พิมพ์ไทยออนไลน์ // เมื่อเร็วๆ นี้ นายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ กรมธนารักษ์ และร่วมพิธีทำบุญพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาส วันสถาปนากรมธนารักษ์ ครบรอบ 87 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคาร 72 ปี กรมธนารักษ์ โดย กรมธนารักษ์ จัดตั้งขึ้นโดยการรวม กรมพระคลังมหาสมบัติ กรมเงินตรา กรมรักษาที่หลวงและกัลปนา กับกรมกระษาปณ์
สิทธิการเข้าด้วยกัน ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบกรมใน กระทรวงการคลัง พุทธศักราช 2476 โดยใช้ชื่อว่า “กรมพระคลัง” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “กรมคลัง” เมื่อ วันที่ 9 ธันวาคม 2476 ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการสำนักงาน และกรมในกระทรวงการคลัง พุทธศักราช 2476 จากนั้น ได้มีพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2495 พระราชบัญญัติโอนอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งได้มีการปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 2495 จึงได้เปลี่ยนชื่อจากกรมคลัง เป็น “กรมธนารักษ์” เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2495 ตราบจนถึงปัจจุบัน
กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ได้ดำเนินการสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านโครงการสำคัญของกรมธนารักษ์ในหลายด้าน ได้แก่ โครงการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ / การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านโครงการธนารักษ์ประชารัฐ / โครงการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในที่ดินราชพัสดุ / โครงการพัฒนาชุมชนริมคลองเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาการรุกล้ำคลอง / โครงการสนับสนุนศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันผ่านโครงการนำ ที่ราชพัสดุมาสนับสนุนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ / การอำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการชำระค่าเช่าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-payment) /โครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) และการช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการธนารักษ์รวมใต้านภัย โควิท-19 รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์และส่งผลให้พระ
ราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อีกทั้ง กรมธนารักษ์มีแผนงานโครงการต่างๆ รองรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และคาดว่าจะเป็นปีแห่งความท้าท้ายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Covid-19) กรมธนารักษ์จึงต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงให้ทันสถานการณ์เสมอ.