วันเสาร์, มิถุนายน 28, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2107

บีทีเอส พบองค์กรอิสระ คัดค้านเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขรถไฟฟ้า สายสีส้ม

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // บีทีเอส ยึ่นหนังสือองค์กรต่อต้าน​คอร์รัปชั่น คัดค้านการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้ม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 กันยายน 2563 ณ ชั้น 16 อาคารศรีจุลทรัพย์ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นหนังสือถึง ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อร่วมตรวจสอบกรณีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 มติของคณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชนเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการฯ

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

แจ้งว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่ให้โอกาสมาแลกเปลี่ยนความรู้ และขอบคุณ พี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความสนใจเรื่องนี้

วันนี้ ที่ทางบีทีเอสได้มาพบองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อปรึกษา และร่วมกันตรวจสอบการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“ ประเด็นหลักคือขายซองไปแล้ว และมีการปรับเปลี่ยนทีโออาร์สาระสำคัญหรือการประเมิน บีทีเอส มองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องยื่นศาลปกครองในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ใช้กติกาในการประเมินอย่างเดิม เพราะกติกาเดิมเรามองว่าเป็นกติกาที่โปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งเป็นกติกาที่ใช้ในโครงการอื่นมาตลอด โดยบีทีเอสก็เป็นหนึ่งผู้เข้าร่วมการประมูลมาตลอดเช่นกัน และโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ใช้การประมูล โดยการให้คะแนนเทคนิคมารวมกับราคา ประเด็นนั้นบีทีเอสมองว่าขึ้นอยู่กับวิธีการให้คะแนน พอรวมกับคะแนนเทคนิคก็ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจค่อนข้างเยอะอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันครบกำหนดที่ จะต้องมีการยื่นซองประมูลแล้ว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่ทันได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ไม่ได้มีอำนาจทางกฎหมายที่จะเข้าไปดำเนินการเรื่องนี้โดยตรง แต่เราให้ความสนใจในเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินการประมูลโครงการต่างๆ ของรัฐ ซึ่งโครงการที่เกี่ยวกับการประมูล เมกะโปรเจคต์ต่างๆ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันก็ได้มีส่วนร่วมมาหลายโครงการ สำหรับโครงการนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีผลประโยชน์สูงสุด ในบรรดาเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นๆ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนกติกา ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้
“ เมื่อออกทีโออาร์แล้ว ขายซองแล้ว ถ้าเป็นการค้าเอกชนเท่ากับเห็นตัวผู้ชกแล้ว เราจะรู้ทันทีว่าแต่ละรายที่เขามาแข่งขันมีจุดเด่นจุดแข็งอย่างไร เราจะรู้ว่าถ้าจะเอาชนะคู่แข่งรายนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้ามาเปลี่ยนกติกาหลังจากรู้ตัวผู้ซื้อซองแล้ว ถือว่าไม่ยุติธรรม”
ดร.มานะ กล่าวต่อว่า “สำหรับรถไฟฟ้าที่ผ่านมา 3 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ทั้ง 3โครงการนี้รัฐบาลกำหนดให้ใช้ข้อตกลงคุณธรรมในการประมูลและสร้างความโปร่งใส ถ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รัฐบาลประกาศใช้ข้อตกลงคุณธรรมเช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ โดยให้ประชาชนเข้ามาเป็นตัวกลาง ร่วมรู้เห็นเพื่อสร้างความโปร่งใส และเป็นธรรมอันนี้ก็จะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติได้เป็นอย่างมาก”

Cr.:นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ดร.สาธิต” ยกย่อง “สองล้อ” สมาคมต้นแบบ จัด “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ป้องกัน “โควิด-19” เข้มงวด

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal พร้อมด้วย พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุน ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ ห้องวาสนา โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน

การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ระหว่างวันที่ 6-16 ตุลาคมนี้ โดยประเภททีมชายแข่งขันระหว่างวันที่ 6-11 ตุลาคม เส้นทางจังหวัดสมุทรสงคราม – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร – ระนอง และสุราษฎร์ธานี รวมระยะทาง 939 กิโลเมตร ส่วนประเภททีมหญิง ระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม เส้นทางภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 261.90 กิโลเมตร
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างมาก ซึ่งมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดติดอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้นการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ โดยมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั่วโลกถึงความเข้มแข็งด้านสาธารณสุขของประเทศ อีกทั้งยังเป็นสมาคมต้นแบบการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติให้แก่สมาคมกีฬาอื่น ๆ
พลเอกเดชา กล่าวว่า หลังจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ออกบทเฉพาะกาลให้ผ่อนปรนเรื่องจำนวนทีมและกฏระเบียบให้จัดการแข่งขัน “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ได้ในระดับ 2.1 ตามปกติ สมาคมกีฬาจักรยานฯ เข้าหารือกับ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ พร้อมคณะทำงานเพื่อวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะนำเสนอไปยัง ศบค. จนกระทั่งผ่านความเห็นชอบ จากนั้นได้นำเรียนถึงมาตรการดังกล่าว จนได้รับการอนุมัติให้จัดการแข่งขัน

สมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจจากทุกภาคส่วนว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมต่างชาติทุกคน ที่เข้ามาในเมืองไทยจะต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของ ศบค. เป็นระยะเวลา 14 วัน ในโรงแรมที่ร่วมเป็นสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก Alternative State Quarantine (ASQ) นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมต่างชาติจะต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนมาจากประเทศต้นทางภายใน 72 ชั่วโมง ต้องทำประกันภัยโควิด-19 ในวงเงิน 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,100,000 บาท ต่อคน
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับนักกีฬาทั้งชาวไทยและนักกีฬาต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย เจ้าหน้าที่สมาคมฯ ผู้ตัดสิน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับทีมทุกคน มีจำนวนประมาณ 200 คน จะต้องรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกคน วันที่ 4 ตุลาคม ที่โรงแรมธำรงอินน์ ส่วนระหว่างการแข่งขันไปยังจังหวัดต่าง ๆ จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ติดตามขบวนไปตลอดเส้นทาง เพื่อให้คำแนะนำนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่จุดปล่อยตัวและเข้าเส้นชัยในแต่ละจังหวัด จะลดพิธีการต่าง ๆ ลง จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 50 คน และไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าชม ให้ชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และ ยูทูบ

มร.มาร์ติน บรูอิน ผู้ตัดสินนานาชาติของ ยูซีไอ ซึ่งอยู่ระหว่างเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของ ศบค. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวีดีโอคอลมายังห้องแถลงข่าวว่า นับตั้งแต่เดินทางมาถึงไทย ได้รับการดูแลอย่างดีมาก ขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ รัดกุม มีคนมาชี้แจงข้อมูลอย่างละเอียด มีรถตู้มารับโดยให้นั่งเพียง 3 คน เมื่อมาถึงโรงแรมก็ได้รับการตรวจโควิดจากทีมแพทย์ ได้เข้าพัก 1 คนต่อ 1 ห้อง มีพยาบาลดูแลอย่างดี นับว่าสมาคมกีฬากีฬาจักรยานฯ มีมาตรการรัดกุมมากในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ และถือเป็นการแข่งขันเพียงรายการเดียวในทวีปเอเชีย ที่จัดได้ในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด
สำหรับทีมที่เข้าแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ประเภททีมชาย มีจำนวน 12 ทีม มีนักกีฬาจาก 10 ชาติ แบ่งเป็นระดับคอนติเนนตัล 2 ทีม ได้แก่ ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม, ทีมไบค์ เอด จากเยอรมนี / ระดับทีมชาติ 1 ทีม ได้แก่ ทีมชาติไทย / ระดับสโมสร 9 ทีม ได้แก่ ทีมรู้ใจดอทคอม, ทีมวู้ดแลนด์, ทีมแกรนต์ ธอร์นตัน, ทีมเดอะ มาสเตอร์ เทสต์ ทีม, ทีมเมน อิน แบล็ค, ทีมออลสตาร์ ไทยแลนด์, ทีมอีเอ็น เคเคยู, ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ และ ทีมเลนโซ ไซคลิง ทีม โดยแต่ละทีมจะมีนักกีฬาจำนวน 6 คน และเจ้าหน้าที่ประจำทีม 3 คน รวมทั้งสิ้น 108 คน
ประเภททีมหญิง มีจำนวน 11 ทีม มีนักกีฬาจาก 9 ชาติ แบ่งเป็นทีมระดับคอนติเนนตัล 1 ทีม ได้แก่ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม / ระดับทีมชาติ 1 ทีม ได้แก่ ทีมชาติไทย / ระดับสโมสร 9 ทีม ได้แก่ ทีมโคลนาโก ซีเอ็ม ทีม จากโคลอมเบีย, เคจีบี จากอินโดนีเซีย, ทีมยูไนเต็ด ไซคลิง ทีม, ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์, ทีมไพรม 19, ทีมอีเอ็น เคเคยู, ทีมเวนน์ ไซคลิง, ทีมทีซีพี และ ทีมคิตเช่น ควีนส์ โดยแต่ละทีมจะมีนักกีฬาจำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่ประจำทีม 3 คน รวมทั้งสิ้น 88 คน.

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“กษิดิศ” ทะลุเข้ารอบสาม เทนนิสอาชีพ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ (2)

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// นักหวดหนุ่มดีกรีทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ กษิดิศ สำเร็จ (กรุงเทพฯ) ทะลุเข้ารอบสาม หลังหวดชนะ แดนนี่ บาราท (ชลบุรี) 2 เซตรวด 6-1, 6-1 การแข่งขันเทนนิสอาชีพ ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ (2) พรีเซนเต็ด บาย เอส เอ ที ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ผลคู่ที่น่าสนใจมีดังนี้
ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง มือวาง 2 กษิดิศ สำเร็จ (กรุงเทพฯ) ชนะ แดนนี่ บาราท (ชลบุรี) 6-1, 6-1 สิรวิชญ์ สุดเนตร (อำนาจเจริญ) ชนะ ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ (กาญจนบุรี) 6-2, 6-4 มือวาง 1 วิชยา ตรงเจริญชัยกุล (กรุงเทพฯ) ชนะ อลงกรณ์ อาหลี (ยะลา) 6-1, 6-0 มือวาง 3 คงทรัพย์ คงคา (กรุงเทพฯ) ชนะ ทรงฤทธิ์ เดวิด จั่นบุบผา (กรุงเทพฯ) 6-0, 6-0 มือวาง 4 พล วัฒนกูล (ปทุมธานี) ชนะ ศุภเศรษฐ์ สินเจริญวัฒนา (ชุมพร) 6-1, 6-1 วรชน รักษ์ปวงชน (กรุงเทพฯ) ชนะ พศวีร์ เหรียญสุวงษ์ (ฉะเชิงเทรา) 6-4, 6-7 (4), 6-2 ยุทธนา เจริญผล (อ่างทอง) ชนะ อภิวิชญ์ โรจน์พิบูลย์พันธ์ (กรุงเทพฯ) 6-1, 6-1 ชนน พูลสวัสดิ์ (กรุงเทพฯ) ชนะ ปัณณธร สุกสด (กรุงเทพฯ) 6-1, 6-1 กฤติน โกยกุล (พังงา) ชนะ นิธิวัต จิตต์แย้ม (ชลบุรี) 6-4, 6-1 พงศภัค เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ ณัฐดนัย สินเจริญวัฒนา (ชุมพร) 6-2, 6-0 รตน ไตรพจน์ (นนทบุรี) ชนะ ต้นกล้า มุละดา (ลำพูน) 6-0, 6-0 ธรรมรัฐ คำชัย (เชียงใหม่) ชนะ พลกฤษฎิ์ แซ่อึ้ง (ขอนแก่น) 6-1, 6-2 ภวินทร์ จิรภูมิเดช (กรุงเทพฯ) ชนะ ภัทรายุ ชุมเพ็ชร์ (ปทุมธานี) 6-2, 6-1 ฐานทัพ สุขสำราญ (ลพบุรี) ชนะ วรุตม์ ก่อเกียรติถาวร (กรุงเทพฯ) 6-1, 6-1 กิติรัตน์ เกิดลาภี (กรุงเทพฯ) ชนะ มุ่งมั่น โอมอารักษ์ (นครศรีธรรมราช) 6-3, 6-0

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล (สิงห์บุรี) ชนะ ธนัชพร ยังโหมด (ชลบุรี) 7-5, 4-6, 6-3 พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช (กรุงเทพฯ) ชนะ ณัชชารีย์ ธีรโชติจิรานนท์ (ประจวบคีรีขันธ์) 6-0, 6-2 ยิ่งลักษณ์ จิตตะโคตร์ (กรุงเทพฯ) ชนะ สลักทิพย์ อุ่นเมือง (นนทบุรี) 6-1, 6-2 ณัฐพัชร์ ผิวบางรักษ์ (กรุงเทพฯ) ชนะ ภัทรวดี อธิษฐ์โภคิน (กระบี่) 6-1, 6-2 รดา มานะทวีวัฒน์ (กรุงเทพฯ) ชนะ กมลวรรณ บัวแย้ม (ชลบุรี) 6-2, 4-3 (กมลวรรณ ขอยอมแพ้ เนื่องจากเจ็บแขนขวา) เมลิสสา เซ (กรุงเทพฯ) ชนะ ช่อลดา หาสุข (สมุทรปราการ) 6-1, 6-3 ร่มเกล้า ยืนยาว (อุบลราชธานี) ชนะ กัญญาณัฐ สุดสะอาด (ขอนแก่น) 6-0, 6-1 ภัณฑิลา นามวงศ์ (กรุงเทพฯ) ชนะ อชิรญา เดชะปัญญา (ระยอง) 6-0, 6-0 สุวีร์ชยา บุญเลี้ยง (ชลบุรี) ชนะ นิศาชล แอลฟา คงนิล (อุดรธานี) 6-0, 6-0
ภาวินี ร่วมรักษ์ (กรุงเทพฯ) ชนะผ่าน อมารี เสตติวงศ์ (กรุงเทพฯ)

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“บาค” ต่อสายหารือ นายกฯ ญี่ปุ่น เจ้าภาพมุ่งมั่นจัดโอลิมปิก ปีหน้า

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เผย โธมัส บาค ประธานไอโอซี ต่อสายตรงถึง โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเจ้าภาพยังมุ่งมั่นที่จะรับหน้าที่จัดโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ ในปีหน้า เหมือนเดิม ภายใต้ความปลอดภัยของนักกีฬา และผู้ชม จากปัญหาไวรัสโควิด-19 ซึ่ง ประธานไอโอซี วางแผน จะเดินทางไปพูดคุยกับนายกฯ ญี่ปุ่น ด้วยตัวเอง อีกครั้ง ในเดือนต.ค.นี้
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล่าวว่า โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น และ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ต่อโทรศัพท์หารือเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน โอลิมปิก โตเกียว 2020 ซึ่งเลื่อนไปจัดในปี 2021 เป็นเวลา 15 นาที และได้ข้อสรุปในการยืนยันจัดการแข่งขันตามกำหนดที่วางไว้ก่อนหน้านี้ คือ ระหว่างวันที่ 23 ก.ค.- 8 ส.ค. 2021 ที่ กรุงโตเกียว
โดยการประชุมผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรกระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่น กับ ไอโอซี ครั้งนี้ เพื่อประสานงานการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ หลังจาก ซูกะ เข้ารับตำแหน่งแทน ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลาออกไปจากปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งการหารือเป็นไปด้วยดี
ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า ในการหารือครั้งนี้ ซูกะ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการทำให้จัดโอลิมปิกเกมส์ ที่ปลอดภัยสำหรับนักกีฬา และผู้ชม ท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไม่มีทีท่าจะบรรเทาลงในเวลานี้ และจะมีมาตรการสำคัญเพื่อส่งข้อความให้คนทั่วโลกมั่นใจที่จะเดินทางเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้ บาค หวังที่จะเดินทางไปพูดคุยกับ ซูกะ ด้วยตัวเอง เดือน ต.ค.นี้
ขณะเดียวกัน คุณหญิงปัทมา ยังได้ระบุด้วยว่า ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ก็ได้ย้ำในโอกาสเดียวกันนี้ว่า กรุงโตเกียว จะยังคงเดินหน้าตามแผนเดิมในการจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ในส่วนของมาตรการจัดการกับไวรัสนั้น จะทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นกับรัฐบาลกลาง ในการเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล และเพิ่มจำนวนการตรวจหาเชื้อ
ทั้งนี้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย ได้ส่งจดหมาย ร่วมแสดงความยินดีกับ โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ ไปเรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ คุณหญิงปัทมา และ ซูกะ มีความใกล้ชิดกันมาก ด้วยมีการหารือทางด้านกีฬา ร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก คุณหญิงปัทมา ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือการจัดกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 และประสานความร่วมมือด้านกีฬากับเมืองอาคิตะ บ้านเกิดนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อันเป็นประโยชน์ต่อวงการกีฬาไทย เป็นอย่างยิ่ง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

แบงก์ชาติเข้มสกัดแบงก์ฟอกเงิน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3035
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

โกแฮร์ยูลีกหญิง ใจป้ำแจกทองผู้ชม เอ็นบีที.ยิงสดบ่ายสามโมง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “โกแฮร์ยูลีกหญิง” คึก นักธุรกิจชาวมหาชัยร่วมเป็นเจ้าภาพเกมนัด “วาฬบลูด้า” มกช.สมุทรสาคร เปิดบ้านรับ “ฉลามสาว” มกช.ชลบุรี งัดกลยุทธ “แจกทอง” ดึงผู้ชมเข้าสนาม ด้านเอ็นบีที 2 เอชดี ถ่ายทอดสด 15.00 น.
“คุณแพร” น.ส.บุญธิดา ตันตยานุรักษ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โกแฮร์ยูลีกหญิง” ประจำปี 2563 เผยว่า การแข่งขันประจำสัปดาห์ที่ 4 “วาฬบลูด้า” มกช.สมุทรสาคร เปิดถิ่นสนามกีฬามหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร รับการมาเยือนของ “ฉลามสาว” มกช.ชลบุรี วันศุกร์ที่ 25 กันยายนนี้ โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที 2 เอชดี เวลา 15.00 น.

เพื่อเป็นการสร้างความคึกคักให้กับการแข่งขัน รวมไปถึงสร้างกระแสความนิยมของฟุตบอลหญิง จะเป็นส่วนหนึ่งการร่วมพัฒนาวงการแข้งสาวไทยในอนาคต ได้ประสานกับทางกลุ่มนักธุรกิจภายใน จ.สมุทรสาคร ให้ช่วยกันร่วมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันนัดนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในส่วนของผลิตภัณฑ์และของรางวัลที่จะมอบให้กับผู้ชมอย่างมากมาย

“สำหรับผู้เข้าชมเกมในสนามนัดนี้ ได้รับแจกยาสีฟันดอกบัวคู่ และวิตามินซี คนละ 1 หลอด นอกจากนี้ได้รับบัตรชิงโชครถจักรยาน 1 คัน และแหวนทองคำ รวม 4 วง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บ.เอส.วาย.นูทริชั่น จำกัด โดย นายอเนก รวมภักดีกุล และ น.ส.ยุวดี พรมแสง รวมถึงเงินค่าอาหารเลี้ยงนักกีฬา 10,000 บาท จากคุณพรรณวิภา ศุภธนพัฒน์ และคุณปกรณ์สินธ์ ทิพยจันทร์”
ขณะเดียวกันผู้ชมทุกคนได้อิ่มอร่อยกับไอศกรีม ที่ “พุงฟาร์ม” ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขัน รวมไปถึงข้าวเกียบปลาช่อน ของดีเมืองสิงห์บุรี โดยนายนัฐยุทธ ภู่สุวรรณ บ.ส.บุญเรือง กรุ๊ป จำกัด ที่นำมาแจกให้กับทุกคน

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เพชรมณี-แสนทนง ผ่านตราชั่งฉลุย พร้อมชิงแชมป์WBC105 ศุกร์นี้

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//  เพชรมณี ซีพีเอฟ ควง แสนทนง ต.ศิลาชัย ชั่งน้ำหนักผ่านฉลุยพร้อมชิงแชมป์สภามวยแห่งเอเซียWBC ASIA รุ่นมินิมัมเวต(105ปอนด์)เป็นคู่เอกนำรายการศึกยอดมวยโลกWBC ASIA นัดวันศุกร์ที่25กันยายนนี้ ที่ วิกรังสิต ปทุมธานี
เสี่ยตังค์ โปรโมเตอร์ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เผยมั่นใจเพชรมณีต้องโชว์ผลงานเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมกำชับห้ามประมาทเด็ดขาด ถ้าเกิดคว้าชัยมาได้ตนจะสนับสนุนเพื่อหวังเป็นแชมป์โลกในอนาคต ฝากแฟนติดตามทางช่อง7เวลา13.45น.

ที่ ค่ายมวยเพชรยินดีอะคาเดมี่ วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการชั่งน้ำหนักพร้อมตรวจร่างกาย นักชกที่จะทำศึกยอดมวยโลกWBC ASIA นัดวันศุกร์ที่25กันยายนนี้ ที่ วิกรังสิต ปทุมธานี ยิงสดช่อง7เวลา 13.45-15.45น. จัดโดย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัดมหาชน ร่วมกับ บริษัทเพชรยินดีบ๊อกซิ่งโปรโมชั่น จำกัด ซึ่งมีโปรโมเตอร์ปิยะรัตน์ วชิระรัตนวงศ์ เป็นประธานการชั่งน้ำหนัก โดยมีนายแพทย์ จิระศักดิ์ บุบผาชาติ ทำหน้าที่ตรวจร่างกาย วัดความดัน ชีพจร อย่างละเอียด ปรากฏว่าร่างกายพร้อมรบทั้งคู่

ผลการชั่งน้ำหนักด้าน เพชรมณี ซีพีเอฟ ขึ้นชั่งได้ตามพิกัด105ปอนด์ เช่นเดียวกับคู่ชก แสนทนง ต.ศิลาชัย พร้อมชิงแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย WBC ASIA รุ่นมินิมัมเวต105 ปอนด์แน่นอน ขณะคู่ประกอบรายการชั่งได้ตามพิกัดมีดังนี้ ก้องฟ้า ซีพีเอฟ พบ ซากาเรีย ไมรี่ (เบลเยี่ยม) พิกัด 124ปอนด์ ,เพชร ซีพีเอฟ พบ มอสตาหาร์ ทัพโตซาเดย์ (อิหร่าน)พิกัด120ปอนด์,ยอดมงคล ซีพีเอฟ วัด แรมโบ้ สิงห์มนัสศักดิ์ พิกัด 114ปอนด์ ปิดท้าย เทพนิมิต วรวินิจ บี้ ยอดฉัตร ส.พลังชัย พิกัด 114ปอนด์
ด้าน เสี่ยตังค์ เผยว่า ฝากแฟนมวยทั่วประเทศมาติดตามผลงาน ศึกยอดมวยโลกWBC ASIAวันศุกร์นี้ ที่ เวทีรังสิต โดยนักมวยทั้งคู่ผ่านการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักเป็นที่เรียบร้อย คู่เอก เพชรมณี ที่จะชิงแชมป์กับแสนทนง ถือว่าถูกคู่เชื่อว่าผลงานต้องออกมาสนุกประทับใจแฟนมวยแน่นอน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“อสมท” ลด พนง. 700 คน! เปิดโครงการเต็มใจจาก

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3034
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สสว.เผยผลสำเร็จดัน SMEs ไซส์กลางเข้าถึงมาตรฐาน พร้อมชูไฮไลท์เร่งกู้ชีพกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยมาตรฐาน THAILAND SURE 2020

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//สสว.เผยผลสำเร็จพัฒนา SMEs ระดับเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญต่อเศรษฐกิจ ให้เข้าถึงมาตรฐานเพื่อรองรับตลาดสากล มุ่งสู่ SME SMART FORWARD พร้อมสร้างศักยภาพเร่งด่วนฟื้นฟูกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดันมาตรฐาน THAILAND SURE 2020 เสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า สสว. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ระดับกลางหรือระดับเติบโตที่มีศักยภาพ และมุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยดำเนินการร่วมกับ 14 หน่วยร่วม
ประกอบด้วย สถาบันอาหาร (กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มและเกษตรแปรรูป) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เน้นกลุ่ม Green Business ) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว/โรงแรม/สปา เครื่องมือแพทย์/แปรรูปสินค้าประมงภาคใต้) สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (กลุ่มแฟชั่น สิ่งทอ ไลฟ์สไตล์) สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์) สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการยกระดับมาตรฐาน) สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะ) สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ที่ต้องการยกระดับมาตรฐาน) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม (ภาคเหนือ)) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ธุรกิจการค้าและบริการ (ภาคใต้)) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โรงแรม และผู้ประกอบการขนส่ง) สมาคมสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย (เกษตรแปรรูป/ภาคบริการ)
ผอ.สสว. เผยอีกว่า ในปี 2563 สสว. ได้มุ่งเน้นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยกระดับศักยภาพของธุรกิจให้เข้าถึงระบบมาตรฐาน ทั้งการตรวจประเมินเพื่อให้ได้รับใบรับรองมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล พร้อมรับมือและปรับตัวกับวิถีธุรกิจ New Normal ในสถานการณ์โควิด-19
โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ยกระดับธุรกิจหรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้ก้าวไปสู่สากล ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริม SME ตามนโยบายรัฐบาล และเป็นไปตามพันธกิจของ สสว. ในการผลักดันการส่งเสริม SMEs ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล โดยได้ดำเนินการ อบรมเชิงปฏิบัติการเฉพาะด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรทางธุรกิจ เช่น อบรมผู้ควบคุมกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหารในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้รับใบรับรองคุณสมบัติจากหน่วยงานที่ U.S. FDA ให้รับการยอมรับ ฯลฯ ให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยที่ปรึกษา ณ สถานประกอบการ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจแยกตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม ต่อยอดการพัฒนาเพื่อให้ได้รับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เช่น มาตรฐาน ISO มาตรฐานท่องเที่ยว มาตรฐานฉลากทางเลือกสุขภาพ มาตรฐานฉลากทางเลือกสำหรับหน้ากากผ้า ฯลฯ สนับสนุนการจัดทำฉลากโภชนาการ และตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ หรือสอบเทียบเครื่องมือวัดในโรงงานอุตสาหกรรม หรือตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ตรวจวิเคราะห์มาตรฐานชุดป้องกัน (Personal Protective Equipment : PPE) หน้ากากผ้า ในช่วงสถานการณ์ โควิด – 19 เป็นต้น
“ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สสว. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง 2563 -2564 จึงได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอกิจกรรมเร่งด่วน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวแบบบูรณาการรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ COVID-19 ในชื่อ “THAILAND SURE 2020” โดยเน้น 7 กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวหลัก คือ
1. มาตรฐานร้านของฝาก (SURE Souvenir Shop Standard) 2. มาตรฐานที่พัก โรงแรม (SURE Accommodation Standard) 3. มาตรฐานร้านอาหาร (SURE Restaurant Standard) 4. มาตรฐานบริการขนส่งรถบัสและรถตู้ (SURE Bus and Van Standard) 5. มาตรฐานตัวแทนการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว (SURE Travel Agency Standard) 6. มาตรฐานของกลุ่มสปา และความงาม (SURE Spa & Beauty Standard) 7. มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว (SURE Tourist Attraction Standard) ผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยว ที่จะได้รับตรามาตรฐาน ดังกล่าว ต้องนำความรู้ไปปฏิบัติจริงในกิจการของ และที่สำคัญต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะผ่านเกณฑ์การพิจารณา ได้รับตราสัญลักษณ์ “Thailand SURE 2020” จากสสว. และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”
จากการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ในปี 2563 ในภาพรวมทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ 1. การปรับตัวของ SMEs ในรูปแบบวิถีธุรกิจแบบใหม่รองรับ New Normal ที่ต้องสามารถเชื่อมโยงและสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัย การใช้เทคโนโลยี การมีมาตรฐานและความปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และ 2. เกิดผลผลิตที่เป็นรูปธรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) Eco Design : ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม พัฒนาศักยภาพนวัตกรรมองค์กร (Innovation Organization) IOT DEMO รูปแบบจำลอง IOT Solution ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปด้วยเทคโนโลยี และได้รับมาตรฐาน หรือใบรับรองสัญลักษณ์ทางโภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” ผลิตภัณฑ์สิ่งทอแฟชั่นที่มีนวัตกรรม ได้รับมาตรฐานและรับรองฉลากต่าง ๆ อาทิ ISO / GMP / GMP Codex / HACCP / Smart Fabric / CoolMode / เสื้อประหยัดไฟเบอร์ 5 / Thailand Textiles Tag ผลิตสมุนไพรไทยจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน รวมทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับตรามาตรฐานความปลอดภัย Thailand SURE 2020 โดยรวมสามารถคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมผลักดัน SMEs ระดับเติบโตในโครงการก้าวสู่ SME SMART FORWARD
ในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-298-3282 และ 02-298-3047 และ www.sme.go.th Facebook : Osmep สสว.
ประสานงานประชาสัมพันธ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
เจริญไชย จารุกะกุล ส่วนสื่อสารองค์กร สสว. โทร. 081 615 5450, 02 298 3201 Email : charoenchai@sme.go.th
มยุรี คำสะอาด ประชาสัมพันธ์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ โทร. 08 5044 8689, 0 2713 5492 – 9 ต่อ 710 :Cr;มณสิการ รามจันทร์