วันอาทิตย์, มิถุนายน 8, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 211

“เศรษฐา-วราวุธ” ร่วมพาเหรด ฉลองส่งท้ายเดือนเทศกาล PRIDE ย้ำ เสมอภาค-เท่าเทียมทางเพศ ดันไทยเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// วันที่ 30 มิถุนายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ร่วมงาน “LOVE PRIDE PARADE 2024” โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมร่วมขบวนพาเหรดฉลองส่งท้ายเดือนแห่งเทศกาล PRIDE ครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ด้วยขบวนพาเหรดยาวที่สุดในเอเชียระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นการแสดงออกถึง ความรัก ความกลมเกลียว ความเท่าเทียม และความเสมอภาค จากความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และประชาสังคมมากกว่า 100 องค์กร ขบวนพาเหรดจะเคลื่อนจากสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย ไปตามถนนพระราม 1 ผ่านย่านปทุมวัน สยาม ราชประสงค์ เพลินจิต อโศก สุขุมวิทและสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอชื่นชมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่เพียงเป็นการยอมรับในสังคมไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการยอมรับในสังคมโลก อันเป็นภาพลักษณ์ที่งดงามของประเทศไทยในการเสริมสร้างความเสมอภาค นำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็น Pride Friendly Destination อันเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรในทุกด้าน รวมถึงการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยและคนไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มจากทั่วโลกอย่างอบอุ่นและเท่าเทียม และขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สอดรับกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนที่มนุษย์ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ มีสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองให้มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน

“ผมขอแสดงความยินดี และร่วมเฉลิมฉลองวันแห่งความภาคภูมิใจในครั้งนี้ เพราะพี่น้องชาว LGBTQ+ ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานและอดทน พวกเรารู้กันดีว่าการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย และในช่วงเทศกาล Pride Month เห็นพี่น้องคู่รัก LGBTQ+ หลายคู่เฝ้ารอกฎหมายฉบับนี้ ด้วยความหวังที่จะได้ดูแลกันและกันหลายคู่พร้อมจดทะเบียนทันทีเมื่อกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. เราพร้อมทำงานร่วมกับทุกคน พร้อมรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย เพื่อร่วมผลักดันและสร้างความรู้ความเข้าใจให้การบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีประสิทธิภาพ และพร้อมผลักดันสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ของบุคคลทุกเพศให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะรัฐบาลเชื่อมั่นว่าทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และ LGBTQ+ ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่อยากทำเป็นในสิ่งที่อยากเป็น และทุกคนมีคุณค่า และควรได้รับการเคารพในศักดิ์ศรีอย่างเท่าเทียมกัน การสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม กระทรวงเราพร้อมที่จะร่วมกันส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างจริงจัง และพร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #สมรสเท่าเทียม #pridemonth:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

เชียงใหม่-พุทธศาสนิกชนภาคเหนือ ร่วมพลังบุญผ้าป่าทองคำ สร้างปลียอดพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร เชิญร่วมพิธียกยอดทองคำ เสาร์ 20 ก.ค.67 เวลา 1100 น.เป็นต้นไป

0

เชียงใหม่-พุทธศาสนิกชนภาคเหนือ ร่วมพลังบุญผ้าป่าทองคำ สร้างปลียอดพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร เชิญร่วมพิธียกยอดทองคำ เสาร์ 20 ก.ค.67 เวลา 1100 น.เป็นต้นไป

พิธีทอดผ้าป่าทองคำ สร้างปลียอดทองคำ ส่วนท้ายสุด พระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนครในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น.
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย พลเอกเอกชัย หาญพูนวิทยา ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพุทธภูมิธรรม อาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม พลตรีฉัตรไชย ประจุศิลป เลขานุการมูลนิธิพุทธภูมิธรรม

โดยได้รับเมตตาจาก พระครูกิตติธรรมนิวิฐ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระครูสุจิตรัตนาทร เจ้าอาวาสวัดชัยมงคล พระครูสกลวรานุกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร คณะสงฆ์ คณะผู้มีจิตศรัทธาและประชาชน ร่วมพิธี ทอดผ้าป่าถวายเงินปัจจัยและทองคำแท้ ณ บริเวณศาลาอเนกประสงค์ วัดชัยมงคล ตำบลข้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ด้วยพระธาตุเชิงชุม เป็นศาสนสถานสำคัญของชาติ ประดิษฐานอยู่เมืองสกลนคร เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิก ชนสองฝั่งโขง และประชาชนคนไทยทั่วประเทศ โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถาน ตามราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 8 มีนาคม 2478 โดยอดีตเจ้าอาวาสวัด จนมาถึงสมัยของพระเทพสิทธิโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ได้ดำเนินการทำนุบำรุงรักษาองค์พระธาตุเชิงชุมมาโดยลำดับ ในปีพุทธศักราช 2564 คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ทั้งในและนอกประเทศร่วมกันสละทรัพย์จัดซื้อทองคำ 96.5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อหุ้มทองคำยอดองค์พระธาตุเชิงชุม นับตั้งแต่บัวเชิงกลุ่มเรือนยอดส่วนบนไปจรดกรวยทองคำสวมยอดปสี โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 ตั้งแต่ปล้องไฉนไปจรดกรวยทองคำสวมปลียอดรวมยอดฉัตร จำนวน 971.26 บาทหรือ 14.806 กิโลกรัม ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564

ส่วนที่ 2 ตั้งแต่บัวคว่ำฐานรองป้องไฉนไปจรดปล้องไฉน จำนวน 585.93 บาท หรือ 8.932 กิโลกรัม ดำเนินแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565

ส่วนที่ 3 ตั้งแต่บัวเชิงไปจรดบัวคว่ำฐานรองปล้องไฉน ซึ่งมีขนาดสูง 213 เชนติเมตร ฐานกว้าง 49 เซนติมตร ยอดกว้าง 40 เชนติเมตร ใช้ทองคำ จำนวน 520 บาท หรือ 8 กิโลกรัม โดยจะใช้วิธีอิเล็กโตรฟอร์มมิ่ง(Electroforming Technique) ซึ่งเป็นส่วนท้ายสุดที่ยังคงค้างอยู่ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์และอยู่ในระหว่างการดำเนินการรวบรวมทองคำ และยังขาดทองคำอีกจำนวน 30 บาท

ทั้งนี้จังหวัดสกลนคร ได้มีประกาศ แต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการหุ้มทอง ส่วนปลียอดพระธาตุเชิงชุม (ส่วนที่ 3) ให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนม พรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

คณะสงฆ์วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร คณะสงฆ์จังหวัดสกลนคร พุทธศาสนิกชนและมีจิตศรัทธาทั่วประเทศร่วมกับ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม จึงได้กำหนดดำเนินโครงการหุ้มทองคำยอดพระธาตุเชิงชุม (ส่วนที่3) และได้พิจารณาให้บริษัท โกลด์ อินโนเวชั่นจำกัด เป็นผู้ดำเนินการหุ้มทองคำฯ ซึ่งได้ดำเนินการขออนุญาตหุ้มทองคำส่วนปลียอดพระธาตุเชิงชุมครบถ้วนทั้ง 3 ส่วน จากกรมศิลปากรและได้รับการอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

โดยที่พุทธศาสนิก ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ประสงค์จะร่วมทำบุญ ให้ดำเนินการร่วมทำบุญกับวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารได้โดยตรง และในการทอดผ้าป่า ณ วัดชัยมงคล ตำบลข้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนี้ เพื่อรวบรวมทองคำและปัจจัยเพื่อปิดยอดดำเนินการหุ้มทองคำปลียอดพระธาตุเชิงชุม (ส่วนที่ 3)

โดยกำหนดวันที่จะสมโภชและยกยอดพระธาตุเชิงชุม (ส่วนที่ 3) ระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม 2567 ที่จะถึงนี้ จึงขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพลังบุญพิธีดังกล่าว เป็นมงคลชีวิตสืบไป

 

เชิญติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่ม เติมสอบถาม ได้ที่
Facebook : วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
หรือ Line Official Account : มูลนิธิพุทธภูมิธรรม
Line ID : @bbdf
กด https://lin.ee/xKss3rn

สคร. เกาะติดรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง เบิกจ่ายได้สูงกว่าแสนล้าน!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8572
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1171970961194598446
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

ร.ร.นานาชาติเวอร์โซ ปลื้ม! นักเรียนรุ่นแรกจบ.. 50 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกตอบรับให้ศึกษาต่อทันที!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8570
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

รายแรกของประเทศไทย CFP “หม้อแปลงเจริญชัย” ได้รับประกาศนียบัตรการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)

0

รายแรกของประเทศไทย CFP “หม้อแปลงเจริญชัย”
ได้รับประกาศนียบัตรการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)

นายประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด กล่าว “ เจริญชัย ” ขอขอบคุณองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ที่ได้มอบประกาศนียบัตร การรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) ของ Oil-type transformer 1000 KVA. “ เจริญชัย ” พร้อมให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์พลังงาน ผ่านกระบวนการทำงานที่พัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ได้มีการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์หรือองค์กร เพื่อนำไปสู่การจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมคาร์บอนต่ำถือเป็นการตอบโจทย์ภาครัฐด้านการอนุรักษ์พลังงาน และทั้งทิศทางความต้องการของกระแสโลกที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals : SDGs) ในการยกระดับการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน มุ่งสู่การอนุรักษ์พลังงาน
บริษัทฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดคาร์บอนเครดิตที่จะเติบโตมากขึ้นในอนาคต คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ทั้งยังช่วยให้องค์กรเห็นภาพรวมของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนในด้านพลังงาน ทรัพยากร และวัสดุอีกด้วย
“เจริญชัย” ได้ร่วมคิดค้นนวัตกรรม หม้อแปลงรางวัลนวัตกรรม พิสูจน์จริงลดค่าไฟฟ้า 8-11% ดำเนินงานวิจัยหม้อแปลง Low Carbon และระบบบริหารจัดการพลังงานทดแทน Solar กับ Energy Storage ด้วยโปรแกรม Energy Management System ภายใต้โครงการ “Low Carbon Transformer ระบบจัดการหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อรองรับพลังงานสะอาดอย่างมั่นคง Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Response” ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าหม้อแปลงที่ใช้ในการดำเนินโครงการ ที่กล่าวในข้างต้นตอบโจทย์ภาครัฐ, ภาคเอกชนและ โรงงานอุตสาหกรรมด้านการประหยัดพลังงาน Smart Factory, Smart Building ในด้าน Net Zero & Near Zero, Peak Demand และ Demand Response และการประหยัดพลังงาน โดยสามารถลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และมีระยะเวลาคืนทุนภายในเวลา ๒ – ๕ ปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สังคม ประชาชนและผู้ประกอบการ ด้านความมั่นคงด้านพลังงาน

ดีอี ระดม 400 หน่วยงาน รุกปราบ “ข่าวปลอม” ตัดวงจร “โจรออนไลน์”

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8569
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

ประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จ มัดใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Loyalty & Rewards เป็นปีที่ 4 ให้ร้านค้าส่งในตลาดใหญ่ทั่วมุมเมือง

0
พิมพ์ไทยออนไลน์// วอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น ตอกย้ำความสำเร็จ มัดใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Loyalty & Rewards เป็นปีที่ 4 ให้กับร้านค้าส่งในตลาดไท-ตลาดนานาชาติ, ตลาดไอยรา, ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดมหานาค และ ตลาดบองมาเช่

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 คุณธีรวี อังกุวรกุล และคุณอภิรดี ภานุรุจ ตัวแทนสมาพันธ์ส่งเสริมการส่งออกแอปเปิลจากรัฐวอชิงตัน ประจำประเทศไทย เข้ามอบของรางวัลให้กับร้านค้าส่งที่เข้าร่วมแคมเปญ Trade Loyalty Program 2024 ที่ได้จัดอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 4 โดยในฤดูกาลนี้ ทางวอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น – ประเทศไทยได้มอบของรางวัลให้กับทุกร้านที่เข้าร่วมกิจกรรมตลอดฤดูกาลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านมา ที่มีรางวัลให้กับผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด 5 ร้านเท่านั้น ซึ่งในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณ และการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก ที่จำหน่ายวอชิงตันแอปเปิล จากรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดฤดูกาล 2023/2024 รวมถึงการติดสื่อประชาสัมพันธ์ภายในร้านอย่างต่อเนื่อง ทุกร้านจะได้รับของกำนัลจากการเข้าร่วมแคมเปญ โดยในปีนี้มีร้านเข้าร่วม 80 ร้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนร้านร้านค้าส่งทั้งหมดในตลาดไท-ตลาดนานาชาติ, ตลาดไอยรา, ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดมหานาค และ ตลาดบองมาเช่ ซึ่งเป็นตลาดที่มีวอชิงตันแอปเปิลจำหน่ายตลอดทั้งปี

กิจกรรม Trade Loyalty Program เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีกวอชิงตันแอปเปิล จาก USA แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์วอชิงตันแอปเปิล และยังสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อผู้ค้า เพราะในแต่ละเดือนมีการเข้าพบปะพูดคุยกับผู้ค้า เพื่อทราบถึงความต้องการของผู้ค้าและลูกค้า รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เราได้จากการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ และเรายังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับทางผู้ค้าอยู่เสมอ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าอีกด้วย ทำให้ในปีที่ 4 เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากร้านค้าทั้ง 80 ร้าน และทางวอชิงตันแอปเปิลคอมมิชชั่น ประเทศไทย ยังคงสนับสนุน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีร้านค้าเข้าร่วมแคมเปญเพิ่มมากขึ้นในปีฤดูกาลใหม่ต่อไป

นอกจากแคมเปญ Trade Loyalty Program ทางวอชิงตันฯ ยังคงกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริม และสนับสนุนการขายให้กับร้านค้าต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดฤดูกาล สามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของวอชิงตันแอปเปิล ประเทศไทยได้ที่ Facebook page และ Instagram “Washington Apple Thailand”

🍎วอชิงตันแอปเปิลยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพ
🍎วอชิงตันแอปเปิลมาตรฐาน USDA

ร้านที่มีคะแนนสะสมสูงสุดอันดับที่ 1 ได้รับรถจักรยานไฟฟ้าสามล้อ
ร้านเจ้หมวย – บุญสม (ตลาดนานาชาติ – ตลาดไท)
ร้านที่มีคะแนนสะสมเป็นอันดับ 2-5 ได้รับรถจักรยานไฟฟ้า 2 ล้อ จำนวน 4 รางวัล
ร้าน N-Fruit สาขา 1 และ สาขา 2 (ตลาดนานาชาติ – ตลาดไท)
ร้านไทยฮงผลไม้ (ตลาดสี่มุมเมือง)
ร้านเจ้ตุ่มผลไม้นอก (ตลาดสี่มุมเมือง)

สำหรับร้านที่ได้รางวัลอยู่ในอันดับ Top 20 ได้รับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ อันดับที่ 20-35 ได้รับสกู๊ตเตอร์ และเสื้อวอชิงตันแอปเปิล รวม 80 รางวัล :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

“วราวุธ” ร่วมคณะนายกฯ-ครม. ลงพื้นที่ อุบลฯ-ศรีสะเกษ ย้ำ พม. นำนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร แก้ปัญหา ผู้สูงอายุ-คนพิการ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ  ร่วมกับคณะของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีคณะรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร สิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างแยกต่างระดับคำน้ำแซบ ที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และติดตามสถานการณ์การเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ที่ศาลาประชาคมบ้านผึ้งตก อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งรับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติดพร้อมกับร่วมประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และร่วมคณะรับประทานอาหารกลางวันที่ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

นายวราวุธ เปิดเผยว่า ในส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง (พม.)  ตนได้สั่งการทีม พม. ว่าให้ดูแลเรื่องคนไร้บ้านที่มีอยู่พอสมควร ผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวม จึงขอให้เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพ  สิทธิประโยชน์ต่างๆ การปกป้องสิทธิต่างๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับโครงการบริบาลและปกป้องสิทธิผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวง พม. ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมถึงปัญหาขอทานให้ช่วยกันแก้ไข คนพิการและผู้ป่วยติดเตียงในกรณีการเข้าถึงสิทธิ ขอให้เจ้าหน้าที่ พม. เข้าไปเยี่ยมบ้าน อย่าให้ใครตกสำรวจ ตนได้ให้กำลังใจทีมงานเพราะทราบดีว่างานของกระทรวง พม. เป็นงานที่ไม่จบสิ้น มีงานอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นทางกระทรวงและผู้บริหาร พม.  พร้อมที่จะสนับสนุน ให้เจ้าหน้าที่ทำงานทุกคน ขอให้ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ตนได้ย้ำว่าเรื่องการดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ สอดคล้องโดยตรงกับนโยบาย 5 × 5 แก้วิกฤตประชากร จึงได้กำชับให้ศึกษานโยบายดังกล่าวให้ดี ว่าแต่ละมิติเกี่ยวโยงกันอย่างไร จะได้ทำงานสอดคล้อง รองรับได้#ช่วย24ชั่วโมง #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #นโยบาย5×5ฝ่าวิกฤตประชากร #อุบลราชธานี #ศรีสะเกษ #นายกรัฐมนตรี #ครม:Cr;มณสิการ รามจันทร์