https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160056116710050655
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ (UNITED NATIONS) ได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล และขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนาใฝ่หาสันติ” หรือ Participation, Development and Peace เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชน อันหมายถึงหนุ่มสาว ที่มีอายุตั้งแต่ 18–25 ปี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตและสามารถช่วยสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ (สยช.) ในขณะนั้น ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ขอความเห็นชอบให้มี วันเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 กำหนดให้วันที่ 20กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ

โดยใช้คำขวัญเดียวกันกับคำขวัญปีเยาวชนสากลคือ“Participation Development and Peace” หรือมีความหมายเป็นภาษาไทยว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ”

ให้มีเครื่องหมายตามปีพุทธศักราช 2517 ตามที่สำนักงานเยาวชนแห่งชาติ เสนอต่อคณะกรรมการบริหารและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ว่า เพื่อประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินงานเยาวชนของชาติสมควรที่จะขอพระราชทาน “เครื่องหมายเยาวชนแห่งชาติ” ใช้เป็นสัญลักษณ์ผูกพันพลังน้ำใจ และเป็นเครื่องยึดมั่นสักการบูชาร่วมกันของบรรดาเยาวชน กลุ่มเยาวชน และหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับเยาวชน จนมีพระบรมราชานุญาต
ให้นำพระมหาพิชัยมงกุฎใช้ประกอบเป็นเครื่องหมาย โดยมีรูปลักษณะของเครื่องหมาย เป็นรูปโล่สีธงชาติ มีอักษรคำว่า “เยาวชน” สีขาวอยู่ในวงกลมพื้นสีเขียว เบื้องบนเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ มีรัศมี อุณาโลม เบื้องล่างมีอักษรสีแดงว่า พลัง พัฒนา ชาติ รองรับด้วยรวงข้าว 9 รวง แยกอยู่ทางด้านขวา 5 รวง ด้านซ้าย 4 รวง

นอกจากนี้ความสำคัญของวันที่ 20 กันยายนยังเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 ซึ่งทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติในขณะที่ทรงพระเยาว์ จึงถือได้ว่าเป็นวันสิริมงคลที่เยาวชนควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ที่เยาวชนควรกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองและประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ เฉกเช่นยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์

สำหรับความหมายของคำว่า เยาวชน เดิมมีผู้กำหนดไว้แตกต่างกัน แต่ภายหลังที่พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2551 ได้กำหนดความหมายคำว่า “เด็ก” และ “เยาวชน” ไว้ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ว่า “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และ “เยาวชน” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ถึงยี่สิบห้าปีบริบูรณ์

อย่างไรก็ตามเป้าหมายของวันเยาวชนแห่งชาติ ที่สำคัญ มี 3 ประการ คือ
1.เพื่อให้เยาวชนช่วงอายุ 18-25 ปี ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ
2. เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนให้เป็นทรัพยากรบุคคล ที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติ ทั้งในด้านคุณภาพและคุณธรรม
และ 3. เพื่อให้นโยบายส่งเสริม และพัฒนาเยาวชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องสัมฤทธิ์ผล

ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตนเอง สังคม และประเทศชาติต่อไป:Cr;มณสิการ รามจันทร์

+++++++++

http://www.natethip.com/news.php?id=3010
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3009
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันสนุ้กเกอร์อาชีพเก็บสะสมคะแนนประจําปี 2563 รายการ ที 5 P80-True Hua Hin Cup 2020 ที่โรงแรมหัวหิน แกรนด์โฮเทล แอนด์ พลาซ่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ชิงเงินรางวัล 1,134,000 บาท เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยมี นายประยง จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน และนายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธาน เป็นการดวลคิวนัดชิงชนะเลิศ ระบบ 4 ใน 7 เฟรม

นัดชิงเป็นการปะทะคมคิวของ “นุ้ก สงขลา” กฤษณัส เลิศสัตยาทร วัย 31 ปี อดีตมือ 89 ของโลก เมื่อซีซั่น 2017 และแชมป์เอเชีย ที่คว้าแชมป์สะสมคะแนนมาแล้ว 6 รายการ ดวลกับ “ชิม ศิษย์ต่าย” กอบกิจ พลาจิน อดีตรองแชมป์เยาวชนโลก ที่ได้แชมป์แรงกิ้งมาแล้ว 1 รายการ วัย 35 ปี โดยมีรางวัลพิเศษหากใครสามารถทำ “แม็กซิมั่มเบรก” ไม้เดียว 147 แต้ม จะได้รับเงินรางวัลจาก อีมิเน้นท์ แอร์ 5 แสนบาท รวมทั้ง โต๊ะสนุ้กไรเลย์ จากโอภาส สุวรรณราช หรือ ตี๋ พีทีเอส 1 ตัว

ปรากฏว่า นุ้ก สงขลา เป็นฝ่ายไล่ตามตลอด 0-2 และ 2-3 แต่ในเฟรมที่ 6 นุ้กเข้าเบรค 50 ตีเสมอเป็น 3-3 ต้องตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย ก่อนที่นุ้กจะเบียดเอาชนะไปได้ 4-3 เฟรม ด้วยสกอร์35-74,32-77,69-58,52-19,51-61,93-0,54-35 รับเงินรางวัลไป 200,000 บาท ส่วน ชิม ศิษย์ต่าย รับเงินไป 80,000 บาท
ทั้งนี้ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น มีการแข่งขันนัดพิเศษ ชิงดำ 3 ใน 5 เฟรม ระหว่างคู่ชิงชนะเลิศสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2563 “ใบพัด ศรีราชา” ศิริภาพร นวนทะคำจัน พบกับ “แอม นครปฐม” วรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนส ผล ใบพัด ชนะ 3-1
สำหรับการแข่งขันรายการสะสมคะแนนสนามต่อไป รายการที่ 6 ที่ จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 12-17 ตุลาคม นี้

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3008
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3007
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3006
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันเทนนิสอาชีพ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ (1) พรีเซ็นเต็ด บาย เอส เอ ที ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ซึ่งได้ผลกระทบจากพายุ “โนอึล” ทำให้เกิดฝนตก ๆ หยุด ๆ ตลอดทั้งวัน โดยมีผลที่แข่งขันเสร็จแล้วมีดังนี้
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบสอง พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช (กรุงเทพฯ) ชนะ ทรรศพร นาคหล่อ (กรุงเทพฯ) 6-4, 3-6, 6-2 มือวาง 1 ณัฐนิดา หลวงแนม (กรุงเทพฯ) ชนะ ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล (สิงห์บุรี) 3-6, 6-1, 6-0 มือวาง 2 พัชรินทร์ ชีพชาญเดช (ขอนแก่น) ชนะ รดา มานะทวีวัฒน์ (กรุงเทพฯ) 6-2, 4-6, 6-1 กมลวรรณ บัวแย้ม (ชลบุรี) ชนะ ภาวินี ร่วมรักษ์ (กรุงเทพฯ) 7-6 (5), 6-4 สลักทิพย์ อุ่นเมือง (นนทบุรี) ชนะ ธมจันทร์ มอมขุนทด (นครราชสีมา) 6-2, 7-6 (1) ลัลนา ธาราฤดี (นครศรีธรรมราช) ชนะ ณัชชารีย์ ธีรโชติจิรานนท์ (ประจวบคีรีขันธ์) 6-2, 6-1 พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ (ฉะเชิงเทรา) ชนะ พิชญธิดา จันทร์แดง (นครศรีธรรมราช) 6-3, 6-1
ประเภทชายเดี่ยว รอบสี่ (รอบ 16 คน) แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (กรุงเทพฯ) ชนะ ชนน พูลสวัสดิ์ (กรุงเทพฯ) 3-6, 6-2, 6-3 กิติรัตน์ เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ อนพัช ทิมางกูร (กรุงเทพฯ) 6-0, 2-6, 6-4 พงศภัค เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ กฤติน โกยกุล (พังงา) 6-4, 6-4 มือวาง 1 วิชยา ตรงเจริญชัยกุล (กรุงเทพฯ) ชนะ รตน ไตรพจน์ (นนทบุรี) 6-4, 6-2 )

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์