https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160021750710055922
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160021750710055922
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศาลสั่งจำคุกกานต์ 5 ปี เมียเสกโลโซ โพสต์หมิ่นประมาท “อีฟ แม็กซิม” โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี
มื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 16 ก.ย.63 ที่ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท หมายเลขดำอ.1675/2562 ที่น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรืออีฟ แม็กซิม อายุ 30 ปี อดีตรองอันดับ1 มิสแม็กซิม ไทยแลนด์ ปี 2008 เป็นโจทก์ฟ้องนางวิภากร ศุขพิมาย หรือกานต์ อายุ 47 ปีภรรยานายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 28 เม.ย. -14 มิ.ย.62 ต่อเนื่องกัน จำเลยใช้สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Wiphakorn Karn โพสต์ข้อความ ใส่ความโจทก์ ทำนองว่า เหลือมนรก 5555 เหลือมไม่เหลือยางอาย ไปขุดมุดรูหนีเหอะนะ และข้อความ อีเหลือมกีดกันลูกและแม่ของลูกทุกคนไม่ให้เจอพ่อ และข้อความอื่นโดยลักษณะดังกล่าวเป็นการลดคุณค่าโจทก์และบุคคลทั่วไปที่พบเห็นเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี ทำให้ต้องเสื่อมเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326,328,332 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
โดยวันนี้ นางวิภากร หรือกานต์ มาฟังคำพิพากษาพร้อมกับ นายเสกสรร หรือ เสกโลโซ สามีที่มาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์เบิกความยืนยันให้เห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อว่า Wiphakorn Karn จากภาพบันทึกความเคลื่อนไหว ที่จำเลยโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2562 ซึ่งภาพจำเลยอยู่ด้วย นอกจากนี้จำเลยยังไปออกรายการ “เรื่องนี้ต้องขยาย” ทางช่องไทยรัฐทีวี แล้วเปิดเผยให้ดูภาพบันทึกความเคลื่อนไหวที่จำเลยโพสต์เช่นกัน
ขณะที่จำเลยเองก็ยอมรับว่าเป็นเจ้าการที่จำเลยโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2562 ทำนองว่า “อีเหลือมร้อนตัว มึงมันหน้าด้าน อีเหลือมจันไร” และข้อความอื่นที่มีความหมายทำนองเดียวกันรวม 5 ครั้ง อันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนและคนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์มีความประพฤติเสื่อมทราม มีความอิจฉาริษยา ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และเป็นการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กที่เผยแพร่เป็นสาธารณะไปยังบุคคลทั่วไป จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ประกอบมาตรา 326 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกระทงๆ ละ 1 ปี รวม 5 กระทง รวมจำคุกจำเลย 5 ปี และให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุกประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ภายในระยะเวลา 2 ปี และให้ปรับเงินจำนวน 2.5 แสนบาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยถูกลงโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี และให้ลบข้อความดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊กของจำเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้พิพากษาจำคุก นางวิภากร หรือ กานต์เป็นเวลา 5 ปี ปรับ 2 แสนบาท ฐานโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท “อีฟ แม็กซิม” มาแล้ว
ขณะที่ทนายความของกานต์ เปิดเผยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องมาทั้งหมด 10 กรรม ศาลยกไป 5 กรรม ลงโทษ 5 กรรม ซึ่งคงจะมีการอุทธรณ์คดีต่อไป สำหรับคดีระหว่างกานต์และอีฟขณะนี้มีอีก 2 คดี จากทั้งหมด 4 คดี
Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
ศรัทธาล้น! พิธีพุทธาภิเษก “ไอ้ไข่” วัดเกร็ดแรด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง “พระครูประภัสสรคุณ”(หลานอาจารย์เทิ่มผู้ร่วมสร้างเหรียญไอ้ไข่ ปี 2538 วัดสระสี่มุม)เจ้าอาวาสวัดเขาพนมไตรรัตน์พร้อมเกจิอาจารย์สายเขาอ้อและคณะสงฆ์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก
เมื่อเวลา 09.09 น.วันที่ 12 กันยายน 2563 ที่ศาลาการเปรียญวัดเกล็ดแรด ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พระครูนันทพลาภิรม เจ้าคณะตำบลทุงใส เจ้าอาวาสวัดเกล็ดแร็ด ประธานในพิธี งานพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ไอ้ไข่ วัดเกล็ดแรด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง โดยมีศิษยานุศิษย์ประชาชนร่วมในพิธีพุทธาภิเษก ไอ้ไข่วัดเกล็ดแรด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง วาระที่1 กันเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการ Social Distancingทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพิธีพุทธาภิเษก
โดยพระครูประภัสสรคุณ วัดเขาพนมไตรย์ (หลานอาจารย์เทิ่ม ผู้ร่วมสร้างเหรียญไอ้ไข่ปี 2538 วัดสระสี่มุม) เจิมเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษก และยังมีฆารวาส 3 ท่านร่วมวพิธีจุดเทียน นายสำคัญ ศรีสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสี่ขีด ,พันตรีประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บัญชาการค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล,นายสุพิน ทองเติม กำนันตำบลสี่ขีด ร่วมเป็นประธานจุดเทียน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และธัมมจักกัปปวัตนสูตร ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ หลังเสร็จพิธี พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม วัดในเตาดับเทียนชัย ประพรมน้ำมนต์ให้กับศิษยานุศิษย์และประชาชนที่มาร่วมพิธี
สำหรับพิธีพุทธาภิเษกไอ้ไข่วัดเกร็ดแร็ด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง วาระที่1 โดนมีพระครูประภัสสรคุณ,พระอาจารย์ประสุติ ปิยธัมโม และเกจิอาจารย์สายเขาอ้อพร้อมคณะสงฆ์ 19 รุป นั่งอธิษฐานจิตนั่งปรกปลุกเสก ถ้าจะพูดถึงความเป็นอมตเถราจารย์แล้ว ยังมีครูหมอเฒ่า (อาจารย์เพชร)อ่านองค์การ จัดเป็นเกจิชั้นแนวหน้าของเมืองไทยในยุคปัจจุบันที่มีจริยาวัตรงดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านท่านได้สร้างผลงานไว้มากมาย มีนัยเป็นรูปธรรมโดดเด่นอยู่ในบวรพุทธศาสนาท่านเป็นฆารวาสที่มีเมตตาสูง ทำบุญช่วยสนับสนุนกิจการงานของสงฆ์ เผยแผ่พระพุทธศาสนา ระยะเวลาที่ผ่านมาท่านสร้างวัตถุมงคล สร้างถาวรวัตถุ เพื่อสังคมส่วนรวมทั้งทางโลกและทางธรรม โดยเฉพาะการสร้างวัตถุมงคลทรงคุณภาพ นับได้ว่าวัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านที่ท่านอธิษฐานจิตนั่งปรกปลุกเสก นั้นเป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง เต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณอย่างแท้จริง
หลังพิธีปลุกเสกแล้วพระครูสังฆรักษ์ปรีชา อชิโต วัดหมื่นระงับรังสรรค์ อ.ชะอวด ร่วมแจกวัตถุมงคลไอ้ไข่ วัดเกล็ดแร็ด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง ให้กับประชาชนทุกคนที่เข้าคิวต่อแถวยาวเหยียดก่อนเดินทางกลับโดยมีการตั้งจัดคัดกรองป้องกันโควิด19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวดการจัดสร้างไอ้ไข่วัดเกล็ดแร็ด รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี บารมีหนุนดวง มีวัตถุประสงค์ เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ภายในวัดเกล็ดแรด จังหวัดนครศรีธรรมราช
ข้อมูลข่าว:สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม
สุราษฎร์ธานี-ผู้ต้องขังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หลังได้รับการปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 จำนวน 120 คน อุปสมบทถวาย 11 คน
วันนี้(15กย63) นายสนิท ศรีวิหก รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประกอบพิธีถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีนายอาคม ภูศรี ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอไชยา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ในครั้งนี้ รวม 120 คน
ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการอบรมผู้ต้องขังตามโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์”ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นโครงการตามราชดำริ และผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนโทษและปล่อยตัว ซึ่งการพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ได้มีพระมหากรุณาธิคุณให้ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ความผิดเล็กน้อย ผู้เจ็บป่วย พิการ หรือทุพพลภาพ และผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงคนชรา เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ ได้กลับไปเป็นพลเมืองดี และทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ ต่อไป
นอกจากนี้มีนักโทษชาย 11 คน ที่พระราชทานอภัยโทษ ได้แจ้งความประสงค์ขออุปสมบท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เมื่อบวชเสร็จพิธีได้จำวัดที่วัดโลการามในตัวอำเภอไชยา โดยทั้งหมดได้กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ จะจงรักภักดีต่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะกลับตัวเป็นคนดีของสังคม จะทำงานทด้วยความสุจริต เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้
ข้อมูลข่าว สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม
http://www.natethip.com/news.php?id=2987
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=2986
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=2985
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์// จังหวัดภูเก็ตประกาศความพร้อมจัดการแข่งขันกีฬา SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020 ซึ่งเป็นสนามแรกในมหกรรมกีฬาใหญ่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชิงชัย 2 กีฬา อีสปอร์ต และกระดานยืนพาย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว หลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 พร้อมเป็นการเปิดเวทีคัดตัวทีมชาติ
ที่ ลานกิจกรรม Public house ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีงานแถลงข่าวการแข่งขันกีฬารายการ SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020 โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ คณะกรรมการกกท(บอร์ด กกท.) และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต และนายดํารง ไชยเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานกกท. จ.ภูเก็ต
การแข่งขันกีฬา “SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020” เป็น 1 ใน 2 สนามแข่งขันของมหกรรมกีฬาใหญ่ “SAT Thailand World Invitation 2020” โดยสนามแรกนี้จัดที่ จ.ภูเก็ต ชิงชัย 2 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย อีสปอร์ต วันที่ 18-20 กันยายนนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า และกระดานยืนพาย (SUP) วันที่ 19-21 กันยายนนี้ ที่ปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต โดยจะจัดตามมาตรฐานการแข่งขันระบบของสหพันธ์อีสปอร์ตนานาชาติ และสหพันธ์กีฬากระดานโต้คลื่นนานาชาติ
นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย กล่าวว่า หลังจากต้องเจอกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้จังหวัดภูเก็ตซบเซา จึงได้วางแผนจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวให้มีเงินหมุนเวียนภายในจังหวัดตามยุทธศาสตร์ของการเป็น สปอร์ต ซิตี้ โดยครั้งนี้ได้จัดการแข่งขันอีสปอร์ต และกระดานยืนพาย เพื่อดึงดูดผู้คนให้มาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 500 คน และทำให้มีเงินหมุนเวียน ทั้งการใช้จ่ายการกินอยู่ที่พัก และอื่นๆ ที่จะทำให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
“ภูเก็ตมีความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งรายการนี้จะมีนักกีฬาทีมชาติมาเข้าร่วมชิงชัยด้วย และแมวมองมาคัดเลือกตัวต่อยอดสู่ทีมชาติ โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่สนใจกีฬาอีสปอร์ตจำนวนมาก รวมทั้งกีฬายืนพายที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตยืนยันความพร้อมจัดอีเวนต์กีฬาตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในทุกเดือน เพื่อช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในจังหวัด”
นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ กล่าวว่า อีสปอร์ต และกระดานยืนพาย กำลังได้รับความนิยมสูง มีผู้สนับสนุน และติดตามชมจำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยการแข่งขันครั้งนี้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังโรงเรียนต่างๆ ภายในภูเก็ต และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 500-1,000 คน แต่เราจะมีการเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการสาธารณสุข นอกจากนี้การแข่งขันกระดานยืนพาย ก็จะจัดกิจกรรมออกร้านค้า และคอนเสิร์ตด้วย ชวนผู้คนที่สนใจจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งกระบี่, พังงา และจังหวัดอื่นๆ มาร่วมกิจกรรมกัน
“ทั้ง 2 ชนิดกีฬากำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มนักกีฬาหน้าใหม่ และเข้าถึงกลุ่มนักกีฬาเยาวชนได้เป็นอย่างดี อย่างอีสปอร์ตมีมูลค่าทางการตลาดสูงมาก จึงต้องหันมามอง และพัฒนาเพื่อรองรับวิถีการเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งสร้างรากฐานการพัฒนาเตรียมสู่การเป็นทีมชาติในอนาคต ส่วนกระดานยืนพายก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในต่างประเทศเช่นกัน ทำให้นักกีฬาไทยเองจะได้มีเวทีในการพัฒนาฝีมือไปสู่ระดับโลก”
นายธรรมวรรธ กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่ารายการนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเฟ้นหานักกีฬาอีสปอร์ตช้างเผือกประดับวงการอีสปอร์ตได้แน่นอน และต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในจังหวัดภูเก็ตสนใจในตัวอีสปอร์ตด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ยืนยันว่า จังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะจัดการแข่งขันอีสปอร์ตในปีหน้าต่อไป รวมทั้งมีแผนจะขยายไปจัดการแข่งขันใน 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้กีฬาอีสปอร์ตเกิดการแพร่หลายมากขึ้น
ด้าน นายดำรง ไชยเสนา กล่าวว่า รายการนี้จะได้เห็นนักกีฬาสุดยอดฝีมือ ทั้งอีสปอร์ต และกระดานยืนพาย ระดับท็อปของประเทศ มารวมตัวกันที่จังหวัดภูเก็ต โดยนักกีฬาจำนวนถึง 99 เปอร์เซ็นต์มาจากต่างจังหวัด ขณะที่สถานที่แข่งขัน ทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า และปลายแหลมสะพานหิน มีความพร้อมอย่างมาก ในการจัดการแข่งขันเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยการแข่งขันกระดานยืนพายจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกให้ได้เห็นความสวยงามของจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
“ปัจจุบันนี้อีสปอร์ตมีมูลค่าทางการตลาดสูงมาก และถือเป็นกีฬาอาชีพที่นักกีฬาไทยมีค่าตัวหลักแสนบาท การแข่งขันอีสปอร์ตรายการนี้จะเป็นการทดสอบฝีมือคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันชิงแชมป์โลกของสหพันธ์กีฬาอีสปอร์ตนานาชาติ และกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพกลางปีหน้าอีกด้วย” ผู้สนใจสามารถติดตาม และส่งกำลังใจได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ SAT Thailand World Invitation
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์// นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ชื่นชมผลงานนักโยนลูกเหล็กหน้าใหม่ ที่มีการพัฒนาฝีมือได้ดีมากยิ่งขึ้น คว้าแชมป์เปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศ ครั้งที่ 40 ที่ เพชรบูรณ์ เตรียมวางแผนเรียกมาคัดเลือกทีมชาติไทย พร้อมลุยกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ เวียดนาม ปีหน้า “บิ๊กต้อย” เผย อดีตแชมป์โลกไม่ได้เข้าชิงฯ เนื่องจากสภาพสนามแข่งขันไม่เอื้ออำนวย
นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เผยว่า ตามที่สมาคกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดการแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2563 และจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้สึกพอใจกับผลงานของนักเปตองหน้าใหม่ที่มีการพัฒนาฝีมือได้ยอดเยี่ยม และสามารถคว้าแชมป์มาครองทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง แม้แต่นักเปตองทีมชาติไทยหลายคน อย่าง “นก” ทองสี ตะมะโคตร “ต่าย” พันธ์ทิพา วงศ์ชูเวช “แจ๊ค” ศราวุิ ศรีบุณเพ็ง “คอนโด” ซึ่งแต่ละคนเคยผ่านสังเวียนลูกเหล็กในระดับนานาชาติมาอย่างโชกโชน ก็ยังไม่ผ่านถึงรอบชิงชนะเลิศเลย เพียงแต่เข้ารอบตัดเชือกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เตรียแผนที่จะคัดเลือกนักเปตองทีมชาติไทย ไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ เวียดนาม ปีหน้า แต่อย่างเนิ่นๆ โดยจะมี นายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ อุปนายกสมากีฬาเปตองฯ เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกทีมชาติไทย ซึ่งจะเรียกนักกีฬาที่มีผลงานที่ดี รวมทั้งนักกีฬาที่คว้าแชมป์ทีมชายและทีมหญิงเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยปีนี้ มาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย โดยตั้งเป้าครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์อีกสมัย
เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตอแห่งประเทศ กล่าวว่า งง
การแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยครั้งนี้ ยินดีกับนักกีฬาหน้าใหม่ที่สามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศ และได้แชมป์มาครอง ทั้งทีมชายและทีมหญิง ซึ่งนักกีฬาหลายคนฝีมือดีสมาคมกีฬาเปตองฯ จะผลักดันให้เข้าสู่ระบบการเป็นทีมชาติต่อไป ส่วนนักเปตองแชมป์โลก อยาง”นก-ต่าย-แจ๊ค-คอนโด” พลาดเข้าชิงเหรียญ สาเหตุมาจาสภาพสนามแข่งขันเป็นหลุมเป็นบ่อ
ในเดือนก.ย.นี้ ระหว่างวันที่ 17-20 ห.ย.นี้ สมาคมฯจะจัดการแข่งขันเปตองผู้สูงอายุ “ไทยแลนด์โอเพ่น มาเตอร์เกมส์ ครั้งแรก ที่ สนามกีฬาเปตองในร่มของสาคมฯ หัวหมาก รายการนี้กกท.เป็นผู้จัดและสนับสนุนงบประมาณการแข่งขันทั้งหมด
สำหรับผลการแข่งขันเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ที่ สนามกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ที่คว้าแชมป์แต่ละประเภทมีดังนี้
ประเภททีมหญิง ชมรมสัมพันธ์ จันทรบุรี(อภิญญา นวลวิจร เจสิรักษ์ ตั้งอุดมภพ อธิตยา นวลวิจิตร) ดาวรุ่งมาแรงพลิกเอาชนะ ชมรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ร.ต.อ.หญิง พรทิพย์ บุญเพชร ร.ต.อ.หญิง อริสา ทองคำ ส.ต.ต.หญิงสุนิตรา พ่วงอยู่ ) ซึ่งมีทีมชาติร่วมทีม 13-6 คว้าแชมป์ไปครอง ประเภททีมชาย ชมรมททบ.(จ.ส.ต.อภิชาติ ศิลลา ส.อ.สมชาย หยินมีลาภ ถาวรสิทธิ์ ราชโคตร) โชว์ฟอร์ที่เหนือชั้นกว่าเอาชนะ ชมรมจังหวัดเชียงราย(วุฒิชัย บุณตบ จตุพล นะใจ ชาติชาย จรัลพรเลิศสิน) แบบขาดลอย 13-1 ได้ครองแชมป์อย่างไม่ยาก
เยาวชนหญิง อายุไม่เกิน 20 ปี (ชมรมกรมช่างโยธาทหารอากาศ(สิริอร สาระชีพ ด.ญ.วงศ์รุ่ง สัง์วงศ์ วิภาวดี เจริญทรง) ชนะ ชมรมตำรวจตะเวนชายแดน(ขวัญฤดี ปานอินทร์ มลิวัฒน์ เจริญชัย ปิยามาตร ประภัสสร) 13-0 เยาวชนชาย อายุไม่เกิน 20 ปี ชมรมตำรวจตะเวนชายแดน(พงศ์กร อินภู่ วัชระ คำดี วุฒิพงษ์ เสมสายันต์ ) ชนะ ชมรมช้างศึก (ณัฐวุฒ์ เงินอาจ วัชรพล ปินะละเซ ธีระพล มีนวายลืม) 13-2
ยุวชนชาย อายุไเกิน 15 ปี ชมรมน้องนุช จังหวัดร้อยเอ็ด(มนัสการ พยัคษา สรอรรถ ปรีกุล เกริกไกรวิชัญ ผิวขำ ) ชนะ ชมรมกองบัญชาการทหารสูงสุด (ด.ช.ธรรมนันท์ วงจันต์ศุลี ด.ช.อนุชา ตาวังปา) 13-2 ยุวชนหญิง อายุไม่เกิน 15 ปี ชมรมกองทัพบก ( ด.ย.ปัมมาพร พิมโย ด.ญนนิสา โสพันธ์ภักดีด.ญ.ปริฉัตร สงศรี) ชนะ จังหวัดพิจิตร(กุลดา นิลเกษ ด.ย.สุภาพิม เฟื่องสนิท ด.ญ.ชนิดา สิงห์ลอ) 13-9
ทีมอายุโส อายุ55 ปี ชมรมรพ.พระนั่งเกล้า(ร.ท.ประคอง ปรีรอด ร.ท.สำเริง แสงโสด ร.ต.สุวิทย์ สุดกระโทก) ชนะ ชมรมกีฬาช้างเผือก (ณรงค์ ศิริวงศ์ เฉลิมแสงศิลป์ วินัย ไทรแก้ว) 13-3
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์