วันจันทร์, มิถุนายน 30, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2119

แอร์ฯลิงก์ จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “10 เดือน 10” เก้าวสู่ปีที่ 10 แจก Alcohol Hand Cleansing Spray ฟรี! 1,000 ชิ้น แก่ผู้โดยสาร

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “10 เดือน 10” เฉลิมฉลองก้าวสู่ปีที่ 10 ของการให้บริการ แจก Alcohol Hand Cleansing Spray ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสทุกประเภท ฟรี! 1,000 ชิ้น ในวันที่ 10 ตุลาคม 2563 นี้นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 10 หรือ 1 ทศวรรษการให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รวมทั้งเพื่อเป็นการสานต่อความห่วงใยในสุขอนามัยของผู้โดยสารที่บริษัทดำเนินการมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งบริษัทเป็นหน่วยงานแรกๆในระบบขนส่งทางรางที่ดำเนินการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับแจกจ่ายให้แก่ผู้โดยสาร โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) รวมทั้งผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับแจกจ่ายให้แก่ผู้โดยสาร และชุมชนในบริเวณใกล้เคียงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รวมถึงให้บริการตู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยสินค้ามาตรฐานกรมราชทัณฑ์ราคายุติธรรมที่แรกในประเทศ ภายในสถานีรถไฟฟ้าสำหรับให้ผู้โดยสารได้เข้าถึงหน้ากากอนามัยได้อย่างสะดวก ดังนั้นบริษัทจึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “10 เดือน 10” แจก Alcohol Hand Cleansing Spray ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทุกประเภท ฟรี! จำนวน 1,000 ชิ้น ในวันที่ 10 ตุลาคม 2563 โดยผู้โดยสารสามารถนำบัตรสมาร์ทพาสไปติดต่อขอรับได้ที่ห้อง Information แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีพญาไท ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link :Cr;มณสิการ รามจันทร์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160047489610056086
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้า)

 

 

 

 

จีไอที มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 เวลา 13.00 น. สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ (องค์การมหาชน) หรือ จีไอที จัดพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะโครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14 (GIT’s 14th World Jewelry Design Award 2020) โดยผู้ชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 4,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่รางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดย นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ณ ห้อง รีเจนซี่บอลรูม 2 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท โดยมีแขกกิติมศักดิ์ ให้เกียรติร่วมงาน และให้เกียรติในนามประเทศขึ้นรับมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตร พิธีมอบรางวัล การออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14 GIT’s World Jewelry Design Award 2020 ประกอบด้วย
1. ท่านอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์
อดีต เอกอัครทูตประจำสิงคโปร์ เดนมาร์ค ลิกัวเนีย ไอซ์แลนด์ ออสเตรเลีย สโลวาเนีย สโลวาเกีย
และ องค์การระหว่างประเทศ 7 องค์การ แคนาดา กลุ่มประเทศแคริบเบียน 7 ประเทศ
2. H.E. Mrs. Laila Ahmed Bahaaeldin
Ambassador The Embassy of Arab republic of Egypt
3.Mr. Manoranjan Sahu
“Attache (Economic & Commercial) Embassy of India” The Embassy of India
4. Mr. Mahmoud Alizadeh
First Secretary The Embassy of the Islamic Republic of Iran
5. คุณ นวลพรรณ ล่ำซำ
กงศุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำกรุงเทพฯ

สำหรับโครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Beyond Jewelry: Artistic Elegance of Gems โดยเปิดกว้างให้นักออกแบบได้ใช้จินตนาการสร้างสรรค์แบบวาดเครื่องประดับแบบไร้ขีดจำกัด ไม่มีการกำหนดชนิดของอัญมณีซึ่งได้รับการความสนใจและการตอบรับอย่างดีมากจากนักออกแบบทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก มีผลงานส่งเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 352 ผลงาน แบ่งเป็นผลงานนักออกแบบชาวไทย 169 ผลงาน และผลงานของนักออกแบบต่างชาติ 183 ผลงาน จาก 28 ประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการจัดประกวดในครั้งนี้เป็นการต่อยอด และ ยกระดับความสามารถของนักออกแบบไทย และ ต่างชาติ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในยุคปัจจุบัน ที่เครื่องประดับเป็นมากกว่าแค่ความสวยงาม การประกวดครั้งนี้ สถาบันมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ให้เข้ามาในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ อีกทั้งผลักดันให้นักออกแบบเหล่านี้ได้มีเวทีนำเสนอผลงานอันสร้างสรรค์ ซึ่งเห็นได้ว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดนี้เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักออกแบบในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลงานการออกแบบที่เข้ารอบนั้น มีความร่วมสมัย และ มีความโดดเด่นเฉพาะตัว สามารถยกระดับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้สถาบันยังมีแผนที่จะต่อยอดและผลักดันนักออกแบบที่ได้รับรางวัลจากการประกวดสู่เวทีการประกวดออกแบบระดับโลกต่อไปในงานมีการแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องประดับจากผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 4 ผลงาน ถ่ายทอดความงดงามผ่านเหล่านางแบบในแฟชั่นโชว์เครื่องประดับสุดพิเศษ นำทีมโดย ดารานักแสดงชื่อดัง น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานของผู้เข้ารอบการตัดสินคัดเลือกแบบวาดจำนวน 30 ผลงาน ให้ผู้ร่วมงานได้ชื่นชมความงามของผลงานการออกแบบของผู้เข้าประกวดอีกด้วย สำหรับผลการตัดสินการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลงานชุด SCAN ME ออกแบบโดย นายกิติศักดิ์ หมายเจริญ ประเทศไทย ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 4,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่พระราชทานจากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผลงานชุด BRUT_LIST (Eastern European) ออกแบบโดย Mrs. Gerda Liudvinaviciute ประเทศลิทัวเนีย ได้รับเงินรางวัล 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ผลงานชุด Smart Jewelry High Fashion ออกแบบโดย นางสาวภาพทิพย์ กุลวุฒิ ประเทศไทย ได้รับเงินรางวัล 1,500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลชมเชย ผลงานชุด Ant and Amber ออกแบบโดย Ms. Melika Aghili ประเทศอิหร่าน ได้รับเงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ

ผู้สนใจสามารถดูผลการตัดสินผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 14 ได้ที่เว็บไซต์ www.gitwjda.com :Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

นฤมล” เล็ง ช่วยเหลือคนพิการเพิ่มทักษะ สร้างอาชีพ มีรายได้ เสริมเศรษฐกิจประเทศ

0

“นฤมล” เล็ง ช่วยเหลือคนพิการเพิ่มทักษะ สร้างอาชีพ มีรายได้ เสริมเศรษฐกิจประเทศ

วันที่ 18 กันยายน 2563 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมหารือกับนายประหยัด ทรงคำ ผู้อำนวยการมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ นายณรงค์ศักดิ์ อัจฉรานุวัฒน์ อธิบดีศาลแรงงานภาค 1 สระบุรี และนางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลเชียงใหม่ โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแสงสิงห์แก้ว กระทรวงแรงงาน
ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การพัฒนาทักษะฝีมือให้กับคนพิการ เป็นภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และตนเองมีนโยบายการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่กำลังแรงงานของประเทศทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทาง สร้าง ยก ให้ ซึ่งการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับคนพิการ จะอยู่ในส่วนของการให้ คือการให้โอกาสแก่กลุ่มเปราะบาง ให้ได้รับความช่วยเหลือและเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง ทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุ แรงงานกลุ่มสตรี ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตและการทำงานของกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การเพิ่มทักษะและส่งเสริมการจ้างงาน
คนพิการที่อยู่ในวัยทำงานอายุระหว่าง 15 – 60 ปี มีจำนวน 819,550 คน ประกอบอาชีพ จำนวน 271,916 คน คนพิการในวัยทำงานที่สามารถประกอบอาชีพได้ แต่ยังไม่ได้ประกอบอาชีพ จำนวน 330,339 คน และมีคนพิการในวัยทำงานที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จำนวน 217,295 คน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าการประกอบอาชีพของคนพิการจะอยู่ในอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างคิดเป็นร้อยละ 78 ซึ่งคนพิการส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามชนบท (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2560)
นายประหยัด ทรงคำ ผอ.มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า ระหว่างปี 2560 -2561 มีครอบครัวคนพิการที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนไปแล้ว 4 รุ่น จำนวน 547 ครอบครัว นำความรู้ไปประกอบอาชีพในเขตภาคเหนือและภาคกลาง หลักสูตรที่ดำเนินการจัดฝึกอบรม เช่น การเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน การเลี้ยงจิ้งหรีด การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ การเกษตรอินทรีย์ การแปรรูปการตลาด การบัญชีและการจัดการ เป็นต้น โดยในแต่ละหลักสูตรจะเป็นการฝึกในภาคทฤษฎี 93 ชั่วโมงและมีการฝึกปฏิบัติ 507 ชั่วโมง รวม 600 ชั่วโมง (100 วัน) หลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ในปี 2561 มีคนพิการและผู้ดูแลคนพิการมากกว่า 500 คน ยื่นขอรับความช่วยเหลือจากมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ขอรับการอบรมอาชีพอิสระหรือได้รับการจ้างงาน การเข้าพบรมช.แรงงานในวันนี้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงาน ผลักดันและประสานกับสถานประกอบกิจการให้ความร่วมมือรับคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเข้าทำงาน โดยเฉพาะสถานประกอบกิจการที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในเชิงนโยบาย ขอให้กระทรวงแรงงานช่วยผลักดันและประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินกองทุนดังกล่าว เพื่อฝึกอบรมและจ้างงานให้มากขึ้น
“หากคนพิการได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูสมรรถภาพด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสม จะช่วยให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสังคมโดยไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น ต้องส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำอย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป เพื่อจะสามารถเป็นพลังที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปได้ ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
นายชีวานนท์พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย กล่าวว่า ขอบคุณ ศาสตราจารย์นฤมลภิญ โญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญกับ”แรงงานคนพิการ” ในการเร่ง พัฒนาทักษะฝีมือ ให้คนพิการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีเสริมสร้างเศรษฐกิจรากฐานของประเทศ

นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทยชื่นชมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เล็งเห็นให้ความสำคัญกับ”แรงงานคนพิการ”

0

นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทยชื่นชมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เล็งเห็นให้ความสำคัญกับ”แรงงานคนพิการ”

นายชีวานนท์พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย กล่าวขอบคุณ ศาสตราจารย์นฤมลภิญ โญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญกับ”แรงงานคนพิการ” ในการเร่ง พัฒนาทักษะฝีมือ ให้คนพิการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีเสริมสร้างเศรษฐกิจรากฐานของประเทศ
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ศาสตราจารย์ นฤมลภิญโญ สินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมหารือกับนายประหยัด ทรงคำ ผู้อำนวยการมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ นายณรงค์ศักดิ์ อัจฉรานุวัตร อธิบดีศาลแรงงานภาค 1 สระบุรี และนางพวงทองศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก มิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแสงสิงห์แก้ว กระทรวงแรงงาน ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การพัฒนา ทักษะฝีมือ ให้กับคนพิการเป็นภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกระทรวงแรงงานที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและตนเองมีนโยบายการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่กำลังแรงงานของประเทศทุกกลุ่มเป้าหมายตามแนวทาง สร้าง ยก ให้ซึ่งการพัฒนาทักษะฝีมือกับคนพิการจะอยู่ในส่วนของการให้ คือการให้โอกาสแก่กลุ่มเปราะบางให้ได้รับความช่วยเหลือและเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างทั่วถึงทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุแรงงานกลุ่มสตรี ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตและการทำงานของกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งพลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือตั้งแต่การเพิ่มทักษะและส่งเสริมการจ้างงาน

“สุราษฎร์ธานี” พร้อมสนับสนุน จัดสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// จังหวีดสุราษฎร์ธานี ยินดีให้ความร่วมมือ และสนับสนุน จัดแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” อย่างเต็มที่ ด้าน “รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี” เผยเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด ไปสู่สายตาชาวโลก เชื่อมั่นว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ วางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด “โควิด-19” อย่างรัดกุม
นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ระหว่างวันที่ 6-16 ตุลาคม เส้นทางจากจังหวัดสมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี โดยผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ ห้องโกเมน โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายสนิท กล่าวว่า ถึงแม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เชื่อมั่นว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ นำโดย พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ ได้วางมาตรการ และเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน
ในนามของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอขอบคุณ พลเอกเดชา และคณะเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่เดินทางมาประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางจังหวัดยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่นทุกประการ
พลเอกเดชา กล่าวว่า หลังจากที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ อนุมัติให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ก็ยังมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ ศบค. กำหนดให้นักกีฬาต่างชาติที่จะเดินทางมาแข่งขันต้องปฏิบัติ โดยเฉพาะการกักตัว 14 วันในสถานกักกักที่รัฐรับรอง แต่ปัญหาใหญ่คือหลายทีมไม่มีเที่ยวบินเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ส่งผลให้เหลือทีมต่างชาติจำนวนไม่กี่ทีม ยูซีไอ ได้ออกบทเฉพาะกาลให้การแข่งขันรายการนี้ อยู่ในระดับ 2.1 ตามเดิม โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้วางมาตรการป้องการการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ขั้นสูงสุด สำหรับเจ้าหน้าที่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และนักกีฬาที่อยู่ในไทย จะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด ในวันที่ 4 ตุลาคม ทุกคน

ขณะที่ นายสนิท ศรีวิหค ได้กำชับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ แขวงการทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดูแลเรื่องการปรับปรุงพื้นผิวการจราจร การปิดกั้นการจราจรระหว่างการแข่งขัน เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อนักกีฬา รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบกำหนดการแข่งขัน เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่สำคัญและเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะจัดประชุมเป็นการภายใน เพื่อเตรียมความพร้อมช่วงสุดท้าย วันที่ 23 กันยายนนี้
นายสนิท กล่าวอีกว่า นอกจากการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” รายการที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอื่น ๆ ของไทย อีกทั้งเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซามานานจากพิษโควิด-19 เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จะถ่ายทอดสด ผ่านทางเฟซบุ๊ก และยูทูป เผยแพร่ออกไปทั่วโลก
สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” คือการรับขบวนนักกีฬาในสเตจที่ 5 จากจังหวัดระนอง วันที่ 10 ตุลาคม และมีการปล่อยตัวนักกีฬาชายในสเตจที่ 6 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย ในวันที่ 11 ตุลาคม ระยะทาง 142.30 กิโลเมตร จากบริเวณศาลาริมแม่น้ำตาปี หน้าศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเข้าเส้นชัยที่บริเวณจุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา
นอกจากนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันประเภททีมหญิง ทั้ง 3 สเตจ ดังนี้ สเตจที่ 1 วันที่ 14 ตุลาคม ระยะทาง 82.10 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณศาลาริมแม่น้ำตาปี หน้าศาลหลักเมือง ไปอำเภอพุนพิน กลับมาเข้าเส้นชัยที่หน้าศาลหลักเมือง, สเตจที่ 2 วันที่ 15 ตุลาคม ระยะทาง 98.60 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณศาลาริมแม่น้ำตาปี หน้าศาลหลักเมืองฯ ไปอำเภอกาญจนดิษฐ์ กลับมาเข้าเส้นชัยที่หน้าศาลหลักเมือง และสเตจที่ 3 วันที่ 16 ตุลาคม ระยะทาง 80.20 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณศาลาริมแม่น้ำตาปี หน้าศาลหลักเมือง ไปอำเภอท่าฉาง แล้วเข้าเส้นชัยที่หน้าวัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ลูกพระพิรุณ” ฟอร์มแรงบุกคว้าชัยนอกถิ่น นำฝูงบอลโกแฮร์ยูลีก ร่วมบัณฑิตเอเชีย-ชลบุรี

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ทีมนักเตะ “ลูกพระพิรุณ” มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยกพลไปเก็บ 3 แต้มนอกบ้านได้สำเร็จ เชือดชนะ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาครสุดมัน 4-1 โดดขึ้นนำฝูงร่วมกับบัณฑิตเอเซีย และ มกช.ชลบุรี การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย
การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ สนามกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร นัดที่ 2 คู่ที่ 10 “วาฬบลูด้า” มกช.สมุทรสาคร ที่นัดแรกบุกไปชนะ มกช.อ่างทอง มา 3-0 เปิดบ้านรับการไปเยือนของ “ลูกพระพิรุณ”มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นัดแรกชนะ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 5-0 เป็นบิ๊กแม็ตช์ประจำสัปดาห์ถ่ายทอดสดผ่าน NBT2HD และเฟซบุคยูลีกหญิง โดยเจ้าบ้าน ขนนักเตะชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึก

นำทีมโดย”พลอย” มนัญญา สนธิทิพย์ มืดฟิลด์ดาวรุ่ง กัปตันทีม พร้อมด้วย “กอตนา” แพรวา นุดนาปี กองกลางตัวเก่ง มี “เฟส” สุภาพร อินทรประสิทธิ์ เซ็นเตอร์แบ๊กเยาวชนทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี และ “สมนก” ทัศนีย์ สีเขียว กองหน้าดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจากศรีสะเกษ ในขณะที่ ทีมเยือน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ ลงสนามแบบฟูลทีม มี “บี” โศจิรัตน์ ประดิษฐษร นักเตะชุดมหาวิทยาลัยโลก “มุก” ชัชวัลย์” รอดทอง ตัวทีมชาติชุดเยาวชนทุกรุ่นอายุตั้งแต่ 14-19 ปี “แตง” สลิตา สุทธิบูล ตัวทีมชาติชุดใหญ่ และ “หมวย”จุฑามาส คล่องแคล่ว นักเตะทีมชาติชุดยู 19
​ครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมใส่กัน เล่นได้คู่คี่ สูสีกัน “ลูกพระพิรุณ”เกษตรศาสตร์ ที่ดูเก๋าเกมว่า “วาฬบลูด้า” สมุทรสาคร ครองเกมได้เหนือกว่า แต่ยังหาช่อง ส่องประตูไม่ได้ หมดครึ่งแรก สกอร์เสมอกันที่ 0-0
​ครึ่งหลัง เกมเริ่มต้นด้วยทีมเยือนเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ถึงนาทีที่ 49 สกอร์ขยับเป็นครั้งแรก เมื่อกองหลังสมุทรสาครพลาดปล่อยให้”จี” จิราพร ดำหาย หลุดเดี่ยวเข้าไปล็อคหลบ”โบ” พัชรีรัศน์ ถนอมวงษ์ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน แล้วแปผ่านเส้นประตูเข้าไป

“ลูกพระพิรุณ” นำ 1-0 ทีมเยือนที่เดินหน้าบุก และได้ประตูเพิ่มจาก “มุก” ชัชวัลย์ รอดทอง นาทีที่ 61 “หนูดี” อิรวดี มาคริส นาทีที่ 66 และปิดท้าย “หมวย” ปณิฏฐา จีรัตนะภวิบูล นาทีที่ที่ 74 นำห่างเป็น 4-0 ท้ายเกม เจ้าบ้านฮึดสู้ และได้ฟรีคิก 18 หลา “ต้นกล้า” ธวันรัตน์ พรมทองมี กดเรียดเสียบเสาไกลเป็นประตูตีไข่แตก 1-4ได้สำเร็จในนาทีที่ 81 จบเกมเจ้าบ้านแพ้ไป 1-4
​ชัยชนะนัดนี้ ส่งผลให้ “ลูกพระพิรุณ” เกษตรศาสตร์ มี 6 คะแนนเต็ม ชนะ 2 นัด นำเป็นจ่าฝูงร่วมกับ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย และ มกช.ชลบุรี ส่วน “วาฬบลูด้า” เตะ 2 นัด ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัด มี 3 แต้ม อยู่ที่ 5 ของตารางสรุปคะแนน
สรุปตารางคะแนน ฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ถึงวันที่ 18 กันยายนนี้ อันดับ 1 วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย​แข่ง 2 ชนะ ​2 เสมอ 0 แพ้ 0 ยิงได้ 16 เสีย 0 มีคะแนนสะสม 6 แต้ม อันดับ 2 มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี 2-2-0-0-17-1-6 อันดับ 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์​2-2-0-0-9-1-3 อันดับ 4 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 2-1-0-1-8-5-3

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“พรเทพ” เข้ารอบตามโผ กองทัพบกทะลุชิงปันจักสีลัตปทท.9 รุ่น

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ทีมชาติเดินหน้าเก็บชัยชนะ กองทัพบกทะลุชิง 9 รุ่น ส.ท.พรเทพ พูลแก้ว เหรียญทองซีเกมส์ 2015 จากกองทัพบก เอาชนะ ณัฐวุฒิ เชชเอม จากมกช.วิทยาเขตกรุงเทพ ส่วน “มั่ง” นิตินัย ถ้ำแก้ว คู่แฝดคนพี่ เฉือน สุรชาติ เปาะมะทีมชาติอีกคนหวิว 3-2
การแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่แคท คอนเวนชั่น ฮอลล์ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) แจ้งวัฒนะ กทม. ที่ 5 ประเภทต่อสู้ รอบรองชนะเลิศ
รุ่น อี ชาย 65-70 กก. ส.ท.พรเทพ พูลแก้ว เหรียญทองซีเกมส์ 2015 (กองทัพบก) ชนะ ณัฐวุฒิ เชชเอม (มกช.วิทยาเขตกรุงเทพ) 5-0 ผ่านเข้าไปแย่งแชมป์ กับ สุรศักดิ์ ดอกคำ (ม.ราชภัฏนครราชสีมา) ที่เอาชนะ อิทธิชัย ขุนเขามณีแก้ว (ชมรมกีฬาปันจักสีลัต แม่ฮ่องสอน) 5-0

รุ่น เอ ชาย 45-50 กก.ศึกสายเลือดทีมชาติ “มั่ง” นิตินัย ถ้ำแก้ว คู่แฝดคนพี่ดีกรีทีมขาติเหรียญทองซีเกมส์ 2019 (เมืองน้ำดำ) เฉือนเอาชนะ สุรชาติ เปาะมะ ดีกรีเหรียญทองเอเชีย ปี 2562 (มกช.วิทยาเขตยะลา) แค่ปลายจมูก 3-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ไปเจอกับ กำพล แก้วเกาะสะบ้า (มหาวิทยาลัยทักษิณ พัทลุง) ที่เอาชนะ บุญฤทธิ์ ราษรงค์ (จังหวัดพัทลุง) 5-0
รุ่น บี ชาย 50-55 กก. “มี” นิธินัย ถ้ำแก้ว คู่แฝดคนน้อง (เมืองน้ำดำ) ชนะ อาฟีกีน แซนา (มกช.วิทยาเขตยะลา) 5-0 ส่วน คณิน อันทับทิม (ม.ราชภัฏนครราชสีมา) ชนะทีเคโอ ปฏิภาณ เงินพันธุ์ (ชมรมกีฬาปันจักสีลัต จังหวัดนครสวรรค์)

รุ่น ดี ชาย 60-65 กก. อดิลัน เจ๊ะแมง ทีมชาติ ทองแดงเอเขียนเกมส์ 2018 และ ทองแดง ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ จากกองทัพบก ชนะ นิติพล ตรุษจา (มกช.วิทยาเขตสมุทรสาคร) 5-0 ผ่านเข้าไปเจอกับ อนุภาคย์ เพ็ชพูล (มกช.วิทยาเขตสุโขทัย) ที่ชนะผ่านมาแบบไม่มีคู่แข่ง
รุ่น ดี หญิง 60-65 กก.เจนจิรา หว้านเครือ (มกช.วิทยาเขตมหาสารคาม) ชนะ วารี นันทิษา (มกช.วิทยาเขตสมุทรสาคร) 5-0 วรุจรวี อุดมศรีขันธ์ (มกช.วิทยาเขตชุมพร) ชนะ บีสมิล สูหลง (มกช.วิทยาเขตยะลา) 5-0
รุ่น อี หญิง 65-70 กก. จันทิดา สุขาเขิน (มกช.วิทยาเขตสุโขทัย) ชนะ ซูไวบะห์ สามะ (มกช.วิทยาเขตยะลา) 5-0 ผ่านเข้ารอบชิงไปเจอกับ อรยา ชูสุวรรณ (พลบดี) ชนะทีเคโอ เอนอร นาคนวล (มกช.วิทยาเขตกรุงเทพ)

รุ่น เอ หญิง 45-50 กก. อส.ทพ.หญิง ฟิรดาวส์ ดุรอแม ทีมชาติเงินซีเกมส์ 2019 จากกองทัพบก เอาชนะ สุดาวดี แววสวุรรณ (อิงคนุทธบริหาร) 5-0 ผ่านเข้าไปเจอกับ อัสมา เจ๊ะมะ (มกช.วิทยาเขตยะลา) ที่เอาชนะ อรัญญา สีสองสี (ปันจักสีลัตจังหวัด สมุทรสาคร) 5-0 ในรอบชิงชนะเลิศต่อไป
รุ่น บี หญิง 50-55 กก. อส.ทพ.หญิงสุดา เหลืองอภิขาติกุล (กองทัพบก) ทีมชาติเหรียญทองซีเกมส์ 2015 ชนะ กนกพร จันทร์พิลา (มกช.วิทยาเขตยะลา) ส่วน อารียา ชาญพงษ์พันธ์ (มกช.วิทยาเขตกรุงเทพ) ชนะ สุกัญญา พรหมเพชร (พลบดี) 5-0
รุ่น เอส ชาย 40-45 กก. แบมารูวัน มาลายา (ชมรมปันจักสีลัต จังหวัด ปัตตานี) ชนะ มูอำหมัดยูฮารี อาแวกือจิ (มหาวิทยาลัยทักษิณ พัทลุง) 5-0 อับดุลเจาะ กอแน็ง (กองทัพบก) ชนะ กิติศักดิ์ ใจเอื้อ (มกช.วิทยาเขตชุมพร) 5-0
รุ่น เอส หญิง 40-45 กก. นูรีซัน ลอเซ็ง (มกช.วิทยาเขตยะลา) ชนะ อักษรสวรรค์ ร้ายไธสงค์ (เพชรหนองก่ี) 5-0 กัญญาพัชร แก้วสียา(มกช.วิทยาเขตมหาสารคาม) ชนะ ฑิฆัมพร โตสารเดช (ม.ราชภัฏนครราชสีมา) 5-0
น ซี ชาย 55-60 กก. พีรพล มิตทสาร (มกช.วิทยาเขตชุมพร) ชนะ ซำรี อาแว (เฉลิมพระเกียรติฯยะลา) 5-0 มูนีร เบ็ญซอแระ (มกช.วิทยาเขตยะลา) ชนะ ซาฟีกีน อีแต (มกช.วิทยาเขตสมุทรสาคร) 5-0
รุ่น ซี หญิง 55-60 กก. ปภาวิณี เกื้อก่อบุญ (กองทัพบก) ชนะ อุษา ถิ่นนุกูล (ชมรมปันจักสีลัต จ.สงขลา) 5-0 ชีวาพร คุณเลิศ (ชมรมกาฬสินธุ์) ชนะ ปลิตา สุดเสียงสังข์ (มกช.วิทยาเขตสมุทรสาคร) 5-0
รุ่น เอฟ ชาย 70-75 กก. กูอิบรอเฮม กูบาฮา (กองทัพบก) ชนะ พรอนันต์ ศรีสกุล (มกช.วิทยาเขตกีฬาชัยภูมิ) 5-0 ผ่านเข้ารอบไปเจอ มะรอมลี คูลี (มกช.วิทยาเขตยะลา) ที่เอาชนะ วีรยุทธ ทองนอก (ม.ราชภัฏนครราชสีมา) 5-0
รุ่น เอฟ หญิง 70-75 กก. กนกวรรณ ตลึงจิตร (กองทัพบก) ชนะ นัสยร์ ยีกาเดียก (มกช.วิทยาเขตตรัง) ส่วนอีกคู่ กมลชนก ชูลิวัลย์ (โรงเรียนประชานุเคราะห์ 39) ถอนตัว แต่ผลิต คงแก้ว (ชุมชนศรีตรัง) ชั่งน้ำหนักไม่ผ่าน ทำให้ไม่มีคู่ชนะ

รุ่น จี ชาย 75-80 กก. สุรินธร ดำเปล่า (มกช.วิทยาเขตตรัง) ชนะ พงศ์นรินทร์ ศรีโครต (กองทัพบก) 5-0 สหัสวรรษ จาปานิล (มกช.วิทยาเขตมหาสารคาม) ชนะ วชิราวุธ แก้วเกมรัตน์ (มกช.วิทยาเขตชุมพร) 5-0
รุ่น เอช ชาย 80- 85 กก. พิมพิราช ต้นเขียว ทีมชาติเหรียญทองแดง ซีเกมส์ 2017 และเหรียญเงินชายหาดชิงแชมป์โลก 2019 จากจังหวัดมหาสารคาม ชนะอาร์เอสซี สุทธิศักดิ์ ดอกคำ (ม.ราชภัฏนครราชสีมา) เข้าไปเจอกับ กัญจน์เมือง ปุริโส (มกช.วิทยาเขตมหาสารคาม) ชนะทีเคโอ ชัยณรงค์ สังข์เพชร (มกช.วิทยาเขตชุมพร)
รุ่น ไอ ชาย 85-90 กก. อส.ทพ สุวัฒน์ คงจุ้ย (กองทัพบก) ชนะ ชาตรี อินทร์แถม (มกช.วิทยาเขตชุมพร) 5-0 วรัชญ์ บัวลม (ชมรมกีฬาปันจักสีลัต จังหวัดนครสวรรค์) ชนะ กิตติชัช มณีประวัติ (มกช.วิทยาเขตตรัง) 5-0
รุ่น เจ ชาย 90-95 กก. เตชินทร์ ปกจ้าย (มกช.วิทยาเขตยะลา) ชนะ เกียรติคุณ อารีวิวัฒน์กุล (วิทยาลัยเทคโนโลยีวานิช น้าเงิน บริหารธุรกิจ) 5-0 นิติพงษ์ สันเพ็ชร (มกช.วิทยาเขตตรัง) ชนะ สิทธิชัย มากเกลื่อน (ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) 3-2

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“พล” ลิ่วเข้ารอบ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ (1)

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// นักหวดหนุ่ม มือวาง 4 พล วัฒนกูล (ปทุมธานี) ลอยลำเข้ารอบสี่ (รอบ 16 คน) ชนะ ณัฏฐญุตม์ นิธิธนนนต์ (อุดรธานี) 2 เซตรวด 7-5, 7-5 การแข่งขันเทนนิสอาชีพ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ (1) พรีเซ็นเต็ด บาย เอส เอ ที ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท เมื่อวันที่ 18 กันยายนทั่ผ่านมา ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ผลคู่ที่น่าสนใจมีดังนี้
ประเภทชายเดี่ยว รอบสาม มือวาง 4 พล วัฒนกูล (ปทุมธานี) ชนะ ณัฏฐญุตม์ นิธิธนนนต์ (อุดรธานี) 7-5, 7-5 มือวาง 1 วิชยา ตรงเจริญชัยกุล (กรุงเทพฯ) ชนะ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย (ภูเก็ต) 6-4, 6-1 มือวาง 2 พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ (ฉะเชิงเทรา) ชนะผ่าน คณาธิป ท่าไชย (กรุงเทพฯ) อนพัช ทิมางกูร (กรุงเทพฯ) ชนะ ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ (กาญจนบุรี) 6-7 (2), 7-6 (8), 6-4 แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (กรุงเทพฯ) ชนะ นพดล น้อยกอ (พิจิตร) 3-6, 6-3, 6-4 กฤติน โกยกุล (พังงา) ชนะ ปรัชญา ใบบ้ง

(กรุงเทพฯ) 6-3, 6-2 ภาธร หาญชัยกุล (กรุงเทพฯ) ชนะ วรชน รักษ์ปวงชน (กรุงเทพฯ) 6-4, 7-5 กิติรัตน์ เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ ศุภศิษฏ์ อภิธนวิทย์ (นนทบุรี) 6-2, 6-0 พงศภัค เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ แทนตะวัน แมคจิโอริ (กรุงเทพฯ) 6-2, 6-2 ชนน พูลสวัสดิ์ (กรุงเทพฯ) ชนะ ทศ พึ่งรัศมี (ลำปาง) 6-3, 6-2 ธีรดนย์ ต่อตระกูล (กรุงเทพฯ) ชนะ ภวินทร์ จิรภูมิเดช (กรุงเทพฯ) 6-4, 6-1 ยุทธนา เจริญผล (อ่างทอง) ชนะ วรุตม์ ก่อเกียรติถาวร (กรุงเทพฯ) 6-3, 6-4 รตน ไตรพจน์ (นนทบุรี) ชนะ พศวีร์ เหรียญสุวงษ์ (ฉะเชิงเทรา) 6-1, 6-0 นวกานต์ ขุนจันทร์ (กรุงเทพฯ) ชนะ ธนเพชร ฉันทะ (ประจวบคีรีขันธ์) 2-6, 6-3, 7-5 ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ (ระยอง) ชนะ ภาสวิชญ์ บูรพาฤทธา (กรุงเทพฯ) 3-0 (ภาสวิชญ์ ขอยอมแพ้เนื่องจากท้องเสีย)

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์