วันอังคาร, พฤษภาคม 13, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1735

“ตามรอยพ่อฯ” ก้าวสู่ปีที่ 9 สร้างองค์ความรู้ผ่านบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติ”ตอกย้ำบทบาท “สื่อพอดี” สร้างแรงบันดาลใจ”ศาสตร์พระราชา” ให้คนไทยสู้ทุกวิกฤตอย่างยืน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) เดินหน้าสู่ปีที่ 9 ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 มุ่งทำหน้าที่ “สื่อพอดี” ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ชาวไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การลงมือปฏิบัติ อันจะเป็นเกราะป้องกันจากวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตอื่นๆ ได้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ 9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน” ด้วยการจัดทำบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถี กสิกรรมธรรมชาติ” เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาทฤษฎีและแนวทางการปฏิบัติ พร้อมด้วยคลิปให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจจาก 7 บรมครู เผยแพร่บนเว็บไซต์ของและเฟซบุ๊กของโครงการฯ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่จังหวัดนครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา และกิจกรรมประกาศความสำเร็จ 9 ปีของโครงการที่จังหวัดสระบุรี และรายการ “เจาะใจ” โดยวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้นจัดทัพรับมือโรคระบาด
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานข้อความ ‘สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย’ เตือนสติคนไทยผ่าน ส.ค.ส. ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานยึดมั่นถือมั่นในการทำงานอย่างมีสติมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการดำเนินโครงการตามรอยพ่อฯ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดปัญหาหรือวิกฤตใดก็ตาม ทั้งวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โรคระบาด ภัยแล้ง หมอกควัน วิกฤตด้านเศรษฐกิจ วิกฤตด้านความเหลื่อมล้ำทางสังคม และวิกฤตด้านการเมือง ศาสตร์พระราชา คือ องค์ความรู้ในการจัดการ ดิน น้ำ ป่า และพัฒนาคน ก็จะเป็นทางรอดที่ยั่งยืนในทุกวิกฤต ทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น ทั้งยังสามารถแบ่งปันและสร้างรายได้ เป็นการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก ความอดอยากขาดแคลนอาหารในโลกจะมีขึ้นอย่างแน่นอน คนที่แม้ไม่เจ็บป่วยก็จะได้รับผลกระทบจากการไม่มีอาหารกิน ฉะนั้นจึงต้องสร้างฐาน 4 พอ คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น ให้แน่น ให้พึ่งตนเองให้ได้จริง ต้องมั่นคงแข็งแรงพอ จึงจะมีกำลังไปช่วยคนอื่นให้รอดไปด้วยกัน โดยเชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน”
นายไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับคนไทยทุกคน มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและเครือข่ายจึงได้เตรียมการวางแผนรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ เบื้องต้นได้จัดทัพรับมือโรคระบาด โดยแบ่งทีมทำงานออกเป็น 5 ทีม ได้แก่
1. ทีมบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) มีหน้าที่รวมรวมข้อมูลแปลงของสมาชิกเครือข่ายทั้งหมดในแต่ละจังหวัด รวมทั้งวัด โรงเรียน ชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลของทุกศูนย์และแปลงของสมาชิกเครือข่าย หากเกิดการล็อกดาวน์จะใช้ข้อมูลนี้ให้ความช่วยเหลือกันได้ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับลุ่มน้ำ
2. ทีม CMS (Crisis Management Survival Camp) มีหน้าที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนภัย เพื่อพัฒนาและเตรียมพร้อมไปสู่ขั้นการเป็นศูนย์พักพิงหลุมหลบภัย หรืออาจไปถึงขั้นเป็น Hospitel ทั้งในระดับ เล็ก(บ้าน) กลาง ใหญ่ โดยยึดหลักป้องกันบำบัด ฟื้นฟู
3. ทีมพอรักษา มุ่งเป้าเร่งด่วนเรื่องโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ป้องกัน (ผู้ไม่ป่วย) บำบัด (ผู้ที่ป่วยอยู่) และฟื้นฟู (ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว) โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและยาที่ควรใช้ รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ ตามข้อมูลจากทางแพทย์แผนปัจจุบัน-ไทย-จีนและทางเลือกอื่น ๆ
4. ทีมสื่อพอดี มีหน้าที่นำข้อมูลของทั้ง 3 ทีม มาสื่อสารต่อยอดและเผยแพร่ เพื่อให้ข้อมูล ให้ความรู้ แนะทางออก ผ่านช่องทางทางการเผยแพร่ต่าง ๆ
5. ทีมข้อมูล มีหน้าที่จัดการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และออกแบบการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนเครือข่าย เพื่อฝ่าวิกฤตที่กำลังเผชิญในปัจจุบันและอนาคต ในภาวะวิกฤตเช่นนี้เราไม่ควรรอความหวังหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหน ต้องพึ่งพาตัวเองและพึ่งพากันเองให้ได้มากที่สุด เชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน
โดยที่ผ่านมาเราได้เปิดรับศิษย์ เครือข่าย คนมีใจ และประชาชนที่สนใจมาเป็นอาสาสมัครให้กับทีมงานขับเคลื่อนทั้ง 5ทีม ตามความถนัดเฉพาะด้านของแต่ละคน ซึ่งการรวมกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและพึ่งพากันในยามวิกฤตด้วยองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาจะทำให้เราทุกคนอยู่รอดปลอดภัย”ตามรอยพ่อฯ ปี 9 เดินหน้าภารกิจ “สื่อพอดี”
ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด เปิดเผยว่า “โครงการตามรอยพ่อฯ พร้อมที่จะเข้าไปเสริมและสนับสนุนยุทธศาสตร์การเตรียมการรับมือวิกฤตโควิด-19 ของมูลนิธิฯ อย่างเต็มที่ ในฐานะสื่อพอดี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดการนำองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาไปลงมือปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่โครงการตามรอยพ่อฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 9 ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่และการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศกว่า 20,000 คน และยังมีผู้ที่ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากสื่อที่โครงการผลิตขึ้นอีกมากมาย โดยเราจะมุ่งทำหน้าที่นี้อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องเพื่อสื่อสารว่าศาสตร์พระราชาคือทางรอดจากทุกวิกฤตอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ โครงการตามรอยพ่อฯ ปี 9 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน’ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยเน้นช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีไฮไลท์คือการจัดทำบทเรียนออนไลน์คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติในรูปแบบบทความและวีดิทัศน์ บอกเล่าเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ รวม 14 บท เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำองค์ความรู้ไปลงมือทำเองได้ หากติดขัดหรือสงสัยเรามีช่องทางถามตอบในสื่อออนไลน์ของโครงการทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊กและไลน์ (@inspiredbytheking)
นอกจากนั้น โครงการตามรอยพ่อฯ ปี9 ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่ จ.นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา ณ พื้นที่ของคนมีใจที่นำศาสตร์พระราชาไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผู้สนใจได้มาเรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจผ่านการทำกิจกรรมลงแขกอย่างโบราณ และยังกำหนดจะจัดงานสรุปผลการดำเนินโครงการ 9 ปี ที่ สวนล้อมศรีรินทร์ จ.สระบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นโครงการอีกด้วย โดยจะวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและ การเว้นระยะห่างของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น และส่งท้ายด้วยการรวบรวมคนต้นแบบและบรมครูผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ ตลอดทั้ง 9 ปี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจในรายการเจาะใจซึ่งจะออกอากาศทางช่อง MCOT HD”สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู้วิกฤต
ด้านนายโจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์ และประธานธรรมธุรกิจ กล่าวแนะนำการดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตโรคระบาดนี้ว่า “เราประเมินไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะยาวนานขนาดไหน การรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วหวังว่าเราจะดีขึ้นเอง ก็ดูจะเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำ คือ การกลับมาคิดถึงการพึ่งตนเองในเรื่องของอาหารเป็นอันดับแรก เราจะหาอาหารมาจากไหน ถ้าอยู่ในเมืองก็อาจต้องคิดถึงการปลูกอาหารเองง่าย ๆ เช่น การเพาะถั่วงอก หรือการปลูกผักแนวตั้ง อีกวิธีหนึ่งคือการเชื่อมต่อกับกลุ่มเกษตรกรที่เขาทำอยู่แล้ว ให้เขาส่งวัตถุดิบมาให้ ซึ่งควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะปกติด้วย ที่เราควรจะรู้แหล่งที่มาของอาหารที่เราบริโภค ฉะนั้นการเชื่อมต่อกันอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในสภาวะปัจจุบัน การหันกลับมาพึ่งตนเองมากขึ้น กลับมาพึ่งกันเองมากขึ้น ต่อให้ระบบพังหรืออะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังอยู่ได้ นี่คือแนวทางที่เราควรจะต้องกลับมาใคร่ครวญพิจารณา เครือข่ายของเรามีครบทุกอย่างไม่ว่าจะข้าว ปลา กะปิ เกลือ ผัก ฯลฯ และยิ่งถ้าคนสนใจทำแบบนี้มากขึ้นจะทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจแนวใหม่ ระบบการค้าแนวใหม่ ที่ทำให้คนได้คุยกันตรงมากขึ้นโดยไม่อ้อม นี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ นี่คือแนวโน้มที่จะทำให้เราอยู่ได้ในช่วงโควิด-19”

ผู้ที่สนใจติดตามกิจกรรมในโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking หรือดูรายละเอียดที่ https://ajourneyinspiredbytheking.org

เกี่ยวกับโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน
โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) เกิดจากความร่วมมือของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ศาสนา และสื่อมวลชน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมนำศาสตร์พระราชาด้านการบริหารจัดการดิน น้ำ ป่า และพัฒนาคน มาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เกิดความตระหนัก และนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ตามแผนหลัก 9 ปี ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ๆ ละ 3 ปี ระยะแรก คือ การตอกเสาเข็ม สร้างการรับรู้ ระยะที่ 2 การแตกตัว เป็นการขยายผล สร้างคน สร้างครู สร้างเครื่องมือเพื่อยกระดับเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ระยะที่ 3 การขยายผลเชื่อมโยงทั้งระบบ ซึ่งเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม สามารถยกระดับสู่การแข่งขันได้ ต่อยอดการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานให้เกิดความยั่งยืนขึ้น ด้วยการเดินตามบันได 9 ขั้น ไปสู่ความพอเพียงตามแนวทางศาสตร์พระราชา และการวางรากฐานการพัฒนามนุษย์ เพราะหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนและพัฒนา คือ คน โครงการจึงพยายามสร้างคน จากคนมีใจ สู่เครือข่าย และแม่ทัพผู้พาทำ เพื่อร่วมกันสืบสานศาสตร์พระราชาต่อไป   :Cr;มณสิการ รามจันทร์

Banpu ติดปีก! ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในออสเตรเลียถึง 2 แห่ง

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4042
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

ธ.ก.ส.เตือนโจรออนไลน์ใช้โลโก้ธนาคารปล่อยเงินกู้ทาง Facebook

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4041
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

จิตอาสา “แชมป์โลกไทย” บุก “โรงพยาบาลธัญญะ” กำลังใจแพทย์สนาม รักษาโควิด

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กิจกรรมจิตอาสา ชมรมวีรบุรุษแชมป์โลกไทย นำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ตระเวณมอบ ทีมแพทย์ โรงพยาบาลสนาม ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ล่าสุดดำเนินมาจนถึงวันที่ 22 แล้ว
ที่โรงพยาบาลธัญบุรี (คลอง 6) จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เขาทราย แกแล็คซี่ ,ศิริมงคล สิงห์วังชา, “ป๋าไฝ” มานพ เอี่ยมท้วม พร้อมทีมงานผู้สนับสนุน ในนาม ชมรมวีรบุรุษแชมป์โลกไทย นำ อาหาร ข้าวไก่ผัดเขียวหวาน ,ไก่ผัดพริกแกง รวม 150 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 20 แพ็ค มอบให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ รพ.สนาม ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ให้ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน โดยมี นพ.มติ ดุรงค์ฤทธิ์ชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญบุรี และ นพ. ศศิภา อริสริยวงศ์ ร่วมรับมอบ

นอกจากนี้มีการสนับสนุนสมทบจากนายศุภกฤษ พิบูลศิลป์ (GODDRAGON)ยูทูบเบอร์ god dragon ghost fighter Thailand และเพจ god dragon มังกรสู้ผี
และ นาย บทมากร วิเศษศิริ ทุนทรัพย์สำหรับจัดซื้อวัตถุดิบ จาก นายไตรสรณคมน์ หนองเรือง และ นายชัยวัฒน์ ประยงค์รัตน์ , จากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม รวม 25,000บาท, บริจาค ข้าวหอมมะลิ รวม สบทบ 200 กก จากเขาทราย แกแล็คซี่ ,บริจาคสมทบน้ำดื่ม แบบแพ็ครวม 200 แพ็ค จาก พรสวรรค์ ป ประมุข และ ศูนย์การเรียนรู้มวยไทยต้านภัยยาเสพติดหมู่บ้านพระปิ่น 3 และชาวตลาดนัดแสงจันทร์ถาวร ,สนับสนุนน้ำดื่ม ตลอด 1 เดือน ดร.วิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) และนายกสมาคม ส.บ.ม.ท. , คุณสุกานดา มิตรศาสตร์ ร่วมบริจาคน้ำดื่มตลอด 1 เดือนเต็ม ,คุณยศรินทร์ ตลับนาค ประธานเครือข่ายแกนนำจิตอาสาพัฒนาสังคม รับหน้าที่ ปรุงอาหารพร้อมนำส่งตลอดเดือน

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ผ่าทางตันสัมปทาน BTS… ยิ่งยืดยื้อ ก็ยิ่งเสียหาย!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4040
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

MBKผนึกกำลังสำนักงานประกันสังคมเขต 4 – รพ.ปิยะเวท เปิดจุดบริการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่หน่วยงานภาครัฐในการกระจายวัคซีนให้บริการประชาชนได้ครอบคลุมทั่วถึง ผนึกกำลัง สำนักงานประกันสังคมเขต 4 และ โรงพยาบาลปิยะเวท เปิดจุดบริการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่อยู่ในพื้นที่เขต 4 ได้แก่ บางรัก ปทุมวัน ยานนาวา สาทร และ บางคอแหลม ซึ่งบริษัทลงทะเบียนและได้รับการยืนยันสิทธิ์ล่วงหน้าจากสำนักงานประกันสังคมเขต 4 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 เปิดให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. บริเวณชั้น G โซน C ลานปทุมวันฮอลล์ และ รามาฮอลล์ รวมพื้นที่กว่า 1,600 ตร.ม. รองรับผู้ประกันตนประมาณ 1,200 คน/วัน
ภายใต้ความพร้อมให้ประชาชนเข้าถึงการฉีดได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ทั้งด้านสถานที่ที่มีความกว้างขวาง การเดินทางสะดวกสบายจากศูนย์การค้าเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ พร้อมมาตรการด้านความปลอดภัยและความสะอาดขั้นสูงสุด ตั้งแต่ทางเข้าศูนย์ฯและทางเข้าจุดบริการที่มีการติดตั้งจุดตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด พร้อมอุปกรณ์ อาทิ เครื่องวัดอุณหภูมิ การจัดสถานที่เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงอบโอโซน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ พร้อมเช็ดทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างเข้มข้นภายในศูนย์ฯ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯ
โดยนางสาวภคมน ศิลานุภาพ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ สำนักงานประกันสังคม ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการและกระจายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ให้แก่ผู้ประกันตน พร้อมด้วย นายมนตรี สุวณิยช์ ที่ปรึกษาด้านเภสัชกรรม นางสาวอุษา ธีระวิทยเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือปิยะเวท พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก-ปิยะเวท พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนและการทดสอบระบบการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอน ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เขตปทุมวัน ซึ่งวันนี้ได้ทดสอบระบบโดยทำการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้กับบุคลากรสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยมีคณะผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ นำโดย นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ ซึ่งมีการเตรียมระบบการให้บริการฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนตามขั้นตอนจนถึงการดูแลและสังเกตอาการ
นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ สำนักงานประกันสังคมเขต 4 และ โรงพยาบาลปิยะเวท ในการใช้พื้นที่ศูนย์การค้าให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชน เพื่อสนับสนุนการกระจายวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม เพื่อให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ดัชนีความสุขของคนไทยเพิ่มขึ้น พลิกฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ได้ดำเนินการสนับสนุนให้ร้านค้า พนักงาน ได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมต้อนรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ
“นอกจากความพร้อมด้านสถานที่ ความสะอาดและความปลอดภัยขั้นสูงสุด เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ยังร่วมกับร้านค้ามอบความสุขให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านแคมเปญ THAI SAVE THAI รวมใจฉีดวัคซีน เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 และบัตรประจำตัวประชาชน รับทันทีส่วนลดของแถมจากร้านค้าชั้นนำมากมาย ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 พร้อมกิจกรรมให้ความรู้ในการนำตำรับยาจากสมุนไพรภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคมาดูแลสุขภาพของตนเอง คลินิกตรวจสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การสาธิตทำเครื่องดื่มสุขภาพ อาทิ น้ำตรีผลา น้ำกระชาย การแจกสมุนไพรให้กลับไปปลูกที่บ้าน ในงานสมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จัดขึ้นจนถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2564” นายสมพลกล่าว  :Cr;มณสิการ รามจันทร์

กรมการแพทย์แผนไทยฯจับมือMBKชวนคนไทยดูแลสุขภาพกับงาน“สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย เดินหน้าต่อยอดพัฒนางานวิจัย 2 สมุนไพร คือ ฟ้าทะลายโจรและกระชาย ใช้สมุนไพรไทยรักษาอาการเพื่อต่อสู้กับโรคไวรัสโควิด 19 พร้อมเปิดตัวงาน “สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด” ถ่ายทอดองค์ความรู้การดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ระหว่างวันนี้– 14 มิถุนายน 2564 ณ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์โดยเมื่อวันที่  4 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้การส่งเสริมสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยในภาวะวิกฤตทางการแพทย์และสาธารณสุข ครั้งที่ 1 “สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด” จัดระหว่างวันที่ 2 – 14 มิถุนายน 2564 ณ บริเวณหน้าศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครนายอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ทุกหน่วยงานและทุกกรมในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อป้องกันควบคุมโรค ดูแลรักษาผู้ติดเชื้ออย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ใช้องค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 พบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีผลยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้ร่วมรักษากับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย (ไม่มีภาวะปอดอักเสบ) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตามลำดับ และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วยนายอนุทิน กล่าวต่อว่า มีสมุนไพรอีก 1 ชนิดที่เป็นความหวังในการรักษาโควิด 19 ในอนาคตอันใกล้ คือ กระชาย จากงานวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล (Excellent Center for Drug Discovery : ECDD) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) ที่ได้คัดกรองสารสกัดและสารประกอบธรรมชาติจากพืชสมุนไพรไทยในท้องถิ่น 122 ชนิด พบสารสกัด 6 ชนิด มีศักยภาพยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อก่อโรคไวรัสโคโรนา (SARS-CoV-2) ที่ปริมาณความเข้มข้นของยาในระดับน้อยๆ และไม่เป็นพิษต่อเซลล์ โดยสารสกัดจากกระชายมีฤทธิ์แรงที่สุด “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย” (Excellence Center for Thai Herbal Product Innovation: ECTHPIn) ที่จัดตั้งโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ECDD มหาวิทยาลัยมหิดล, TCELS และสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ จะร่วมกันพัฒนาต่อยอดสมุนไพรกระชายอย่างจริงจัง นำงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในระดับอุตสาหกรรม ยกระดับการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีนวัตกรรมด้านคุณภาพทางด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่ถูกต้องให้กับประชาชน ในภาวะวิกฤตการระบาดไวรัสโควิด 19 โดยร่วมกับ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ภาคีเครือข่ายแพทย์แผนไทย และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร จัดกิจกรรมที่น่าสนใจประกอบด้วย เวทีเสวนาวิชาการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์แผนไทย กิจกรรมแบ่งฐานให้ความรู้ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เช่น ฐานการใช้ยาฟ้าทะลายโจรและกระชาย การทำน้ำตรีผลา ฐานตำรับยาสมุนไพรรักษาอาการไข้ คลินิกตรวจสุขภาพรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพด้านนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยินดีสนับสนุนพื้นที่จัดงาน สมุนไพรไทย ทลายโรค ทลายโควิด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคนไทยให้แข็งแรงมีภูมิต้านทานโรคที่ดีในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่รักสุขภาพที่จะได้นำความรู้ด้านสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทยไปปรับใช้กับการดูแลสุขภาพ โดยศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เข้มข้นด้านความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในศูนย์การค้า:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

บอร์ดกขค.ลุ้นระทึก! ศาลปกครองชี้ขาด ควบรวม-กินรวบค้าปลีก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // บอร์ดแข่งขันทางการค้าลุ้นระทึกคำสั่งศาลปกครองกลาง หลังหอบแฟ้มชี้แจงปมไฟเขียวควบรวมกิจการค้าปลีก ประธานบอร์ด กขค. ยันพร้อมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล

นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ 36 องค์กรผู้บริโภค ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเพื่อให้เพิกถอนมติคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า(กขค.) กรณีมีมติอนุมัติควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวล ลอปเม้นท์จำกัดกับ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส จำกัด ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้เข้าชี้แจงต่อศาลปกครอง พร้อมนำเอกสารประกอบคำชี้แจงตามประเด็นที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ 36 องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานฯได้มีหนังสือขอขยายเวลาการชี้แจงต่อศาลปกครองกรณีให้มีความคุ้มครองนั้นออกไปเป็น วันที่ 22 เม.ย. 2564 และคำชี้แจงถึงมติของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่อนุญาตให้กลุ่มซีพีควบรวมเทสโก้โลตัสที่อาจไม่ชอบด้วยกฏหมาย ได้ขอขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ค.64

ทั้งนี้ ยืนยันว่า กขค.พิจารณากรณีการควบรวมเป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้คงต้องรอผลการพิจารณาของศาลปกครองว่าจะมีคำสั่งอย่างไร คาดว่า จะมีคำสั่งเร็วๆนี้ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและมีผลกระทบต่อสังคม ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรทางกขค.พร้อมปฏิบัติตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า(กขค. )มีมติเสียงข้างมากอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2563 โดยเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวแม้จะทำให้มีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นการผูก
ขาด และการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลให้การแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

ก่อนที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ36 องค์กรผู้บริโภคในฐานะผู้ฟ้องคดี จะเข้ายื่นฟ้อง กขค.ต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอนมติ กขค.ดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาพร้อมขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยระบุว่าหากศาลไม่คุ้มครองชั่วคราวจะทำให้เกิดการผูกขาดจนยากต่อ
การแก้ไขเยียวยาภายหลัง ซึ่งหากศาลปกครองมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา หากฝ่ายใดเห็นต่างในคำสั่งของศาลปกครองก็ยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้

ขณะที่ในส่วนของ เทสโก้ โลตัส นั้น ภายหลังจากกลุ่มซี.พี.เข้าเทคโอเวอร์ไปแล้วก็ได้เปลี่ยนชื่อและโลโก้ใหม่เป็น Lotus’s go fresh และทยอยปรับเปลีายนป้ายห้างใหม่ไปแล้ว.

 

 

 

 

 

 

 

“9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 17:00-18:15 น.ทาง Facebook Fanpage “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ร่วมสนทนาโดย
🌱 ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
🌱 อาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
🌱 โจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์ และประธานธรรมธุรกิจ
🌱 ไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ดำเนินรายการโดย สัญญา คุณากร แล้วเราจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า “ศาสตร์พระราชา” ฝ่าทุกวิกฤตอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง...:Cr;มณสิการ รามจันทร์