พิมพ์ไทยออนไลน์//หลังจากที่ “คริส โปตระนันทน์” ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว คริส โปตระนันทน์ – Chris Potranandana ถึงการ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเส้นด้าย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ให้เหตุผลว่า เพื่อเปิดทางให้สมาชิกเลือกคนที่เหมาะสม แต่ก็ยืนยันว่าจะเป็นสมาชิกพรรคเส้นด้ายต่อไป ระบุในจดหมายลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเส้นด้ายว่า พรรคเส้นด้ายก่อตั้งขึ้นจากความหวัง ที่ว่าประชาชนธรรมดา สามารถรวมพลังกันขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ ไม่ใช่ด้วยการใช้อำนาจ ไม่ใช่ด้วยเงินทุนมหาศาล แต่ด้วยการยืนหยัดในความจริง ด้วยความตั้งใจ และด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อระบบที่บิดเบี้ยว โดยพรรคมีจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ ส.ก.พีรพล กนกวลัย เลขาธิการพรรค กล้าพูดถึงประเด็นที่ไม่มีใครกล้าพูด เรื่อง “ศพใต้ตึก สตง.” กับ “คนไทยที่ยังรอความยุติธรรม”ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ วันที่ 26 เมษายน 2568 มีการประชุมใหญ่ของพรรคเส้นด้าย ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์และมีการเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคเศรษฐกิจ (Economic Party: ECON) และพลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเป็นนายทหารผู้มีประสบการณ์ทางการบริหารและทางการเมือง โดยประกาศยุทธศาสตร์ฟื้นฟูประเทศ ที่ทางพรรคระบุว่าท่ามกลางภาวะวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่พลเอก รังษี ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเศรษฐกิจ เป็นการเปลี่ยนแปลงจากชื่อพรรคเส้นด้าย อันเนื่องมาจากประเทศไทยกำลังเผชิญเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง (Ongoing Recession) ผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการ แรงงานตกงานจำนวนมาก รายได้ประชาชนลดลงอย่างน่ากังวล หนี้สินของประเทศ ทั้งภาคครัวเรือน (Household Debt), ภาคเอกชน (Corporate Debt) และภาครัฐ (Public Debt) พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans – NPLs) กำลังกลายเป็นระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ
โดยพรรคเศรษฐกิจเสนอ 4 เสาหลักเพื่อพลิกฟื้นประเทศไทย แก้วิกฤตครั้งนี้ด้วยการลงมือทำจริงอย่างเป็นระบบ 4 นโยบายหลัก (Key Pillars) ดังนี้:
1. MEGA PROJECT INFRASTRUCTURE: ยกระดับไทยสู่ Logistics Superpower
ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Projects)เชื่อมต่อระบบรางความเร็วสูง (High-Speed Rail) ระหว่าง ลาว – ไทย – พม่า – อินเดีย – มาเลเซีย – สิงคโปร์ ครอบคลุมประชากรกว่า 1.7 พันล้านคน ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งและการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค
2. OCEAN LINK STRATEGY: ปลดล็อกศักยภาพทางทะเล สู่ตลาดโลก เดินหน้าโครงการเชื่อมมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกผ่านไทยพัฒนาเขตอุตสาหกรรม นิคมเกษตรกรรม และคลังสินค้า ดึงการลงทุนผ่านกลุ่ม BRICS เพิ่มรายได้ประชาชนจาก 7,000 ดอลลาร์/ปี เป็น 20,000 ดอลลาร์/ปี ภายใน 10 ปี
3. ZERO CORRUPTION: ปฏิรูปกฎหมาย ปราบโกงอย่างเด็ดขาด เสนอกฎหมายปราบปรามการทุจริตฉบับใหม่ (Anti-Corruption Act) กำหนดโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ไม่มีสิทธิ์ลดโทษ บังคับลงโทษภายใน 1 ปีหลังคำพิพากษาศาลฎีกา เน้นหลักโปร่งใส ตรวจสอบได้ รับผิดชอบสูงสุดในทุกขั้นตอน
4. JUSTICE SYSTEM REFORM: ยกระดับระบบยุติธรรม ปฏิรูประบบตำรวจและการสอบสวนแยกจากการจับกุมตัดวงจรอาชญากรรมเชิงระบบ เช่น บ่อน ผับเถื่อน เว็บพนันผิดกฎหมาย ปลดล็อกระบบอนุญาตที่ซ้ำซ้อนและเปิดโอกาสให้แข่งขันอย่างเสรี
เป้าหมายระยะยาวของพรรคเศรษฐกิจ รายได้เฉลี่ยของคนไทยต้องเพิ่มเป็น 50,000 บาทต่อเดือน ภายใน 16 ปี ,เศรษฐกิจไทยต้องเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.5% ,พลิกประเทศไทยให้หลุดจากกับดักรายได้ปานกลางสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งพรรคเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่พรรคการเมือง แต่คือภารกิจเพื่อชาติ และยืนยันพันธกิจที่จะนำพาประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤติ นำเสรีภาพกลับคืนสู่ประชาชน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม และยืนหยัดบนเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรี
“We are not just a party — We are a national mission. We act. We fight. We deliver. For Thailand.”
สำหรับคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจ ประกอบด้วย พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ — หัวหน้าพรรค คริส โปตระนันทน์ — ประธานพรรค พ.ต.อ. ชาติพรรณ โชติช่วง — รองหัวหน้าพรรค พีรพล กนกวลัย — เลขาธิการพรรค อังสณา เนียมวณิชกุล — รองเลขาธิการพรรค จิณณฉัตร อริยสวโรจน์ — เหรัญญิกพรรค วรินทร อัศนีวุฒิกร — นายทะเบียนพรรค พริษฐ์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ — กรรมการบริหารพรรค วิษณุ วราโชติเศรษฐ์ — กรรมการบริหารพรรค นพ. กอบชัย เปี่ยมเพชรกุล — กรรมการบริหารพรรค ส่งศักดิ์ ฉัตรชูกุล — กรรมการบริหารพรรค สาธิต สาตรพันธ์ — กรรมการบริหารพรรค ศรัทธา คชพลายุกต์ — กรรมการบริหารพรรค:Cr;มณสิการ รามจันทร์