http://www.natethip.com/news.php?id=3055
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์// นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการวุฒิสภา โดยมี พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการ การกีฬา วุฒิสภาร่วมกับ สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ส่งมอบอุปกรณ์กีฬาซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องที่เป็นการออกกำลังกายแบบแมชชีน ซึ่งประกอบด้วย เครื่องวิ่ง, จักรยาน และยังมีอุปกรณ์กีฬาประเภทเวทเทรนนิ่ง จำนวนทั้งสิ้น กว่า 90 รายการ กว่า 300 ชิ้นไปมอบให้กับ องค์การบริหารส่วนตำบวลเกาะปันหยี จ.พังงา ซึ่งตรงนี้จะเป็นศูนย์ออกกำลังกายฟิตเนสออกกำลังกายลอยน้ำแห่งแรกในประเทศไทย และอีก 1 แห่งก็คือที่ บ้านทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยที่เกาะปันหยี จ.พังงา ตรงนี้ก็มีนักกีฬาเพาะกายที่เกิดขึ้นที่นี่ด้วยเช่นกันนั่นก็คือ ณัฐพงศ์ พลีต ซึ่งเป็นนักกีฬาที่เกิดที่นี่ ด้วย สำหรับการมอบอุปกรณ์กีฬานี้ก็จะเป็นโครงการที่สอดคล้องกับ กับโครงการ แคลอรี่ เครดิตร ซึ่งเป็นนโยบายเพื่อให้คนไทยหันมาออกกำลังกายของ คณะกรรมาธิการวุฒิสภาพ รวมถึงภาครัฐบาล ซึ่งก่อนที่จะมีการมอบอุปกรณ์กีฬา ทางสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่ง

ประเทศไทย ได้มีการจับอบรมโดยคณะกรรมการและนักกีฬาทีมชาติของทางสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะให้ความรู้กับบุคลกรเพื่อนำไปต่อยอดเพื่อสอนชุมชนภายในเกาะปันหยี ต่อเนื่องได้ ซึ่งครั้งนี้มีผู้สนใจเข้ามาร่วมอบรมทั้งหมด 60 คน เป้าหมายในเกาะปันหยี เพราะอยากให้ชุมชนในเกาะปันหยี ได้มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกัน และไปมอบอุปกรณ์ในครั้งนี้ถือว่ากระแสตอบรับของคนในชุมชนดีมาก ได้เห็นรอยยิ้ม และมีคนในชุมชน อยากจะมาใช้สถานที่ออกกำลังกายแห่งนี้ เช่นเดียวกับที่ บ้านทุ่งมะพร้าว ที่คนในชุมชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในครั้งนี้นอกจากจะไปมอบอุปกรณ์กีฬาเรายังมีการจัดสัมมนา เรื่องแนวทางการส่งเสริม อุตสาหกรรมกีฬา ด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สปอร์ต ทัวร์ริซึ่ง อีกด้วย เพื่อให้คนไทยได้ใช้กีฬาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไทย
นอกจากการมอบอุปกรณ์กีฬาใน 2 แห่งนี้ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ผุดไอเดียเพื่อทำโครงการใหม่ เพื่อที่จะหาอุปกรณ์ไปมอบให้กับชุมชนอื่นๆ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การออกกำลังกาย ซึ่งในเรื่องนี้ นายศุกรีย์ กล่าวว่า เดือนหน้าตนได้มีความคิดว่าจะเปิดเป็นการรับบริจาค อุปกรณ์กีฬามือ 2 และก็หาช่างซ่อมแซมที่ขาดแคลนงานมาซ่อมแซม และนำไปส่งต่อให้กับชุมชนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อที่จะได้ให้ชุมชนอื่นๆ ได้มีอุปกรณ์การเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย เชื่อว่าอุปกรณ์กีฬามือ 2 ที่หลายคนไม่ใช้น่าจะมีเยอะ ก็ไม่อยากให้ทิ้ง นำมาบริจาค เพื่อต่อยอดให้กับผู้อื่นน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เมื่อมีอุปกรณ์จำนวนนึ่งที่จะนำไปส่งต่อยังชุมชนต่างๆเพิ่มเติม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3054
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี2563 รุ่นอายุไม่เกิน18ปี ที่ เขาน้ำฟ้ารีสอร์ท อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมารอบชิงชนะเลิศโดยมี ดาโต๊ะซรีนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานสหพันธ์เนตบิลแห่งเอเชียและนายกสมาคมกีฬาเนตบอลแห่งประเทศไทยเป็นประธานปิดมอบถ้วยรางวัล โดยคู่ชิงชนะเลิศ โรงเรียนนนทรีวิทยาพล พบกับ โรงเรียนเสิงสาง ปรากฎว่า โรงเรียนนนทรีวิทยาที่มีผู้เล่นที่มากประสบการณ์โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนือขั้นเอาชนะ โรงเรียนเสิงสางไปขาดลอย 40-13 คว้าแชมป์ไปครอง สรุปรางวัลชนะเลิศ ทีมโรงเรียนนนทรีวิทยา, รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมโรงเรียนเสิงสาง, ชนะเลิศอันดับ 2 ทีมโรงเรียนนครนายกวิทยาคม และทีมโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี

ภายหลังจบการแข่งขัน ดาโต๊ะซรีนฤมล ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ภารกิจของการจัดกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยจะลุล่วงไปได้ด้วยดี ต้องขอบคุณทางคณะกรรมการบริหารและพี่น้องชาวเนตบอลทุกทีมทุกรุ่น ที่ได้รวมใจรวมพลังกันขับเคลื่อนเนตบอลไทยแลนด์ ซึ่งได้รับข่าวดีจากกกท.ให้นักกีฬทีมชาติชุดเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์?มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ เริ่มเก็บตัวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ดังนั้นเราต้องเริ่มกระบวนการมองตัวผู้เล่น เพื่อคัดเลือกมาเป็น ผู้เข้ารับการฝึกซ้อมเป็นทีมชาติต่อไป จากเกมส์ชิงชนะเลิศ แห่งปทท. ครั้งนี้ด้วย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดในเมืองไทย เดินหน้าพัฒนาธุรกิจกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19
ล่าสุด บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ได้ทำการเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจแบรนด์ใหม่ อย่าง บริษัท มิตซูต้า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเครื่องฟอกอากาศ พัดลมไอเย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้า เจ้าของสโลแกน “ใส่ใจสุขภาพของทุกคนในบ้านคุณ”
โดยการเปิดตัวครั้งนี้ คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และคุณกัญจนพัชรฐ์ รัตนปิลัมธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกัน พร้อมทั้งมอบของที่ระลึก เพื่อเป็นการยืนยันการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่พร้อมจะก้าวไปเป็นหนึ่งร่วมกัน
ทั้งนี้การเข้ามาเป็นครอบครัวบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ มิตซูต้า นั้น บริษัท มิตซูต้า (ประเทศไทย) จำกัด จะเข้ามาสนับสนุนเงิน พร้อมดำเนินการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่ช้างอารีนา เพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า รังเหย้าของปราสาทสายฟ้า ปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารออาชีพทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ได้เข้าร่วมอบรมเป็นวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสถาบันพระปกเกล้าให้มีการจัดพรีเซนต์ กลุ่มงานออกเป็น 5 กลุ่ม เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามารับฟังการพรีเซนต์กลุ่มงานของแต่ละกลุ่มว่าเป็นอย่างไร และต้องมีการใส่ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง
กลุ่มที่ 1 ได้ทำเรื่องของสปอร์ตทัวร์ริซึ่มของจังหวัดพังงา เพื่อพัฒนาเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้ที่ยั่งยืนโดยต้องมีสโคปของอีเว้นท์กีฬาที่แน่ชัด กลุ่มที่ 2 ทำเรื่องมิติของสมาคมกีฬาที่มีบทบาทต่อสังคมอย่าง ว่ายน้ำจัดโครงการสอนช่วยเหลือคนจมน้ำ และทางยูยิตสูก็ให้ความรู้กับการป้องกันตัวของบรรดาพยาบาล หมอนายแพทย์ หรือผู้ช่วยพยาบาล ในกรณีที่มีคนเข้ามาสร้างเหตุการณ์ไม่ดีภายในโรงพยาบาล กลุ่ม 3 เสนอเรื่องของการล็อคสกอร์ผลการแข่งขันกีฬาเป็นมะเร็งร้ายที่ทำให้วงการกีฬาในเมืองไทยตกต่ำอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล หรือแม้กระทั่งกีฬาคนพิการก็ยังมี

กลุ่ม 4 ทำเรื่องบริบททีวีกีฬาเพื่อการพัฒนาวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะทีวีกีฬาทีสปอร์ตชาแนล ที่สมาคมกีฬาแห่ง?ประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดยังเข้าไม่ถึง การเข้ามามีส่วนร่วมน้อยมาก และทิศทางการพัฒนาทีวีกีฬาอย่างยั่งยืน กลุ่มสุดท้าย เสนอปัญหาอุปสรรคของการเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับนานาขาติ จนทำใก้เกิดปัญหาตามมาหลังจากจบการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านการเงินของประเทศนั้นๆมีปัญหา โดยสรุปคณาจารย์ทุกท่านชื่นชมในสิ่งที่ผู้เข้าร่วมอบรมพรีเซนต์
นายณัฐพงศ์ รอดมี ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารออาชีพทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ เกิดขึ้น จากความร่วมมือระหว่างกกท. และสถาบันพระปกเกล้า มีวัตถุประสค์เพื่อเพิ่มขีดสมรรถนะของบุคลากรทางการกีฬาของชาติ และมุ่งมั่นพัฒนทักษะการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ให้แก่ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของสมาคมและพัฒนาวงการกีฬาของประเทศ ให้มีความทัดเทียมนานาประเทศ

นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเป็นเวทีของการประสานสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้เข้ารับอบรม เพื่อการร่วมมือ การพัฒนาวงการกีฬาของชาติในวงกว้าง
สำหรับรุ่นที่ 4 มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 40 คน ประกอบด้วยผู้บริหารจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยจำนวน 20 คน และผู้บริหารจากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 20 คน อบรมตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา และเพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เชิงประจักษ์ ได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงาน (ซึ่งจัดกิจกรรมโดย กกท.) ที่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี และจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 14 – 18 กันยายนที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดทำเอกสารวิชาการกลุ่มและนำเสนอเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมารวมเวลาการศึกษาอบรมในหลักสูตรทั้งสิ้น 86 ชั่วโมง

ทั้งนี้ จากเงื่อนไขที่กำหนดพบว่า ผู้เข้ารับการอบรมได้ผ่านเงื่อนไขตามที่หลักสูตรกำหนด จำนวน 40 คน และเชิญท่านเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานพิธีมอบใบรับรองให้แก่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมกล่าวแสดงความยินดี
ศาสตรจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การกีฬามีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ การกีฬาต้องพัฒนาไปไกล และการกีฬาต้องยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลง อย่างฟุตบอลสมัยนี้หันมาใช้วีเออาร์หลายคู่ ที่ต้องใช้เพราะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาลเพื่อใม่ให้เกิดปัญหาคางแคลงใจในการตัดสิน สุดท้ายนี้ก็หวังว่าผู้บริหารสมาคมกีฬาทุกท่านจะใช้หลักธรรมาภิบาลบริหารงานกีฬาของประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายความสำเร็จต่อไป พร้อมกับขอแสดงความยินดีที่ทุกท่านได้จบหลักสูตรนี้ครบ 40 คนตามเป้าหมายของการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้มีการจัดอบรมขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3053
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3052
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศรีสุวรรณร้อง DSI ให้รับเป็นคดีพิเศษ พร้อมเอาผิดคณะกรรมการคัดเลือก พิรุธแก้ TOR ประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม เป็นการเอือประโยชน์

วันที่ 28 ก.ย. 63  เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ยึ่นหนังสือ และเอาผิดคณะกรรมการคัดเลือกการประมูลตาม ม.36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หลังพบพิรุธเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR) ในการประมูล และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ตามที่ คณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 128,128 ล้านบาท ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR) หลังมีการซื้อขายซองประกวดราคาเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด 10 บริษัท โดยพบข้อพิรุธหลายประการ อาทิ มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งซึ่งยื่นซองประมูลได้ข้อเปลี่ยนแปลง TOR และคณะกรรมการฯ รับข้อเสนอจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว หรือ เงื่อนไข TOR ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเองได้ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปตามระเบียบทางราชการ พร้อมรับฟังความเห็นต่างๆของผู้มีส่วนได้เสีย และต้องยื่น ครม.เพื่อ มีมติเห็นชอบ โดยต้องถือประโยชน์ของรัฐเป็นลำดับแรกมากที่สุด เป็นต้น

นายศรีสุวรรณ เผยอีกว่า ที่ผ่านมา การพิจารณาเป็นขั้นตอนจะแยกซองเทคนิค หากผ่านตามเกณฑ์ จึงจะเปิดซองการเงินตามลำดับ แต่การประกวดครั้งนี้กลับนำซองเทคนิคมาคิดคะแนนรวมกับซองการเงิน โดยกำหนดสัดส่วนการให้คะแนน 30/70 หากรายใดได้คะแนนรวมสูงสุดก็จะได้รับการคัดเลือก และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการฯ ซึ่งอาจมีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สำคัญมากต่อการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงนำหลักฐานๆ มามอบให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบ เพราะเกี่ยวข้องกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อาจเข้าข่ายร่วมฮั้วประมูลด้วย

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลง TOR ใหม่หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นการขัดต่อมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อ 28 ม.ค.63 และยังขัดต่อการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ ตาม ม.6(3) และ ม.32 ของ พรบ.ร่วมทุนฯ 2562 ประกอบกับข้อ 8(4) ของคณะกรรมการนโยบายร่วมทุนฯ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเอกชน 2563

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ระบุว่า ได้รับเรื่องไว้และ จะทำการตรวจสอบเอกสานว่าเข้าข่ายตามกฎหมายพิเศษของดีเอสไอหรือไม่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อน เพื่อจะรัยเป็นคดีพิเศษหรือไม่

Cr.:  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์