วันอาทิตย์, มิถุนายน 8, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 205

สหภาพยาสูบชี้บุหรี่เถื่อนกิน ตลาดยาสูบไทยกระทบการยาสูบฯ รายได้วูบหนักเซ่นพิษบุหรี่เถื่อน

0
พิมพ์ไทยออนไลน์//สหภาพแรงงานฯ การยาสูบแห่งประเทศไทย เผยตัวเลขการบริโภคบุหรี่เถื่อนไทย แตะ 25.5% สูงสุด ทำให้การยาสูบฯ กระทบหนัก กำไรเหลือเพียงปีละ 200 ล้านบาท ร้านค้า ชาวไร่ยาสูบ เตรียมตัวรับศึกหนักกำไรหาย รายได้หด วอนกระทรวงการคลังเร่งแก้ปัญหา ชี้ต้องสนับสนุนสรรพสามิตมากขึ้น
นายสุเทพ ทิมศิลป์ รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ การยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการประชุมเชิงปฏิบัติการ “รวมพลังปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย: เศรษฐกิจมั่นคง สังคมปลอดภัย” จัดโดยสมาคมการค้ายาสูบไทย ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้มีการเปิดเผยผลการสำรวจการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2567 โดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ระบุว่าประเทศไทยมีสัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายถึง 25.5% หรือ 1 ใน 4 ของตลาด สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจมา คิดเป็นบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามากว่า 97% และบุหรี่ปลอม 3% สร้างความเสียหายทางภาษีให้รัฐกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี

“การสำรวจครั้งนี้ระบุว่าจังหวัดที่มีการบริโภคบุหรี่เถื่อนสูงสุดอยู่ในภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา, สตูล, พัทลุง, ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะสงขลาที่มีความนิยมบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายกว่า 90% นอกจากนี้ยังเกิดปรากฏการณ์ “เมืองหลวงใหม่” แสดงการกระจายตัวของบุหรี่ผิดกฎหมายในจังหวัดระนอง, นนทบุรี, สมุทรปราการ, กรุงเทพมหานคร และ ปทุมธานี สำหรับกรุงเทพฯ การสำรวจพบว่ามีสัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายอยู่ที่ 36.5% เพิ่มมาถึง 73 เท่า ภายใน 3 ปี สถิตินี้สะท้อนว่า จังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง และโดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยว เป็นกลุ่มเป้าหมายของการค้าบุหรี่เถื่อน เพราะผู้คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในการซื้อสินค้าเถื่อนออนไลน์ ส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้ง่าย ๆ ผ่านการจัดส่งแบบด่วนถึงมือผู้รับในเวลาอันสั้น”
นายสุเทพ กล่าวอีกว่าหากมองแค่บุหรี่ถูกกฎหมายของการยาสูบฯ ต้องยอมรับว่าผู้สูบบุหรี่ในไทยนิยมบริโภคบุหรี่ราคาประหยัด โดยการยาสูบฯ เองก็ขายสินค้าในกลุ่มนี้ได้กว่า 95% มีเพียง 5% เท่านั้นที่อยู่ในกลุ่มราคาสูง เพราะกำลังซื้อมีไม่มากนัก เมื่อราคาของของถูกกฎหมายปรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังคงใช้โครงสร้างภาษีแบบ 2 อัตราและเก็บทั้งแบบปริมาณ คือ บุหรี่มวนละ 1.20 บาท และแบบราคาที่มีมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ดิ่งลงเหวของทั้งอุตสาหกรรม ก็ไม่แปลกที่ผู้บริโภคจะเทไปหาบุหรี่เถื่อนที่ทั้งราคาถูกและหาซื้อง่าย แต่รัฐบาลไทยจะยอมอยู่เฉย ๆ ให้บุหรี่เถื่อนช่วงชิงตลาดไปแบบนี้หรือ จากปี 64 ที่ขึ้นภาษี แค่ 3 ปี เราเสียตลาดไปแล้ว 1 ใน 4 บุหรี่เถื่อนโต 311% ถ้าไม่แก้ไขอะไรอีกไม่กี่ปีเราคงไม่เหลือพื้นที่ให้บุหรี่ถูกกฎหมายเลยในประเทศไทย

“บุหรี่เป็นสินค้าที่เคยสร้างรายได้ให้กับภาษีสรรพสามิตถึงกว่าปีละ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันเหลือเพียงราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ในบุหรี่ 1 ซอง ยังจัดสรรเงินเป็นภาษีมหาดไทยเพื่อบำรุงท้องถิ่น และภาษีอื่น ๆ เช่น กองทุนกีฬา สื่อ และคนพิการ ซึ่งเสียหายจากบุหรี่เถื่อนราว 6,000 ล้านบาทต่อปี และที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบกว่า 20,000 ครอบครัวที่จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาทุกอย่างในอุตสาหกรรมยาสูบ และร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายกว่า 500,000 ร้านทั่วไทย ที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาและความสะดวกสบายในการซื้อขายกับบุหรี่เถื่อนได้ ที่สำคัญภาครัฐน่าจะให้การสนับสนุนกรมสรรพสามิตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะต้องดูแลปัญหาบุหรี่เถื่อนที่นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก”รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

MCT ฉลองใหญ่ครบรอบ 30 ปี รวมพลังคนดนตรี พัฒนาศักยภาพ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//MCT ฉลองครบรอบ 30 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ชูแนวคิด Music Excellence and Building Our Future Together คุณก้อ – ณฐพล ศรีจอมขวัญ พร้อมคณะกรรมการชุดใหม่ร่วมเปิดตัว น้องมิวมิว ไอคอนจาก MCT เพื่อร่วมผลักดันวงการนักแต่งเพลงไทยให้ก้าวหน้า พร้อมประกาศรางวัล MCT Music Awards 2024 และโชว์สุดพิเศษจาก No One Else และ ข้าว Fellow Fellow

MCT หรือ บริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานประชุมสามัญประจำปี พร้อมกับการฉลองครบรอบ 30 ปี ภายใต้แนวคิด “Celebrating 30 Years of Music Excellence and Building Our Future Together” ที่สะท้อนการรวมพลังความร่วมมือของคนในวงการดนตรี โดยเฉพาะนักแต่งเพลงที่เป็นเหมือนกับต้นน้ำของอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา กรุงเทพฯ

การจัดงานดังกล่าว ถือเป็นการย้อนรำลึกถึงเส้นทางการก่อตั้ง และฉลองความสำเร็จของบริษัทตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกนักแต่งเพลง และความร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายจากนานาประเทศ ที่เดินทางเข้าร่วมงานเพื่อแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสพิเศษนี้ นำโดย Mr.Benjamin Ng ตำแหน่ง Regional Director for Asia-Pacific จาก CISAC, Mr. Chu Ga Yeoul ประธานกรรมการ จาก KOMCA ประเทศเกาหลีใต้, JASRAC จากญี่ปุ่น, MUST จากไต้หวัน, MACP จากมาเลเซีย, VCPMC จากเวียดนาม, MACA จากมาเก๊า, FILSCAP จากฟิลิปปินส์, COMPASS จากสิงคโปร์, BUMA STEMRA จากเนเธอร์แลนด์ และ CASH จากฮ่องกง รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรี ต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน และชื่นมื่น

นอกจากการฉลองครบรอบ 30 ปี บริษัท MCT ได้จัดการประชุมสามัญประจำปี 2567 เพื่อรายงานผลประกอบการ และการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อสานต่อพันธกิจสำคัญของบริษัทจากคณะกรรมการชุดเดิมที่ครบวาระ

โดยผลการเลือกตั้งคณะกรรมการในครั้งนี้ คุณก้อ – ณฐพล ศรีจอมขวัญ ได้รับความไว้วางใจจากบรรดาสมาชิกให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร เป็นสมัยที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนองค์กร พร้อมกับคณะกรรมการทั้ง 11 ท่าน ได้แก่ คุณธารณ ลิปตพัลลภ คุณคชภัค ผลธนโชติ คุณดนุภพ กมล คุณณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ คุณพงศ์จักร พิษฐานพร คุณสุดเขต จึงเจริญ คุณตรัย ภูมิรัตน คุณอิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา คุณต่อพงศ์ จันทบุบผา คุณอรวรรณ วิรัตนโภคิน และ Ms. Jacqueline Chang

ณฐพล ศรีจอมขวัญ ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวขอบคุณสมาชิก และผู้เข้าร่วมงาน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์    “ถ้าเปรียบเป็นคน ในวัย 30 ปี MCT เหมือนวัยกลางคนที่ผ่านช่วงเด็ก วัยรุ่น ผ่านร้อนผ่านหนาว ทำประโยชน์ให้วงการดนตรีได้มาก แต่ผมเชื่อว่าเรายังสามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่านี้”

MCT ยังได้เปิดตัว ‘น้องมิวมิว-The Conductor’ มาสคอตตัวแทนองค์กร ภายใต้แนวคิด ‘ALWAYS BESIDE YOU’ ที่จะคอยอยู่เคียงข้างและสนับสนุนเพื่อนนักแต่งเพลง เพื่อติดปีกวงการดนตรีไทยให้ก้าวหน้าสู่สากล

ภายในงานยังมีการประกาศรางวัล MCT Music Awards 2024 เพื่อแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกนักแต่งเพลงในหลายสาขา ประกอบด้วย Lifetime Achievement Award ที่มอบให้แก่ สมเศียร พานทอง หรือ พ่อชาย เมืองสิงห์ นักเพลงชั้นครูของไทย รางวัล Rising Star Songwriter Of The Year ตกเป็นของ สรัล มณีโชติ หรือ โอม สรัล รางวัล Popular Song Of The Year มาจากเพลง ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง โดยศิลปิน เรนิษรา ส่วนรางวัล Top Publisher Of The Year เป็นของ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด, บริษัท วอท เดอะ ดัก จำกัด และบริษัท ท็อปไลน์ดิจิตอล จำกัด ขณะที่รางวัล Top Songwriter Of The Year ก็มีผู้ที่ได้รับรางวัล คือ รัธพงศ์ ภูรีสิทธิ์ (YoungOhm) โอฬาร ชูใจ (โอ แว่นใหญ่) และ ชยพล ล้วนเส้ง (ตั้ม เรนิษรา)

ปิดท้ายด้วยการแสดงสุดพิเศษจาก ‘No One Else’ ที่ทางศิลปินได้ตั้งใจรังสรรค์ลิสต์เพลงขึ้นมา ด้วยการนำเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบมามอบความสุขในสไตล์หวาน ๆ ตามแบบฉบับของวง และยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ชวนศิลปินเจ้าของเพลงดังแห่งยุค ‘ดาวหางฮัลเล่ย์’ อย่าง ‘ข้าว Fellow Fellow’ มาร่วมร้องเพลงของทั้งคู่ให้กลายเป็นเวอร์ชันสุดพิเศษหาฟังที่ไหนไม่ได้อีกด้วย

งานฉลองครบรอบ 30 ปีในครั้งนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และสะท้อนให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของคนในวงการดนตรีที่ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาและขับเคลื่อนวงการดนตรีไทยสู่ความเจริญก้าวหน้าต่อไป#MCT #30thMCT #MCTMUMU

ติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MCT ได้ที่ www.mct.in.th และ Facebook: Music Copyright Thailand:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

อัปเดต “สวัสดิการแห่งรัฐ”… ผู้ได้สิทธิ์เป๋าตุง-แฮปปี้ถ้วนหน้า!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8623
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

ออมสินเปิดตัว MyMo Secure Plus แอปธนาคารแรกพร้อมโหมดปลอดมิจฉาชีพ!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8622
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

รมว.พม. ร่วมปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางสังคมไทย” โอกาสครบรอบ 27 ปี สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ขอสื่อ เลี่ยงนำเสนอความรุนแรง-ไม่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ร่วมปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางสังคมไทย” ในเวที “ยุทธศาสตร์ประเทศไทย ความท้าทายรัฐบาล” เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ที่ห้องภาณุมาศ โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ

นายวราวุธ กล่าวว่า โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Climate Change, Pollution, Pandemic, Conflicts, Digital Transformation, Population Crisis ซึ่งวิกฤตเหล่านี้ ล้วนส่งผลให้ความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างที่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ และแน่นอนว่าความท้าทายทางด้านสังคมย่อมมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการแก้ปัญหาได้ยากยิ่งขึ้นด้วน ทั้งนี้ แนวโน้มความท้าทายทางสังคมจะต้องอาศัย Global Trends : Urbanization, New business model แบบ Innovation Driven & Digital Disruption, AI เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และรูปแบบของสังคม ซึ่งโครงสร้าง และลักษณะของสังคมไทย โดยเฉพาะรูปแบบของความสัมพันธ์ในครอบครัว และวัฒนธรรมได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว และรุนแรง จนอาจพูดได้ว่า เร็วและแรงเกินกว่าที่จะรับมือได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น เราทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายนี้ โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบาง ที่มีต้นทุนและความสามารถในการปรับตัว (Adaptive Capacity) ไม่เท่ากับกลุ่มคนอื่นๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมโลกหรือสังคมไทยก็ตาม ย่อมได้รับผลกระทบสูงกว่า และดำเนินชีวิตต่อไปได้ยากเข็ญกว่า

นายวราวุธ กล่าวว่า สังคมไทยเผชิญกับ “ปัญหาสังคม” จากข้อมูลของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) มีผู้แจ้ง ร้องเรียน สอบถาม ผ่านช่องทางของกระทรวง พม. เดือนละ 12,000 – 18,000 ราย โดยในเดือน พ.ค. 67 ได้รับแจ้ง 18,607 กรณี ซึ่งกว่า 50% เป็นเรื่อง “ความสัมพันธ์ในครอบครัว” ก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว และเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคมไทย ที่จะบ่มเพาะ และสร้างโครงสร้างที่แข็งแกร่งของสังคม และเป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศกำลังสั่นคลอน เด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ กำลังตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ส่งผลให้การพัฒนาศักยภาพเชิงความคิด สติปัญญา และความสามารถทางกายภาพถูกบั่นทอน โครงสร้างประชากรของไทยกำลังเปลี่ยนแปลง จนเรียกได้ว่า เรากำลังเผชิญกับ “วิกฤตประชากร”

นายวราวุธ กล่าวว่า วิกฤตประชากร คือปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตนี้ เช่น ประเทศญี่ปุ่นมีสัดส่วนของประชากรสูงอายุมากถึงประมาณ 30% ไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุ 20% เป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือ Aged Society และคาดว่าจะเป็น Super-Aged Society เหมือนญี่ปุ่น ภายใน 10-15 ปีข้างหน้า เนื่องจากเด็กเกิดน้อยประมาณ 5 แสนคน จำนวนบุตรเฉลี่ย 1 คนต่อสตรี 1 คน ซึ่งน้อยกว่าญี่ปุ่นอีก อีกทั้งเด็กยังด้อยคุณภาพ และเมื่อเกิดน้อยลง “ครอบครัว” มีขนาดเล็กลง โครงสร้างครอบครัวไทย (Living arrangement) เปลี่ยนแปลงไป การฟูมฟักอบรมเลี้ยงดูบุตรโดยพ่อ-แม่ ลดน้อยลง การเกื้อหนุนกันและดูแลกันระหว่างรุ่นเริ่มจางหายไป รูปแบบรายได้ราย รายจ่ายเปลี่ยนแปลงไป จนหลายครอบครัวไม่สามารถตั้งรับและปรับตัวได้ ครอบครัวบางรูปแบบมีแนวโน้ม “เปราะบาง” เช่น ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว หรือสภาวะที่ผู้สูงอายุต้องอยู่คนเดียว ทั้งนี้ แนวโน้มครัวเรือนอยู่คนเดียว ครัวเรือนที่ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง หรืออยู่กับคู่สมรสเพียงลำพังมีมากขึ้น แน่นอนว่าวัยแรงงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่ทันกันกับพีระมิดของผู้สูงวัย ทำให้ต้องรับภาระ ทั้งดูแลตนเอง ลูก และพ่อแม่ ซึ่งเป็นผู้สูงวัย กลายเป็น “The แบก” ซึ่งผู้ที่มีอายุ 50-59 ปี ณ ขณะนี้ จะกลายเป็นผู้สูงอายุในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แต่ยังคงมีภาระที่จะต้องดูแลพ่อ-แม่ ที่จะมีอายุ 80 ปีขึ้นไปอีก 10 ปีข้างหน้า

นายวราวุธ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตประชากร ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ นับเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ประการแรก คือ ประชากรไทยลดลงจาก 70 ล้านคน จะเหลือ 58.26 ล้านคน ในอีก 25 ปี ประการต่อมา คือ เด็กเกิดน้อย แต่จะทำอย่างไรให้เด็กมีคุณภาพ และประการสุดท้าย คือ รัฐต้องรับภาระงบประมาณด้านสังคม จนอาจเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ซึ่งการรับมือนั้น หลายประเทศใช้การกำหนดนโยบาย ปรับเปลี่ยนกฎหมาย พัฒนานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้ผลักดันและขับเคลื่อน “นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร” จากความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ซึ่งนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ และแต่ละยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของสังคมไทย เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมพลังวัยทำงานให้สามารถตั้งตัวได้ สร้างและดูแลครอบครัวได้  ยุทธศาสตร์ที่ 2 เพิ่มคุณภาพเด็ก เร่งส่งเสริมการพัฒนาทักษะชีวิตและความรู้ วิชาชีพตามวัย  ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างพลังผู้สูงอายุ ผู้เชี่ยวชาญชีวิต นำมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจ  ยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างโอกาสและคุณค่าให้คนพิการ ยุทธศาสตร์ที่ 5 ซึ่งสำคัญมาก คือ สร้างสภาพแวดล้อมทางสังคม และทางกายภาพที่เอื้อต่อการสร้างและดูแลครอบครัวให้มั่นคง รวมถึงพลิกฟื้นสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติให้อุดมสมบูรณ์

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนไทยทุกคนต้องร่วมเดินฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน หรือเราจะรอให้ระบบเศรษฐกิจล่มสลาย เมื่อเราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในอีก 10 หรือ 15 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ สื่อมวลชนมีอิทธิพลมากในการสร้างทัศนคติ ค่านิยม และกระแสความคิดของประชาชน จึงขอวอนร่วมสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นการลงมือทำ และร่วมลงมือทำทันที “Action Now” ซึ่งปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์นั้น “ใครๆ ก็เป็นสื่อได้” เป็นทางเลือกที่คนไทยนิยมมากขึ้นทุกวัน บางคนถึงขั้นเสพติดสื่อในลักษณะนี้ ดังนั้น ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนสังคม ต้องรักษาคุณค่า และจรรยาบรรณการสร้างคอนเทนต์ ต้องระมัดระวัง ไม่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาของเด็กและเยาวชน การนำเสนอความรุนแรง อาชญากรรม ความขัดแย้ง และเรื่องราวทางเพศ ในลักษณะที่อาจนำไปสู่การบ่มเพาะพฤติกรรม ซึ่งบางครั้งสื่ออาจกำลังทำหน้าที่พ่อ หรือแม่ หรือลูก แต่ที่แน่นอน ท่านเป็นวัยแรงงานที่มีภาระที่ต้องดูแลตัวเอง และบุคคลอันเป็นที่รัก และกำลังจะก้าวไปเป็นผู้สูงอายุในอนาคตอันไม่ไกลนัก ซึ่งสื่อมีศักยภาพและโอกาสสูงในการช่วยดึงพลังแฝงจากผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ในกลุ่มต่างๆ มาเป็นพลังของสังคมได้ เป็นพลังสำคัญของสังคมไทย ในการเชื่อมโยงประเด็นความท้าทายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตีแผ่ให้ทุกภาคส่วนได้เห็นถึงความจำเป็นในการเดินหน้าฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งตนเชื่อมั่นในพลังของสื่อในการผลักดันสังคมไทยสู่ความยั่งยืนอย่างมั่นคง#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #พม #ปาฐกถาพิเศษ_ทิศทางสังคมไทย #5×5ฝ่าวิกฤตประชากร:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“วราวุธ” รมว.พม. ให้กำลังใจชาวอู่ทองที่ประสบปัญหาทางสังคม ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ยากไร้ ฯขอบคุณผ้าขาวม้าเมืองสุพรรณ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมรับฟังและร่วมแก้ไขปัญหา อีกทั้งมอบถังยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาทางสังคม  ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ยากไร้ ที่ตำบลยุ้งทะลาย และตำบลกระจัน ตามโครงการส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายนพดล มาตรศรี ส.ส.สุพรรณบุรี  นางอภิญญา เอี่ยมอำภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  นายก อบต. และ นางสาวณิชาภัทร วิบูลย์พานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมลงพื้นที่

นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้มามอบสิ่งดีๆ ให้กับพี่น้องทุกคน จะว่ามอบถุงยังชีพก็ไม่ใช่ เพราะเป็นถังยังชีพ หากเป็นถุงยังชีพจะเป็นพลาสติก เมื่อใช้หมดก็ต้องทิ้งเป็นขยะ ดังนั้นถังยังชีพจะดีกว่าเพราะนำถังไปใช้ได้ด้วย ขอบคุณทุกฝ่ายที่กำหนดให้มีกิจกรรมที่ดีนี้ขึ้นมา จังหวัดสุพรรณบุรี ในทุกพื้นที่เราทำงานกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อบรรหาร ศิลปอาชา มาถึงวันนี้ท่านจากไป 8 ปีกว่าแล้ว แต่การทำงานตามความฝันของท่านนั้นยังอยู่ ท่านอยากเห็นพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีไม่ว่าจะรุ่นไหน อายุเท่าไหร่ มีความอยู่ดีกินดี มาถึงวันนี้ลูกชายของพ่อบรรหารได้มาสานต่องานที่พ่อได้เริ่มสร้างเอาไว้ ซึ่งต้องบอกว่าฝีไม้ลายมือนั้น ห่างไกลกับท่าน เพราะท่านทำงานการเมืองมาเกือบค่อนชีวิต 40 ปีด้วยกัน ส่วนตนเพิ่งทำเต็มตัวได้ยังไม่ถึง 10 ปี ขอเวลาอีกนิดหนึ่งจะเก่งให้ได้ครึ่งของท่าน เพราะว่าในสุพรรณบุรี หาคนเก่งคนดีอย่างพ่อบรรหารชาตินี้คงยาก ตอนนี้คงเป็นเทวดาอยู่บนฟ้ารอดูพวกเรากันอยู่

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอขอบคุณผ้าขาวม้าที่ทุกคนผูกเอวให้กับวราวุธ ซึ่งผ้าขาวม้านี้ พ่อบรรหารชอบมาก ท่านนำกลับไปบ้านและใช้ทุกวัน ซึ่งตนเองเคยพยายามจะใช้ผ้าขาวม้า แต่ต้องยกเลิกความตั้งใจ เพราะผูกทีไร เมื่อเดินไปเดินมา จะร่วงทุกที สร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น เลยเอาผ้าขาวม้าผูกเอวกับคล้องคอดีกว่า แต่เดี๋ยวนี้ตนเอาผ้าขาวม้าไปตัดเสื้อบ้าง ตัดกับสูทบ้าง เวลาใส่ไปประชุม ครม. ตนจะบอกว่านี่คือผ้าขาวม้าฝีมือของชาวสุพรรณบุรี#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #สุพรรณบุรี #ผ้าขาวม้า #ผู้สูงอายุ:Cr;มณสิการ รามจันทร์

ฟาดให้หมด! ดีอี – บช.สอท. เปิดปฏิบัติการ “FINAL BET” บุกทลาย 5 เครือข่ายเว็บพนัน ยึดทรัพย์กว่า 360 ล้านบาท

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8621
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

“สุดหล่อ สมยศ โป้ง เต้ย นิด…” เปิดด่วน! หมวดทะเบียนใหม่ขนส่งสุดจ๊าบ!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=8620
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1172048377523290615
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)