วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 325

“มายด์” สิริวิมล ทวงเงินอัดฉีด กกท.”กองทุนกีฬา” เจรจาไม่นิ่งนอนใจ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//กกท.-กองทุนกีฬา ไม่นิ่งนอนใจรุดคุย ‘สิริวิมล’ จอมพลังสาวไทยเข้าใจเรื่องเงินรางวัลตกค้างแล้ว
ตามที่ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ที่เพิ่งคว้า 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2024 “ไอดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ คัพ” รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ที่ศูนย์ประชุมขุนเลิศโภคารักษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ออกมาร่ำไห้ทวงถามเงินรางวัลค้างจ่ายจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ระบุข้อความว่า “ก่อนหน้านี้นักยกน้ำหนักหลายคนยังไม่ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่ค้างจ่ายมานาน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแจ้งว่าได้อนุมัติแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินดังกล่าว อยากทราบว่าเงินรางวัลจะออกวันไหน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคน”
ประเด็นดังกล่าวทาง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้หารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 เมษายน โดย พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วย นายเกียรติกร สุภากรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ที่อยู่ระหว่างการร่วมชมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2024 ที่ จ.ภูเก็ต ได้พูดคุยและชี้แจงกับ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล จอมพลังสาวทีมชาติไทย เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการพูดคุยกันนั้น

ทางกองทุนฯ ได้ชี้แจงกระบวนการต่างๆ ให้กับนักกีฬาเข้าใจและรับทราบทั้งหมดแล้ว โดยตัวของนักกีฬาเข้าใจดี และรู้สึกเสียใจที่ให้สัมภาษณ์ออกไปทำให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เกิดความเสียหาย และคนเข้าใจผิด โดยนักกีฬาบอกว่า ได้ไปพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักมวยและทราบว่า เงินรางวัลของเพื่อนที่เป็นนักมวยได้รับจากกองทุนฯ แล้ว จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมของนักกีฬายกน้ำหนักยังไม่ได้รับ ซึ่งในรายของ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล เจ้าหน้าที่กองทุนฯ ได้ทำเบิกจ่ายเงินรางวัลไปแล้ว โดยเงินรางวัลจะทยอยเข้าบัญชีของนักกีฬาอัตโนมัติ ติดขัดเพียงรายการเดียวคือ รายการ “ไอดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ริยาด 2023 ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-19 กันยายน 2566 ซึ่ง สิริวิมล ได้รับ 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์-คลีนแอนด์เจิร์ก-น้ำหนักรวม จะได้รับเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์เหรียญละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 750,000 บาท ผู้ฝึกสอน 20 % ของเงินรางวัลนักกีฬา เป็นเงิน 150,000 บาท และสมาคมอีก 30 % ของเงินรางวัลนักกีฬา 225,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,125,000 บาท อยู่ระหว่างการแก้ไขข้อมูลเอกสารการเบิกจ่ายดำเนินตามขั้นตอนให้โดยเร็วที่สุด ซึ่งนักกีฬาเข้าใจดี เพราะฝ่ายการคลังกำลังเร่งเบิกจ่ายให้โดยเร็วที่สุด

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“คุณหญิงปัทมา” ร่วมพิธีเปิดยกน้ำหนัก “ไอดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ คัพ 2024”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) พร้อมด้วย โมฮัมเหม็ด ฮาซัน จารูด ประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (ไอดับเบิ้ลยูเอฟ) รวมถึง พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และนางบุษบา ยอดบางเตย ประธานที่ปรึกษาสมาคมฯ ร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันยกน้ำหนัก ไอดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ คัพ 2024 รอบคัดเลือก โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่ศูนย์ประชุมขุนเลิศโภคารักษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ปตท.สผ. ร่วมมือ ม.เกษตรฯ พัฒนางานวิจัย และสร้างบุคลากรด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8160
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

สัญญาณบวก… แจกเงินหมื่นดิจิทัล!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8159
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

พม. นำเด็ก เยาวชน บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ร่วม “ปิดเทอม เติมบุญ” เฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 เวลา 16.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดโครงการปิดเทอม เติมบุญ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน และวัดกล้วย โดยพระครูปลัด พิศิษฐศรณ์ มหิสฺสโร (พิศิษฐศรณ์ แสนเจริญ) เจ้าอาวาสวัดกล้วย ทั้งนี้ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วม ณ วัดกล้วย ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

นายอนุกูล กล่าวว่า โครงการปิดเทอม เติมบุญ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดขึ้นเพื่อสืบสานพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการีแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สำหรับพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2567 ถึง วันที่ 9 เมษายน 2567 โดยมีผู้เข้ารับการบรรพชา จำนวน 100 คน ประกอบด้วย เด็กและเยาวชนจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน จำนวน 73 คน และ เด็กและเยาวชนในพื้นที่ จำนวน 27 คน โดยมีพระมหานพดล อาสโภ เจ้าคณะตำบลบางกระสอ เจ้าอาวาสวัดน้อยนอก เป็นพระอุปัชฌาย์ ทั้งนี้ สามเณรในโครงการฯ จะเข้ารับการศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง เพื่อให้มีความเข้มแข็ง ทางกาย จิต และปัญญา ตามหลักศาสนา สามารถนำคำสอนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องตามภารกิจกรมกิจการเด็กและเยาวชนในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่บรรพชาแล้วจะเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัยต่าง ๆ และศึกษาเรียนรู้พระราชกรณียกิจต่าง ๆ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาทางด้านศิลปหัตถกรรมของไทย ที่มุ่งเน้นการฝึกและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในชนบทให้มีรายได้พิเศษเพิ่มขึ้น และ 2) สวนสัตว์ใหม่ จังหวัดปทุมธานี ที่ได้รับพระราชทานที่ดินเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธรรมชาติและสัตว์ป่า การอนุรักษ์ การวิจัย และเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ อีกทั้งมีการเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานกลาง จังหวัดนนทบุรี เพื่อเรียนรู้ด้านพลังงานของประเทศไทยและของโลก ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนที่ผ่านการบรรพชาในโครงการดังกล่าว จะได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต รวมทั้ง ประกอบสัมมาอาชีพบนพื้นฐานแห่งความสุจริต มุ่งมั่นทำการอันดีงามเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง สืบทอดประเพณี วัฒนธรรมและพระพุทธศาสนาให้อยู่เคียงข้างสังคมไทย และทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติต่อไป#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #ปิดเทอมเติมบุญ #บรรพชาสมาเณรภาคฤดูร้อน #เด็ก #เยาวชน:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

                           

“วราวุธ” เผย ศรส. – พม. ลงพื้นที่ชลบุรี ช่วยทวด อายุ 103 ปี เก็บของเก่าขายประทังชีวิต สั่ง วางแผนช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งครอบครัว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จ.ชลบุรี กระทรวง พม. เข้าช่วยเหลือ คุณทวดอายุ 103 ปี ที่สู้ชีวิต ด้วยการเดินเก็บของเก่าขายประทังชีวิต นั่งพักอยู่ริมถนน (บ้านสวน ซอย 11) ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ว่า กระทรวง พม. โดยศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จ.ชลบุรี ได้ส่งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมด้วย ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี ลงพื้นที่ช่วยเหลือคุณทวด โดยพบที่บริเวณหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ชลบุรี และไปลงพื้นที่เยี่ยมบ้านพักของคุณทวด ที่ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งมักจะมาเก็บของเก่าอยู่หน้าการไฟฟ้าฯ และนั่งพักอยู่บริเวณดังกล่าวตลอดทั้งวัน ทำมานานกว่า 5 ปี โดยในช่วงเช้าจะมีบุตรมาส่งและมารับในช่วงเย็น

นายวราวุธ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ พม. ได้พูดคุยกับคุณทวดสามารถถามตอบรู้เรื่อง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ แต่เคยเข้ารับการผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง ร่างกายแข็งแรง ช่วยเหลือตนเองได้ดี สำหรับครอบครัวคุณทวด ภรรยาเสียชีวิตแล้ว มีบุตรร่วมกัน 9 คน ขณะนี้พักอาศัยอยู่กับบุตรสาว อายุ 45 ปี และ บุตรชาย อายุ 67 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย ปัจจุบันได้รับสิทธิสวัสดิการสังคมเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อเดือน และเงินจากการขายของเก่า อีกทั้งมีผู้ใจบุญที่ผ่านมาให้เงิน ประมาณเดือนละ 1,000 บาท

นายวราวุธ กล่าวว่า ในเบื้องต้น กระทรวง พม. โดยศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี และ เทศบาลเมืองบ้านสวน ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับครอบครัวคุณทวด และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี จะดำเนินเรื่องพิจารณาการขอเงินสงเคราะห์ และสิทธิสวัสดิการสังคมที่พึงได้รับเพิ่มเติม อีกทั้ง ทีม พม.หนึ่งเดียว จ.ชลบุรี จะวางแผนการช่วยเหลือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคุณทวด และครอบครัวร่วมกับเทศบาลเมืองบ้านสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นผู้ตกทุกข์ได้ยาก ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม ขอให้แจ้งมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านฮอตไลน์ พม. 1300 บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เรามีหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันที#ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #วราวุธศิลปอาชา #ผู้สูงอายุ #ชลบุรี:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

กระทรวง พม. หนุน พัฒนาทุนมนุษย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ – สังคม ดัน “นิคม Next” ช่วยกลุ่มเป้าหมายในนิคมสร้างตนเอง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมวางแนวทางการขับเคลื่อนงานตามนโยบาย รมว.พม. ร่วมกับ นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. ผู้บริหารกระทรวง พม. หน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จ.พิษณุโลก และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และกลุ่มอาชีพในพื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ ณ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านสองแคว) จังหวัดพิษณุโลก
ศาสตราจารย์ ดร.กนก กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการวางแผนการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการสร้างรายได้ , ด้านเด็กและเยาวชน , ด้านผู้สูงอายุ , ด้านคนพิการ , ด้านครอบครัว จากนั้น ตนพร้อมคณะ ได้ลงสำรวจพื้นที่เพื่อวิเคราะห์หาแนวทางการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทุนมนุษย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมอัตลักษณ์ในนิคมสร้างตนเอง (นิคม Next) ไม่ว่าจะเป็น การเยี่ยมบ้านกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ การประกอบอาชีพหัตถกรรมสานตะกร้า ในตำบลหนองกุลา กลุ่มสตรีวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรอินทรีย์รุ้งรวงทอง (เต่ายิ้ม) กลุ่มหัตถกรรมผลิตภัณฑ์ผักตบชวา ในพื้นที่ตำบลนิคมพัฒนา และศูนย์เด็กเล็กตำบลหนองกุลา โรงเรียนประชาสงเคราะห์วิทยา อีกทั้ง ได้เยี่ยมชมการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ เช่น ต้นสักทอง ต้นไผ่ อึ่งอ่าง ปลาดุก เป็นต้น โดยเป้าหมายหลักของโครงการพัฒนาทุนมนุษย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมอัตลักษณ์ในนิคมสร้างตนเอง (นิคม Next) คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้มีอาชีพ มีรายได้ การเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ และมีครอบครัวที่เข้มแข็ง#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #นิคมสร้างตนเอง #นิคม Next:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

       

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1171193208511859443
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

พาวเวอร์วินจับมือจีน-ไต้หวันขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ระดับโลก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) ทุ่มสุดตัว จับมือ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก จากจีนและไต้หวันเพื่อจัดจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ คือ แบตเตอรี่ จากTianneng (เทียนเหนิง) ติดท็อป 5 ของจีน พร้อม โซ่และชุดสเตอร์ จาก KMC (เคเอ็มซี) ไต้หวัน เพื่อหวังส่วนแบ่งการตลาดในปีแรก คาดเติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 3 ปี

คุณนิรุจ เชี่ยวพัทธยากร ประธานกรรมการบริหารบริษัทPOWER WIN จำกัด (พาวเวอร์ วิน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นของครอบครัวตั้งแต่ปี 2514 ที่มีการทำธุรกิจเกี่ยวกับจักรยาน เปิดร้านขายจักรยาน ชื่อ ร้านไพศาลจักรยาน ที่จ.ร้อยเอ็ด จนมาปี 2548 ผม และน้องสาว คุณฐิติพร เชี่ยวพัทธยากร จึงได้จัดตั้ง บริษัท POWER Bike (พาวเวอร์ ไบค์) เพื่อจำหน่ายขายส่งจักรยานและอะไหล่จักรยาน ทั่วประเทศ และต่อมาได้เป็นผู้นำเข้าจักรยานทำ OEM Brand (โออีเอ็ม แบรนด์) เป็นของตัวเอง ยี่ห้อ Power (พาวเวอร์) และอะไหล่จักรยาน ภายใต้ชื่อ CITY (ซิตี้) และ Power (พาวเวอร์) จนมาถึงปี 2559 เมื่อเห็นว่าในเมืองไทยตลาดรถจักรยานยนต์เป็นตลาดที่ใหญ่มากและนับเป็นปัจจัยที่ 6 ของคนไทยที่ ใช้สำหรับการเดินทาง จึงได้ก่อตั้ง บริษัท POWER WIN จำกัด (พาวเวอร์ วิน) ขึ้นมา

จากนั้น ทางบริษัทได้เริ่มต้นจากการจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ โดยเริ่มจากการเป็น ผู้จัดจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ DEESTONE (ดีสโตน) อย่างเป็นทางการ ในปี 2559 ปีที่เริ่มต้นก่อตั้งบริษัท ซึ่งทาง DEESTONE (ดีสโตน) นับว่าเป็นโรงงานผลิตยางขนาดใหญ่ของไทย และหลังจากนั้นในปี 2561 เริ่มทำอะไหล่มอเตอร์ไซค์ OEM (โออีเอ็ม) ภายใต้ ยี่ห้อ NOBU (โนบุ) จนถึงปัจจุบัน POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) มีฐานลูกค้า กว่า 200 ร้านค้าทั่วประเทศ มียอดขายกว่าปีละ 300 ล้านบาท และเป็น ผู้จัดจำหน่ายที่มียอดขายติดอันดับหนึ่งของยางจักรยานยนต์ ยี่ห้อ DEESTONE (ดีสโตน)
ซึ่งในปี 2567 นี้ทางบริษัทจะรุกตลาดอะไหล่มอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยให้มากขึ้น โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับทาง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่จ

ากต่างประเทศ เริ่มจากบริษัทแรก ทาง POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย แบตเตอรี่ ชนิดตะกั่ว ของ Tianneng Holding Group (เทียนเหนิง โฮลดิ้ง กรุ๊ป) ซึ่งเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแบตเตอรี่ รายใหญ่ ติดท็อป 5 ของจีน ซึ่ง TIANNENG (เทียนเหนิง) เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของจีนที่จดเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศฮ่องกง เป็นผู้จำหน่าย แบตเตอรี่ ชนิดตะกั่ว รถจักรยานยนต์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในจีน สูงถึง 60%

และ อีกหนึ่งบริษัท ที่ทาง POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) ได้ร่วมมือด้วย และรู้สึกความภาคภูมิใจอย่างมาก คือการได้รับความไว้ทางใจจาก KMC Group Company (เคเอ็มซี กรุ๊ป) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนหลักทรัพย์จากประเทศไต้หวัน เป็นผู้ผลิตโซ่รายใหญ่ที่สุดในโลก ให้เป็นผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ โซ่และชุดสเตอร์ รถจักรยานยนต์ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่ง KMC (เคเอ็มซี) เป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง เป็นบริษัทที่เป็นทั้งผู้ผลิตสินค้า OEM (โออีเอ็ม) และเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีให้กับบริษัทผู้ผลิตรถจักยานยนต์ ในหลายยี่ห้อ เช่น HONDA (ฮอนด้า), YAMAHA (ยามาฮ่า), KAWASAKI (คาวาซากิ), SUZUKI (ซูซูกิ) ในเวียดนาม เป็นต้น

คุณนิรุจ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 นี้ จึงถือได้ว่า เป็นปีที่ ทาง POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) มีเจตจำนงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะไหล่รถจักรยานยนต์ใน 2 Brand (แบรนด์)นี้ โดยหวังไว้ว่าจะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดในผลิตภัณฑ์อะไหล่รถจักรยานยนต์ใน 2 Brand (แบรนด์)นี้ ในปีแรกนี้ 10-15% และเติบโตขึ้นอย่างน้อยทุก 10% ในระยะเวลา 3 ปีนี้

ทาง POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) จะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะไหล่รถจักรยานใน 2 แบรนด์นี้ ผ่านช่องทางการจำหน่ายใน ร้านค้าที่เป็นฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้วของ POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 200 ร้านค้า พร้อมกันนี้ เราจะมีการทำการตลาดไปยังช่างรถจักรยานยนต์ โดยทั้งในด้านโปรโมชั่น แจกและแถม และจะมีการสื่อสาร ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ถึงรายละเอียดสินค้าและโปรโมชั่นซึ่งเป็นการทำตลาดเชิงรุก โดยยึดหลักของการเจริญเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เราจะมุ่งเน้น การกระจายสินค้าทั้ง 2 แบรนด์ นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ของบริษัท POWER WIN : POWER of QUALITY (พาวเวอร์ วิน : พาวเวอร์ ออฟ ควอลิตี้) คือการกระจายสินค้าที่มีคุณภาพระดับโลก ให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า กับดีลเลอร์, ร้านบริการและผู้ใช้รถจักรยานยนต์

คุณนิรุจ กล่าวปิดท้ายว่า ในอนาคตต่อจากนี้ ทางบริษัทจะยังมีโครงการที่จะพัฒนาและนำเข้าสินค้าต่างๆ ที่มีคุณภาพ และแน่นอน POWER WIN (พาวเวอร์ วิน) จะยังคงวางเป้าหมาย เพื่อมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้ามีทีคุณภาพ และให้ความคุ้มค่าที่มากกว่าสู่ธุรกิจอะไหล่รถจักรยานยนต์อย่างแน่นอน :Cr;มณสิการ รามจันทร์