วันพุธ, มิถุนายน 4, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 32

ถวายรถกอล์ฟ หลวงปู่ศิลา 2คัน เพื่อใช้ในการปฎิบัติศาสนกิจ ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท

0

ถวายรถกอล์ฟ หลวงปู่ศิลา 2คัน เพื่อใช้ในการปฎิบัติศาสนกิจ ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท

วันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท จ.กาฬสินธุ์ หมู่ที่ 5 บ้านแกแปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
พระวัชรญาณมุนี วิ. ( เจ้าคุณเทียนชัย ชยทีโป ) เจ้าอาวาส วัดเทพสรธรรมาราม ( บายตึ๊กเจีย ) ต.บ้านใหม่ อ เมือง จ.ปทุมธานี
พร้อมด้วย คุณสุธัญญา – คุณจุติพงศ์ บุญสูง และ ตัวแทน หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ร่วมกัน ถวายรถกอลฟ์ ขนาด 8 ที่นั่ง จำนวน 2 คัน แด่ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ และ เพื่อใช้ในการปฎิบัติศาสนกิจ ภายในธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาฯ

“ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม” ของดีเมืองแม่กลอง

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9884
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

 

 

 

เจ้าคุณเทียนชัย พร้อมคณะศรัทธาถวายพระราหู หน้าตัก 47 นิ้ว ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท

0

เจ้าคุณเทียนชัย พร้อมคณะศรัทธาถวายพระราหู หน้าตัก 47 นิ้ว ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 เวลา 13.20น. พระวัชรญาณมุนี วิ. ( เทียนชัย ชยทีโป ) เจ้าอาวาส วัดเทพสรธรรมาราม ( บายตึ๊กเจีย ) ต.บ้านใหม่ อ เมือง จ.ปทุมธานี
พร้อมคณะลูกศิษย์ นำโดยครอบครัวอยู่ศิริ และ ประชาชน ร่วมกันถวาย “ พระราหู ” หน้าตัก ๔๗ นิ้ว ซึ่งพระราหู องค์นี้ ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกเดี่ยว โดย หลวงปู่ศิลา สิริจันโท และวัตถุมงคล ในวันที่ 26 มีนาคม 2568 ณ พระอุโบสถ วัดเทพสรธรรมาราม ( บาย ตึ๊ก เจีย ) จ.ปทุมธานี
อาทิเช่น ตระกรุดพระพุทธเจ้า10ชาติ 28พระองค์ รุ่น รุ้งสีเงิน โกฏิโกฏิรวย ที่หลวงปู่เมตตาเขียนยันต์ และ ตั้งชื่อรุ่น มอบให้ , พระกริ่งวัชรญาณมุณี วิ. เนื้อสัมฤทธิ์ ก้นทองคำ และ ก้นเงิน , หลวงปู่ขนาดบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว และ พระราหูบูชา
โดยในพิธี หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดียว และมีพระเกจิอาจารย์นั่งปกจำนวน 4 รูป จึงเป็นที่มา ของการนำ พระราหู มาถวายหลวงปู่ศิลา เพื่อให้คณะศรัทธา ที่เดินทางมามากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ศิลา ได้มาไหว้ขอพรพระราหู ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลาสิริจันโท จ.กาฬสินธุ์

โดยมีประชาชนที่มารอกราบหลวงปู่ศิลา ต่างตะโกนคำว่า สาธุดังกึกก้องไปทั่วทั้งธรรมอุทยานฯ

ส่องภาพรวมไม้ผล 6 ชนิดของไทยปี 68 ผลผลิตเพิ่มขึ้น คาด ทุเรียนปีนี้ ผลผลิต 1.682 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11% ขณะที่ลิ้นจี่ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นถึง 161%

0

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลพยากรณ์ภาพรวมการผลิตไม้ผล 6 ชนิด ปี2568 ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย และลิ้นจี่ โดยที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลปริมาณการผลิตสินค้าเกษตร ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมีนางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ได้พิจารณาและเห็นชอบข้อมูลไม้ผลทั้ง 6 ชนิด โดยมีรายละเอียดภาพรวมทั้งประเทศ (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2568) ดังนี้ ทุเรียน ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 1,265,701 ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 1,138,475 ไร่ (เพิ่มขึ้น 127,226 ไร่ หรือร้อยละ 11.18) ผลผลิต 1,682,484 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,287,048 ตัน (เพิ่มขึ้น 395,436 ตัน หรือร้อยละ 30.72) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 1,329 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 1,131 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 198 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 17.51) สำหรับเนื้อที่ให้ผลทั้งประเทศเพิ่มขึ้นในทุกภาค เนื่องจากต้นทุเรียนที่เกษตรกรขยายเนี้อที่ปลูกในปี 2563 โดยเฉพาะแหล่งผลิตที่สำคัญในภาคกลาง เช่นจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด เกษตรกรปลูกทดแทนยางพาราและไม้ผลอื่น สำหรับในภาคใต้ เช่น จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และยะลา เกษตรกรปลูกทดแทนกาแฟ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ไม้ผลอื่นๆ และปลูกเพิ่มในพื้นที่ว่าง

เริ่มให้ผลผลิตได้ในปีนี้เป็นปีแรก สำหรับผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลคาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล โดยในปี 2567 แหล่งผลิตสำคัญในภาคกลาง ทุเรียนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนฝนทิ้งช่วงนานและอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ทำให้ทุเรียนติดผลน้อยจึงได้พักต้นสะสมอาหาร อีกทั้งต้นทุเรียนส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูง และเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่มีผลตอบแทนสูงจึงจูงใจต่อการลงทุน เกษตรกรมีการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้น และแหล่งผลิตทางภาคใต้ในปี 2568 สภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผลมากกว่าปี 2567 ที่มีอากาศร้อนมาก และฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ประกอบกับเกษตรกรดูแลจัดการสวนดี และจัดหาแหล่งน้ำได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตในภาพรวมคาดว่าเพิ่มขึ้นด้วยลำไย ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 1,645,810 ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 1,644,559 ไร่ (เพิ่มขึ้น 1,251 ไร่ หรือร้อยละ 0.08) ผลผลิต 1,573,862 ตัน เพิ่มขึ้นจาก

1,420,292 ตัน (เพิ่มขึ้น 153,570 ตัน หรือร้อยละ 10.81) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 956 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 864 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 92 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 10.65) สำหรับเนื้อที่ให้ผลคาดว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากปีที่แล้ว จากลำไยที่ปลูกในปี 2565 ในแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งปลูกเพิ่มแทนต้นลำไยที่อายุมากให้ผลผลิตต่ำ ลิ้นจี่ ยางพารา และมันสำปะหลัง เริ่มให้ผลผลิตในปีนี้ สำหรับผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลปี 2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นเพียงพอตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงต้นปี 2568 และอบอุ่นในช่วงกลางวัน ซึ่งช่วยเอื้ออำนวยต่อการแทงช่อดอกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในปีที่แล้วลำไยราคาดี จึงจูงใจให้เกษตรกรใช้สารกระตุ้นการออกดอกและดูแลบำรุงต้นลำไยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้น
มังคุด ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 393,277 ไร่ ลดลงจาก 399,020 ไร่ (ลดลง 5,743 ไร่ หรือร้อยละ 1.44) ผลผลิต 407,634 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 301,649 ตัน (เพิ่มขึ้น 105,985 ตัน หรือร้อยละ 35.14) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 1,037 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 756 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 281 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 37.17) สำหรับภาพรวมเนื้อที่ให้ผลทั้งประเทศคาดว่าลดลง เนื่องจากราคามังคุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดีอย่างต่อเนื่อง ผลตอบแทนของมังคุดที่เกษตรกรได้รับไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนจากมังคุดที่ไม่ได้คุณภาพส่งผลให้เกษตรกรโค่นต้นมังคุดที่ปลูกผสมกับทุเรียนและไม้ผลอื่น เพื่อเน้นดูแลทุเรียน และไม้ผลหลักอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า สำหรับผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลคาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากปีที่แล้วมังคุดออกดอกและติดผลน้อย จึงมีการพักต้นเพื่อสะสมอาหาร ปีนี้ต้นมังคุดสมบูรณ์มากขึ้น อีกทั้งในปีนี้สภาพอากาศคาดว่าเอื้ออำนวยต่อการออกดอกมากกว่าปีที่แล้ว และในช่วงติดผลจะไม่กระทบกับสภาพฝนทิ้งช่วงเหมือนปีที่แล้ว ภาพรวมผลผลิตจึงคาดว่าเพิ่มขึ้นด้วย

เงาะ ปี 2568 …

-2-

เงาะ ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 173,104 ไร่ ลดลงจาก 179,126 ไร่ (ลดลง 6,022 ไร่ หรือร้อยละ 3.36) ผลผลิต 229,315 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 201,981 ตัน (เพิ่มขึ้น 27,334 ตัน หรือร้อยละ 13.53) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 1,325 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 1,128 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 197 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 17.46) โดยเนื้อที่ให้ผลรวมทั้งประเทศลดลง เนื่องจากแหล่งผลิตที่สำคัญทางภาคกลาง และภาคใต้ เกษตรกรโค่นต้นเงาะออก เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกทุเรียนทดแทน อีกทั้งเงาะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวและผลตอบแทนจากการปลูกเงาะที่ไม่จูงใจ สำหรับผลผลิต
ต่อเนื้อที่ให้ผลคาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ในช่วงปลายปี 2567 ที่มีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับในปี 2567 แหล่งผลิตทางภาคกลางที่สำคัญ ปีที่แล้วสภาพอากาศแปรปวนเงาะออกดอกติดผลน้อย ทำให้ต้นเงาะได้พักต้นสะสมอาหาร ในปีนี้ต้นมีความสมบูรณ์ ส่งผลดีต่อการออกดอกติดผลได้มากขึ้น ผลผลิตจึงคาดว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วลองกอง ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 144,425 ไร่ ลดลงจาก 152,252 ไร่ (ลดลง 7,827 ไร่ หรือร้อยละ 5.14) ผลผลิต 52,480 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 47,262 ตัน (เพิ่มขึ้น 5,218 ตัน หรือร้อยละ 11.04) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 363 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 310 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 53 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 17.10) โดยเนื้อที่ให้ผลทั้งประเทศคาดว่าลดลง เนื่องจากราคาลองกองที่ไม่จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษามาอย่างต่อเนื่องหลายปี เกษตรกรจึงทยอยโค่นต้นลองกองที่มีอายุมาก และต้นลองกองที่ปลูกผสมกับพืชหลัก เช่น ทุเรียน เพื่อดูแลพืชหลักซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่า สำหรับผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล คาดว่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งผลิตสำคัญทางภาคใต้ ที่สภาพภูมิอากาศคาดว่าจะเอื้ออำนวยต่อการออกดอกและติดผลซึ่งช่วงปลายปี 2567 มีฝนตกต่อเนื่อง อีกทั้งปี 2567 ลองกองติดผลน้อย ทำให้ต้นได้พักต้นสะสมอาหารมีความสมบูรณ์พร้อมสำหรับออกดอกในปีนี้ ภาพรวมผลผลิตรวมจึงคาดว่าเพิ่มขึ้นลิ้นจี่ ปี 2568 เนื้อที่ให้ผล 78,692 ไร่ ลดลง ลดลงจาก 82,934 ไร่ (ลดลง 4,242 ไร่ หรือ ร้อยละ 5.11) ผลผลิต 36,451 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 13,952 ตัน (เพิ่มขึ้น 22,499 ตัน หรือร้อยละ 161.26) ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 463 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 168 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 295 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 175.60) สำหรับเนื้อที่ให้ผลรวมทั้งประเทศลดลง เนื่องจากแหล่งผลิตในภาคเหนือ เกษตรกรโค่นต้นลิ้นจี่เพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
และไม้ผลอื่น เช่น ทุเรียน อโวคาโด มะม่วง และเงาะ และแหล่งผลิตในภาคกลาง เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่สวนลิ้นจี่ เพื่อปลูกทุเรียนและมะพร้าวน้ำหอม สำหรับผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลคาดว่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศในปีนี้เอื้ออำนวย อุณหภูมิหนาวเย็นต่อเนื่อง ส่งผลให้การแทงช่อดอกเพิ่มขึ้นและการติดดอกดีกว่าปีที่ผ่านมา แตกต่างจากในปีที่แล้วที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยอากาศหนาวเย็นเพียงช่วงสั้นๆ ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้ลิ้นจี่ออกดอก ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศในปีนี้ คาดว่าเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการไม้ผล ปี 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) กำกับดูแล และให้จังหวัดบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง ผ่านคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยเน้นการบริหารจัดการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 ประกอบด้วย การบริหารจัดการเชิงคุณภาพ มีแผนงาน/โครงการ การจัดการและพัฒนาด้านคุณภาพผลผลิต เช่น ส่งเสริมการผลิตตามมาตรฐาน GAP และ GI การส่งเสริมการบริโภค ประชาสัมพันธ์ และการป้องกันผลผลิตด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด รวมถึงการเชื่อมโยงการตลาดและเพิ่มมูลค่าผลผลิต การบริหารจัดการเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการบริหารจัดการผลผลิตในฤดูกาล โดยจัดสมดุลอุปสงค์และอุปทาน การประมาณการผลผลิตล่วงหน้า สำรวจและจัดเก็บข้อมูลเชิงพื้นที่ และเชื่อมโยงตลาดเพื่อรองรับผลผลิต โดยจัดทำข้อมูลความต้องการทางการตลาดจากผู้ประกอบการ เช่น ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก สหกรณ์ โรงงานแปรรูป และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ตลอดจนดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 มีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคา เพิ่มมูลค่าการส่งออกผลไม้สดและผลิตภัณฑ์แปรรูป และพัฒนาผลไม้คุณภาพที่ได้มาตรฐาน ประกอบด้วยแนวทางภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ได้แก่ 1) เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการผลไม้ในการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าไม้ผล 2) พัฒนาขีดความสามารถ

 

 

 

ยกฟ้อง 4 กสทช. คดี “ไตรรัตน์” กล่าวหาลงมติปลดพ้นเก้าอี้ “รักษาการเลขาฯ” มิชอบ

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9882
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1174432999143134607
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

พม. จับมือเครือข่าย รณรงค์  “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” วอนสร้างสังคมไทยในทุกวัน ปราศจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์สงกรานต์ ประจำปี 2568 “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” พร้อมทำกิจกรรมขบวนแห่กลองยาวเชิญชวนร่วมงาน “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” และแจกสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์กิจกรรม โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กระทรวง

นายอนุกูล กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของไทย เป็นเวลาที่สมาชิกในครอบครัวได้สานสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน การแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ด้วยการรดน้ำขอพร รวมถึงการทำกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ยังตรงกับวันผู้สูงอายุแห่งชาติ (13 เมษายน ของทุกปี) และเป็นวันแห่งครอบครัว (14 เมษายน ของทุกปี) ถึงแม้ว่าเทศกาลสงกรานต์จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข และการเฉลิมฉลอง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสังคมในหลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางถนน

โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การทะเลาะวิวาท การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ดังจะเห็นได้จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง 7 วันอันตราย สงกรานต์ปี 2567 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวม 2,044 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวน 287 ราย และผู้บาดเจ็บ จำนวน 2,060 ราย โดยสาเหตุสำคัญมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 22.7 นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ จากความร่วมมือของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวง พม.  ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สสส. และมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว และสวนดุสิตโพล พบว่ากลุ่มที่เคยเล่นสงกรานต์ ส่วนใหญ่เคยเจอสถานการณ์ ถูกปะแป้งที่ใบหน้า ร้อยละ 57.79 ถูกฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม ร้อยละ 32.43 และเด็กกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี เคยถูกปะแป้งที่ใบหน้ามากที่สุด ร้อยละ 76.77 ส่วนกลุ่มคนพิการ ถูกปะแป้งที่ใบหน้ามากที่สุด ร้อยละ 56.79 รองลงมา คือ ถูกฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม ร้อยละ 50.62

นายอนุกูล กล่าวว่า ผลสำรวจสะท้อนว่า ท่ามกลางประเพณีอันดีงามยังมีหลายคนกำลังเผชิญกับความรุนแรง ถูกคุกคามทางเพศ ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น ร่วมกับโครงสร้างทางวัฒนธรรม สังคมที่มีแนวโน้มว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องปกติ ไม่มีโทษรุนแรง ขอความช่วยเหลือได้ยาก เกิดการฝังรากลึกในวิธีคิด สนับสนุนให้วัฒนธรรมการคุกคามทางเพศในช่วงเทศกาลมีมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องสร้างกระแสให้สังคมเข้าใจเรื่องการให้เกียรติ เคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ไม่ฉวยโอกาสลวนลาม หรือคุกคามทางเพศ และไม่ใช้ความรุนแรง

นายอนุกูล กล่าวว่า วันนี้ จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์สงกรานต์ ประจำปี 2568 “สงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ” ซึ่งเป็นวาระสำคัญ ที่กระทรวง พม. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ในการเผยแพร่ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้เข้าใจในประเด็นการเคารพสิทธิในเนื้อตัวและร่างกายของตนเอง การลดผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการไม่ฉวยโอกาสคุกคามทางเพศ เพื่อลดความสูญเสียในช่วงเทศกาลสงกรานต์

“กระทรวง พม. ขอขอบคุณภาคีเครือข่าย อาทิ สสส. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสานประเพณีอันดีงาม การแสดงความเคารพต่อผู้สูงอายุ และการใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว ตลอดจนขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมกันเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์ โดยเล่นกับคนที่เต็มใจ ไม่ลวนลาม เคารพสิทธิ และใช้น้ำอย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยในทุกวัน เป็นวันที่ปลอดจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ” นายอนุกูลกล่าว

นางก่องกาญจน์ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ สสส. ยังคงร่วมกับภาคีเครือข่ายรณรงค์สนับสนุนให้จัดกิจกรรมเล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจุบันมีพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยกว่า 100 พื้นที่ มีถนนตระกูลข้าว (ปลอดเหล้า) 60 แห่ง รวมถึงได้สื่อสารรณรงค์ผ่านภาพยนตร์โฆษณารณรงค์ช่วงเทศกาลสงกรานต์แคมเปญ “ดื่มแล้วขับ นับเป็นฆาตกร” เพื่อให้หยุดพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “เมาแล้วขับ” ก่อนที่จะต้องมีคน “ร้องขอชีวิต”ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปรียบเทียบปี 2566-2567 พบการเกิดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง ลดลง 159 ครั้ง คิดเป็น ร้อยละ 7.22 ผู้บาดเจ็บ 2,060 คน ลดลง 148 คน คิดเป็น ร้อยละ 6.70 ผู้เสียชีวิต 287 คน เพิ่มขึ้น 23 คน หรือ ร้อยละ 8.71 นี่คือเหตุผลที่ สสส. ต้องร่วมกับภาคีเครือข่ายรณรงค์อย่างหนัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสงกรานต์ปีนี้ จะเป็นสงกรานต์เลี่ยงดื่ม เพิ่มพื้นที่สุข สนุก เคารพสิทธิ สร้างค่านิยมที่ดีของสังคมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ตามวิถีไทยดีงามให้คงอยู่ต่อไป#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #สงกรานต์เลี่ยงดื่ม :Cr;มณสิการ รามจันทร์

รู้เขา – เข้าใจทรัมป์: เดินหมากอย่างระวัง ในวันที่ทรัมป์คิดเปลี่ยนโลก

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9880
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

คนปล่อยข่าวมั่วต้องการอะไร! ยัน Lab ตรวจ BY2 ในทุเรียน มีพอ!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9879
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)