โดยวิทยากรบรรยายในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายระวิ พวงกนก หัวหน้าผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดแพร่ และ นายอุดม นันตา นิติกรชำนาญการพิเศษ บรรยายหัวข้อ การเข้าถึงสิทธิด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำและผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว อีกทั้ง ได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงแสงระวี ขว้างแป้น ประธานศูนย์ไร้ที่พึ่งโรงพยาบาลแพร่ บรรยายหัวข้อ กระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือ ด้านการรักษาพยาบาลของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจจังหวัดแพร่, เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัวระดับตำบล (ศปก.ต.), อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคลากร พม.จังหวัดแพร่ รวมกว่า 100 คน ณ ห้องประชุมฮ่มไม้ปลายนา ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

ตามที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรี และประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ซึ่งหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรง ต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวเป็นประจำทุกปี โดยกระทรวง พม. เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีเจตจำนงประสานการขับเคลื่อนยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ

สำหรับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ ในวันนี้ ได้จัดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด“สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” (ACE NOW to end Violence against Women and Girls) เพื่อสร้างกระแสสังคมให้ตระหนักต่อประเด็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดยการอบรมให้ความรู้การเข้าถึงสิทธิด้านกฎหมายและด้านการรักษาพยาบาลของผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว เมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ผู้ประสบปัญหาหรือผู้พบเห็นเหตุการณ์ สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายในการป้องกันตนเองและผู้อื่นได้ และตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ พม.หนึ่งเดียวจังหวัดแพร่จะยังคงเดินหน้ารณรงค์ยุติความรุงแรงฯ อย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพบเห็นปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ESS help me และขอความร่วมมือทุกคนในสังคมได้ตระหนัก ช่วยกันเฝ้าระวัง ดูแล และช่วยเหลือ เมื่อพบการกระทำความรุนแรงไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม เพื่อให้สังคมมีความสงบสุข เข้มแข็ง และยั่งยืนตลอดไป :Cr;มณสิการ รามจันทร์