประถม ถึงมัธยมปลาย ที่เข้มข้น ตะลุยทุกโจทย์ด้วยเทคนิคแพรวพราว ปรับให้ทันทุกยุคทุกสมัยของการสอบแข่งขัน การันตีด้วยความสำเร็จของ น้องๆ มากมายในตลอดระยะเวลา14 ปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยข้อมูลแนะแนวที่สำคัญต่อการตามความฝันของน้องๆ รวมทั้งนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการเรียนบนระบบ Learn Anywhere ที่ให้น้องเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ พบกับพื้นที่การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของน้องในยุคดิจิทัล ที่ Learn Anywhere เอ็ม บี เค สมัครวันที่ 2 ม.ค.-2 ก.พ. 64 รับส่วนลดสูงสุด 2,500 บาท วิชาละ 500 บาท (คณิต, ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ และประถม)

สถาบัน DA’VANCE By A’Ping อีกหนึ่งติวเตอร์ภาษาไทยและสังคมชื่อดัง ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยเด็กๆ แทบทุกคนต้องมาเรียนกับ อ.ปิง ให้ได้ และครั้งนี้เช่นกัน อ.ปิงได้พาทีมอาจารย์ชื่อดังยกทีมมาทั้งเซต พร้อมรูพี่ลูกกอล์ฟ ก็จะมาสรุปภาษาอังกฤษม.ปลาย ที่นี้เช่นกัน

ส่วนน้องๆคนอยากติวสอบเข้มๆ เข้าม.4 รร. ชื่อดัง หรือเตรียมสอบ GAT/PAT และ O-NET ต้องไม่พลาด The BTS ด้วยลีลาการสอนของครูพี่เกด ที่สอนสนุกอัดแน่นด้วยความรู้ บอกเลยว่าน้องๆไม่เครียดแน่นอน สมัครตอนนี้พร้อมส่วนลด 20% ทุกคอร์สเรียน

ขณะที่สถาบันกวดวิชาพัฒนาการเรียนรู้ Positive Learningที่ย้ายจากฝั่งสยามสแควร์กับโฉมใหม่ที่เอ็มบี เค พร้อมเปิดต้อนรับน้องๆนักเรียนทั้งระดับประถม ป.3-ป.6 ใครต้องการปูพื้นฐานแน่นๆ เพื่อสอบเข้ารร.สาธิตต่างๆ หรือ รร.ชื่อดัง ภายใต้การสอนวิเคราะห์โจทย์ การตัดข้อผิด หรือเทคนิคการทำข้อสอบ บอกเลยต้องมา

สถาบันภาษาอังกฤษระดับประถมปลาย-มัธยมต้นหรือเพื่อสอบแข่งขันศึกษาต่อ มาเจอครูนก EP Focus กันได้ ที่มีหลายเสียงบอกว่าสอนสนุก เข้าใจเด็ก เห็นผลไว น้องๆคนไหนที่อยากเรียนคณิตศาสตร์ที่เข้าใจง่าย ประยุกต์ใช้ได้จริง ไม่พลาดกับครู Sup’K กับ สถาบันกวดวิชาคณิตศาสตร์ครู Sup’k ที่มาเปิดสาขาใหม่เพื่อรองรับน้องๆ

Excellent Education Center อีกสถาบันชื่อดังที่ปูพื้นฐานแน่น เรียนง่าย เข้าใจเร็ว กับอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมากประสบการณ์ ติวเข้มเพื่อสอบเข้ารร.เตรียมอุดมฯ รร.สาธิตฯ หรือ รร. ชื่อดังหลายๆแห่ง มาพร้อมส่วนลด 10% ทุกคอร์ส ตลอดเดือนแรกของการเปิดบ้านใหม่ Monkey Monkey Academic training Center สถาบันที่ขึ้นชื่อเรื่องวิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกซ์ เคมี ที่เหล่าสายวิทย์ทั้งหลายต้องไม่พลาด มาเรียนที่นี้ รูปแบบเนื้อหาการเรียนที่คลอบคุลม กระชับ เข้าใจง่าย และยังเปิดสอนระดับประถมศึกษาตอนปลายด้วย

Math Logik สถาบันกวดวิชาแมธลอจิค เน้นคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยากต่อไป สมัครตอนนี้แถมคอร์สปรับพื้นฐานและ Lucky card ใช้ร่วมสนุกจับรางวัลมูลค่า 500 บาท
นอกจากนี้ทาง ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดแก่สถาบันต่างๆ น้องๆนักเรียน รวมทั้งผู้ปกครองทุกท่าน ที่เข้ามาใช้บริการบริเวณ Learning Hub ชั้น 5 ที่เปิดนำร่องก่อน ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องอย่างเข้มข้น โดยทำการบิ๊กคลีนนิ่งอีกครั้ง ฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนที่สถาบันจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบในวันที่ 2 ม.ค. 2564 ส่วนสถาบันต่างๆที่อยู่ชั้น 4 และ 6 นั้น จะเริ่มทยอยเปิดในเดือน มี.ค. และ เม.ย. ตามลำดับ :Cr;มณสิการ รามจันทร์

ส.นักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ตั้งฉาย “บิ๊กจา” คุณทวดตะกร้อไทย “พิพัฒน์” มาด้วยใจไปทุกงาน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ตั้งฉายาให้กับบุคคลในวงการกีฬา เป็นธรรมเนียมประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง คัดเลือกจากบุคคลกีฬาที่มีข่าวฮือฮา หรือมีความโดดเด่นในสายตาของสื่อมวลชนสายกีฬาในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อยกย่อง และหยิกแกมหยอก แบบแสบ ๆ คัน ๆ สำหรับฉายาคนกีฬา ประจำปี 2563 มี 12 ฉายาดังนี้
1. พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา “คุณทวดตะกร้อไทย” ด้วยวัย 88 ปี บริบูรณ์ และนั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาตะกร้อฯ เป็นสมัยที่ 17 นับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2526 รวมระยะเวลาถึงปัจุบันยาวนานถึง 37 ปี ไม่มีคู่แข่ง นับว่าเป็นนายกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่อายุมากที่สุด

2. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉายา “มาด้วยใจ ไปทุกงาน” นับตั้งแต่ นายพิพัฒน์ เข้ามารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในภาระหน้าที่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะงานด้านกีฬา ท่านไปร่วมงาน ร่วมกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ เกือบทุกงานที่ได้รับเชิญ รวมทั้งการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ หรืออนุกรรมการต่าง ๆ หากไม่ติดภาระกิจที่สำคัญจริง ๆ จะต้องงไปร่วมงานด้วยตัวเองทุกครั้ง และสิ่งสำคัญท่านรัฐมนตรีพิพัฒน์ มีข้อมูลที่แน่นมาก เรียกว่ารู้ลึก รู้จริง งานด้านกีฬาอย่างถ่องแท้
3. ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.ฉายา “ผู้ว่าฯ บริษัท (ไม่จำกัด)” เนื่องจากรับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กกท. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 คนในวงการกีฬาต่างจับตามองการทำงานของ ดร.ก้องศักด อย่างใกล้ชิด ซึ่งภาพที่ปรากฏออกมา ผู้นำค่ายหัวมากคนนี้มีที่ปรึกษา หรือกันเรียกว่า “กุนซือ” จำนวนมาก และมาจากหลากหลายวงการ เรียกว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลังการทำงานเยอะมากจนนับแทบไม่หมด

4. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) รับฉายา “ตำแหน่งใหญ่ ไม่ขาดมือ” หลังจากรับตำแหน่ง ไอโอซีเมมเบอร์ ตั้งแต่ปี 2560 จากนั้น คุณหญิงปัทมา ได้รับตำแหน่งใหญ่ ๆ ต่อเนื่องไม่ขาดมือ ปี 2563ได้รับความไว้วางใจจาก โธมัส บาค ประธานไอโอซี ให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการ วัฒนธรรม และมรดกโอลิมปิก และเป็นคณะกรรมาธิการ กองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ที่ดูแลเงินปีละหลายหมื่นล้านบาท เพื่อช่วยประเทศสมาชิกด้านกีฬา เพิ่มเติมอีก โดยตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ ถือว่าได้รับความไว้วางใจอย่างรวดเร็วมากที่สุด เพราะปกติคนที่ทำหน้าที่นี้ ต้องคลุกคลีเป็นไอโอซี มาไม่น้อยกว่า 10 ปี เรียกได้ว่า คุณหญิงปัทมา ไอโอซีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย ยังยืนหนึ่ง ตำแหน่งใหญ่ ไม่มีขาดมือจริง ๆ
5. “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ฉายา “หมึกไฟแรง (ปั่น) แซงทุกสนาม” จากบทบาทการบริหารงานที่รวดเร็ว ฉับไว มีประสิทธิภาพ ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด สมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นเพียงสมาคมเดียวที่มีกิจกรรม “ปั่นในบ้านต้านโควิด” และเป็นสมาคมแรกที่จัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยได้สำเร็จ รวมไปถึงการแข่งขันระดับนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” เป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในทวีปเอเชีย จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “สมาคมกีฬาต้นแบบ” นับว่าเป็นนายกสมาคมกีฬาที่มีผลงานโดดเด่นและร้อนแรงมาก

6. “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ฉายา “มาดามแป้ง แรงกว่าไฟฟ้า” เมื่อเอ่ยถึง “มาดามแป้ง” ใครก็ต้องรู้จักผู้หญิงคนนี้ เป็นผู้หญิงแกร่งไฟแรง แม้ว่าเจออุปสรรคมากมายแต่ก็ผ่านพ้นด้วยดี แต่คงไม่มีเหตุการณ์ใหนที่สร้างความกดดัน และหนักใจเท่ากับ “ไฟฟ้าส่องสว่าง” ของสนาม แพท สเตเดี้ยม รังเหย้าการท่าเรือ เอฟซี “ดับ” ถึง 2 นัดติดต่อกัน นัดแรก 13 กันยายน 2563 การท่าเรือ เอฟซี รับมือ โปลิศ เทโร เอฟซี เกมเสมอกัน 1-1 แต่ว่านาทีที่ 88 ไฟส่องสว่างภายในสนาม แพทฯ เกิดดับลง และการแข่งขันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ภายใน 60 นาที คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน พิจารณาว่าความผิดเป็นของเจ้าบ้าน ทำให้การท่าเรือ เอฟซี โดนปรับแพ้ 0-2 ประตู
นัดที่ 2 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 การท่าเรือ เอฟซี เปิดบ้านทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่นี้ยังไม่ได้เริ่มเตะ เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้าที่สนามแพทฯ เกิดระเบิดขึ้นจนทำให้ไฟฟ้าภายในสนามดับ และไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลา 1 ชั่วโมง กฟน.บอกว่าเป็นความบกพร่องของสนามเองไม่เกี่ยวกับ กฟน. แต่รอบนี้ “มาดามแป้ง” ไม่ยอมแพ้ 0-2 อีกแล้ว จึงหาหลักฐานทุกอย่างที่มีออกมาสู้กับ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท จนเป็นฝ่ายชนะ ทำให้ “สิงห์เจ้าท่า” ไม่โดนปรับแพ้ คู่นี้ได้เตะกันใหม่ นับว่า “มาดามแป้ง” แรงกว่าการไฟฟ้าจริง ๆ

7. “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน นักเตะสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส ในเจลีก ญี่ปุ่น ฉายา “อุ้มบุญ (มาทัน) ปังเอเชีย” บรรดานักเตะไทยระดับซูเปอร์สตาร์ปีนี้คงไม่มีใครฮอตไปกว่า ธีราทร อีกแล้ว ขณะที่นักเตะคนอื่น ๆ ที่ไปค้าแข้งในญี่ปุ่น อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ฟอร์มการเล่นหลุดบ้าง มีอาการบาดเจ็บบ้าง แต่ “อุ้ม” กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้ว่าในศึกเจลีก จะไม่สามารถพาทีมโยโกฮามา เอฟ มารินอส ป้องกันแชมป์ได้ แต่ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก “อุ้ม” กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยิงทั้งจ่าย สหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFFHS) เลือกให้ติด 1 ใน 11 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย ร่วมกับ ซอง เฮือง มิน แข้งเกาหลีใต้ ทอตแนม ฮอต สเปอร์ส และ ทาคุมิ มินามิโนะ นักเตะญี่ปุ่นของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของ “อุ้ม” ธีราทร ที่สร้างชื่อให้ประเทศไทยระดับเอเชีย
8. “บิ๊กเอ๋” นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล อดีตนายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ฉายา “นายกหวาดระแวง” หลังจาก “บิ๊กเอ๋” ชนะการเลือกตั้งนายกสมาคม เมื่อเดือนมกราคม 2559 ด้วยการโค่น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตนายกสมาคม 7 สมัย หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ เมื่อมีการร้องเรียนการเลือกตั้งจนถึงขั้นพึ่งอำนาจศาล และลอนเทนนิสสมาคมฯ ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ เดือนตุลาคมปีเดียวกัน “บิ๊กเอ๋” ได้รับเลือกอีกครั้ง

ขณะที่ทุกอย่างดูจะไปได้ดีและราบรื่น แต่การเลือกตั้งนายกสมาคม ล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 กลับมีการเปลี่ยนตัวนายกอีกครั้ง คราวนี้ได้ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นักธุรกิจที่มีบทบาทอยู่ในวงการหมัดมวยมานั่งเก้าอี้แทน ส่วน “บิ๊กเอ๋” ขยับไปนั่งเป็นอุปนายกสมาคม นอกจากนี้ นายกคนใหม่ไปเยี่ยมคารวะพร้อมส่งเทียบเชิญ นายสุวัจน์ กลับมาช่วยพัฒนาวงการในฐานะนายกกิตติมศักดิ์ เป็นการลดแรงเสียดทานจากรอบด้าน ให้สามารถดำเนินงานไปต่อได้อย่างราบรื่น
9. “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฉายา “นายก VAR” ประเด็นร้อนของวงการฟุตบอล ช่วงปีที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการชนกันของ 2 ช้างสาร อย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กับ “บิ๊กอ๊อด” ประมุขลูกหนัง กรณีที่สมาคมฟุตบอลฯ จะไม่ใช้ VAR เพราะไม่มีงบประมาณ จน “มาดามแป้ง” ออกโรง ยื่นหนังสือให้นำเงินสนับสนุนจาก บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มาใช้เพื่อ VAR ตกเป็นวิวาทะกันอยู่นาน สุดท้ายสมาคมฯ ก็นำ VAR มาใช้ แต่ไม่หมดปัญหา เมื่อ VAR ดันติด ๆ ดับ ๆ การแข่งขันหลายต่อหลายนัด เรื่องราวดราม่าของฟุตบอลไทยปีนี้ VAR จึงมาแย่งซีนโควิด-19 เป็นพัก ๆ

10. “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ฉายา “โก้เสี่ยงตาย” อดีตกุนซือทีมชาติไทยสร้างความฮือฮาและตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อตกลงใจรับงานโค้ชให้กับสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ทีมเก่าที่เคยไปคัาแข้งนับ 10 ปี ที่เวียดนาม การตัดสินใจครั้งนี้ของ “ซิโก้” เต็มไปด้วยคำถามว่า เพราะอะไรจึงเลือกฮอง อันห์ ยาลาย และเลือกไปทำงานในต่างประเทศในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับไวรัสโควิด-19 เสี่ยงชีวิตไม่น้อย และโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านแทบจะไม่มีในช่วงเวลา 1 ปี ทั้งที่มีทางเลือกมากมายเป็นโค้ชสโมสรในไทย หรือ ธุรกิจกีฬา และพรีเซ็นเตอร์มากมาย แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า ต้องการกลับมาใช้ความรู้ทำงานโค้ชและตอบแทนบุญคุณ ด่วน เหงียน ดึ๊ก เจ้านายเก่า แต่การตัดสินใจของ “ซิโก้” หนนี้ไม่ต่างจากการเสี่ยงตาย หาความท้าทาย ด้วยการออกตีลังกาพเนจรอีกครั้ง
11. “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ฉายา “รถขบวนสุดท้าย” หนึ่งในนักชกความหวังทีมชาติไทย ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ ญี่ปุ่น ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 ส่งผลกระทบกับ “เจ้าสด” เรื่องอายุที่มากขึ้น ยิ่งเมื่อเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก รวมไปถึงทัวร์นาเม้นท์แข่งขันในต่างประเทศก็ต้องโดนยกเลิกไปด้วย
12. นายปริวัฒน์ วรรณกลาง อธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ฉายา “อธิการบดี กากี่นั้ง” สืบเนื่องจากศึกชิงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ที่เร่าร้อน รุนแรง จนปั่นป่วนไปทั้งสถาบัน ถึงกับต้องเดินเกมให้รองอธิการบดีที่สนับสนุน นายปริวัฒน์ วรรณกลาง ออกมาแสดงบทบาทท่าที และเรียกร้องว่ายังเลือกยืนข้าง “นายเก่า” สุดท้ายก็ยังคาราคาซัง นายปริวัฒน์รักษาการตำแหน่งนายใหญ่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติต่อไป เรียกว่าช่วยกันไปในแบบ “กากี่นั้ง” หรือพวกเดียวกัน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์