วันอาทิตย์, มิถุนายน 29, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2090

พล.ท.อภิเชษฐ์ “ประธานที่ปรึกษา ชมรมกีฬาเปตองแห่งจังหวัดพิษณุโลก ได้รับพระราชทานเลื่อนตำแหน่ง “แม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ที่ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 3 ได้มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 3 ระหว่าง พล.อ.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองเลนาธิการทหาร และ พล.ท.อภิเชษฐ์ ชื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่

ร่วมแสดงตวามยินดี พล.ท.อภิเชษฐ์ ชื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะประธานที่ปรึกษาชมรมกีฬาเปตองแห่งจังหวัดพิษณุโลก รับมอบพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากนายสมโชค ดาราวิทยากร ประธานชมรมกีฬาเปตองแห่งจังหวัดพิษณุโลก เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่ ที่ ค่ายพระนเรศวรมหาราช พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ในวันเดียวกันยังมีพิธีบวงสรวงพระบรราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกกาทศรถ และ พระรูปพระสุพรรณกัลยา ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากนนี้มีพีธีมอบการบังคับบัญชา ณ ลานบังเทิงทัพ สโมรบันเทิงทัพ ค่ายพระนเรศวรมหาราช

พล.ท.อภิเชษฐ์ ชื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ท่านให้การสนับสนุนกีฬาในกองทัพภาคาที่ 3 ทุกด้านและกีฬาทุกประเภท และปัจจุบันทานยังเป็นประธานที่ปรึกษา ชมรมกีฬาเปตองแห่งจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีนายสมโชค ดาราวิทยากร เป็นประธานชรมฯ
เชื่อว่าในอนาคตกีฬาทุกประเภท รวมทั้งกีฬาเปตอง ของกองทัพภาคที่ 3 จะมีนักกีฬาที่การพัฒนาฝีมือที่ดี มีความสามารถเป็นเลิศ และมีโอกาสก้าวไปเป็นตัวแทนทีมชาติไทยจำนวนมากต่อไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160177450910057588
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

บอนกาแฟ เปิดตัวแพ็คเกจใหม่ หนึ่งในทิศทางการบริหารที่เปลี่ยน เพื่อปรับให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแพ็คเกจถุงกาแฟใหม่ เป็นครั้งแรก พร้อมเผยแนวคิดการบริหารงานที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง ภายในงาน THAILAND COFFEE FEST 2020

บอนกาแฟ ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจกาแฟครบวงจรที่มีประสบการณ์ในวงการกาแฟมากกว่า 29 ปี ร่วมออกบูธกิจกรรมภายในงาน THAILAND COFFEE FEST 2020 มหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ IMPACT EXHIBITION HALL 6-7 เมืองทองธานี และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในมุมมองของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายใหญ่ ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดกาแฟไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เน้นการปรับตัวเพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาด คู่ค้า และลูกค้าที่เปลี่ยนไป ภายใต้ กรอบแนวคิด 4B อันประกอบด้วยㆍBe Passionate ดำเนินธุรกิจด้วยแพสชั่น

เพราะความหลงใหลในเสน่ห์ของกาแฟไม่มีที่สิ้นสุด บอนกาแฟดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อในพลังของแพสชั่นที่นำไปสู่ความสำเร็จมาตลอด 29 ปี คำๆ นี้ ทำให้เรามุ่งคัดสรรแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกค้า ได้สัมผัสเหมือนที่เราอยากสัมผัส และยังคงยืนหยัดในจุดเดิมเสมอมา

ㆍBe Closer เข้าถึงลูกค้าให้ใกล้กว่าที่เคย

ด้วยการเพิ่มช่องทางให้บอนกาแฟและลูกค้าได้มีโอกาสพูดคุย และสอบถามกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และช่องทางออนไลน์ Lazada , Shopee และ JD Central เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกช้อปสินค้าจากบอนกาแฟได้ตลอด 24/7 พร้อมทั้งการเปลี่ยนโฉมแพ็คเกจใหม่ในกลุ่มสินค้ากาแฟ ให้ดูทันสมัย และถูกใจลูกค้ามากยิ่งขึ้นㆍBe There ค้นหาความรู้เพื่อคอกาแฟตัวจริงในมือ (ถือ) คุณ

ย่อทุกสิ่งที่คอกาแฟควรรู้มาอยู่ในแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณตันทุนสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ วิดีโอสอนสูตรเพิ่มทักษะสำหรับมืออาชีพ หรือการช้อปออนไลน์เพื่อสะสมคะแนน ยิ่งช้อปยิ่งคุ้ม สำหรับคนรักกาแฟ เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ให้คุณได้เรียนรู้ผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกที่ ทุกเวลา

ㆍBe Together พร้อมเคียงข้างธุรกิจคุณ

บอนกาแฟมุ่งมั่นที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ พร้อมองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนการดูแลหลังการขาย บอนกาแฟมีทีมงานที่มากความสามารถพร้อมให้คำปรึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้เรา…โตไปด้วยกันอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้บริโภคในตลาดกาแฟมีทั้งแพสชั่นและองค์ความรู้ที่กว้างไกล บอนกาแฟ ในฐานะผู้ให้บริการด้านธุรกิจกาแฟครบวงจร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะยังคงพัฒนาองค์ความรู้ด้านกาแฟต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และด้วยการเติบโตของตลาดกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด Specialty ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 11% และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึง 13% ในปี 2024 ทำให้นอกจากเรื่องของการพัฒนาองค์ความรู้เรื่องกาแฟแล้ว การเข้าให้ถึงผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดในทุกระดับ ทุก Segment ก็เป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่บอนกาแฟมุ่งเน้นเป็นอย่างมากในปีหน้า”โจ โมฮาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกลุ่มธุรกิจบอนกาแฟ แถบอาเซียนและเอเชียตะวันออก กล่าวเพิ่มว่า “ด้วยศักภาพของตลาดในประเทศไทยที่นับได้ว่าสูงมาก ทำให้โอกาสในการเติบโตทางธุรกิจเกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาล การรับรู้และการเข้าถึงศาสตร์ของกาแฟที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนความต้องการกาแฟระดับพรีเมียมในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะว่ากลุ่มลูกค้ามีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความฉลาดในการเลือกดื่มกาแฟมากยิ่งขึ้น จากรายงานด้านตลาดกาแฟในประเทศไทยของ Euromonitor คาดการณ์ว่า กาแฟสดถือเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างไม่หยุดนิ่ง เพราะไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในประเทศไทย รายงานนี้ยังช่วยเสริมมุมมองที่ว่าประเทศไทยถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของตลาดกาแฟในอินโดจีน เพราะศักยภาพของประเทศไทยช่วยในการยกระดับมาตรฐานคุณภาพของตลาดกาแฟ และจากการพัฒนาย่างต่อเนื่องและการส่งต่อกาแฟระดับคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บริษัทบอนกาแฟขอให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะตั้งใจส่งต่อ พัฒนา และผลิตสินค้าระดับพรีเมียมด้วยแพสชันต่อไป”ร่วมสัมผัสรสชาติกาแฟที่เป็นคุณกับบอนกาแฟโฉมใหม่ได้ก่อนใคร ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และติดตามความเคลื่อนไหวที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบอนกาแฟได้เร็วๆ นี้
wwww.facebook.com/boncafethailand และ www.boncafe.co.th :Cr;มณสิการ รามจันทร์

คาร์โดโซ่ ซัดเบิ้ล! บีจี ปทุมฯ เฉือน ระยอง 2-1 รั้งจ่าฝูงแน่น

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ที่ลีโอ สเตเดี้ยม สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ทีมจ่าฝูง ลงสนามในเกมโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020/21 นัดที่ 7 เปิดบ้านรับการมาเยือน ระยอง เอฟซี ทีมอันดับ 15 ของตารางคะแนน โดยเกมนี้ทัพ “เดอะ แรบบิท” มีปรับทัพพอสมควรด้วยการส่ง ฉัตรชัย บุตรพรม เป็นผู้รักษาประตู แนวรับเป็นสามประสานอย่าง อิรฟาน ฟานดี้, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และอันเดรส ตูเญซ กองกลางมี สหรัฐ ปองสุวรรณ ที่กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง พร้อมด้วย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, เชาว์วัตน์ วีระชาติ และสุรชาติ สารีพิมพ์ ขณะแนวรุกมี สุมัญญา ปุริสาย และนอร์ชาห์รูล อิดรัน ลงล่าตาข่าย
ครึ่งแรกทัพ “เดอะ แรบบิท” ทักทายก่อนจากจังหวะที่ สมัญญา ปุริสาย วางบอลจากฝั่งขวาให้ สหรัฐ ปองสุวรรณ ตบกลับให้ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ได้ยิงในเขตโทษแต่ติดบล็อกแนวรับทีมเยือนนาทีทีที่ 10 ระยอง เอฟซี ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากลูกยิงหน้าเขตโทษของ ดานิโล โลเปส เซซาริโอ บอลแฉลบแนวรับบีจีพียู เข้าประตูไป นาทีที่ 25 จากจังหวะเตะมุมของของทัพ “เดอะ แรบบิท” สุมัญญา ปุริสาย เปิดเข้าเขตโทษบอลตกพื้นกระเด้งชนเสา อิรฟาน ฟานดี้ พยายามจะเข้าโหม่งซ้ำ แต่ถูกแนวรับทีมเยือนสกัดออกมาได้ แต่จากจังหวะดังกล่าวผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วให้เป็นลูกจุดโทษเนื่องจากมอง

ว่าผู้เล่น ระยอง เอฟซี ยกเท้าสูงใส่ อิรฟาน และเป็น วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 31 ต่อมานาทีที่ 44 บีจีพียู ส่งบอลเข้าตาข่ายจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เปิดจากฝั่งขวามาให้ สุมัญญา ปุริสาย ขึ้นโหม่งที่เสาสองเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วปฏิเสธให้ประตู
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บีจี ปทุมฯ พลาดอย่างน่าเสียดายจังหวะหลุดเข้ายิงของ สุมัญญา ปุริสาย แต่ติดเซฟผู้รักษาประตูทีมเยือน จบครึ่งแรก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เสมออยู่กับ ระยอง เอฟซี 1-1

ครึ่งหลังทัพ “เดอะ แรบบิท” พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่หวังทำประตูขึ้นนำ นาทีที่ 61 บีจีพียู เปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวสองคนรวดด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง กับ สันติภาพ จันทร์หง่อม ลงเล่นแทน นอร์ชาห์รูล อิดลัน กับ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ นาทีที่ 64 สุมัญญา ปุริสาย ลองส่องไกลจากนอกเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 69 สิโรจน์ ฉัตรทอง ได้ยิงหน้าเขตโทษ แต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังรับเอาไว้ได้ นาทีที่ 74 บีจีพียู ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โยนจากฝั่งขวาให้ สุรชาติ สารีพิมพ์ ได้โหม่งแต่บอลเข้ามือผู้รักษาประตูทีมเยือนอีกครั้ง นาทีที่ 77 เดอะ แรบบิท เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายด้วยการส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ลงเล่นแทน เชาว์วัตน์ วีระชาติ
นาทีที่ 82 ทีมเยือน ระยอง เอฟซี ได้ลุ้นประตูจากการยิงหน้าเขตโทษของ กีรติ แก้วหนองแดง แต่ ฉัตรชัย บุตรพรม รับเอาไว้ได้
นาทีที่ 87 สิโรจน์ ฉัตรทอง พาบอลลุยเข้าเขตโทษก่อนโดนแนวรับทีมเยือนสกัดล้มลง จังหวะแรกผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟรีคิก แต่จากการเช็ก VAR จังหวะดังกล่าวกลายเป็นลูกจุดโทษ และเป็น วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 89 ให้ บีจีพียู พลิกขึ้นนำเป็น 2-1 ช่วงท้ายเกมทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาที ทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก แต่ไม่มีประตูเพิ่มจบเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ ระยอง เอฟซี 2-1 เก็บสามคะแนนพร้อมกับรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป นัดต่อไป “เดอะ แรบบิท” จะทำศึก “บิ๊กแมตช์” เกมตกค้างพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 10 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 น. ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม

 

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ-มูลนิธิพิทักษ์คชสาร”นำคณะสื่อมวลชน ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร-สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าฯ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธและมูลนิธิพิทักษ์คชสาร นำคณะสื่อมวลชน ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร-สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าประชาร่วมใจ ถวายในหลวง พร้อมบรรยายพิเศษ ‘งานที่ลงมือทำ เพื่อช้างคู่แผ่นดินคู่ศาสนา’ทั้งนี้หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ และมูลนิธิพิทักษ์คชสาร นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามงานในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร-สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าประชาร่วมใจ ถวายในหลวง ในเขตพื้นที่ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและสัตว์ป่าที่มีปัญหาเรื่องการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะช้างป่า รวมถึงการใช้ประโยชน์จากพื้นป่าโดยไม่ระมัดระวัง ประกอบกับพื้นที่ป่าถูกบุกรุก กลายเป็นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้สัตว์ป่าไม่มีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารที่เพียงพอกับความต้องการ จึงได้มีโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อการบริหารจัดการและฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคของทั้งคนและสัตว์ป่า รวมถึงเพื่อสร้างแหล่งอาหารของสัตว์ป่าและช้างป่าให้มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติอย่างพอเพียงในพื้นที่ที่ปลอดภัยโดยหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ได้นำคณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปดูงานที่โรงผลิตน้ำดื่มสะอาด ฝายกึ่งสระซอยซีเมนต์ โรงเรือนเกษตรพอเพียงในโรงเรียนเพื่ออาหารกลางวันและบ่อบาดาลชุมชน ซึ่งการดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร-สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าประชาร่วมใจ ถวายในหลวงนี้ ได้กำหนดเป็น 4 ระยะ ในเวลา  4 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล คือ ตำบลห้วยเขย่ง, ตำบลท่าขนุน, ตำบลหินดาด, ตำบลลิ่นถิ่น ซึ่งจะสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ ฝายกึ่งสระซอยซีเมนต์ ฝายชะลอความชุ่มชื้น บาดาลน้ำตื้นเพื่อการอุปโภคบริโภค โรงผลิตน้ำดื่มชุมชน การปลูกป่าพืชพรรณอาหารสัตว์ การฟื้นฟูสภาพป่า ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพราษฎร ตามแนวทางศาสตร์พระราชา เพื่อบริหารจัดการและฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำ ให้เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคของทั้งคนและสัตว์ป่า รวมถึงเพื่อสร้างแหล่งอาหารของสัตว์ป่าและช้างป่าให้มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติอย่างพอเพียงในพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อมา หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ได้นำคณะสื่อมวลชน เดินทางติดตามดูงานโครงการในพื้นที่ต่อเนื่องและตามรอยด่านช้างของโขลงช้างป่าทองผาภูมิ นอกจากนี้ หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ยังได้บรรยายพิเศษเรื่อง ‘งานที่ลงมือทำเพื่อช้างคู่แผ่นดินคู่ศาสนา’ ที่สอดคล้องกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร-สัตว์ป่า และการฟื้นฟูแหล่งอาหารสัตว์ป่าประชาร่วมใจ ถวายในหลวงด้วย โดยหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ กล่าวว่า เกษตรกรในประเทศไทย มักจะประสบปัญหามีแต่หนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายพื้นที่เกษตรกรรมกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า จึงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากปัจจัยหลักในการทำการเกษตรคือ น้ำที่เป็นต้นทุนสำคัญ โดยได้มีการทดลองหาแหล่งน้ำธรรมชาติ และคิดค้น รวมถึงลงมือทำงานกันมาตั้งแต่ปี 2541 และได้ริเริ่มทำบ่อน้ำ สระน้ำและฝายกึ่งสระซอยซีเมนต์ “ไม่มีน้ำ เราอยู่ไม่ได้ ฉะนั้นปัจจัยที่มีความสำคัญของมนุษย์ รวมถึงสัตว์ ก็คือน้ำ โดยที่น้ำจะต้องไม่มีสารพิษปลอมปน และสามารถนำน้ำไปทำการเกษตรเพื่อการบริโภคได้ จึงได้ปรารภว่า คนทำการเกษตร ควรได้ทำงานปีละ 300 วัน แต่ปีนี้ทำงานกันเพียงแค่คนละ 2-3 เดือน ก็ทำให้ไม่พอกิน ต้องกู้หนี้ยืมสิน นอกจากนี้ เราคือคนตั้งเป้าหมายว่าจะทำงานให้ช้าง เพราะช้างไม่มีปากกา ช้างพูดภาษาคนไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนพันธุกรรมของคนใหม่ เพื่อให้มีศีลธรรม” หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ กล่าว :Cr;มณสิการ รามจันทร์

อุบลราชธานี ร่วมกับ มูฟเอเชีย จัดวิ่ง “โพคารี่ สเวท อุบล 21,1 มาราธอน 2020” ที่ ทุ่งศรีเมือง 4 ต.ค.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// จังหวัดอุบลราชธานี ผนึกกำลังร่วมกับ เครื่องดื่มเพื่อคนรักสุขภาพ “โพคารี่สเวท”, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), การกีฬาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย และบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด ระเบิดศึกวิ่ง “โพคารี่ สเวท อุบล 21.1 มาราธอน 2020” โชว์มาตรฐาน “New Normal Race” ครั้งแรกของไทย วันที่ 4 ต.ค.นี้ ที่ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ที่ โรงแรมสุนีแกรนด์โฮเต็ลแอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานีอเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานแถลงข่าว เปิดการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน “โพคารี่สเวท อุบล 21.1 มาราธอน 2020” ซึ่งจะชิงชัยวันที่ 4 ต.ค.นี้ ที่ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส., ว่าที่ร้อยตรีหญิงกาญจนา วาสนสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬา จังหวัดอุบลราชธานี, นายแพทย์ประทีป บุญธรรม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี, นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน และ “เต๋า” สมชาย เข็มกลัด พร้อมเซเลบริตี้นักวิ่งชื่อดังของเมืองไทย ร่วมแถลงข่าว

นายวิรุจ วิชัยบุญ ในฐานะเจ้าภาพการจัดแข่งขัน กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิ่งรายการที่ได้มาตรฐาน เป็นปีที่ 2 ซึ่งในปีนี้ได้นำวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ ทั้งลุ่มแม่น้ำโขง และแม่น้ำมูล อันเป็นต้นกำเนิดสรรพชีวิต และความอุดม-สมบูรณ์ของเมืองอุบลราชธานี มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการจัดงาน พร้อมใช้เส้นลวดลายของ “ปลา” สัญลักษณ์ที่สื่อถึงเศรษฐกิจ และชีวิตที่บริบูรณ์พูนสุขของผู้คนมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงาน ทำให้นักวิ่งจากทั่วประเทศที่มาร่วมงานทุกคน รวมกว่า 3,000 คน จะได้สัมผัสเสน่ห์ของภูมิประเทศทางธรรมชาติที่งดงาม ผสมผสานกับกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นของอีสานใต้ได้อย่างเต็มที่
อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ กล่าวว่า สสส. มุ่งมั่นที่จะผลักดันงานวิ่งในประเทศ ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งภายใต้มาตรการป้องกันความเสี่ยง จึงได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานเสวนา “Back To Thailand Running Boom” ร่วมกันวางแผนและเสนอแนวทางเพื่อเป็นคู่มือในการจัดงานวิ่งในชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ขึ้นมา ซึ่งงานวิ่ง โพคารี่สเวท อุบล 21.1 มาราธอน 2020 ในครั้งนี้จะเป็นการโชว์มาตรฐาน “New Normal Race” ครั้งแรกของไทย โดยยึดตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ศบค. 5 มาตรการหลัก ได้แก่ ลดความแออัด รักษาระยะห่าง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส สวมหน้ากากอนามัย (เข้าและออกงาน) รวมถึงมีการลงทะเบียนเพื่อจัดกิจกรรม และยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” และแพลตฟอร์ม “สปิริต” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร จนจบกิจกรรม ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ ที่มีความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านเป็นที่ตั้งสูงสุด

ทาคายูกิ คูชิดะ Managing Director บริษัท โอซูก้า นิวทราซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “โพคารี่สเวท” ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์ กล่าวว่า โพคารี่สเวทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สนับสนุนการจัดงานวิ่งในประเทศ เพราะเราคือแบรนด์ที่มุ่งเน้นและตั้งใจอยากให้คนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งตรงกับปรัชญา ขององค์กร ที่ว่า “Otsuka-people creating new products for better health worldwide” โดยการออกกำลังกายนับเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ด้วยตัวเอง รวมถึงเครื่องดื่มโพคารี่สเวทซึ่งเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากบริษัทผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำในญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มที่สามารถชดเชยน้ำและแร่ธาตุ รวมถึงเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไปในชีวิตประจำวัน อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเหตุและผลอันควรที่จะร่วมมือกันทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับ การแข่งขันวิ่ง “โพคารี่สเวท อุบล 21.1 มาราธอน 2020” ภายใต้มาตรฐาน “New Normal Race” ครั้งแรกของไทย ชิงชัยวันที่ 4 ต.ค.นี้ ที่ ทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานี แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ฮาล์ฟ มาราธอน (21.1 กม.) และ มินิมาราธอน (10 กม.) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ Ubon 21.1 (https://www.facebook.com/ubon21.1/)

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

โอกาสมาแล้ว! “พีระพงษ์” หวังทำผลงานเทพชนะใจ “นิชิโนะ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ผู้รักษาประตูของ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี เผยขอทำผลงานให้ดีในการเข้าแคมป์เก็บตัวทีมชาติไทย เพื่อเอาชนะใจ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทัพ “ช้างศึก” ให้ได้
โดย พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัด “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ไม่เสียประตู 3 นัด จากการลงเฝ้าเสาเกมฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2020 ใน 6 นัดแรก ทำให้ฟอร์มการเล่นไปเตะตา อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เรียกติดทัพ “ช้างศึก” เข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมช่วง ฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม 2563 เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง เตรียมความพร้อม ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 และถือเป็นการมีชื่อติดทีมชาติไทยครั้งแรกของ พีระพงษ์ อีกด้วย
“ดีใจมากครับ ที่มีชื่อติดทีมชาติไทย” มือกาวจาก สุโขทัย เอฟซี กล่าวเริ่ม “ผมตั้งความหวังไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว มันก็เฉียดไปทำให้ผมเซ็งนิดๆ แต่ปีนี้ผมมีสมาธิกับเกมตั้งใจการฝึกซ้อมและลงแข่งขันจริงให้ดีที่สุดจนมีชื่อ ทำให้มันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเลยครับ”
“ผมพยายามรักษาฟอร์มการเล่นให้ดีที่สุด โฟกัสที่ตัวเองก่อน ทำงานให้หนัก เหมือนที่ อ.นิพนธ์ มาลานนท์​ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าวไว้ ซึ่งเป็นคำพูดที่ผมจำมาใช้ตลอดก็คือ การได้รับโอกาสถือว่ายาก แต่การรักษาโอกาสนั้นยากกว่า ทำให้ผมทำงานหนักตลอด ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่ง มีแต่พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกวัน”
“การเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติไทยก็คงทำผลงานให้เต็มที่ โฟกัสที่ตัวเองก่อน เก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อหวังว่าจะทำให้ อากิระ นิชิโนะ และสต๊าฟฟ์โค้ชถูกใจ”
สำหรับหรับฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 5 ตุลาคมนี้ และไปเก็บตัวเข้าแคมป์วันที่ 7-11 ตุลาคมนี้ ที่ สนามซ้อม วินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ ลงอุ่นเครื่องกับสโมสร นครปฐม เอฟซี วันที่ 10 ตุลาคมนี้ สนามและเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ทีมชาติไทย จะไม่มีชื่อ 4 นักเตะจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เนื่องจากทั้ง 4 ทีม มีโปรแกรมการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดตกค้าง วันที่ 10 ตุลาคมนี้ รวมถึง 4 นักเตะที่ค้าแข้งศึกเจลีก ญี่ปุ่น อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ติดเงื่อนไขเรื่องการเดินทาง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ยกเครื่องเศรษฐกิจ พลิกโฉมวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ&เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2563 เวลา 09.30-13.00 น. ณ โรงแรม สวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา , ห้อง เลอ คองคอร์ด บอลรูม ชั้น2 นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน เปิดเผยว่า เสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จากภาคส่วนเอกชน ประชาชน วัตถุประสงค์ เพื่อส่งแนวคิด ข้อมูล ข่าวสาร รวมพลังพลิกฟื้นเศรษฐกิจ พร้อมด้วยภาคสังคมที่เทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะมีการแสดงพลังและส่วนร่วมจากภาคส่วน ควบคู่ภาคส่วนต่างๆให้เข้าร่วม โดยแสดงพลัง และพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศไทยหลังจากต้องเชิญกับสถานการณ์ Covid-191. นำเสนอการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยภาครัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการสร้างแรงจูงใจให้เกิดความเชื่อมั่น

ผลักดันให้นักธุรกิจ ภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีเงินฝากในสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีการกระตุ้นให้ใช้จ่าย เพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในประเทศไทย นำไปสู่การสร้างรายได้กระจายสู่ภาคส่วนทุกชุมชน อาทิเช่น การขึ้นภาษีเงินฝาก เพื่อทำให้มีการถอนเงินออกมาใช้จ่ายส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ต้องจ่ายภาษีการโอน การให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้มีการกระจายสู่ชุมชน เพราะต้องสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเองในยุคปัจจุบัน โดยไม่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในอดีต เช่น การส่งออก หรือ นักท่องเที่ยว สามารถประคองตนเองให้อยู่ได้ ดั่งเช่นเมื่ออดีตประเทศญี่ปุ่น เคยแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 และใช้ของในประเทศช่วยกระตุ้น การใช้จ่ายของภาคประชาชน และเอกชน นักธุรกิจ หรือ ผู้มีศักยภาพมีเงินฝากในธนาคารเพื่อจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนี้ จะได้ผลอย่างมาก ในการช่วยประเทศระหว่างการรอการฟื้นตัวของประเทศ

2. เชิญชวน ภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ ธนาคาร และภาคส่วนต่างๆ ร่วมแรงร่วมใจ รวมตัวช่วยเหลือภาคธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น ธนาคารควรลดดอกเบี้ย ลดการชำระหนี้ หรือ พักการชำระหนี้ พร้อมกับตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือธุรกิจ และ กิจการต่างๆ ควบคู่กับภาครัฐและเอกชนที่สามารถรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือธุรกิจทุกภาคส่วน อาทิเช่น ภาคการเกษตร ภาคการผลิต พร้อมส่งเสริมให้มีการซื้อสินค้า ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อผลผลิตจากห้างร้าน โรงงาน หรือสินค้าล่วงหน้าในด้านบริการ เช่น ห้องพัก ทัวร์ สปา ร้านอาหาร หรือใดใดก็ตาม ให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนภายใต้แพลตฟอร์มของคนไทย แบบออฟไลน์ และ ออนไลน์

ทั้งนี้ จะทำให้เงินทองไม่รั่วไหลและหมุนเวียนภายในประเทศ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับภาคประชาชน

การลดรายจ่าย คือ สามารถการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค จากโรงงาน ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

การเพิ่มรายได้ คือ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับกิจการที่ปิดตัวลง ให้เกิดทุนหมุนเวียนในจ้างงานต่อไป พร้อมกับการกระจายสินค้าด้วยการขนส่ง ลดการตกงาน ช่วงระหว่างเลิกงาน หรือ วันหยุด เป็นต้น และถือว่าเป็นการกระจายสินค้าชุมชนให้กับประชาชนอีกด้วย3. ร่วมแรงร่วมใจไทยทั้งชาติ เพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีการเสนอให้ทุกคน แสดงพลังศรัทธา
สร้างความเข้าใจ เสนอ หรือ แสดงข้อเท็จจริง ในสังคม ประชาชน และเยาวชน ให้เข้าใจในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งควรเริ่มต้นที่ทุกคน โดยเฉพาะภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคประชาชน โดยใช้ทุกช่องทางในการสื่อสาร นำเสนอพระราชกรณียกิจทุกพระองค์ ตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในหลวงรัชกาลที่10)อย่างไรก็ตาม ประชาชนพร้อมใจกันแสดงเทิดทูนพระมหากษัตริย์ และทำความเข้าใจว่าสถาบันกษัตริย์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นทำเพื่อประชาชน และ ผืนแผ่นดินไทย อย่างแท้จริง และประชาชนควรศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย ว่าประเทศไทยดำรงอยู่ได้ ชาติดำรงอยู่ได้ด้วยความเป็นไทย เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่อดีตกาลมา #ประสิทธิ์เจียวก๊ก #คืนคุณแผ่นดิน :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

BANPU ปิดดีลแหล่งก๊าซ “บาร์เนตต์” รับอานิสงค์ราคาก๊าซพุ่งช่วงหน้าหนาว!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3100
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)