วันเสาร์, มิถุนายน 7, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 8

รวมพลัง สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธาน สศก. ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนาผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี 2568

0

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด การสัมมนา “ผลการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้แทนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านป่าคา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เข้าร่วมประมาณ 400 คน ณ ห้องประชุมพึ่งบุญฯ อาคารวิสัยทัศน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

​โอกาสนี้ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน พระมหากษัตริย์ โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาเป็นอันดับแรก เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้ง ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินการ เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เป็นหน่วยงานหลักในการติดตามผลความก้าวหน้าโครงการที่ดำเนินการ และนำเสนอต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์และขยายผลต่อไป
การสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีที่สำคัญที่ทุกหน่วยงานจะรวมพลัง สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงการบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือในการติดตามโครงการ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับหน่วยงานที่ดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตร เพื่อร่วมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมกันสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนถอดบทเรียนเผยแพร่ความสำเร็จของโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีประมาณ 4,145 โครงการ (ร้อยละ 80 ของโครงการทั้งหมด 5,201 โครงการ) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดำเนินการ 983 โครงการ ซึ่งตัวอย่างผลงานและความสำเร็จของโครงการพระราชดำริที่เกี่ยวกับภาคเกษตรในด้านต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ เป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกหรือการชลประทาน ประกอบด้วย โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก และอุปโภคบริโภค ได้แก่ อ่างเก็บน้ำและฝายทดน้ำ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้า พลังน้ำ โครงการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม และโครงการบรรเทาอุทกภัย ประโยชน์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัด เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปราจีนบุรี ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ในฤดูฝน 111,300 ไร่ และฤดูแล้ง 45,000 ไร่ ช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีลุ่มน้ำสาขา ในเขตพื้นที่อำเภอนาดี และอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และแก้ปัญหาน้ำเสีย ระบายน้ำ เจือจางน้ำ ช่วยชะลอน้ำเค็ม พื้นที่อ่างเก็บน้ำและบริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนา อนุรักษ์ฟื้นฟู ราษฎรโดยรอบมีอาชีพมั่นคงและมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น

โครงการพัฒนาด้านการเกษตร เป็นโครงการที่สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และวิจัย หาพันธุ์พืชใหม่ๆ ทั้งพืช เศรษฐกิจ เช่น หม่อนไหม ยางพารา พืช เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน และพืชสมุนไพร ตลอดจนการศึกษาเกี่ยวกับ แมลงศัตรูพืช รวมทั้งพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น โค กระบือ แพะ แกะ พันธุ์ปลา สัตว์ปีก ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการอยู่ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนำผลสำเร็จจากการศึกษา ทดลอง ไปถ่ายทอดสู่ประชาชน
เช่น โครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรโดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่บ้านหนองกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 4,358 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และนำไปจำหน่ายเกิดเป็นรายได้ทางการเกษตรเฉลี่ย 6,088 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โครงการต่อยอดบริเวณพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งเน้นส่งเสริมสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริการทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยเกษตรกรได้ถ่ายทอดความรู้เศรษฐกิจพอเพียง 115 ราย สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 3,476 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และจำหน่ายผลผลิตในแปลงเกษตรผสมผสานเกิดเป็นรายได้ทางการเกษตรเฉลี่ย 3,200 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นฟาร์มตัวอย่างไร้มลภาวะ (Zero Waste Farm) สาธิตการจัดสร้างแพเชือกเพื่อเป็นแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล สนับสนุนสัตว์น้ำให้เกษตรกร จำนวน 1 ล้านตัว โดยเกษตรกรร้อยละ 82 มีความรู้ความเข้าใจจากการได้เข้ามาศึกษาในฟาร์มตัวอย่าง และนำความรู้ไปปรับใช้สามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเกษตร 45,723 บาทต่อครัวเรือนต่อปี

โครงการพัฒนาด้านส่งเสริมอาชีพ อาทิ โครงการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรในหมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ โครงการศิลปาชีพพิเศษทั่วประเทศ โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ จังหวัดเชียงใหม่ โครงการส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อความยั่งยืนทางการเกษตร และโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริอื่น ๆ

โครงการพัฒนาแบบบูรณาการ/และโครงการพัฒนาอื่นๆ เช่น โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ และเลย ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืนในลุ่มน้ำปาย ลุ่มน้ำลี และลุ่มน้ำหมัน เกษตรกรได้รับประโยชน์ 14 กลุ่ม 20 หมู่บ้าน มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,383 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุง สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหา 4 น้ำ 3 รส (น้ำเค็ม – น้ำเปรี้ยว น้ำท่วม – น้ำแล้ง) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการฟื้นฟูให้มีความสมดุลในพื้นที่ 10 อำเภอ 73 ตำบล เกษตรกรมากกว่าร้อยละ 77 มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการฯ มีอาชีพมั่นคง และรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมโครงการเฉลี่ย 7,338 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โครงการศูนย์ ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดน่าน ดำเนินการในพื้นที่ ตําบลภูฟ้า อําเภอบ่อเกลือ พื้นที่ทรงงาน 1,800 ไร่ และพื้นที่ขยายผล 6 หมู่บ้าน มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับการพัฒนาความรู้ และสนับสนุนปัจจัยการผลิตในการต่อยอดทำการเกษตรทั้งพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์รวม 327 ราย หลังเข้าร่วมโครงการ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตจากการทำเกษตรในรูปแบบเกษตรผสมผสาน เช่น พืชผักสวนครัว เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เฉลี่ย 7,912 บาทต่อครัวเรือนต่อปี

โครงการขยายผลเกษตรทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งเสริมฝึกทักษะอาชีพด้านการเกษตร สนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเกษตรกรสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 5,072 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และลดการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ร้อยละ 51 โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร พัฒนาส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม และยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูง กิจกรรมการปลูกป่าชุมชน การปลูกหญ้าแฝก การลดใช้สารเคมี การทำปุ๋ยหมัก โดยเกษตรกรร้อยละ 52 นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

ด้านนางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาครั้งนี้ สศก. โดยศูนย์ประเมินผล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งกิจกรรมการสัมมนาวันแรกมีการเสวนา “บทเรียนความสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” โดยผู้แทนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านป่าคา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร และการเสวนา “การติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบการบูรณาการเชิงพื้นที่” โดยผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12

สำหรับการสัมมนาวันที่สอง (วันที่ 27 พฤษภาคม 2568) เป็นการนำเสนอผลการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยศูนย์ประเมินผล ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 – 12 ร่วมนำเสนอเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนา อันจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงผลการติดตามให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมที่จะส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเป็นกรอบแนวทางหรือทิศทางในการวางแผนการดำเนินงานในปีต่อไป นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงาน กปร. กองทัพบก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและผลการติดตามให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย.

 

 

 

2 วันสุดท้ายกับ “ฮักหลาย…มหาสารคาม” 160 ปี สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากล

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ขอเชิญชวนร่วมงาน  “ฮักหลาย…มหาสารคาม” 160 ปี สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากลจะได้พบกับสินค้ามากมายที่ขนมาร่วมสร้างสรรค์มนต์เสน่ห์แห่งเมืองมหาสารคาม อาทิ กลุ่มผ้าไหมย้อมครั่ง ผ้าฝ้ายแปรรูป ขนมนางเล็ด 7 ชุมชน กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก ตะกร้าจักสาน กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มตัดเย็บผ้าไทย สินค้าแปรรูปสมุนไพรและอาหารรสเลิศอีกมากมาย และมีกิจกรรมความบันเทิงทุกวัน

วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ จ่อย รวมมิตร
วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ เอินร์ สุรัตน์ติกานต์

และจะได้พบโปรโมชั่นสุดพิเศษ ภายในงานซื้อของครบ 500 บาท ร่วมรับคูปองแทนเงินสด จำนวน 100 บาท และลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมาย เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันสุดท้าย พบกัน ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง#ฮักหลาย…มหาสารคาม#160 ปี มหาสารคาม#สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

ชวนร่วมงาน “เปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” 6-10 มิ.ย.68 ณ ตลาดผักสมุนไพร 2 ครั้งแรกที่ตลาดไท พบกิจกรรมมากมาย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เชิญชวนร่วมงาน“เปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” วันที่ 6-10 มิ.ย.68 ณ ตลาดผักสมุนไพร 2 ตลาดไท จัดทัพสมุนไพร เครื่องเทศคุณภาพ พบหลากหลายกิจกรรม เจรจาธุรกิจ เวทีสัมมนา & นิทรรศการเกษตรและสมุนไพร ครั้งแรกที่ตลาดไท

เชิญชวนเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ซื้อ ตลอดจนผู้สนใจ ร่วมกิจกรรม “เปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” จัดโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตลาดไท ร่วมผลักดันให้ “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ตลาดไท” เป็นมากกว่าพื้นที่ซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรแหล่งใหญ่ และแห่งแรกของประเทศไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสมุนไพรทั้งระบบ ครบเครื่องทั้งเรื่องการซื้อขายในรูปแบบค้าส่งจากผู้ค้าส่งตัวจริง เวทีวิชาการ บริการสุขภาพ และนวัตกรรมด้านสมุนไพรที่น่าสนใจ ภายในงานชวนช้อปต้นพันธุ์สมุนไพร เครื่องเทศ รวมทั้งวัตถุดิบสมุนไพรทั้งสด แห้ง บดผง จากสุดยอดเกษตรกร กว่า 10 จังหวัด และคลัสเตอร์เมืองสมุนไพร ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องปริมาณ คุณภาพ และความต่อเนื่องเพื่อผู้ประกอบการ และผู้ซื้อผู้ขายทุกระดับ

พิเศษสุดกับกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจวัตถุดิบสมุนไพรจากผู้ประกอบการกว่า 14 บริษัท พร้อมบริการให้คำปรึกษา ผ่านศูนย์รวบรวมและจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรเพื่อเกษตรกร เปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยที่ยังขาดความพร้อมด้านการตลาด หรือขาดช่องทางการจำหน่ายสินค้า มีโอกาสในการจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพร พร้อมทราบความต้องการของตลาด ผู้ประกอบการมีโอกาสได้พบกับผู้แทนเกษตรกรในการรวบรวมและจัดหาวัตถุดิบสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสัมมนาเวิร์กชอปต่อยอดความรู้สู่การลงมือทำที่สร้างกำไรได้อย่างแท้จริง ตื่นตากับนิทรรศการจัดแสดงนวัตกรรมด้านการเกษตร และสมุนไพร ร่วมอัพเดทเทรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกคนในแวดวงวัตถุดิบสมุนไพร

เกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรไทย ผู้แปรรูปที่ต้องการต่อยอดวัตถุดิบ นักพัฒนาและนักวิจัยนวัตกรรมสุขภาพ รวมทั้งผู้ประกอบการ ผู้ซื้อ และผู้สนใจ พลาดไม่ได้ !! กับกิจกรรม “เปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” จัดระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ตลาดผักสมุนไพร 2 ตลาดไท ซอย 13-16 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ลงทะเบียนเข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในงาน คลิก >> https://url.in.th/:Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1174821996696838232?
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

BAM ปลื้ม! กวาดยอดจองทรัพย์ NPA ในงาน MONEY EXPO และทำการตลาดออนไลน์กว่า 278 ล้านบาท มั่นใจดันผลเรียกเก็บไตรมาส 2 ปีนี้เข้าเป้า

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10098
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

พม. ปั้นผู้นำเด็ก-เยาวชน “อพม. รุ่นใหม่” สู่พลังอาสาสมัคร เดินหน้าร่วมพัฒนาประเทศ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เดินหน้าหนุนพลังเด็กและเยาวชนผ่านโครงการ “ผู้นำ อพม. รุ่นใหม่ อาสาเพื่อสังคม (New Gen Volunteer Leadership)” มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของงานอาสาสมัครทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายภาคประชาชนที่พร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

พิธีปิดโครงการจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ กรุงเทพฯ โดย นายศราวุธ มูลโพธิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมมอบวุฒิบัตรให้แก่เยาวชนผู้นำ อพม. รุ่นใหม่ จำนวน 217 คน ที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายของสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสวัสดิการของประเทศ กระทรวง พม. จึงได้เสนอแนวทาง “5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร” โดยหนึ่งในข้อเสนอหลักคือการสร้างระบบนิเวศเพื่อความมั่นคงของครอบครัว และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย และกรมกิจการเด็กและเยาวชน โครงการนี้มุ่งสร้างเวทีให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะการทำงานอาสาสมัคร การประสานงานด้านสวัสดิการสังคม และการทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อให้กลายเป็น “พลังใหม่” ในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงประเทศในระยะยาว

นายศราวุธ กล่าวในงานว่า “เยาวชนเหล่านี้คือความหวังของประเทศ การส่งเสริมให้พวกเขาเป็นผู้นำอาสาสมัคร คือการสร้างรากฐานของสังคมที่เข้มแข็งและเปี่ยมด้วยความห่วงใย”

โครงการนี้เป็นต้นแบบสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และเยาวชน เพื่อสร้างระบบอาสาสมัครที่มีพลัง ขับเคลื่อนงานด้านสังคมอย่างครอบคลุม และตอบโจทย์ความต้องการของทุกช่วงวัยในสังคมไทย :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

สังคมไทยได้เห็นอะไร? หลังตึก สตง. ถล่ม!

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10097
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

“ฮักหลาย…มหาสารคาม” 160 ปี สร้างชุมชนฯก้าวไกลสู่สากล

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ฮักหลาย…มหาสารคาม” 160 ปี สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากลณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.30 น.
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองมหาสารคาม และร่วมเข้าชมนิทรรศการที่จะทำให้คุณหลงใหล และเพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนในการเพิ่มช่องทางการตลาดได้อย่างแพร่หลาย พร้อมกันนี้ภายในงานยังจัดกิจกรรมร่วมสร้างธุรกิจและการเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจการค้า ( Business Matching) ไปกับผู้ประกอบการ OTOP SMEs เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพและยกระดับการค้า การลงทุน ให้กับผู้ประกอบการสินค้า OTOP SMEs ให้เป็นที่ยอมรับของตลาดสากล และตลาดดิจิทัลมากขึ้น

ภายในงานมีสินค้ามากมายที่ขนมาร่วมสร้างสรรค์มนต์เสน่ห์แห่งเมืองมหาสารคาม อาทิเช่น กลุ่มผ้าไหมย้อมครั่ง ผ้าฝ้ายแปรรูป ขนมนางเล็ด 7 ชุมชน กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก ตะกร้าจักสาน กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มตัดเย็บผ้าไทย สินค้าแปรรูปสมุนไพรและอาหารรสเลิศอีกมากมาย ฯลฯ

กิจกรรมความบันเทิงพบกับศิลปินนักร้องรับเชิญดังนี้

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ เอิ้นขวัญ วรัญญา
วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ เพชร คธาวุฒิ
วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ นัท มาริสา
วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ จ่อย รวมมิตร
วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 การแสดงศิลปินรับเชิญ เอินร์ สุรัตน์ติกานต์

โปรโมชั่นสุดพิเศษ ภายในงานซื้อของครบ 500 บาท ร่วมรับคูปองแทนเงินสด จำนวน 100 บาท และลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมาย เหลือเวลาอีก 3 วัน ความสนุกอีกมากมายยังรอทุกท่านอยู่ :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

ระทึก! คน “ภูมิใจไทย” อดีต สส. – รมช. เข้าคิวรอ! ชี้แจง กกต. คดี “ฮั้ว สว.”

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10096
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)