วันพุธ, มิถุนายน 11, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1864

5 โปรสาว พร้อมประชันวงสวิง แมตท์พิเศษ “ฟีนิกซ์เลดี้ส์คลาสสิค”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมมกอล์ฟอาชีพสตรีไทย หรือไทย ดับเบิ้ลยูพีจีเอ(THAI WPGA) จัดแมทช์พิเศษเปิดตัวสมาคม ที่สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม นี้ นำเอานักกอล์ฟสตรีทั้งอาชีพ และสมัครเล่นร่วมแข่งขันรวม 136 คน แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม โดยหลังผ่านไป 2 รอบ 36 หลุมจะตัดตัว 60 คน และเสมอเข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายต่อไป สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นการจัดอันดับแร้งกิ้งของสมาคมเพื่อได้สิทธิ์เข้าแข่งขันรายการต่อๆไปที่สมาคมจัดการแข่งขันขึ้น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดโปรสาวระดับชั้นนำ 5 คนอย่าง”โปรจีน”อาฒยา ฐิติกุล จากจังหวัดราชบุรี “โปรสายป่าน”ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ จากจังหวัดร้อยเอ็ด”บิว”กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ จากจังหวัดชลบุรี “เปียโน”อาภิชญา ยุบล จากจังหวัดสระบุรีและ”ก้อย”ชลดา ชยณรรย์ จากจังหวัดนครราชสีมา ต่างก็พร้อมอย่างเต็มที่แข่งขันรายการนี้
อาฒยา ฐิติกุล โปรสาววัย 18 ปี จากจังหวัดราชบุรี ซึ่งเคยคว้าแชมป์รายกาของเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ที่สนามฟีนิกซ์ โกลด์ฯ มา 2 ครั้ง กล่าวถึงการแข่งขันรายกาารของสมาคมกอล์ฟอาชีพสตรีไทยว่า”รู้สึกดีค่ะ เพราะว่าจริงๆเชื่อว่านักกอล์ฟหลายๆคน รวมทั้งจีนก็อยากเเข่งขันเเล้ว พอมีเเมทช์ใหม่ของสมาคมใหม่ เชื่อว่าจะมีอะไรเเปลกใหม่ เรียนรู้กันต่อไป ส่วนการเตรียมตัวจีนก็โฟกัสกลับมาที่ฟิลลิ่งเตรียมพร้อมเเข่ง เพราะช่วงปิดฤดูกาลทำงานเน้นเรื่องต่างๆหลายอย่าง เเต่พอกลับมาเเข่ง โฟกัสกับสิ่งที่ต้องเเก้ไขหรือพัฒนาในเเมทช์ที่ผ่านมา เเละก็ซ้อมหาฟิลลิ่งเยอะขึ้น ช่วงนี้โฟกัสกับลูกสั้น”

สำหรับเรื่องแนวทางของสมาคมที่มีเป้าหมายจะมีเวิลด์ แรงกิ้ง ในอนาคต อาฒยา กล่าวเสริมว่า “จีนรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีของนักกอล์ฟทุกคน เพราะว่างไม่เคยเข้าเวิลด์ แรงกิ้ง จากการเเข่งในไทยเลย คิดว่าเป็นผลดีต่อทุกคน”
“กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ โปรสาวจากจังหวัดชลบุรี เคยคว้าแชมป์สนามแห่งนี้ในรายการเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ มา 1 ครั้งเผยว่า “ดีใจ และตื่นเต้นมากที่ได้เล่นแมทท์นี้ และตอนนี้ก็ซ้อมทุกอย่างให้มากขึ้น ออกรอบให้เยอะ หลังจากที่ได้หยุดพักไป 3 เดือนเต็มๆ โดยรวมไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย แต่มีการเปลี่ยนการวางแผน และความคิดเป็นส่วนใหญ่”

ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ โปรสาววัย 23 ปี จากจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเล่นอยู่ในแอลพีจีเอ ทัวร์ เผยว่า” คิดว่าดีที่สมาคมจัดแมทช์นี้ขึ้น นักกอล์ฟไทยจะได้มีทัวร์นาเมนท์ พื่อพัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้นมาอีก สำหรับการเตรียมตัวแข่งขันก็ค่อนข้างดี เพราะว่าหลังจากนี้จะไปแข่งขัน ที่สหรัฐอเมริกา จึงซ้อมเตรียมตัวมาตลอด อยากฝากถึงแฟนๆกอล์ฟช่วยเชียร์ และส่งกำลังใจให้นักกอล์ฟหญิงไทยที่จะแข่งขันรายการนี้ทุกคน”
” เปียโน”อาภิชญา ยุบล โปรสาววัย 18 ปี จากจังหวัดสระบุรี เผยว่า”รู้สึกตื่นเต้นค่ะที่จะได้แข่งขันแมทช์นี้เพราะเป็นสมาคมใหม่ที่ก่อตั้งขึ้น และจะได้เล่นกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆอีกครั้ง คิดว่าทุกคนเตรียมตัวมาอย่างดีแน่นอนเพื่อแมทช์นี้ค่ะ แล้วหนูก็เตรียมตัวอย่างดีมาตลอดแม้ช่วงไม่มีแมทช์แข่งขันก็ซ้อมตลอดค่ะ ส่วนเรื่องการเล่นนั้นเล่นตามเกมของตัวเอง และจะเล่นให้ดีเต็มความสามารถเราพร้อมกับเล่นอย่างมีความสุข” ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiwpga.com

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

 

ส.บอลอาวุโสไทย จับมือ สิงห์-FBT ลุยรายการอาวุโสลีก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ฟุตบอลลีกอาวุโสรายการแรกในเมืองไทย เตรียมระเบิดความมันส์จัดแข่งกลางเดือนเมษายนนี้ โดยมี 8 ทีมเข้าร่วมเหมือนเดิม โดยเฉพาะทีม Rabbit แชมป์เก่าพร้อมป้องกันแชมป์ 1 ปีให้ได้
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 ที่ สนามฟุตบอลพรรษกาล “บิ๊กตุ่ม” เทพพิทักษ์ จันทร์สุเทพ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลอาวุโสไทย พร้อม นายอนุชา แสงแก้ว ตัวแทน บ.บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ร่วมแถลงข่าวเผย ช่วงเดือนเมษายนนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลอาวุโสไทย เตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาวุโส รายการเก่าแก่ รายการแรกในเมืองไทย SFA League 2021 ครั้งที่ 14 จัดต่อเนื่องมา 14 ปีแล้ว

ปีนี้จะรักษารูปแบบการจัดการแข่งขันเหมือนเดิม กล่าวคือ มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 8 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด เพื่อนับคะแนน และหาทีมที่ดีที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ไปครอง โดยมีการประชุมผู้จัดการทีม และแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน ที่ สนามพรรษกาล สปอร์ต เซ็นเตอร์ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลอาวุโสไทย โดยได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนอย่างดีจากเอกชนที่ให้การสนับสนุนเรื่องกีฬามาตลอดอย่าง บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ และ โรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ติ้งกู๊ดส์ หรือ FBT

สำหรับการแข่งขัน SFA League 2021 ครั้งที่ 14 แข่งขันนัดแรกวันเสาร์ที่ 17 เม.ย.64 โดยมีการแข่งขันทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ทุกสัปดาห์ เริ่มคู่แรกเวลา 16.00 น. สามารถติดตามการประกบคู่การแข่งขัน หลังจากประชุมผู้จัดการทีมและจับฉลากประกบคู่เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่นใดสนใจร่วมเชียร์ได้
“บิ๊กตุ่ม” เทพพิทักษ์ จันทร์สุเทพ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลอาวุโสไทย และ นายอนุชา แสงแก้ว ตัวแทน บ.บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ร่วมแถลงข่าว จัดฟุตบอลอาวุโส SFA League 2021 ครั้งที่ 14 เริ่มนัดแรก เสาร์ 17 เม.ย.64 สนามพรรษกาลฯ แข่งทุกเสาร์-อาทิตย์ คู่แรก 16.00 น.

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ได้น่องเหล็ก 4,568 คน ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ “วิ่งผลัดธงชาติไทย” ชวนนักวิ่งหลุดโผชิง 1 ล้าน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ประกาศรายชื่อ 4,568 นักวิ่ง ร่วมกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงไทยไปโตเกียวโอลิมปิก” เตรียมพร้อมบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ วิ่ง 61 วัน 35 จังหวัด 4,606 กม. เริ่มสตาร์ทตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.นี้ ด้านผู้สมัครที่พลาดร่วมกิจกรรม ยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยได้ต่อ กับกิจกรรมวิ่งสะสมระยะทาง “FLAG OF NATION VIRTUAL RUN 2020 วิ่ง 1 ล้านกิโล สู่โอลิมปิก” ซึ่งยังคงเปิดรับสมัครถึง 30 เม.ย.นี้ และทุกการวิ่งๆ 1 กม. จะนับเป็นการสมทบทุน กม.ละ 1 บาท เพื่อเป้าหมาย 1 ล้านบาท สำหรับการสนับสนุนทัพไทยสู้ศึกในโอลิมปิก
ความเคลื่อนไหวของกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทยไปโตเกียวโอลิมปิก” ภายหลังจากที่เปิดรับสมัครนักวิ่งจากทั่วประเทศ เพื่อเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ วิ่งส่งกำลังใจ เชียร์ทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกนั้น กระเเสตอบรับล้นหลาม มีประชาชนจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัยทั่วประเทศไทย แห่กันเข้ามาสมัครเเละลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมนี้อย่างคึกคัก
หลังปิดรับสมัคร ล่าสุดเมื่อ 16 มี.คที่ผ่านมา ฝ่ายจัดฯประกาศรายชื่อนักวิ่ง 4,586 คน ที่มีสิทธิ์ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย 61 วัน 35 จังหวัด 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ถึง กรุงโตเกียว และจะมีขึ้นตั้งเเต่วันที่ 28 มี.ค. – 27 พ.ค.นี้ ผ่านทางอีเมล์ของผู้สมัครเเละเว็ปไซต์ https://race.thai.run/RoadToTOKYO2020TH เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ผู้ที่ได้รับคัดเลือกต้องเช็คสิทธิ์เเละยืนยันสิทธิ์ ที่จะเข้าร่วมวันศุกร์ ที่ 19 มี.ค. 64 อีกครั้ง
สำหรับขบวนวิ่งผลัดธงชาติไทย จะออกสตาร์ทในวันเเรก ช่วงเข้าตรู่วันที่ 28 มี.ค.นี้ โดยวิ่งจากจุดปล่อยตัวที่หน้าอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ผ่านไปยังเเลนด์มาร์กเเละเส้นทางสำคัญต่างๆ มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง วันแรก ที่ จ.สมุทรสงคราม อาสาสมัครนักวิ่งแต่ละคนวิ่งกันคนละ 1 กม.
สำหรับใครที่พลาดหวัง สมัครไม่ทัน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” มีโอกาสลุ้นสร้างประวัติศาสตร์อีก ด้วยกิจกรรม “Flag of Nation Virtual Run” กิจกรรมวิ่งสะสมระยะทาง 1 ล้านกิโลเมตร ส่งใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยไปโอลิมปิก ยผู้เข้าร่วมสามารถวิ่งสะสมระยะทาง จากที่ใดก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา หรือวิ่งบนลู่วิ่งก็ได้ พร้อมส่งบันทึกผลการวิ่งเข้าระบบให้ครบตามระยะเป้าหมาย
หากนับถึงเวลาเที่ยงคืนวันที่ 16 มี.ค.64 มีการวิ่งสะสมระยะทางจากนักวิ่งรายต่างๆ ที่ผนึกกำลังร่วมกัน เกิดขึ้นเเล้ว 549,814 กม. ผู้ที่สนใจสามารถสมัครคลิกชมรายละเอียด เเละขั้นตอนการสมัครได้ที่ https://bit.ly/webcheckraceOlympic2020 ตั้งเเต่วันนี้ – 30 เม.ย. 64 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้รับเสื้อและเหรียญรางวัลจัดส่งให้ถึงบ้านอีกด้วย

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

 

ศาลจำคุก อดีตนักฟุตบอลไทยลีกกับพวก ล้มบอลล็อค ไทยลีก 2017 คนละ 1-5 ปี โดยไม่รออาญา

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มีนาคม 64 ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีประวัติศาสตร์ล้มบอล ไทยลีก ฤดูกาล 2017 หมายเลขดำ อ.2131/2561 ที่ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง​ ประกอบด้วย​
นายธีรจิตร หรือ เก๋ สิทธิศุข จำเลยที่ 1 นายเชิดศักดิ์ หรือจ่อย บุญชู อายุ 48 ปี ผอ.สโมสรศรีสะเกษฯ จำเลยที่ 2 นายภาคภูมิ หรือแบงค์ พันธ์นิกุล อายุ 34 ปี จำเลยที่ 3 นายมานิตย์ หรือเศรษฐปสิทธิ์ หรือป้อม โกมลวัฒนะ อายุ 50 ปี จำเลยที่ 4 นายวัลลภ สมาน อายุ 48 ปี จำเลยที่ 5
นายกิตติภูมิ หรือเด่น ปาภูงา อายุ 34 ปี อดีตนักฟุตบอลที่ 6 นายภุมรินทร์ คำรื่น อายุ 31 ปี ผู้ตัดสินฟีฟ่า 2017 จำเลยที่ 7, นายวีระ เกิดพุดซา อายุ 36 ปี ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้าเอฟซี ที่ 8 จ.อ.เสกสันต์ หรือเสก ชาวทองหลาง อายุ 37 ปี นักเตะราชนาวี เอฟซี ที่ 9 จ.ท.สุทธิพงษ์ เหลาพร อายุ 31 ปี นักเตะราชนาวี เอฟซี ที่ 10 จ.ท.สุวิทยา นำสินหลาก อายุ 29 ปี นักเตะราชนาวี เอฟซี ที่ 11 นายณรงค์ วงษ์ทองคำ อายุ 39 ปี ผู้รักษาประตูราชนาวี เอฟซี จำเลยที่ 12 ส.อ.ธีรชัย งามเจริญ อายุ 38 ปี นักเตะศรีสะเกษ เอฟซี ที่ 13 นายทศพร เขม็งกิจ อายุ 35 ปี นักเตะศรีสะเกษ เอฟซี จำเลยที่ 14 นายเอกพันธ์ จันดากรณ์ อายุ 35 ปี อดีตนักเตะศรีสะเกษ เอฟซี จำเลยที่ 15
รวม 15 คน​ ในความผิดฐานร่วมกันให้ หรือขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬา, ร่วมกันให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม, เป็นผู้ตัดสินเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม, ร่วมกันและเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้กระทำการล้มกีฬา, ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 20 ก.ย. 2560, วันที่ 21-26 ก.ค. 2560, วันที่ 10 ก.ย. 2560, วันที่ 11-23 ก.ย. 2560 นายธีรจิตร หรือ เก๋ สิทธิศุข ผช.ผู้ตัดสิน จำเลยที่ 1 ร่วมกับ กลุ่มนายทุน จำเลยที่ 2-6 ที่ให้หรือรับว่าจะให้เงินกับกลุ่มนักกีฬา จำเลยที่ 8-15 ซึ่งเป็นนักเตะทีมศรีสะเกษ เอฟซี และทีมราชนาวี เพื่อจูงใจให้ทำการล้มฟุตบอล รายการแข่งขัน ไทยพรีเมียร์ลีก (T1) ที่ใช้ชื่อรายการว่า โตโยต้า ไทยลีก ด้วยการแกล้งแพ้ เป็นเงินครั้งละ 300,000-800,000 บาท
และร่วมกันให้เงินครั้งละ 100,000 บาท กับ นายภุมรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินฟีฟา 2017 จำเลยที่ 7 ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินกีฬาเพื่อจูงใจให้ทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาแข่งขัน เพื่อให้ผลการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเป็นไปตามที่จำเลยกลุ่มนายทุน และจำเลยที่ 1 ซึ่งกลุ่มของจำเลยที่ 1-6 ก็เป็นผู้เล่นพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลไทยรายใหญ่ด้วย ที่เป็นการเล่นพนันผ่านทางเว็บไซต์
เหตุเกิดที่ ต.พร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู, ต.ในเมือง อ.อุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี, ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา, ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ ตำบล-อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1, 2, 5, 7-15 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนจำเลยที่ 3-4, 6 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาร่วมกันลักลอบพนันทายผลฟุตบอลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ โดยจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว โดยศาลตีราคาประกันคนละ 100,000-200,000 บาท
โดยในวันนี้จำเลยที่ 1-15 พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่มีญาติและบุคคลใกล้ชิดเดินทางมาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าโจทก์มีพยานหลักฐานแน่นหนา ทั้งพยานบุคคลเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลักฐานการใช้ติดต่อโทรศัพท์ และข้อความการสนทนาทางแอพริเคชั่นวีแชท จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิด​ ดังนี้ จำคุก นายธีรจิตร อดีตผู้ช่วยผู้ตัดสินหรือไลน์แมน จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี และปรับ 2,000 บาท จำคุกนายเชิดศักดิ์ อดีตผอ.สโมสรศรีสะเกษฯ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 4 ปี และปรับ 2,500 บาท จำคุก นายภาคภูมิ (นายทุน) จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 4 ปี และปรับ 2,000 บาท จำคุก นายมานิตย์ (นายทุน) จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 4 ปี และปรับ 2,000 บาท จำคุกนายวัลลภ (นายทุน) จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 2 ปี และปรับ 2,500 บาท จำคุก นายกิตติภูมิหรือเด่น (นายทุน) และอดีตนักฟุตบอลสโมสรชื่อดัง จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 2 ปี และปรับ 1,500 บาท
จำคุกนายภุมรินทร์ อดีตผู้ตัดสินฟีฟ่า จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 2 ปี จำคุกนายวีระ อดีตผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา จำเลยที่ 8 เป็นเวลา 1 ปี จ.อ.เสกสันต์ อดีตนักเตะราชนาวี จำเลยที่ 9, จ.ท.สุทธิพงษ์ อดีตนักเตะราชนาวี จำเลยที่ 10, จ.ท.สุวิทยา อดีตนักเตะราชนาวี จำเลยที่ 11, นายณรงค์ อดีตนักเตะศรีสะเกษ จำเลยที่ 12 จำคุกคนละ 2 ปี ส.อ.ธีรชัย อดีตนักเตะศรีสะเกษ จำเลยที่ 13, นายทศพร อดีตนักเตะศรีสะเกษ จำเลยที่ 14, นายเอกพันธ์ อดีตนักเตะศรีสะเกษ จำเลยที่ 15 จำคุกคนละ 1 ปี
ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จญาติและทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว เพื่อสู้คดีระหว่างอุทธรณ์ต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“เอไอเอส” คว้ารางวัล CEO, CFO และ IR ยอดเยี่ยม!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3752
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

นายรณสิทธิ์.เผย​ป.ป.ช.มอบสำนวน​ตรวจสอบเส้นทางการเงิน​”เสี่ยกำพล” ให้​ ดีเอสไอแล้วจะติดตามความคืบ​หน้า 23 มื.ค.นี้​

0

พิมพ์ไทยออนไลน์​ // ป.ป.ช.เผย ดีเอสไอ มอบสำนวนสอบสวนเส้นทางเงิน “เสี่ยกำพล” วิคตอเรียฯ โอนให้บิ๊กข้าราชการแล้ว ขณะที่ธนาคาร เจ้าของบัญชียังเงียบ เช่นเดียวกับอัยการ ที่ยังไม่ส่งเหตุผลสั่งไม่ฟ้อง “นิภา-ธนพล” ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ เดินหน้าขอทราบความเห็นอสส. ไม่ฟ้อง “นิภา-ธนพล” 23 มี.ค.นี้

วันนี้ 18 มี.ค. 64 ที่สำนักงาน​ ป.ป.ช. นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี เปิดเผยว่า ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 1 ปีกับอีก 5 วันที่ตนเองในฐานะเป็นผู้ล่อซื้อการค้าประเวณีจากสถาบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท หลังสืบทราบว่ามีการค้ามนุษย์ภายในสถานประกอบการแห่งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 จึงยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ในข้อร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบในประเด็นแรกคือการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นการกระทำที่เข้าข่ายอาจจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

และต่อมาจากการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทำให้พบหลักฐานการโอนเงินจำนวนเงินหลายร้อยล้านบาท จากบัญชีของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ไปยังข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเองสงสัยว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าอะไร ดังนั้น จึงร้องขอให้​ป.ป.ช.ตรวจสอบเส้นทางเงินของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ป.ป.ช. เชิญตน เข้าให้การยืนยันเกี่ยวกับหลักฐานการโอนเงินจากบัญชี นายกำพล ไปยังข้าราชการของรัฐหน่วยงานหนึ่ง ที่แม้จะไม่ใช่ผู้รับผิดชอบโดยตรงกับคดีวิคตอเรียซีเครท แต่ก็ยังสงสัยเพราะหน่วยงาน นั้น รับผิดชอบคดีวิคตอเรียซีเครท และมายื่นติดตามความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563

นายรณสิทธิ์ เปิดเผยว่า จากการเข้าพบพนักงานสอบสวน ป.ป.ช.วันนี้(18 มี.ค.)​ ได้รับทราบว่า คดีมีความคืบหน้าพอสมควร โดยในประเด็นแรก ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือขอทราบเหตุผมที่สั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ในข้อหาค้ามนุษย์ และขอให้ดีเอสไอ ถอนหมายจับบุคคลทั้งสอง

ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องเส้นทางเงิน ป.ป.ช.ได้รับสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ ที่สอบพบเส้นทางเงินจากวิคตอเรียซีเครท โอนไปยังนายกำพล และจากนายกำพล โอนไปยังข้าราชการระดับสูง แล้ว ขณะที่ธนาคารเจ้าของบัญชี ป.ป.ช. ทำหนังสือขอไปแล้ว แต่ยังไม่ส่งมา โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน

ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ เปิดด้วยว่า ในฐานะที่เคยยื่นขอทราบเหตุผลจากอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล รวมทั้งขอให้ดีเอสไอ ถอนหมายจับ บุคคลทั้ง 2 ตอนนี้ผ่านมาจะใกล้ 1 ปี 6 เดือน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท มีการค้ามนุษย์ ส่วนนางนิภา และนายธนพล เป็นผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยล่าสุดได้รับแจ้ง จากอธิบดีสำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ให้เข้าพบเพื่อสอบถามความคืบหน้าในวันที่ 23 มีนาคม นี้ ซึ่งส่วนตัวยังกังวลว่า อัยการอาจจะมีการสั่งไม่ฟ้องนายกำพล ด้วย เพราะยังไม่ได้คำตอบว่า อัยการมีการติดตามตัวนายกำพล กลับมาดำเนินคดีหรือไม่

นายรณสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การติดตามเรื่องนี้ เป็นไปตามพันธกิจการก่อตั้งมูลนิธิฯ มีวัตถุประสงค์หลักคือ ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้น

 

ZEAL บริการลงทุนรูปแบบใหม่ โดยหลักทรัพย์ธนชาต พิสูจน์ด้วยผลตอบแทน +12% ภายในสองเดือนแรกของปี และ +17.70% ในปี 2020 ด้วยกลยุทธ์ Absolute Return

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ZEAL โดยหลักทรัพย์ธนชาต บริการวางแผนการลงทุนที่เฟ้นหาการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเป็นบวก ด้วยกลยุทธ์ Absolute Return พร้อม Protect Downside ยืดหยุ่นสูงในการย้ายเงินลงทุนเพื่อตอบรับทุกจังหวะตลาด ให้เงินล้านของนักลงทุนไปได้ไกลกว่า ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ-ประสบการณ์สูง พิสูจน์ความแข็งแกร่งด้วยผลตอบแทน +12% ภายในสองเดือนแรกของปี และ +17.70% ในปี 2020

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บล.ธนชาต ได้นำเสนอบริการการลงทุนรูปแบบใหม่ ZEAL ในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมีแนวคิดหลัก คือ เฟ้นหาผลตอบแทนบวกด้วย Absolute Return Strategy จากฝีมือทีมวิเคราะห์ชั้นยอด ที่เป็นกลยุทธ์การลงทุนมุ่งการสร้างผลตอบแทนให้เป็นบวกในทุกสภาวะตลาด โดยไม่สนว่าตลาดจะขึ้นหรือลง ทุกๆ แผนการลงทุนของ ZEAL ใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งจะแตกต่างจาก Relative Return Strategy ซึ่งอ้างอิงผลตอบแทนกับดัชนีตลาด และ ZEAL มี Flexibility ในการวางแผนการลงทุนได้หลากหลายและแตกต่างจากกองทุนทั่วไป ในปีที่ผ่านมา ZEAL ได้พิสูจน์ผลความแข็งแกร่งแผนการลงทุนให้ผลตอบแทน +17.7% ตลอดปี 2020 และ+12% ภายในสองเดือนแรกของปี 2021
“เราเข้าใจนักลงทุนดีว่า ลงทุนแล้วต่างก็คาดหวังผลตอบแทนเสมอ แต่ด้วยภารกิจในชีวิตประจำวันที่ทำให้แต่ละรายอาจไม่มีเวลาศึกษา หรือรับคำปรึกษาจากผู้แนะนำการลงทุนที่เพียงพอ อีกทั้งภาวะตลาดมีความผันผวนมาก แต่การลงทุนจำเป็นต้องได้รับการดูแล วิเคราะห์ และการตัดสินใจอย่างใกล้ชิดและทันท่วงที เราจึงออกแบบและพัฒนา ZEAL ที่เรามุ่งมั่นจะพาเงินของนักลงทุนไปไกลกว่าด้วยบริการการลงทุนรูปแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนให้มีชีวิตการลงทุนที่ดีขึ้น โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทีมงานของเราที่มีประสบการณ์มานานกว่า 25 ปี ทำหน้าที่ดูแล”
ZEAL ใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์และคุณภาพสูงเพื่อคัดสรรสินทรัพย์ที่มาลงทุนอย่างหลากหลาย เลือกลงทุนเฉพาะสินทรัพย์ที่มั่นใจ โดยการทำ one-on-one meeting กับบริษัทจดทะเบียนต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลต้นทางเพื่อวิเคราะห์แนวลึกที่จะสร้างความมั่นใจในการเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ในการลงทุน ทำให้การวิเคราะห์สามารถเป็นแนวลึก และติดตามได้อย่างใกล้ชิดได้ในทุกๆ ตัวการลงทุน

นอกจากนี้ ZEAL มีความยืดหยุ่นและทางเลือกการลงทุนหลากหลาย สามารถลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนในและต่างประเทศ และหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Note) นโยบาย Absolute Return Strategy นอกจากการตั้งเป้าผลตอบแทนเป็นบวกไม่อิงตลาดแล้ว ยังต้องเน้นการ Protect Downside ในทุกๆ พอร์ตการลงทุน ด้วยความยืนหยุนในการลงทุนที่สูงของ ZEAL ทำให้สามารถปรับพอร์ตลดสินทรัพย์เสี่ยงรวดเร็ว และไม่มีข้อจำกัด เพื่อรักษาเงินต้น และกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้น ได้อย่างเต็มที่
สำหรับแผนการลงทุนของ ZEAL มี 4 แผนตามผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้ ดังนี้ 1) Sustain ผลตอบแทนที่ได้ในปี 2020 11.60%, ผลตอบแทนที่คาดหวัง 3-5% ต่อปี
2) Quality ผลตอบแทนที่ได้ในปี 2020 17.70%, ผลตอบแทนที่คาดหวัง 5-7 % ต่อปี
3) Dynamic ผลตอบแทนที่ได้ในปี 2020 8.00%, ผลตอบแทนที่คาดหวัง 7-9 % ต่อปี และ
4) Target ผลตอบแทนที่ได้ในปี 2020 17.70%, ผลตอบแทนที่คาดหวัง 10+% ต่อปี

“ถึงแม้ ZEAL จะเป็นบริการรูปแบบใหม่ แต่เราใช้ทีมงานขนาดใหญ่ มีนักวิเคราะห์พื้นฐาน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ นักวิเคราะห์กองทุน นักวิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์ นักวิเคราะห์ทางเทคนิค นักวิเคราะห์ Quantitative และ Data Analysis นักกลยุทธ์การลงทุน และผู้จัดการกองทุน ทีมวิเคราะห์ธนชาตมีประสบการณ์กว่า 25 ปี และได้รับรางวัลคุณภาพต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา” นายอดิศักดิ์ กล่าว

หากนักลงทุนสนใจ ZEAL สามารถติดต่อเพื่อรับทราบผลิตภัณฑ์ ความเสี่ยง และเงื่อนไขการลงทุน ได้ที่ 02-779-9000  https://info.thanachartsec.com/zeal
:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

เปิดตัวยิ่งใหญ่ ครั้งแรกของเมืองไทย! ยกกัญชาขึ้นศูนย์การค้า ที่ “พาราไดซ์ พาร์ค” งาน “ครบเครื่องเรื่องกัญชาและเสน่ห์ยาสมุนไพร Ganja & TTM In the City”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ผนึกกำลังกับบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) โดยศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เปิดประสบการณ์ครั้งแรกของเมืองไทย ยก “กัญชา” ขึ้นศูนย์การค้า งาน “ครบเครื่องเรื่องกัญชาและเสน่ห์ยาสมุนไพร Ganja & TTM In the City” พร้อมเนรมิตพื้นที่จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิด และร่วมร้องเพลง “แสงจันทร์” กับ “ไข่ มาลีฮวนน่า” ภายในงานพบกับไฮไลต์มากมาย อาทิ คลินิคกัญชาทางการแพทย์แผนไทย อาหารตำรับกัญชา ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา รวมทั้งการเสวนาให้ความรู้เรื่องกัญชาวิถีใหม่ มาช้อป ชิม สินค้าและสัมผัสกัญชาอย่างเข้าใจ 17-21 มี.ค. เวลา 10.00 น.-21.00 น. ชั้น 1 ลานรอยัลพาร์ค พลาซ่า และชั้น 3 โซน Beauty & Health พาราไดซ์ พาร์ค
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน “ครบเครื่องเรื่องกัญชา และเสน่ห์ยาสมุนไพร Ganja & TTM In the City” โดยมี พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ ประธานเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้ประกอบการและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมการจัดงานในครั้งนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เน้นการสร้างเศรษฐกิจจากกัญชา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยสมุนไพรและกัญชาทางการแพทย์ โดยเริ่มต้นพัฒนาจากจังหวัดเมืองสมุนไพรและขยายเส้นทางไปยังแหล่งปลูกกัญชา ทางการแพทย์ ที่มีความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยวได้ โดยในปี 2564 มีเป้าหมายการเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยสมุนไพรและกัญชาครอบคลุมทุกภูมิภาค สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 2,000 คนหรือมากกว่า 400 เส้นทาง คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนไม่น้อยกว่า 17 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังผลักดันกัญชาทางการแพทย์สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปแปรรูปทำเป็นอาหาร เครื่องสำอาง การประกาศ “ปลดล็อค” องค์ประกอบของกัญชา ในส่วนของ ใบ กิ่ง ก้าน และ ราก ไม่เป็นยาเสพติด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ศึกษาวิจัย จะส่งผลให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา และสมุนไพรของประเทศไทยมีโอกาส ขยายไปสู่การพัฒนากัญชาสู่อุตสาหกรรมสุขภาพ ร่วมกับภาคเอกชนผู้ผลิตที่มีศักยภาพและวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณภาพ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนากัญชาในประเทศไทย “กัญชา” จึงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่จะทำให้คนไทยมีรายได้ เพิ่มมากขึ้น นับเป็นก้าวย่างของการเปลี่ยน กัญชา จากพืชยาเสพติด มาเป็น พืชเศรษฐกิจ อย่างลงตัวด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การจัดงานครบเครื่องเรื่องกัญชา และเสน่ห์ยาสมุนไพร มีกิจกรรมแบ่งเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย เวทีเสวนาวิชาการกัญชาและสมุนไพร บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ แบบผสมผสาน ส่วนนิทรรศการวิชาการผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แผนไทย และการสาธิตทำผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา บูธนิทรรศการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอาหารเพื่อสุขภาพ การจัดงานครั้งนี้นับเป็นการขยายโอกาสอาชีพแก่ผู้ประกอบการภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ธุรกิจด้านการแพทย์แผนไทยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ
ภาพรวมของการดำเนินการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี อันเป็นแนวทางสู่การพัฒนา อนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการธุรกิจบริการสุขภาพ และผู้ประกอบการด้านสมุนไพรให้สามารถพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งได้ยิ่งขึ้น ต่อไปพล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ ประธานเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยขึ้นศูนย์การค้า เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักกัญชาและแพทย์แผนไทยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะได้ขยายโอกาสทางอาชีพและโอกาสทางธุรกิจ แก่ผู้ประกอบการทางการแพทย์แผนไทยในหลายมิติ ทั้งด้านผลผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมกับยาแผนไทย การใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านในการดูแลสุขภาพ อันเป็นเสน่ห์ของยาสมุนไพรที่มีตามธรรมชาติ มีคุณประโยชน์มากคุณค่า ที่ควรอนุรักษ์สืบสาน และควรร่วมกันรักษาไว้สืบไปนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ในการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพในรูปแบบใหม่ในประเทศ ที่จะสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาต่อไป โดยมี บริษัท เซเว่น สตาร์ สตูดิโอ จำกัด โดย คุณบริพันธ์ ชัยภูมิ ที่มาร่วมดำเนินการจัดงาน “ครบเครื่องเรื่องกัญชาและเสน่ห์ยาสมุนไพร Ganja & TTM In the City”
การจัดงานครั้งนี้ ถือครั้งแรกของเมืองไทย ที่นำกัญชามาไว้ที่ศูนย์การค้า ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ประชาชนคนทั่วไปได้สัมผัสกัญชาอย่างใกล้ชิดและเข้าใจกัญชาวิถีใหม่ที่ถูกต้องตามกฏหมาย ทั้งกัญชาทางการแพทย์ หรือการนำมาปรุงอาหาร รวมทั้งได้ความรู้จากการเสวนากัญชาวิถีใหม่ เชื่อว่าทุกท่านที่มาร่วมงานจะได้รับประโยชน์อย่างมาก ขณะเดียวกันได้รับความบันเทิงจาก “ไข่ มาลีฮวนน่า” ที่ร่วมสร้างสีสันและความสุข ผ่านบทเพลงเพื่อชีวิตภายในงานขอเชิญชวนมาช้อป ชิม สินค้าภายใน งานมหกรรมผลิตภัณฑ์กัญชาและสมุนไพรไทย “ครบเครื่องเรื่องกัญชาและเสน่ห์ยาสมุนไพร Ganja & TTM In the City” ภายในงานกับพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ นิทรรศการกัญชา, ตำรับกัญชากับอาหาร และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา โรงเรือนกัญชา Green House กิจกรรมเสวนากัญชาวิถีใหม่ กับหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย พบกับ “หมอเดชา ศิริภัทร” อีกหนึ่งนายแพทย์ที่ประสบความสำเร็จการรักษาโรคด้วยน้ำมันกัญชา มาร่วมเสวนาที่งานอีกด้วย และพลาดไม่ได้กับ คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ตรวจรักษา ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลินิกภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน บำบัดอาการเชิงสุขภาพ อาทิ บ่งต้อหนามคัดเค้า / พอกยาสมุนไพรดวงตา / ตอกเส้น / นวดบำบัดอาการ / พอกยาสมุนไพรที่เข่า และร้านอาหารเด็ด เมนูกัญชาและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา อาทิ กาแฟกัญชา จาก ร้าน Black Canyon และก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด พบกับเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูและเนื้อเซอร์ลอยอาบน้ำ เป็นต้น โดยงานจะมีระหว่างวันที่ 17-21 มี.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-21.00 น. ณ บริเวณ ชั้น 1 ลานรอยัลพาร์ค พลาซ่า และชั้น 3 โซน Beauty & Health ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค
อย่างไรก็ตามศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ได้ปฏิบัติตามภายใต้ข้อกำหนดการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 อย่างเคร่งครัด ภายใต้ 3 มาตรการหลัก คือ คัดกรอง ป้องกัน ปลอดภัย การจัดตั้งบูธสินค้า กำหนดจุดชมสินค้าแบบเว้นรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม พร้อมกับขอความร่วมมือให้ลูกค้าและผู้ประกอบการร้านค้าสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ติดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285 พร้อมติดตามกิจกรรม และโปรโมชั่นดี ๆ ของศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ได้ที่ www.paradisepark.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจ Paradise Park อินสตาแกรม paradisepark_th และยูทูป paradiseparkchannel
# :Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

กสทช. …ทำไมถึง “ไม่ตรงปก?”

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3751
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)