วันอาทิตย์, มิถุนายน 8, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 212

ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จ มัดใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Loyalty & Rewards เป็นปีที่ 4 ให้ร้านค้าส่งในตลาดใหญ่ทั่วมุมเมือง

0
พิมพ์ไทยออนไลน์// วอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น ตอกย้ำความสำเร็จ มัดใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Loyalty & Rewards เป็นปีที่ 4 ให้กับร้านค้าส่งในตลาดไท-ตลาดนานาชาติ, ตลาดไอยรา, ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดมหานาค และ ตลาดบองมาเช่

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 คุณธีรวี อังกุวรกุล และคุณอภิรดี ภานุรุจ ตัวแทนสมาพันธ์ส่งเสริมการส่งออกแอปเปิลจากรัฐวอชิงตัน ประจำประเทศไทย เข้ามอบของรางวัลให้กับร้านค้าส่งที่เข้าร่วมแคมเปญ Trade Loyalty Program 2024 ที่ได้จัดอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 4 โดยในฤดูกาลนี้ ทางวอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น – ประเทศไทยได้มอบของรางวัลให้กับทุกร้านที่เข้าร่วมกิจกรรมตลอดฤดูกาลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านมา ที่มีรางวัลให้กับผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด 5 ร้านเท่านั้น ซึ่งในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณ และการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก ที่จำหน่ายวอชิงตันแอปเปิล จากรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดฤดูกาล 2023/2024 รวมถึงการติดสื่อประชาสัมพันธ์ภายในร้านอย่างต่อเนื่อง ทุกร้านจะได้รับของกำนัลจากการเข้าร่วมแคมเปญ โดยในปีนี้มีร้านเข้าร่วม 80 ร้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนร้านร้านค้าส่งทั้งหมดในตลาดไท-ตลาดนานาชาติ, ตลาดไอยรา, ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดมหานาค และ ตลาดบองมาเช่ ซึ่งเป็นตลาดที่มีวอชิงตันแอปเปิลจำหน่ายตลอดทั้งปี

กิจกรรม Trade Loyalty Program เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีกวอชิงตันแอปเปิล จาก USA แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์วอชิงตันแอปเปิล และยังสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อผู้ค้า เพราะในแต่ละเดือนมีการเข้าพบปะพูดคุยกับผู้ค้า เพื่อทราบถึงความต้องการของผู้ค้าและลูกค้า รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เราได้จากการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ และเรายังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับทางผู้ค้าอยู่เสมอ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าอีกด้วย ทำให้ในปีที่ 4 เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากร้านค้าทั้ง 80 ร้าน และทางวอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น ประเทศไทย ยังคงสนับสนุน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีร้านค้าเข้าร่วมแคมเปญเพิ่มมากขึ้นในปีฤดูกาลใหม่ต่อไป

นอกจากแคมเปญ Trade Loyalty Program ทางวอชิงตันฯ ยังคงกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริม และสนับสนุนการขายให้กับร้านค้าต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดฤดูกาล สามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของวอชิงตันแอปเปิล ประเทศไทยได้ที่ Facebook page และ Instagram “Washington Apple Thailand”

🍎วอชิงตันแอปเปิลยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพ
🍎วอชิงตันแอปเปิลมาตรฐาน USDA

ร้านที่มีคะแนนสะสมสูงสุดอันดับที่ 1 ได้รับรถจักรยานไฟฟ้าสามล้อ
ร้านเจ้หมวย – บุญสม (ตลาดนานาชาติ – ตลาดไท)
ร้านที่มีคะแนนสะสมเป็นอันดับ 2-5 ได้รับรถจักรยานไฟฟ้า 2 ล้อ จำนวน 4 รางวัล
ร้าน N-Fruit สาขา 1 และ สาขา 2 (ตลาดนานาชาติ – ตลาดไท)
ร้านไทยฮงผลไม้ (ตลาดสี่มุมเมือง)
ร้านเจ้ตุ่มผลไม้นอก (ตลาดสี่มุมเมือง)

สำหรับร้านที่ได้รางวัลอยู่ในอันดับ Top 20 ได้รับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ อันดับที่ 20-35 ได้รับสกู๊ตเตอร์ และเสื้อวอชิงตันแอปเปิล รวม 80 รางวัล :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

“วราวุธ” ร่วมคณะนายกฯ-ครม. ลงพื้นที่ อุบลฯ-ศรีสะเกษ ย้ำ พม. นำนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร แก้ปัญหา ผู้สูงอายุ-คนพิการ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ  ร่วมกับคณะของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีคณะรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร สิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างแยกต่างระดับคำน้ำแซบ ที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และติดตามสถานการณ์การเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ที่ศาลาประชาคมบ้านผึ้งตก อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งรับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติดพร้อมกับร่วมประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และร่วมคณะรับประทานอาหารกลางวันที่ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

นายวราวุธ เปิดเผยว่า ในส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง (พม.)  ตนได้สั่งการทีม พม. ว่าให้ดูแลเรื่องคนไร้บ้านที่มีอยู่พอสมควร ผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวม จึงขอให้เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพ  สิทธิประโยชน์ต่างๆ การปกป้องสิทธิต่างๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับโครงการบริบาลและปกป้องสิทธิผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวง พม. ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมถึงปัญหาขอทานให้ช่วยกันแก้ไข คนพิการและผู้ป่วยติดเตียงในกรณีการเข้าถึงสิทธิ ขอให้เจ้าหน้าที่ พม. เข้าไปเยี่ยมบ้าน อย่าให้ใครตกสำรวจ ตนได้ให้กำลังใจทีมงานเพราะทราบดีว่างานของกระทรวง พม. เป็นงานที่ไม่จบสิ้น มีงานอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นทางกระทรวงและผู้บริหาร พม.  พร้อมที่จะสนับสนุน ให้เจ้าหน้าที่ทำงานทุกคน ขอให้ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ตนได้ย้ำว่าเรื่องการดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ สอดคล้องโดยตรงกับนโยบาย 5 × 5 แก้วิกฤตประชากร จึงได้กำชับให้ศึกษานโยบายดังกล่าวให้ดี ว่าแต่ละมิติเกี่ยวโยงกันอย่างไร จะได้ทำงานสอดคล้อง รองรับได้#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #นโยบาย5×5ฝ่าวิกฤตประชากร #อุบลราชธานี #ศรีสะเกษ #นายกรัฐมนตรี #ครม:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

             

ความท้าทายสู่โอกาส.. การขับเคลื่อนตลาดทุน!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8561
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

พม. ดึงเครือข่าย ลุยชุมชนริมคลองเปรมประชากร จัดกิจกรรมช่วยลดค่าใช้จ่ายครอบครัว  ป้องกันเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษา 

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ลงพื้นที่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 (คลองเปรมประชากร) เขตจตุจักร กรุงเทพ เพื่อเป็นประธานเปิดกิจกรรมเปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน ปีที่ 3 พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รวมถึงของใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์กีฬา ให้กับเด็กอายุระหว่าง 2 – 18 ปี จำนวน 108 คน โดยมี นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่  จากนั้น เดินเยี่ยมบ้านให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน จำนวน 2 ครอบครัว และมอบถุง พม. ห่วงใย จำนวน 18 ครอบครัว นอกจากนี้  เยี่ยมชมบูธนำเสนอผลงานด้านสวัสดิการสังคมในแต่ละช่วงวัยและการให้บริการของกระทรวง พม. ในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารกระทรวง พม. นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร และผู้แทนภาคีเครือข่าย ร่วมลงพื้นที่

นายอนุกูล กล่าวว่า จากสภาพปัญหาด้านเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลต่อสภาพความเป็นอยู่ ครอบครัว ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ครอบครัวที่มีเด็กได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ค่าชุดนักเรียน ค่ารองเท้านักเรียน และค่าอุปกรณ์ทางการศึกษาอื่น ๆ ซึ่งหลายครอบครัวที่ตัวเด็กเอง เลือกที่จะออกไปหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว และไม่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีก จึงเป็นเหตุให้ทุกภาคส่วน เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือเด็กที่หลุดออกจากระบบหรือเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษาให้ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง ดังนั้น  กิจกรรมเปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน มีบ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้ง 77 จังหวัด ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุกรกิจเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ ประสานช่วยเหลือเด็กอายุระหว่าง 2 – 18 ปี ไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา ทั้งนี้ มีเด็กได้รับการสนับสนุนแล้ว จำนวน 2,474 คน

นายอนุกูล กล่าวว่า วันนี้ กระทรวง พม. โดย กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีการส่งมอบโอกาสที่ดี เป็นการช่วยเหลือเด็กและครอบครัว ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมประชาชนเครือข่ายจิตอาสา หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจในระดับพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะชีวิต เด็กได้รับสิ่งของที่ตรงความต้องการ เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการเรียนรู้ในห้องเรียน และช่วยป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา สร้างให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เติบโตสมวัย เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

นางอภิญญา กล่าวว่า สำหรับปี 2567 โครงการเปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีการขยายแนวคิดเรื่องการพัฒนาทักษะชีวิต การคิดวิเคราะห์และบริหารจัดการเงิน ในการซื้อของตรงตามความต้องการและจำเป็น อีกทั้งมีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านให้กำลังใจแก่ครอบครัวกลุ่มเปราะบางในพื้นที่พร้อมมอบ “ถุง พม. ห่วงใย” ที่ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนทั่วประเทศจำนวน 2,135 คน สำหรับการขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่แล้ว จำนวน 2 ครั้ง แบ่งเป็น ครั้งที่ 1 วันที่ 27พฤษภาคม 2567 ณ ชุมชนโค้งรถไฟยมราช จำนวน 124 คน และครั้งที่ 2 วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ณ มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล (ศูนย์เมอร์ซี่) จำนวน 80 คน #ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #ดย #กรมกิจการเด็กและเยาวชน #คลองเปรมประชากร #เปิดเทอมใหม่ใจฟูส่งน้องไปเรียน:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

             

“วราวุธ” โทรเอง! แจ้งเบาะแส ศรส. กระทรวง พม. ชี้เป้า ขอทานบนสกายวอร์คกลางกรุง ประสาน ตร. ลงพื้นที่จับด่วน…S

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้าที่ตนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศประจำนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน ร่วมฟังการปาฐกถาพิเศษของ ดาโช เชริง โตบเกย์ (Hon’ble Dasho Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงพักกลางวัน ตนได้ใช้เวลาเดินจากโรงแรมที่พักย่านราชดำริไปยังห้างสรรพสินค้าย่านสยาม โดยตั้งใจที่จะเดินไปเลือกซื้อของที่ระลึกเพื่อมอบให้กับนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏานเป็นการส่วนตัว ขณะใช้เส้นทางเดินเท้าบนสกายวอร์คได้พบเห็นขอทาน จึงรีบโทรแจ้งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ของกระทรวง พม. เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ปทุมวัน โดยด่วน

นายวราวุธ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ ศรส. รายงานว่า ได้พบผู้ทำการขอทานตามที่แจ้งเป็นหญิงผู้สูงอายุ 72 ปี และจากการตรวจสอบข้อมูลยังพบอีกว่า เคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง และปัจจุบัน ได้เช่าห้องอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 เขตบางนา อาศัยกับลูกชายมีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และได้ตรวจสอบกับลูกชายพบว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าแม่ของตนมาทำการขอทาน จากนั้น เจ้าหน้าที่ทีม ศรส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้เชิญตัวหญิงชราไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อสอบข้อเท็จจริง คัดกรอง และทำบันทึกการจับกุม อีกทั้งทำการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่ทีม ศรส. จะดำเนินการส่งกลับสู่ครอบครัว พร้อมทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อไม่ให้หญิงชรามาทำการขอทานอีก

นอกจากนี้ จะได้มีการวางแผนลงพื้นที่เยี่ยมบ้านหญิงชราและติดตามเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขอย้ำว่าหากพบเห็นผู้ทำการขอทาน เราไม่ควรให้เงินด้วยความสงสาร เพราะการขอทานเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้โทรแจ้งมาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ขอทาน #สยาม:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

“วราวุธ” ขับเคลื่อน พม. รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ยอมรับ กังวลส่งผลกระทบต่อสังคมไทย-กลุ่มเปราะบาง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กทม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ “สภาวะความเปราะบางของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมในงาน และมี Mr. Fabrizio Zarcone ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของงานวิจัย และทีมนักวิจัยธนาคารโลก (World Bank) นำเสนอผลงานวิจัย

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับธนาคารโลก (World Bank) จัดการประชุมสัมมนาวิชาการ เรื่อง “สภาวะความเปราะบางของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” นับว่าเป็นการเน้นย้ำถึงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน เพื่อการกระตุ้นให้มีความตระหนักถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งทีมวิจัยธนาคารโลกได้นำเสนอผลการวิจัย เพื่อนำเสนอข้อค้นพบจากงานวิจัยและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประเมินความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อแนวทางในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มเปราะบาง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี 2564 ประเทศไทยได้ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดอันดับ 9 ของโลก ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเป็นที่น่ากังวลว่า กลุ่มเปราะบางคือกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าประชาชนกลุ่มอื่น ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่ออาชีพและรายได้ การทำเกษตร ที่อยู่อาศัย และการใช้ชีวิตจากการถูกกัดเซาะชายฝั่งและน้ำท่วมซ้ำซาก

นายวราวุธ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวง พม. ซึ่งมีภารกิจหลักในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ทุกคนมีโอกาสได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียมกัน มีความมั่นคงในชีวิต และมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามความจำเป็นขั้นพื้นฐานบนสิทธิพลเมืองและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยบทบาทของกระทรวง พม. คือ การดูแลคนทุกช่วงวัยโดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง อาทิ เด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งกลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มคนไร้บ้าน และปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีอัตราการเกิดที่ต่ำมาก คุณภาพเด็กที่มีอยู่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาและยกระดับ ดังนั้นเราต้องคิดว่าจะทำอย่างไร ประชาชนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบางที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะสามารถปรับตัว และอยู่รอดปลอดภัยได้ โดยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และทำอย่างไรที่จะทำให้ยังคงเป็นพลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศท่ามกลางวิกฤต และความท้าทายต่างๆ ได้

นายวราวุธ กล่าวว่า  สำหรับผลงานวิจัยที่นำเสนอในวันนี้ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทางธนาคารโลกได้ทำการศึกษาและจัดทำ Country Climate and Development Report หรือ CCDR สำหรับประเทศไทย โดยได้มีการจัดทำรายงานมิติทางสังคมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Social Dimensions of Climate Change (SDCC) ที่ได้มีการศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ที่กระทรวง พม. ดูแลรับผิดชอบอยู่ ทำให้สะท้อนภาพที่ชัดเจนถึงความจำเป็นในการพัฒนายุทธศาสตร์การปรับตัว และการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยในมิติทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งการจัดทำแผนที่ความเสี่ยงตามมาตรฐานของ Intergovernmental of Climate Change หรือ IPCC เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแผนการดำเนินงาน การจัดสรรงบประมาณ และการบริหารบุคคล ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินงานแบบพุ่งเป้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับแผนที่ความเสี่ยงที่นำมาทับซ้อนกับข้อมูลกลุ่มเปราะบาง และการคาดประมาณประชากรนั้น นับเป็นข้อมูลที่สำคัญยิ่งต่อการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการที่กระทรวง พม. จำเป็นต้องดำเนินการ นอกจากนี้ ยังจะเป็นส่วนสำคัญช่วยในการวางแผน การตัดสินใจ และการปฏิบัติการของผู้รับผิดชอบในพื้นที่ในการจัดการกับภัยพิบัติอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในด้านการป้องกัน การบริหารจัดการ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และการฟื้นฟูหลังจากเกิดภัยพิบัติได้อย่างเป็นระบบ และเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียและผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชากรกลุ่มเปราะบาง ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนงบประมาณ และกำลังคนของภาครัฐ

นายวราวุธ กล่าวว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดว่ากระทรวง พม. จำเป็นที่ต้องเร่งจัดการเชิงรุกกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อประชากร โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบาง ถือว่าเป็นความท้าทายทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ แต่เราจะต้องทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง  ทั้งนี้ เราควรจะต้องมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1) ความสำคัญและความจำเป็นของการมีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง และทันสมัย เพื่อใช้ในการวางแผนการจัดสรรทรัพยากรตามระดับความสำคัญของสถานการณ์และพื้นที่ ดังนั้น กระทรวง พม. จะพิจารณายกระดับการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และมีรายละเอียดที่เพียงพอ และจะบูรณาการข้อมูลของทุกหน่วยงานให้อยู่ในระบบ Big Data ของกระทรวง รวมทั้งเชื่อมประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอกกระทรวง พม. ต่อไป

2) การใช้เครื่องมือและนวัตกรรมที่มีมาตราฐานสากล โดยเฉพาะการจัดทำแผนที่ความเสี่ยงตามมาตรฐาน IPCC ซึ่งกระทรวง พม. จะพิจารณาปรับใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการชี้เป้ากลุ่มประชากรที่จะได้รับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้การจัดสรรบุคลากร และงบประมาณ เป็นไปอย่างตรงเป้าหมาย

3) การเสริมสร้างความรู้ (Awareness raising and capacity building) ของบุคลากร พม. และภาคีเครือข่ายในเรื่องการดูแลประชาชนให้มีความตระหนัก และพร้อมที่จะรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่บุคลากร พม. จะต้องเข้าใจเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูล การทำแผน และการลงปฏิบัติงานในพื้นที่

4) การประสานการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้สอดคล้องกับความจำเป็นของกลุ่มคนเปราะบางในพื้นที่เสี่ยง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  กรมการปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น

และ 5) การให้คนและชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนงานเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้เริ่มการทำงานในลักษณะนี้กับนิคมสร้างตนเองในหลายพื้นที่ของกระทรวง พม.  โดยจะดำเนินการศึกษาในรายละเอียดของผลการศึกษานี้ และจะได้ดำเนินการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับธนาคารโลก ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเครื่องมือ นวัตกรรม การเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และศักยภาพของบุคลากร พม. รวมถึงเครือข่ายที่ร่วมดำเนินงาน และที่สำคัญคือ การจัดทำแผนการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในมิติทางสังคมต่อไป#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม#Climatechange #กลุ่มเปราะบาง:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1171962131591683749
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ปลัด พม. พร้อมหนุนความร่วมมือ World Bank เตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกระทบกลุ่มเปราะบาง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ  นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ “สภาวะความเปราะบางของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ว่า ประเทศไทยมีความเปราะบางต่อผลกระทบจากการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก  ตามที่องค์การสหประชาชาติได้แจ้งเตือนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 -2570 จะเป็นช่วง 5 ปี ที่อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2564 ประเทศไทยได้ถูกจัดเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง อันดับที่ 9 ของโลกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP เป็นอันดับ 5 ของโลก ทำให้เกิดการสูญเสียรายได้และทรัพย์สินของมนุษย์โดยถ้วนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง จะได้รับผลกระทบมากกว่าคนกลุ่มอื่น อีกทั้งข้อมูลขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ระบุว่า ในปี 2564 ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 50 จาก 163 ประเทศ ที่เด็กมีความเสี่ยงสูงสุดต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ คนพิการและผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในสัดส่วนที่รุนแรงกว่าประชากรกลุ่มอื่น เป็นต้น

นายอนุกูล กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand’s National Adaptation Plan NAP) ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ เพื่อมุ่งสู่การมีภูมิคุ้มกัน ลดความเปราะบาง สร้างขีดความสามารถในการปรับตัวที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยกระทรวง พม. มีความเกี่ยวข้องกับสาขาที่ 6 “การตั้งถิ่นฐานและความมั่นคงของมนุษย์” และได้มีนโยบายขับเคลื่อนแก้วิกฤตประชากร เพื่อการปรับตัวและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างกระทรวง พม. และธนาคารโลก (World Bank) ในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมในมิติต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวง พม. จะนำผลงานวิจัย “สภาวะความเปราะบางของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยทีมนักวิจัยธนาคารโลก (World Bank) ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการกำหนดแผนงานและโครงการร่วมกัน เพื่อเตรียมการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ต่อไป#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม#Climatechange #กลุ่มเปราะบาง:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

การประชุมสัมมนาระหว่างประเทศการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นหลัก (Collective Housing Conference)

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสัมมนาระหว่างประเทศการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นหลัก(Collective Housing Conference) : “คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แก้ไขปัญหาความยากจน สร้างคนและชุมชนที่เข้มแข็ง กุญแจสู่ความยั่งยืน”ระหว่างวันที่ 1 – 4 กรกฎาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานคร

1. บ้านมั่นคง ทุกคนร่วมสร้าง

จากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ทำให้เมืองขยายตัว เกิดชุมชนแออัด ชุมชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีทั้งเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้าน ห้องเช่า บ้านเช่า และชุมชนบุกรุกที่ดินมากมาย นอกจากนำมาซึ่งความเจริญในเมืองใหญ่ ยังแลกมาด้วยผลกระทบต่อชุมชนเมืองมากมายหลายด้าน ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำ การเข้าไม่ถึงสวัสดิการและทรัพยากร กลายเป็นปัญหาชุมชนแออัด มีหนี้สิน ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ยังไม่รวมถึงชุมชนได้รับผลกระทบจากการไล่รื้อชุมชนและเวนคืนที่ดินจากนโยบายการพัฒนาเมือง เหล่านี้นำมาสู่ปัญหาความมั่นคงในการอยู่อาศัย พร้อมทั้งยังขาดการจัดการด้านที่ดินและที่อยู่อาศัยอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนเปราะบางในเมือง จึงกลายเป็นประเด็นที่หลายภาคส่วนให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง

2. สภาพของที่อยู่อาศัยที่แออัด

ความเป็นมาของการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาชีวิตและการพัฒนาเมือง ทำให้เกิดความมั่นคงทางสังคม การเข้าถึงสิทธิการพัฒนาและโอกาสในการพัฒนา ซึ่งแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เป็นการพัฒนาที่ครอบคลุม ยั่งยืนและยืดหยุ่น แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ยังคงปรากฏให้เห็นทั้งในเอเชียและประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึงโอกาส นำไปสู่ความไม่เท่าเทียมในการอยู่อาศัย การถูกไล่รื้อ แม้จะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่างๆ การแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่มักเป็นการจัดการโดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นไปตามกลไกการตลาด ที่คนจนไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้จะมีการผลิตที่อยู่อาศัยเพิ่มเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การผลิตที่อยู่อาศัยในปัจจุบันยังมุ่งเน้นด้านกายภาพ โดยไม่คำนึงถึงการสร้างโครงสร้างทางสังคมของผู้อยู่อาศัย รูปแบบเหล่านี้นำไปสู่ความเป็นปัจเจกของผู้คนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในเมืองที่กำลังเติบโต

3. ช่างชุมชนกำลังร่วมกันก่อสร้างบ้านสร้าง

การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน (Collective Housing ) ซึ่งพัฒนาตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย ได้กลายเป็นทางเลือกสำคัญที่เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เหมาะสม ไปพร้อมๆกับการสร้างระบบชุมชนและสังคม โดยมีผู้อยู่อาศัยเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก “การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน” ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานต่อเนื่อง พร้อมๆกับการขับเคลื่อนเรื่องสหกรณ์ที่อยู่อาศัย ซึ่งดำเนินการอย่างกว้างขวางในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา

4. การประชุมนานาชาติเรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน (แบรนเนอร์ วันที่ 1-4)

การประชุมนานาชาติ เรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การประชุมนานาชาติ เรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน หรือ Collective Housing เป็นการรวบรวมความรู้ ประสบการณ์ รูปธรรมความสำเร็จในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ในเอเซียแปซิฟิกไม่น้อยกว่า 13 ประเทศ เพื่อแบ่งปัน แลกเปลี่ยน และสร้างทิศทางการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต พร้อมทั้งนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบาย แผนงานและแนวทาง ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง การประชุมครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง สังคม และความมั่นคงของมนุษย์ โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา ที่นำไปสู่ความยั่งยืน

            5. การประชุมนานาชาติเรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน (แบรนเนอร์วันที่ 1 ก.ค. 67) ทิศทางแผนงานการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เป็นกลไกเปลี่ยนผ่านสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบทที่สามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยราคาถูก สร้างพลังร่วมในการพัฒนา โดยการสร้างเวทีร่วมในชุมชนเพื่อเชื่อมโยงทรัพยากร ความรู้ ความสามารถ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดระบบครอบคลุมการพัฒนาชีวิตในด้านต่างๆทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่น สวัสดิการชุมชน สุขอนามัย ความมั่นคงทางอาหาร สภาพแวดล้อม และโอกาสในการทำมาหากิน เป็นต้น ผ่านกระบวนการตัดสินใจร่วม การทำงานร่วมกับกับหน่วยงานภาคีต่างๆในพื้นที่ ให้กลุ่มผู้เดือดร้อนเป็นแกนหลักในการในกระบวนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย เพื่อให้มั่นใจว่า “จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”

6. นายวราวุธ ศิลปอาชา

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้แก้ไขปัญหาให้ประชาชนผู้ยากไร้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยทั้งในชนบทและเมืองไปแล้วกว่า 200,000 ครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นบ้านมั่นคง การซ่อมสร้างบ้านที่มีสภาพทรุดโทรมหรือบ้านพอเพียงชนบท การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง ชุมชนริมทางรถไฟ ชุมชนริมชายฝั่งทะเล คนไร้บ้าน รวมกว่า 3,000 ชุมชนเมืองและชนบททั่วประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) เป็นเข็มทิศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม มีเป้าหมาย 1,300,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ เพื่อคนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579

7. นายกฤษดา สมประสงค์

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ระบุว่า โครงการบ้านมั่นคง เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการไม่มีที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นระบบ โดยครอบคลุมชุมชนทั้งหมดของเมือง มีการสำรวจข้อมูลความเดือดร้อน และใช้ข้อมูลเพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาเชิงรุก จัดทำแผน แนวทาง และรูปแบบการแก้ไขปัญหาที่มีความหลากหลายตามสภาพปัญหาของชุมชน และแผนการพัฒนาเมือง รวมทั้งยังเน้นให้เกิดกระบวนการทำงานและจัดการร่วมกันระหว่างชุมชนและท้องถิ่น โดยมีกลไกการทำงานร่วมกันเป็นคณะกรรมการเมือง ซึ่งประกอบไปด้วย เทศบาล ชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น ร่วมกันวางแผนและพัฒนาชุมชนแออัด

8. บ้านมั่นคง “บึงบางซื่อ กทม.”

พอช. จะสนับสนุนให้ชุมชนที่มีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย เช่น อยู่ในที่ดินบุกรุกทั้งของรัฐและเอกชน ที่ดินเช่า บ้านเช่า เสี่ยงต่อการถูกไล่รื้อ ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ฯลฯ รวมกลุ่มกันแก้ไขปัญหา เช่น จัดหาที่ดินใหม่ โดยเช่าหรือซื้อ เพื่อสร้างบ้าน สร้างชุมชนใหม่ หรือซ่อม สร้าง ปรับปรุงบ้านใหม่ในที่ดินเดิม ฯลฯ ตามสภาพปัญหาของแต่ละชุมชน พอช. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่ม จัดตั้งคณะทำงานจากชุมชนขึ้นมาเพื่อดำเนินการ ร่วมกันออมทรัพย์เพื่อเป็นทุนพัฒนาที่อยู่อาศัย ร่วมกันออกแบบบ้าน ออกแบบผังชุมชน ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน และจัดตั้งสหกรณ์เคหสถานเพื่อให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล นอกจากนี้ พอช. ยังมีหน้าที่สนับสนุนทางด้านการเงินแก่ชุมชน เช่น ให้สินเชื่อซื้อที่ดิน ก่อสร้างบ้าน ที่มีดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนระยะยาว อุดหนุนงบประมาณการสร้างบ้าน สร้างสาธารณูปโภคส่วนกลาง โดย พอช. จะอนุมัติงบประมาณผ่านสหกรณ์เคหสถานที่ชุมชนจัดตั้งขึ้นมา ที่ไม่ได้อนุมัติเป็นรายบุคคล และคณะกรรมการสหกรณ์ฯ จะร่วมกันบริหารโครงการ-ก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ

9. บ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากร

เป้าหมายการประชุมนานาชาติ เรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เป้าหมายในการประชุมนานาชาติ เรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน คือการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน ที่ดำเนินการอยู่ในเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ สนับสนุนการร่วมมือระดับภูมิภาค พัฒนากรอบและแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ด้วยการใช้แนวทางพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนและการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน การพัฒนารูปแบบการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เพิ่มพูนความรู้และศักยภาพให้ผู้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ ผ่านการจัดเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำชุมชนและผู้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่จากประเทศต่างๆในเอเซีย การแลกเปลี่ยนและศึกษาดูงานในพื้นที่ ผลักดันให้เกิดวาระการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน ซึ่งจะส่งผลต่อแนวทาง นโยบาย ขององค์กร หน่วยงาน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน “คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แก้ไขปัญหาควายากจน สร้างคนและชุมชนที่เข้มแข็ง กุญแจสู่ความยั่งยืน”

10. ภาพชุมชนประชุมรวมพลัง

สำหรับการประชุมนานาชาติ เรื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน : คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แก้ไขปัญหาความยากจน สร้างคนและชุมชนที่เข้มแข็ง กุญแจสู่ความยั่งยืน จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Convention Center – UNCC) ส่วนในวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร จัดโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน มูลนิธิศูนย์ศึกษาที่อยู่อาศัยแห่งเอเซีย และองค์กรร่วมจัด วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอาศรมศิลป์ หน่วยงานภาคีร่วมจัด UN-ESCAP, UN-HABITAT, International CO-Habitat Network, Development

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ขอทาน #สยาม:Cr;มณสิการ รามจันทร์