พิมพ์ไทยออนไลน์// ปิดฉากศึกกีฬาใหญ่ “SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020” ชื่นมื่น “ศักดิ์ฎา-ไอริณ” กวาด3แชมป์กระดานยืนพาย ขณะที่ อีสปอร์ต ชิงชัยสุดคึกคัก เจ้าบ้านภูเก็ตปลื้มช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ประกาศเดินหน้าต่อลุยจัดกีฬาช่วยฟื้นฟูจังหวัด
นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีปิดการแข่งขันกีฬารายการ “SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020” โดยมี นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ คณะกรรมการบอร์ด กกท. และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต และนายวุฒิชัย ชัยจิตย์ ผู้อำนวยการกองบริการอาคารและกิจกรรมกีฬากกท. ร่วมด้วย ที่ปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 กันยายน
การแข่งขันกีฬา “SAT-PHUKET Sports World Invitation 2020” เป็น 1 ใน 2 สนามแข่งขันมหกรรมกีฬาใหญ่ “SAT Thailand World Invitation 2020” โดยสนามแรกนี้จัดที่ จ.ภูเก็ต ชิงชัย 2 ชนิดกีฬาคือ อีสปอร์ต ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า และกระดานยืนพาย (SUP) ที่ปลายแหลมสะพานหิน จ.ภูเก็ต โดยจัดตามมาตรฐานของสหพันธ์อีสปอร์ตนานาชาติ และสหพันธ์กีฬากระดานโต้คลื่นนานาชาติ
ผลกระดานยืนพาย (SUP) ปรากฏว่า “หมัด” ศักดิ์ฎา วันยาเล หนุ่มชาวสมุทรปราการวัย 38 ปี โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกวาด 3 แชมป์ด้วยกัน ประกอบด้วย ประเภท Technical Race ชาย 52.39 นาที, ประเภท Sprint ชาย 1 ชั่วโมง 40.06 นาที และประเภททีมผสม ในชื่อทีม Aztron Thailand ที่อยู่ร่วมทีมกับ “แพท” พุทธรักษา นีกรี เรือพายหญิงทีมชาติไทย, ศิระ งามจรรยาภรณ์ และไอริณ นีกรี ช่วยกันทำเวลาได้ 12.45 นาที
ขณะที่ ไอริณ นีกรี สาวน้อยวัย 18 ปี แม่ฮ่องสอน หลานของ “แพท” พุทธรักษา นีกรี คว้าได้รวม 3 แชมป์เช่นกันประเภททีมผสม, Technical Race หญิง ทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 6.42 นาที และรุ่น Sprint 1 ชั่วโมง 55.26 นาที ด้านแชมป์ประเภททีมชาย MR.tik ประกอบด้วย จิตกร สีวังราช, ดุลยนัย แซ่อึ่ง, พศิน ศรีสุดดี และณฐภัทร โกแม ช่วยกันทำเวลาได้ 11.54 นาที และประเภททีมหญิง 40ยังแจ๋ว ประกอบด้วย ภาณินี พรหมเสน, ธนัชกัญ สุนทรวงษ์, สิรินทิพย์ ไทรทอง, ปวีทิพย์ วัชรแสงไท ช่วยกันทำเวลาได้ 14.39 นาที
ส่วนอีสปอร์ต แชมป์ประเภทเกม AOV ตกเป็นทีม Synergy อันดับ 2 ทีม RAVANA และอันดับ 3 ทีม SiamLaserGames.MHEECOOL ส่วนประเภทเกม Tekken7 แชมป์ ภูวิศ จิตรธรรมวงศ์ (Uncle Ben), อันดับ 2 จีรพงศ์ มงคลสมบัติศิริ (Juiestorm) และอันดับ 3 รัชวิน ธนสุนทรกูร (Shin Kumram)
ด้านประเภทเกม PES2020 แชมป์ นันทชัย นครไทย (เจมส์จอมเวทย์) อันดับ 2 จิรพันธุ์ พลบูรณ์ (SUNSHIRO) และอันดับ 3 วรวิช อนันตรักษ์ (AKANICHI)
นายสุพจน์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยมีนักกีฬาที่มีศักยภาพระดับสากล รวมทั้งภูเก็ต และไทยก็มีความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติผ่านภาพความสำเร็จของรายการนี้ ขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย กกท. ที่เลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน รวมทั้งขอบคุณหน่วยงานต่างๆ และชาวภูเก็ตในการร่วมมือร่วมใจเป็นเจ้าบ้านที่ดี
เชื่อมั่นว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้จะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อการพัฒนาประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการส่งเสริมกีฬาอีสปอร์ต และกีฬากระดานยืนพาย ทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชน เพื่อคืนความมั่นใจกลับ มาสู่จังหวัดภูเก็ต และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยของเรา”
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า หลังจากภูเก็ตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ช้การจัดกีฬามากระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากนี้ก็นำกีฬามาจัดในทุกสัปดาห์ ปลายปีนี้ภูเก็ตเตรียมจัดแข่งขันเรือฟอร์มูล่าวันทางทะเล และจัดงานยอร์ชโชว์ด้วย เพื่อกระตุ้นให้ภูเก็ตคึกคัก และมีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้ประเมินว่าจะมีการใช้จ่าย 7,500 บาทต่อคน ยิ่งเข้ามามากเท่าไรก็เอาจำนวนคูณเข้าไป
ขณะที่ นายธรรมวรรธ กล่าวว่า ภูเก็ตพยายามหากิจกรรมให้คนไทยเที่ยวไทย ซึ่งได้นำกีฬานำหน้ามาช่วยดึงคนต่างจังหวัดเข้ามา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกับรายการนี้ โดยถือว่ามีผู้เดินทางมาเข้าชมจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้เข้าพักโรงแรมจำนวนมาก จากนี้ในวันที่ 16 ตุลาคม นำนักฟุตบอลทีมอะคาเดมีหมูป่า จ.เชียงราย แข่งขันนัดฟุตบอลนัดพิเศษกับทีมเยาวชน 15 ปีของ จ.ภูเก็ต และคู่ระหว่างทีมเยาวชน 17 ปีของ จ.ภูเก็ต พบ จ.พังงา ที่สนามกีฬาสุระกุล อีกด้วย
สำหรับรายการที่สอง “SAT-SISAKET Esports World Invitation 2020” จะจัดที่ Theatre Hall อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 25-27 กันยายนนี้ โดยแข่งขันอีสปอร์ตนักกีฬาภายในประเทศ 3 เกม คือ AOV, Tekken7 และ PES2020 ผู้สนใจสามารถติดตาม และส่งกำลังใจได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ SAT Thailand World Invitation
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในการสัมมนา พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม ออนไลน์ 80 ห้องประชุมกว่า 154 คนการสัมมนาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอร่างรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ประกอบด้วยสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม และประเด็นสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่สำคัญ พ.ศ. 2563 รวมทั้ง ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน นำมาปรับปรุงร่างรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ให้มีความสมบูรณ์ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2563 พร้อมมอบโล่เกียรติยศและเกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี 2563 โดยมีนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหนังสือวันเยาวชนแห่งชาติ เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน พุทธศักราช 2563 แด่ผู้แทนพระองค์ 
พร้อมด้วยนางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนกล่าวรายงาน และนางเทพวัลย์ ภรณวลัย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เบิกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ผู้แทนองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้แทนกลุ่มเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ เข้ารับโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร จำนวน 11 สาขา รวมทั้งสิ้น
นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (UNITED NATIONS) ได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” (Participation, Development and Peace) เพื่อที่จะมุ่งเน้นให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตและสามารถช่วยสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้ง เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ 
นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูและสนับสนุนสร้างแรงจูงใจแก่ ผู้ทำคุณงามความดี มีความสามารถเป็นแบบอย่าง มีสภาวะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมากขึ้น สามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ 69 ราย ประเภทกลุ่มเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ 11กลุ่ม ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน 13 ราย ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน 8 องค์กร แบ่งเป็น 11 สาขา ได้แก่ 1. สาขากฎหมายและการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน 2. สาขาการศึกษาและวิชาการ 3. สาขากีฬาและนันทนาการ 4. สาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 5. สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6. สาขานวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ 7. สาขาพัฒนาเยาวชนบำเพ็ญประโยชน์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน 8. สาขาศิลปวัฒนธรรม 9. สาขาศีลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม 10. สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม 11.สาขาอาชีพ รวมทั้งสิ้น 101 ราย 
“วันที่ 20 กันยายน เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ” อยากฝากให้เยาวชนทั่วประเทศได้แสดงพลังของตนเอง เพื่อให้ชุมชนและสังคม เห็นความสำคัญ ประกอบกับวัยเยาวชนเป็นวัยที่มีพลัง กล้าคิด กล้าแสดงออก พร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพและแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ประเทศชาติ ตามคำขวัญวันเยาวชนที่ว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” นางสุภัชชา กล่าวทิ้งท้าย: