https://www.natethip.com/news.php?id=8628
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=8628
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงประจำเดือน ว่า ผลการดำเนินงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ในไตรมาส 2 ของปี 2567 คือ ช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2567 พบว่ามีประชาชนร้องเรียนผ่านทุกช่องทางของ ศรส. รวมทั้งสิ้น 47,110 กรณี ซึ่งแต่ละช่องทางที่มีการร้องเรียนเข้ามาผ่านทางสายด่วน พม. 1300 มากที่สุด 42,930 กรณี รองลงมา คือ สื่อสังคมออนไลน์ 3,483 กรณี และการมารับบริการด้วยตนเอง 452 กรณี สำหรับพื้นที่ที่ให้บริการมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร 28,849 กรณี ปริมณฑล 2,867 กรณี ภาคกลาง 5,951 กรณี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,825 กรณี ภาคใต้ 3,254 กรณี และภาคเหนือ 1,364 กรณี โดยปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคือ ปัญหารายได้ความเป็นอยู่ ตามด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยทั้งสองเรื่องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีจะเกิดการระหองระแหงกัน กระทบถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ส่งผลก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา
นายวราวุธ กล่าวว่า ซึ่งพบสถิติความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นถึงร้อยละ 69 ในขณะที่ ร้อยละ 31 เป็นความรุนแรงภายนอกครอบครัว โดยความรุนแรงจะเกิดกับเด็กและเยาวชนเป็นส่วนใหญ่ ตามมาด้วยสตรี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ ศรส. จัดเก็บแต่ละเดือน ที่ประชุมเห็นว่าควรส่งให้กับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)ทุกจังหวัด เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อให้แต่ละจังหวัดเข้าใจสภาพปัญหาสังคมและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น นำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับไตรมาสแรกยังเท่าเดิม หากมองในแง่ดีคือไม่ได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างไรใด ซึ่งเชื่อมโยงกับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยตรง เพราะหากเศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนมีโอกาสจับจ่ายใช้สอย ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้นและความรุนแรงในครอบครัวจะลดลงไปตามลำดับ
นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีคนไร้บ้านบุกทำร้ายร่างกายประชาชนทั่วไปที่ย่านอ่อนนุชนั้น เบื้องต้นขอฝากพี่น้องประชาชนว่าเมื่อพบเห็นคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อน หรือขอทาน ให้รีบแจ้งมาที่ ศรส. ผ่านทางสายด่วน พม. 1300 ซึ่งการแก้ปัญหานั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการที่เราเร่งส่งทีมเคลื่อนที่เร็วไปยังจุดที่พบเห็นไม่ว่าจะเป็นขอทานหรือคนไร้บ้านให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นไปก่อเหตุต่างๆ ซึ่งคนไร้บ้านส่วนใหญ่จะมีอาการทางจิตเล็กน้อย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ที่อยู่ในครอบครัว และถ้าหากว่ามีปัญหาสุขภาพกายและจิตใจ ให้ปรึกษากับทางแพทย์ หรือแจ้งกับ ศรส. ผ่านทางสายด่วน 1300 เพื่อให้เราประสานงานกับทีมสหวิชาชีพไปประเมินก่อนที่จะออกมาจากบ้าน เพราะว่าแนวโน้มคือเมื่อออกมาจากบ้านแล้ว เขาจะไม่อยากกลับและเมื่อออกจากบ้านนานขึ้นเรื่อยๆ อาการทางจิตนั้นจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นหากประชาชนพบเห็นหรือภายในบ้านมีปัญหามีแนวโน้มดังกล่าว ขอให้แจ้งมาที่ ศรส. ผ่านทางสายด่วน พม. 1300 ซึ่ง เราจะส่งทีมสหวิชาชีพไปเพื่อประเมินสุขภาพกายและสุขภาพใจของบุคคลดังกล่าว
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่ยังมีการขอทานในย่านธุรกิจอยู่บ้างนั้น ตนขอย้ำอีกครั้งในการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ คือ ขอความกรุณาแจ้งสายด่วน พม. 1300 เราจะส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการ และเมื่อเรานำขอทานไปดำเนินคดีแล้ว ถ้าหากว่าเป็นคนต่างชาติ จะถูกส่งกลับประเทศ ถ้าเป็นคนไทยจะต้องเข้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง แต่ว่าแนวทางป้องกันที่ดีที่สุดคือการไม่ให้ทานกับขอทาน เป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุดแน่นอน อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนอาจมีความเห็นว่ากระทรวง พม. ผลักความรับผิดชอบมาให้กับพี่น้องประชาชนขอเรียนว่าในเมื่อขอทานได้เงินจากพี่น้องประชาชนคนที่ให้เงินกับขอทานก็เท่ากับว่ากำลังส่งเสริมให้มีขอทานในสังคม ดังนั้นการแก้ไขปัญหาขอทานนั้นกระทรวง พม. เราดำเนินการเต็มที่ในการที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งต้องขอความร่วมมือว่าอย่าไปให้ทานกับขอทาน เมื่อรายได้ไม่มี ขอทานจะหมดไป ส่วนกรณีที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติยังให้ทานกับขอทานก็อาจจะทำป้ายรณรงค์ติดไว้ หรือมีป้ายเตือนเอาไว้เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษจะสามารถสื่อความหมายให้กับพี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ด้วย#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว:Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//โลตัส เดินหน้าต่อยอดแพลทฟอร์มแห่งโอกาส ในงาน SMART SME Expo 2024 พร้อมเปิดตัว โครงการ “SMEs มีดี 30ปี โลตัส พร้อมเปย์” รวมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 4 ล้านห้าแสนบาท
โลตัส ร่วมงาน “SMART SME EXPO 2024” Soft Power งานรวมสุดยอดธุรกิจ และ แฟรนไชส์ พร้อมพื้นที่ขายและแหล่งทุน ใหญ่ที่สุดแห่งปี ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยออกบูธนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ดาวเด่น ที่ผ่านหลักสูตร Lotus’s Smart SME ทั้ง 4 รุ่น พร้อมเปิดพื้นที่ทำเลทองในสาขาโลตัสให้ผู้ประกอบการได้จับจอง
พิเศษ ด้วยการเปิดตัว แคมเปญ “SMEs มีดี 30ปี โลตัส พร้อมเปย์” ต่อยอดแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่กว้างขึ้น พร้อมเปิดรับสมัคร SMEs และ Start Up (ผู้เริ่มต้นธุรกิจ) ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ ภายในงาน พร้อมโลตัส ก้าวสู่ปีที่ 30
คุณศิริวรรณ เข็มทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายพื้นที่เช่าโลตัส กล่าวว่า “SMEs มีดี 30ปี โลตัส พร้อมเปย์ คือ โอกาสครั้งสำคัญที่มากกว่าการเปิดร้านในพื้นที่ของโลตัส เพราะครั้งนี้ โลตัสจะให้การสนับสนุนทั้งด้านความรู้ เงินทุน และ พื้นที่จำหน่ายสินค้า รวมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 4 ล้านห้าแสนบาท
โดยเปิดโอกาสให้กับ SMEs และ Start Up (ผู้เริ่มต้นธุรกิจ) ทั่วประเทศ ร่วมส่ง ไอเดียธุรกิจ หรือ แผนธุรกิจ เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 6 กันยายน 2567 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้ 30 ธุรกิจที่ดีที่สุด เพื่อเข้าอบรมในหลักสูตร ยกระดับธุรกิจเข้าสู่ห้างโลตัส ที่จะเริ่มต้นในเดือน ตุลาคม ที่จะถึงนี้”
การเปิดตัวแคมเปญ “SMEs มีดี 30ปี โลตัส พร้อมเปย์” ในงาน SMART SME Expo 2024 ครั้งนี้ มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการ SMEs กล้าที่จะสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ และก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จ โดยมี โลตัส เป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตามเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าร่วมในสังคม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และ สมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ : https://forms.gle/HHsh5EUtvqcnRBoe8
:Cr;มณสิการ รามจันทร์
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1172065827429960828
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//Aura Wellness ธุรกิจสุขภาพและความงามเชิงไลฟ์สไตล์ ร่วมกับ Bluebik บริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร พัฒนาและวางระบบ SAP S/4HANA ซอฟต์แวร์บริหารจัดการธุรกิจรูปแบบคลาวด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดของ SAP เพื่อทรานส์ฟอร์มองค์กรรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เชื่อมโยงการทำงานของทุกฝ่ายได้ครบวงจรและมีความปลอดภัยสูง โดยการวางระบบ SAP S/4HANA จะเป็นรากฐานสำคัญช่วยให้ธุรกิจสุขภาพและความงามภายใต้เครือ Aura Wellness เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
นายเจตบดินทร์ ประคุณศึกษาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเครือ Aura Wellness กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจสุขภาพและความงามมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยมีการช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ตลอด ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องขยับขยายและตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตรองรับจำนวนลูกค้าที่มากขึ้นจากการให้บริการคลินิกเสริมความงาม Aura Bangkok Clinic กว่า 13 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลจนกลายเป็นผู้นำในตลาด ไปจนถึง การขยายธุรกิจสู่อาหารเสริมและสปา การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้จึงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ
“เราศึกษาระบบ ERP มาแล้วหลายระบบ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าหากบริษัทฯ ต้องการจะก้าวไปข้างหน้าให้ได้อย่างรวดเร็วต้องใช้ระบบที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างมหาศาล โดย SAP S/4HANA เป็นระบบรากฐานที่ ตอบโจทย์การเติบโตที่เราต้องการ ระบบดังกล่าวจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ทุกกระบวนการทางธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ รองรับการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด” นายเจตบดินทร์ กล่าว
นอกจากการเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมแล้ว ทีมพัฒนาและวางโครงสร้าง รวมถึงการปรับแต่งระบบดังกล่าวให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายทางธุรกิจของ Aura Wellness ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ด้านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและความเชี่ยวชาญเฉพาะในการพัฒนาระบบ ทาง Aura Wellness จึงตัดสินใจร่วมมือกับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Bluebik – BBIK) และ SAP ในการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบขึ้นมา
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า Bluebik รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากทาง Aura Wellness ให้เข้ามาช่วยพัฒนาระบบที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยปัจจุบันการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของธุรกิจ ดังนั้นการมีระบบ ERP ที่เหมาะสมจะเป็นการวางรากฐานช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการข้อมูลและการเงินได้ดียิ่งขึ้น และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
นายวรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการพัฒนาระบบ SAP มองว่า SAP S/4HANA จะช่วยให้ Aura Wellness สามารถเพิ่มการมองเห็นของระบบร่วมกัน (Visibility) ระหว่างธุรกิจต่าง ๆ ภายในเครือได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคลินิกความงาม อาหารเสริม หรือสปา โดยระบบที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้จะสามารถลดระยะเวลาในการจัดทำเอกสาร ปิดบัญชี และเพิ่มความคล่องตัวให้กระบวนการหลังบ้าน นอกจากนี้ ยังสามารถนำข้อมูล Big Data ภายในระบบไปประมวลผลและวิเคราะห์เพื่อต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ได้ในอนาคต
คุณกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เอสเอพี ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอสเอพี ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับ Aura Wellness ในการเลือกใช้โซลูชั่น GROW with SAP ซึ่งเป็น ERP Cloud โซลูชั่น โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอกย้ำพันธกิจของเอสเอพี ในการแนะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยให้กลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยโซลูชั่น SAP S/4HANA Cloud Public Edition จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างคล่องตัวในทุกหน่วยธุรกิจและบริษัทในเครือ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ ด้วยความสามารถของ AI ในระบบเมื่อเปิดใช้งาน SAP S/4HANA Cloud Public Edition อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบและกระบวนการทำงานหลากหลายภายในองค์กร อาทิ ระบบจัดการทรัพยากรบุคคล ระบบ การขาย ระบบบัญชี และระบบบริหารจัดการสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถนำโมเดลใหม่ ๆ มาปรับใช้ได้ในอนาคต
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ซึ่งทาง Bluebik และ เอสเอพี จะมีส่วนช่วยให้ Aura Wellness ดำเนินธุรกิจไปสู่ความเป็นสากล โดยระบบ SAP S/4HANA Cloud Public Edition จะช่วยรับและจัดการข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุนการบริหารจัดการ วัดผลการทำงานได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และรองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน
สำหรับ Aura Wellness เป็นกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านสุขภาพและความงามชั้นนำที่ได้มาตรฐานระดับโลก มอบบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตที่แตกต่างกันอย่างลงตัว โดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสากล ปัจจุบันให้บริการภายใต้ชื่อแบรนด์ Aura Bangkok Clinic, SOLAURA และ AURASOL Wellness & Spa
ส่วน Bluebik เป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีสาขาในประเทศอังกฤษ เวียดนาม และอินเดีย มีทีมผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 950 คน ที่ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งด้านธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้างสรรค์และนำเสนอบริการ เพื่อให้คำแนะนำและความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการเตรียม ความพร้อมทางธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล :Cr;มณสิการ รามจันทร์
https://www.natethip.com/news.php?id=8626
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=8625
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=8624
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1172057095026622215
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)