พิมพ์ไทยออนไลน์//บริษัท PMG Corporation จำกัด ผู้นำด้านการยกระดับ SMEs ไทย สยายปีกธุรกิจด้านสุขภาพและความยั่งยืน ร่วมจับมือกับพันธมิตร ไร่ใจยิ้ม และ 120 Wellness Villa พัฒนาหลักสูตร สร้างผู้นำรุ่นใหม่ Chief Well-Being Officer Executive Program สำหรับผู้บริหารระดับสูง ต้นแบบความสุขที่จะนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จแบบยั่งยืน
โดยมีเป้าหมายสำคัญของหลักสูตรคือการสร้างผู้นำ ที่มีทักษะสร้างความยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอก สามารถเต็มเต็มพลังชีวิตของตนเอง และยังสามารถส่งต่อความสุขสู่ความสำเร็จใน 4 ด้านสำคัญให้แก่องค์กร ชุมชน และสังคมได้ ประกอบด้วย Physical, Mental, Emotional และ Spiritual

นางสาวณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ผู้ก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ตลาดเมืองไทยมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทุกอุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่สูง ไม่เพียงแต่ SMEs ผู้ประกอบการ หรือ ผู้บริหาร ยิ่งตำแหน่งสูง ก็ยิ่งมีความเครียด หากเราทำให้ผู้นำมีความสุขกายสบายใจได้ ก็จะส่งผลไปยังองค์กร พนักงาน ตลอดจนสินค้าบริการ และ ลูกค้า รวมถึงสังคมโดยรอบได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือ ESG ที่ผู้นำต้องเตรียมความพร้อมจากข้างใน จึงจะขับเคลื่อนให้สำเร็จได้

อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร CEO บริษัท เอเซีย แปซิฟิก อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และ ผู้ร่วมก่อตั้ง University of Happiness กล่าวว่า “องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความคิดเละทักษะความเป็นผู้นำ แต่มักจะลืมสร้างเข็มทิศความสุขให้เป็นรากแก้วของชีวิตที่มั่นคง เมื่อชีวิตมีความสุข ในฐานะผู้นำ เราก็จะสามารถนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนได้โดยง่าย “

นายแพทย์ภัทร วิริยะบัณฑิตกุล และ นายแพทย์จุทศ จักกายชวดล แพทย์ผู้ก่อตั้ง คลินิก 120 Wellness Villa กล่าวว่า “สถิติโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) สูงขึ้นอย่างมาก เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิดพลาด มักพบในนักธุรกิจ หรือพนักงานระดับหัวหน้าที่ใส่ใจสุขภาพน้อย การห่างไกลจากโรคเหล่านี้ เราจึงต้องรักษาสมดุลของร่างกายควบคู่ไปกับการปรับปรุงพฤติกรรม โดยใช้แนวทางการรักษาที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีอายุยืนยาว 120 ปี”

“ดังนั้น หลักสูตร สร้างผู้นำรุ่นใหม่ Chief Well-Being Officer Executive Program สำหรับผู้บริหารระดับสูง ต้นแบบความสุขที่จะนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จแบบยั่งยืน ที่พัฒนาขึ้นมานี้ คือ สร้าง Mind Set มาตรฐานการปรับรูปแบบชีวิตใหม่ ถ้าทำภายใน 21 วันเปลี่ยนนิสัยได้ ถ้าจะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในชีวิตต้อง 90 วัน และถ้าอยากอายุยืนขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนให้เป็นวินัย ซึ่งใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 120 วัน” อาจารย์ กฤษณ์ รุยาพร กล่าวเสริม

ความร่วมมือระหว่าง พีเอ็มจี ไร่ใจยิ้ม และ 120 wellness ในครั้งนี้ มุ่งหวังให้เกิดความยั่งยืนของสังคมโดยรวม จากความสุขกายสบายใจที่สามารถส่งต่อกันได้ผ่าน ผู้นำต้นแบบ และทีมที่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร ซึ่งจะแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง ขณะเดียวกัน พีเอ็มจี มีสื่อออนไลน์ ด้านความยั่งยืน ESG Universe และ ด้านสุขภาพ Healthy Idols รวมถึงคอมมูนิตี้ออนไลน์ ที่มีผู้ติดตามรวมกว่า 6 ล้านราย ซึ่งจะช่วยสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายต่อไป :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นางสาวซาราห์ บินเย๊าะ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบนโยบายให้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เป็นศูนย์กลางในการเร่งรัดจัดการในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม และส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนสำหรับกรณี เด็กหญิงอายุ 7 ปี ถูกยายทำร้ายร่างกาย และต้องหนีออกจากบ้าน จนมีพลเมืองดีพบเห็นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอส่งเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในหน่วยงาน พม. ในจังหวัดปัตตานี นั้น ทีม ศรส.จังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าพ่อแม่ของเด็กได้แยกทางกัน ซึ่งพ่อของเด็กมีสัญชาติกัมพูชา ด้านแม่ของเด็กไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูเด็ก ปล่อยให้เด็กอยู่กับยายแค่ 2 คน และยายของเด็กมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอนและมีพฤติกรรมโมโหร้าย ยายได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น ทำให้ยายรู้สึกโมโห จึงได้ใช้ความรุนแรงกับเด็ก ซึ่งกรณีนี้ นับว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว ด้านร่างกาย จิตใจ จากบุคคลในครอบครัว
นางสาวซาราห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ทีม ศรส.จังหวัดปัตตานี ได้รับเด็กเข้าการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ในหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. และได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปัตตานีแล้ว พร้อมแนะนำสิทธิสวัสดิการตามบทบาทภารกิจ หลังจากนั้น ได้พาเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.ปัตตานี เพื่อรักษาบาดแผลจากการถูกกระทำ นอกจากนี้ ศรส.จังหวัดปัตตานี ได้มีการประสานผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อวางแผนด้านการศึกษา และประสานศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี เพื่อบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจเด็ก รวมทั้งประสานแพทย์แผนกจิตเวชเพื่อเข้ารับการรักษา และเยี่ยมบ้านประเมินสภาพปัญหาและให้การช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม สามารถโทรแจ้งได้ที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. กระทรวง พม. ผ่านฮอตไลน์ 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันที#ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #ปัตตานี:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

https://www.natethip.com/news.php?id=8636
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  และภาคีเครือข่ายทางวิชาการกว่า 90 แห่ง จัดงานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 (The 16th National Conference on Persons with Disabilities – NCPD 2024) หัวข้อ “นวัตกรรมขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตคนพิการสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ 72 พรรษา” “Innovation Driving for Quality of Life of Persons with Disabilities Towards the Sustainable Thai Society on the Auspicious Occasion of His Majesty the King’s 72nd Birthday”

โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “คุณภาพชีวิตคนพิการสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน” พร้อมด้วย นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.  นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม.  นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ คณะผู้บริหารกระทรวง พม. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  ผศ.ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และคณะผู้บริหาร ศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน นายณฐรัช ทองเจิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษา ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พลตรียุทธนา มีทิพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 เครือข่ายสถาบันการศึกษา นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ เครือข่ายองค์กรคนพิการ คนพิการ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมถึงสถานประกอบการ จำนวนกว่า 1,600 คน เข้าร่วมงาน ณ หอประชุมศูนย์การศึกษาสามพร้าว มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์การศึกษาสามพร้าว) จังหวัดอุดรธานี

นายวราวุธ กล่าวว่า งานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมเป็นเจ้าภาพ สำหรับปี 2568 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน ซึ่งเป็นการแสดงพลังในการร่วมขับเคลื่อนนำพาสังคมผ่านพ้นวิกฤตการณ์และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงจัดขึ้นเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านงานวิจัย งานวิชาการ นวัตกรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ 1. พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระหว่าง กระทรวง พม. โดย พก. กับ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน และองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 90 แห่ง 2. การประกวดบทความทางวิชาการหรือผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเพื่อคนพิการ 3. เวที TED TALK  4. การประกวด Soft Power คนพิการ 5. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เผยแพร่พระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจที่ทรงมีแก่คนพิการ  6. นิทรรศการทางวิชาการ และ 7. ร้านจำหน่ายและแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าจากฝีมือคนพิการ จำนวน 50 บูธ

นายวราวุธ กล่าวว่า งานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 มีเป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมการพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ผลงานวิจัย วิชาการ เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านวิชาการ นำไปสู่การต่อยอดและขยายผลสู่ และการสนับสนุนการสร้างและพัฒนากำลังคน บุคลากร นักวิจัย และนักวิชาการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ  เพื่อพัฒนาศักยภาพ ทักษะ และองค์ความรู้ของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการให้มีความพร้อมในการประกอบอาชีพและมีส่วนร่วมในสังคม รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ในงานวิจัย วิชาการ และสร้างนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างเท่าเทียมในสังคม

นายวราวุธ กล่าวว่า จากปัจจัยความเหลื่อมล้ำ และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกมิติ โดยได้ผลักดันและขับเคลื่อน “นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร” คือ 5 ยุทธศาสตร์ x 5 มาตรการ ซึ่ง ยุทธศาสตร์ 4 คือ เพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณค่าคนพิการ มี 5 มาตรการ ได้แก่ 1) โอกาสทางการศึกษา และเพิ่มการจ้างงานคนพิการ  2) ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของคนพิการ 3) ป้องกันความพิการแต่กำเนิดทุกช่วงวัย รวมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและทางใจ 4) สภาพแวดล้อมที่ช่วยให้คนพิการดำเนินชีวิตอิสระ โดย Universal Design, Assistive Technology (AT), เทคโนโลยีและนวัตกรรม 5) ฐานข้อมูลและ Application พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยข้อมูลคือหัวใจสำคัญในการกำหนดนโยบาย ทั้งนี้ จาก 5 มาตรการดังกล่าว กระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนภารกิจเพื่อให้คนพิการได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างโอกาสทางการศึกษา เพิ่มศักยภาพคนพิการ ขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพผ่านโมเดลการฝึกอบรม – ฝึกงานคนพิการ และส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิด้วยการจัดโครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบบริการคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว หรือ One Stop Service ภายใต้ Concept จุดเดียวจบครบถึงเบี้ยแก้ปัญหาการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่หน่วยงานทางวิชาการร่วมกันบูรณาการ สร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษา การจ้างงาน สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การมีส่วนร่วมทางสังคม นวัตกรรม เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึง “การสร้างคนพิการ” ให้มีองค์ความรู้ มีทักษะ และศักยภาพที่เข้มแข็ง สามารถอยู่ในสังคมสังคมได้อย่างเข้มแข็ง มีศักดิ์ศรี เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคมไทย ทั้งนี้ กระทรวง พม. เชื่อว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เราเข้าใจความแตกต่างและพร้อมที่จะดูแลคนไทยทุกคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #คนพิการ  #สัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

https://www.natethip.com/news.php?id=8635
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://www.natethip.com/news.php?id=8634
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1172074395833198196
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์//วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “72 พรรษา ทศมราชา พัฒนาสังคมยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 5 – 31 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งได้น้อมนำพระราชปณิธานและพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้ในการดำเนินงานด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผ่านโครงการและกิจกรรมสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อมุ่งสู่การยกระดับในการแก้ไขปัญหาสังคมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้มีรายได้น้อย

นายอนุกูล กล่าวว่า วันนี้ (11 ก.ค. 67) คณะผู้สูงอายุจากศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ได้เดินทางเข้ามาชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเจ้าหน้าที่ พม. พาเดินเยี่ยมชมทั้ง 8 โซนนิทรรศการ ตั้งแต่ โซนที่ 1 และโซนที่ 2 พระราชประวัติและพระราชจริยวัตร โซนที่ 3 พระบารมีปกเกล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด ด้วยการนำเสนอพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจของหน่วยงานระดับกรมสังกัดกระทรวง พม. ที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย  โซนที่ 4 พระบรมฉายาลักษณ์ และตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา  โซนที่ 5 สายธารแห่งพระเมตตา ด้วยการนำเสนอวีดีทัศน์การสัมภาษณ์บุคคลที่ได้รับพระราชทานการช่วยเหลือ 3 เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ 1) ร้านข้าวต้มอั้งม้อ จังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด  2) นักเรียนทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ที่ได้รับโอกาสทางการศึกษา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเหตุความรุนแรง โซนที่ 6 พระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ ด้วยการนำเสนอโครงการจิตอาสาพระราชทานและโครงการสำคัญของกระทรวง พม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในนามรัฐบาล โซนที่ 7 โคก หนอง นา โมเดล สู่ความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอการขับเคลื่อน โคก หนอง นา โมเดล ในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง และโซนที่ 8 ความหมายตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา

สำหรับคณะผู้สูงอายุจากศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ที่มาชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้กล่าวถึงความประทับใจ อาทิ คุณยายวลัยลักษณ์ อยู่แสง กล่าวว่า วันนี้ได้มาชมนิทรรศการของในหลวง รัชกาลที่ 10 ซึ่งดูแล้วรู้สึกชื่นใจได้เห็นพระองค์ท่านตั้งแต่เด็กๆ  รู้สึกชอบ รู้สึกรักพระองค์ท่านมาก ทำงานเพื่อประชาชนเพื่อลูก เพื่อหลาน ทำเพื่อคนพิการ ทำเพื่อผู้สูงอายุหลายๆ อย่าง ชื่นใจหมด ขอให้บุญรักษา ขอให้อยู่ยืนยาว

คุณยายปราณี มัดมีสุข กล่าวว่า วันนี้ ได้มาชมนิทรรศการในหลวง รัชกาลที่ 10 ซึ่งยายอายุ 85  ปีแล้ว รู้สึกปลาบปลื้มมาก ตั้งแต่พระองค์ท่านประสูติมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะยายจำได้ว่าตอนนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่ ยายก็สนใจ พระองค์ท่านไปเรียน ไปศึกษาอะไรต่ออะไร ยายก็ติดตามฟังข่าวของพระองค์ท่านเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี้พระองค์ท่านมาปกครองประชาชนชาวไทย แล้ววันนีั ก็มาชมนิทรรศการนี้ รู้สึกปลื้มใจมากที่พระองค์ท่านทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินเยอะแยะเลย ได้ไปช่วยคนยากคนจน ช่วยไฟไหม้ ช่วยระเบิด นิทรรศการน่าดูมาก ดูแล้วปลื้มใจ และขอให้พระองค์ท่านมีอายุยิ่งยืนนาน อยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนต่อไปนานๆ ขอให้พระองค์ท่านมีสุขภาพแข็งแรง และประชาชนได้อบอุ่นเพราะพระองค์ท่านดูแลทั่วถึงไปหมดเลย

และคุณยายศนัจจา สุธารณกร กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นการจัดนิทรรศการในวันนี้ ดูดีสวยงามแล้วก็เพียบพร้อม มีเนื้อหาที่น่าทึ่ง ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ 10 ที่พระองค์ท่านได้สืบสาน ต่อยอด ทำให้งานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ดำรงมาไม่สูญเสียไปเพราะพระองค์ท่านมีคติธรรมที่ว่าสืบสาน รักษา และต่อยอดให้กิจกรรมของในหลวง รัชกาลที่ 9 เจริญก้าวหน้าไป ไม่สะดุดและยังก้าวหน้าไปอีกไกล นอกจากนี้ เรื่องประทับใจของยายอีกอย่างหนึ่งคือ โคกหนอง นา โมเดล ไปถึงต่างจังหวัด หลายจังหวัดเลย ที่พวกประชาชนขอบคุณเหลือเกินที่มีโครงการนี้เกิดขึ้นเพราะโครงการนี้ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยตัวเอง หลายหมู่บ้านก็สามัคคีกัน อย่างเช่น โคก หนอง นา โมเดลของจังหวัดบุรีรัมย์ ไปดูว่าเขาผันน้ำขึ้นมาใช้แบบนี้ ทำให้พืชผลทางเกษตรได้ออกไปสู่โลก

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้แนวคิด  “72 พรรษา ทศมราชา พัฒนาสังคมยั่งยืน” ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.30 – 16.30 น. เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ#ข่าวพม#พม#ศรส#esshelpme#1300#วราวุธศิลปอาชา#วราวุธรับฟังทำจริง#พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม#พมหนึ่งเดียว#นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ#72พรรษาทศมราชาพัฒนาสังคมยั่งยืน#ผู้สูงอายุ#บ้านบางแค:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

https://www.natethip.com/news.php?id=8631
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)