http://www.natethip.com/news.php?id=3423
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3422
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3421
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมกีฬาจังหวัดตราด จัดการแข่งขันเปตองโครงการเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล ” ครั้งที่ 5 ประจำปี 2563 ที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จังหวัดตราด วันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.2563 เพื่อเฟ้นหานักเปตองเยาวชนชาย-เยาวชนหญิง เป็นตัวแทนทีมชาติไปร่วมการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก 2021 ที่ พระนครศรีอยุธยา ปีหน้า
นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.นี้ สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมกีฬาจังหวัดตราด จัดการแข่งขันเปตองโครงการเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล” ครั้งที่ 5 ประเภทคู่เยาวชนชาย-คู่เยาวชนหญิง ที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จ.ตราด สมาคมกีฬาเปตองฯได้จัดแข่งขันรายการนี้มาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีทีมเข้าแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 200 กว่าทีม เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาเปตองให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และผลักดันให้เยาวชนได้มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย เตรียมเข้าแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก 2021 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในเดือนพ.ย.2564

เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการเปตองเยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากลเป็นคนแรก กล่าวว่า โครงการเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี2558 ปีนี้เป็นครั้งที่ 5 นับว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาตลอด จนสามารถสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ขึ้นมาต่อยอดติดทีมชาติรุ่นใหญ่มาแล้วหลายคน อย่างเช่น “คอนโด” ธนากร สังข์แก้ว ที่มาจากโครงการนี้สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม และคว้าแชมป์มาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาซีเกมส์ ชิงแชมป์เอเชีย และแชมป์โลก ซึ่งถือว่า “คอนโด” เป็นโมเดลสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ๆต่อไป
นอกจากนี้เด็กเยาวชนโครงการนี้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กระดับยุวชนอายุ12-13 ปี ที่จะขึ้นมาต่อยอดสู่เยาวชนจนถึงทีมชาติรุ่นใหญ่ได้อีกด้วย เมื่อปี2562ที่ผ่านมา “โฟล” ภีมภส เรือนแก้ว นักกีฬาในโครงการเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล สามารถคว้าแชมป์โลก 2019 ประเภทชู้ตติ้ง มาครองได้สำเร็จ ที่ กัมพูชา

สำหรับการจัดแข่งเปตองโครงการเปตอง “เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล” ครั้งที่ 5 จัดที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จ.ตราด ระหว่างวันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.2563 เพื่อคัดเลือกเอาทีมเยาวชนชายที่เข้ารอบ 32 ทีม(64 คน) และเยาวชนหญิงที่เข้อรอบ 16 ทีม(32 คน) ไปแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทยต่อไป เปิดรับสมัครทีมเข้าแข่งขันโดยไม่เสียค่าสมัครแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 16 ธ.ค.นี้ และสามารถถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ สมาคมกีฬาเปตองฯ โทร.02-3197622 หรือที่ 097-1361197

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันวิ่ง “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” ที่สนามหลวง ซึ่งเป็นวิ่งมาราธอนกลางคืนมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ได้รับรองของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (World Athletics) ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในรูปแบบ New Normal Edition ระยะ 21.1 กม. และ 10 กม.โดยมี ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย มร.ทาเคโอะ โนดะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) และผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน ได้ร่วมปล่อยตัวนักวิ่ง ที่ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยปีนี้มีนักวิ่งร่วมชิงชัยทั้ง 2 ระยะ รวม 8,000 คน

ผลปรากฎว่า ประเภท ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายชาย “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม ปอดเหล็กฟอร์มแรงเจ้าของสถิติฮาล์ฟมาราธอนประเทศไทย ที่โชว์ฝีเท้าเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 01:11:19 ชม. คว้าโทรฟีแชมป์ไปครอง พร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท อันดับ 2 บุญถึง ศรีสังข์ ทำได้ 01:12:19 ชม. รับเงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับ 3 ชยพล บุญอุปละ เวลา 01:14:11 ชม. รับเงินรางวัล 7,000 บาท
ขณะที่ แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายหญิง คือ “สายฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ ปอดเหล็กจอมเก๋าทีมชาติไทย ทำได้ 01:26:02 ชม. คว้าโทรฟีแชมป์พร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท อันดับ 2 ปิยะนุช สุขชาติ เวลา 01:26:15 ชม. รับเงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับ 3 ระเบียง รังเพีย เวลา 01:26:37 ชม. รับเงินรางวัล 7,000 บาท

ประเภท มินิมาราธอน 10 กม. แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายชาย คือ “เบล” ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม ฝาแฝดผู้น้องของ “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 32:47 นาที คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท อันดับ 2 โยธิน ยาประจันทร์ นักกรีฑาทีมชาติไทย เวลา 33:51 นาที รับเงินรางวัล 7,000 บาท และอันดับ 3 วลาดิสลาฟ เดเมียนอฟ นักวิ่งจากรัสเซีย เวลา 33:59 นาที รับเงินรางวัล 5,000 บาท
ส่วน แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายหญิง คือ “ตา” วรพรรณ นวลศรี อดีตนักวิ่งระยะไกลทีมชาติไทย เวลา 38:42 นาที รับเงินรางวัล 10,000 บาท อันดับ 2 อรอนงค์ วงศร เวลา 39:53 นาที รับเงินรางวัล 7,000 บาท อันดับ 3 สุวารี ธนาเอกนิธิวัฒน์ เวลา 42:17 นาที รับเงินรางวัล 5,000 บาท

สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนกลางคืน “ยูเมะพลัส บางกอก มิดไนท์ มาราธอน 2020” จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันความเสี่ยงตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ศบค. ในยุค New Normal พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยการจับมือกับ “RUKKIT” หรือ รักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย มาร่วมรังสรรค์ผลงาน นำมาสู่ธีมของการจัดงานและเสื้อแข่งในปีนี้ คือ “ปลากัด (Siamese Fighting Fish)” สัตว์น้ำ ประจำชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย ตัวแทนของยอดแห่งนักต่อสู้ โดยเส้นทางวิ่งจะผ่านสถาน ที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเกาะรัตนโกสินทร์ ท่ามกลางความสวยงามของแสงไฟและบรรยากาศยามค่ำคืนอย่าง ถนนราชดำเนิน วัดพระแก้ว พระบรมหาราชวัง พระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Bangkok Midnight Marathon (www.facebook.com/Bangkokmidnightmarathon)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นักหวดหนุ่ม ชนาธร กางทอง ได้สิทธิลุยต่อในรอบเมนดรอว์ หลังหวดชนะ ณภัทร ฮวดเจริญ 2-1 เซต 6-2, 3-6, 10-6 (ซุปเปอร์ไทเบรก) การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “ไทยแลนด์ เวิลด์ จูเนียร์ แร้งกิ้ง” เก็บคะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 รอบคัดเลือก (รอบสุดท้าย) นักกีฬาที่ชนะในรอบนี้ ได้สิทธิเข้าแข่งขันในรอบเมนดรอว์ต่อไป
ประเภทชายเดี่ยว ชนาธร กางทอง ชนะ ณภัทร ฮวดเจริญ 6-2,3-6, 10-6 (ซุปเปอร์ไทเบรก) ปัญณ์ณวัชญ์ สุทธิสมบูรณ์ ชนะ ชิษณุพงศ์ โภคินเศรษฐศิริ 6-3, 6-3 วงศ์วรัณ วงศ์เจริญ ชนะ เคนโกะ โอตะ (ญี่ปุ่น) 6-1, 6-2 ปูนทอง โกมลพิสุทธิ์ ชนะ วิทวินท์ อุปริพุทธิพงศ์ 6-0, 6-3
ประเภทหญิงเดี่ยว รสิตา กูลหนองแดง ชนะ แจสมิน คอนราด (เนเธอร์แลนด์) 2-6, 6-1, 10-7 (ซุปเปอร์ไทเบรก) วาริศา อินทรพรหม ชนะผ่าน กฤติกา แอบเอี่ยม เกศรินทร์ อุ่นศิริ ชนะ เพียรธัญธัญ จิตรมั่นมานะ 2-0 (เพียรธัญธัญ ขอยอมแพ้เนื่องจากไม่สบายและอาเจียน) คิมเบอร์ลี่ แม็คเคนซี่ (ฟิลิปปินส์) ชนะ ฐิตารีย์ ตุ้มทอง 7-6 (7), 6-0

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับแจ้งจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า ทีมจักรยานอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ปิดฤดูกาลแข่งขันจักรยานประเภทถนนเอเชีย ทัวร์ 2020 มีคะแนนสะสมเป็นอันดับที่ 3 โดยมี ทีมซาปูรา จากมาเลเซีย และ ทีมวิโน แอสตานา จากคาซัคสถาน ปิดฤดูกาลในอันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการเป็น 1 ในท็อป 3 ทีมของเอเชียดังกล่าว ส่งผลให้ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” จะได้สิทธิ์ในการรับเชิญจากเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานอาชีพ ของทวีปเอเชียทุกรายการในฤดูกาล 2021 ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จก้าวใหญ่อีกระดับของวงการกีฬาสองล้อไทย เนื่องจากสิทธิ์ดังกล่าวจะทำให้ทีมสองล้ออาชีพของไทยมีโอกาสเลือกเข้าแข่งขันรายการใหญ่ ด้วยเป้าหมายทั้งล่าเงินรางวัล และเก็บคะแนนสะสมกีฬาจักรยานโลกของ ยูซีไอ ทั้งในระดับบุคคล, ระดับทีม และระดับทีมชาติ
“นอกเหนือจากสิทธิ์การเลือกลงแข่งขัน รายการที่บรรจุในเอเชีย ทัวร์ ฤดูกาล 2021 แล้ว จะเป็นเครดิตสำคัญในการอ้างอิงกรณีที่ทีมอาชีพ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม มีแผนที่จะไปตระเวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีมาตรฐานกีฬาจักรยานสูง อย่างทวีปยุโรปหรืออเมริกา ขณะเดียวกันเป็นโอกาสอันดีที่นักปั่นไทยในทีมอาชีพจะเก็บคะแนนสะสม เพื่อเป็นฐานสำหรับการคัดเลือกนักปั่นชายในประเภทถนน เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ กรุงปารีส ฝรั่งเศส หรืออีก 3 ปีข้างหน้า”

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากในรอบปี 2019 และ 2020 นักปั่นทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ไม่ว่าจะเป็น “วุฒิ” สิบโท สราวุฒิ สิริรณชัย, “มะตูม” จ่าอากาศเอก พีระพล ชาวเชียงขวาง, “ป๋อม” ร้อยตำรวจเอก ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, “ปาง” จ่าอากาศเอก ธนาวุฒิ สนิกวาที, “ดอย” สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่ จนถึงน้องใหม่ของทีมอย่าง “เจ้าเฟรม” สิยตรี ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ต่างก็ทำผลงานการแข่งขันต่าง ๆ จนเป็นที่จับตาของวงการสองล้อทวีปเอเชีย
“สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ยังมีนโยบายการส่งเสริมนักปั่นไทยเข้าสู่ทีมอาชีพ และส่งแข่งขันอย่างต่อเนื่องในปี 2021 ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยคุณเอกชัย เศวตสมภพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ในฐานะอุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อผลักดันกีฬาสองล้อไทยให้ยืนหยัดเป็นหนึ่งในมหาอำนาจกีฬาจักรยานของภูมิภาคเอเชียให้ได้ในอนาคต”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กฟผ. ร่วมกับ จ.นครราชสีมา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพปากช่อง จัดการแข่งขันวิ่งโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 แบบ New Normal ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ นักวิ่งจากทั่วทุกสารทิศร่วมประลองฝีเท้า เคล้าลมหนาว ชมวิวหมื่นล้านของอ่างพักน้ำตอนบนและทุ่งกังหันลมโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมีนายชฎาลม วงศ์ด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานกกท.จังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่วนราชการ เอกชน ประชาชน รวมถึงนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกสารทิศ จำนวน 2,500 คน เข้าร่วมแข่งขัน ที่ อ่างพักน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา บ้านเขายายเที่ยงเหนือ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย กล่าวว่า การแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2020 เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองกีฬา (Sports City) โดยใช้กีฬาเป็นกิจกรรมขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยวในชุมชนรอบพื้นที่ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น
นายประเสริฐ อินทับ กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 บนเส้นทางอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมด้านการกีฬา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ จัดภายใต้รูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ลงทะเบียนก่อนเข้างาน และต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ และเพื่อความสะดวกรวดเร็วการตรวจสอบผลวิ่งหลังจบการแข่งขัน นักวิ่งสามารถรับผลการแข่งขันด้วยการสแกน QR Code บนบิบ Korat Half Marathon Loifaa 9th ซึ่งนอกจากตอบสนองต่อแนวคิดรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดการใช้กระดาษ และรักษาระยะห่างทางสังคมอีกด้วย

สำหรับการแข่งขัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กม. มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กม. ฟันรัน ระยะทาง 3.5 กม.ผู้ทีชนะเลิศชาวไทยประเภทฮาล์ฟมาราธอน ได้รับรางวัลถ้วยประทานฯ พร้อมเงินสด คนละ 15,000 บาท ชาวต่างชาติได้รับรางวัลถ้วยพร้อมเงินสด คนละ 15,000 บาท
ส่วนผลผู่ชนะเลิศศแต่ละประเภทมีดังนี้ ประเภทชาวไทยทั่วไป (Thai Citizen Overall) ชาย สุทัศน์ กัลยาณกิตติ สถิติ 1 ชั่วโมง 25 นาที 13 วินาที ประเภทชาวไทยทั่วไป (Thai Citizen Overall) หญิง สุดารัตน์ สีนอก สถิติ 1 ชั่วโมง 49 นาที 25 วินาที ประเภทนานาชาติทั่วไป (Foreigner Overall) ชาย Julius Kiptum Mutai สถิติ 1 ชั่วโมง 25 นาที 10 วินาที และประเภทนานาชาติทั่วไป (Foreigner Overall) หญิง Dorcas Jebotip Tarus สถิติ 1 ชั่วโมง 35 นาที 21 วินาที

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเบสบอลชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 63 หรือรายการ “เบสบอล ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ” เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศวันสุดท้าย ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา คลองหก จ.ปทุมธานี โดยมีนายปริญญา ถวัลย์อรรณพ ผู้อำนวยการสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ, นายวุฒิชัย อุดมกาญจนนันท์ นายกสมาคมกีฬาเบสบอลแห่งประเทศไทย และ “มาดามเจี๊ยบ” นางศิริณี กันทา อุปนายกสมาคมฯ ร่วมเป็นประธานปิดการแข่งขัน

ผลปรากฏว่า ประเภทเมเจอร์ ทีมพลศึกษาสุพรรณบุรี อาศัยทีมเวิร์คและประสบการณ์ที่เหนือกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะ ทีมชาร์ค ไปแบบหายห่วง 11-6 คว้าแชมป์ไปครองสมใจ ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 ทีมไนส์ เอาชนะ ทีมเคบี โคเรียล ไปขาดลอย 18-3 ขณะที่ประเภทไมเนอร์ แข่งขันแบบพบกันหมดเพื่อเก็บคะแนนสะสม อันดับ 1 ได้แก่ ร.ร.กีฬาสุพรรณบุรี แข่ง 5 นัดชนะรวดมี 10 คะแนน อันดับ 2 ทีมดิแอนนิมอล ชนะ 4 นัดมี 8 คะแนน อันดับ 3 ร.ร.เชียงใหม่ ชนะ 3 นัดมี 6 คะแนน และอันดับ 4 บีเคเค ธันเดอร์ ชนะ 2 นัดมี 4 คะแนน และปิดท้ายกันที่ประเภท ยู 12 ปี แชมป์ในปีนี้ตกเป็นของ บีเคเค ธันเดอร์ อันดับ 2 ไอบีเอส (IBS) และ อันดับ 3 ไทยญี่ปุ่น

หลังการแข่งขันครั้งเสร็จสิ้นลง ทางสมาคมฯมีโปรแกรมจัดการประเภทยุวชน U 12 และ U 15 อีกครั้ง ในเดือนมีนาคมปี 64 เพื่อต้องส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการยกระดับและมาตรฐานเด็กไทยให้สูงขึ้น ก่อนจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในระดับอาเซี่ยน และ ชิงแชมป์เอเชียต่อไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์