วันศุกร์, กันยายน 12, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 24

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1175297393178581398?
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

ส่องสถานการณ์คดีโกงในอุ้งมือ ป.ป.ช. ปี 67 กว่า 400,000 ล้าน!..เลวร้ายลง?

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10410
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

BAM เขย่าวงการอสังหาฯ ลดหนักจัดเต็ม FLASH SALE 7.7

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10409
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

https://www.natethip.com/news.php?id=10409
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

“OR – พาณิชย์” ช่วยเหลือเกษตรกรรับซื้อมังคุดใต้

0

“OR – พาณิชย์” ช่วยเหลือเกษตรกรรับซื้อมังคุดใต้ เติมเต็มโอกาสสร้างรายได้สู่ชุมชนผ่านปั๊ม ปตท.

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10408
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

“ดีพร้อม” ชูธงนำ ผปก. บุกแดนปลาดิบแสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์สินค้าอาหาร&เครื่องดื่มไทย ในงาน JFEX ขยายตลาดต่างประเทศตามนโยบาย”รมว.เอกนัฏ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำทัพผู้ประกอบการไทยเดินทางทดสอบและเปิดตลาดที่ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงสู่ตลาดโลก พร้อมด้วย นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายพรธวัช เพ่งศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) และนายกิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกกรรม) ณ ศูนย์นิทรรศการโตเกียว บิ๊กไซด์ ประเทศญี่ปุ่น

งาน “JAPAN JFEX–FOOD & BEVERAGE EXPO 2025” เป็นเวทีแสดงสินค้าอาหารระดับโลก ที่รวบรวมเทรนด์นวัตกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ การแปรรูป และเทคโนโลยีอาหารเพื่อสุขภาพจากทั่วโลก กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการโตเกียว บิ๊กไซต์ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเปิดประสบการณ์ตรงให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับความต้องการของตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

ดีพร้อม โดย กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม (กอ.กสอ.) มีการจัดกิจกรรมยกระดับผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงสู่ตลาดโลก ซึ่งมีการฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการบริหารธุรกิจ การเจรจาการค้า และการเตรียมความพร้อมในการส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ พร้อมทั้งการพาผู้ประกอบการจำนวน 10 กิจการ เข้าร่วมออกงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการโตไกล ขยายช่องทางการตลาด เจรจาจับคู่ธุรกิจ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศ ตามแนวทาง 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต่นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สินค้าไทยสู่สายตาชาวโลก มุ่งหวังผลักดันปลุกกระแสซอฟต์พาวเวอร์อาหาร และเครื่องดื่มไทย ให้เติบโตก้าวขึ้นสู่เวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน สอดรับตามนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม:Cr;มณสิการ รามจันทร์

NT จับมือ T3 Technology ร่วมเพิ่มศักยภาพบริการบรอดแบนด์

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10407
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

 

 

กรมธุรกิจพลังงาน เปิดตัวโครงการ “ติดปีกธุรกิจพลังงานไทย” ทั่วประเทศ มุ่งสู่ยุค e-Service และ Energy Transition

0

https://www.natethip.com/news.php?id=10405
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

สุดฉาวรถไฟจ้างเอกชนพัฒนาระบบบัญชีการเงินเหลวลงทุน 4ปีสูญเงินไป 301 ล้านสุดท้ายยังใช้งานไม่ได้ เอกชนโยนกลองทำครบถ้วนตามสัญญา ชี้คนรถไฟห่วยแตกเอง!

0

คนรถไฟสุดเซ็ง จ้างเอกชนห้องแถวพัฒนาระบบการเงินและบัญชีร่วม 4 ปี หมดเงินไป301 ล้านบาท สุดท้ายส่อเหลวยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้จริง ทำระบบจัดซื้อจัดจ้างภายในรถไฟปั่นป่วน โดยแหล่งข่าวในการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แฉเรื่องสุดฉาวในการรถไฟฯว่า อ้าง การรถไฟฯได้จ้างเอกชนดำเนินโครงการพัฒนาระบบการเงินและบัญชี Financial Management Information System : FMIS วงเงินกว่า 300 ล้าน บาท หวังเข้าสู่ยุคไฮเทคตามหน่วยงานอื่น โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 4ปี ตั้งแต่ 25 กันยายน2563-24กันยายน 2567

โดยระบบดังกล่าว การรถไฟได้ติดตั้งใช้งานกับระบบการเงินและบัญชีของหลายหน่วยงานภายในรถไฟ อาทิ ระบบงบประมาณ ระบบงานด้านรายจ่ายและเงินยืมทดลอง ระบบรายได้สำหรับสถานีนำร่อง 12 แห่ง ระบบคลังพัสดุ ระบบบัญชีลูกหนี้และเจ้าหนี้ ระบบบัญชีทรัพย์สินถาวร และระบบบัญชีแยกประเภททั่วไป ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ ภายในการรถไฟ

อย่างไรก็ตาม ก่อนสิ้นสุดระยะเวลาสัญญาจ้าง บริษัทเอกชนผู้พัฒนาระบบได้จัดประชุมร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแล PMO เพื่อแจ้งถึงกำหนดระยะเวลาสัญญาจ้างและจัดประชุมเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆที่จะเป็นผู้ใช้งาน รวมถึงกำหนดการใช้งานจริง แต่เมื่อเริ่มใช้งานจริง กลับปรากฏว่าได้เกิดปัญหาขึ้นหลายกรณี

เมื่อถึงกำหนดการใช้จริงกลับปรากฏว่า ระบบมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้จริง เป็นเหตุทำให้งบประมาณตกเบิกได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จึงทำให้การรถไฟฯ ยังคงไม่ดำเนินการตรวจรับงาน และเบิกจ่ายให้ผู้ประกอบการ และเปิดใช้งานจริง และได้เรียกผู้รับจ้างพัฒนาระบบเข้าประชุมชี้แจงแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

โดยบริษัทอ้างว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการตามสัญญาครบถ้วนแล้ว แต่การรถไฟยังไม่ได้มีการตรวจรับงาน ทำให้บริษัทเงินไม่สามารถจะแบกรับปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากผู้ปฏิบัติงานรถไฟเองยังไม่เข้าใจระบบ เพราะประสิทธิภาพของระบบขึ้นอยู่กับการสั่งการต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และผู้บันทึกข้อมูล บริษัทเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการใช้งานเท่านั้น พร้อมกับแจ้งว่าปัญหาที่เกิด เกิดจากการรถไฟฯเองไม่ได้ดำเนินการเช่าระบบคอมพิวเตอร์เพื่อดำเนินการติดตั้งให้กับสถานีต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งยังไม่มีการต่ออายุสิทธิ์ Oracle สำหรับการใช้งานระบบ FMIS ที่หมดอายุ จึงทำให้ไม่สามารถ Run งานได้เต็มประสิทธิภาพ

ล่าสุดทางบริษัทเอกชนผู้พัฒนาระบบยังมีหนังสือแจ้งไปยังรถไฟจะดำเนินการช่วยเหลือและสนับสนุนการดูแลระบบ FMIS ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาเท่านั้น จนกว่าการรถไฟฯจะได้ข้อยุติเรื่องการขยายเวลาและงดเว้นค่าปรับ รวมทั้งดำเนินการตรวจรับงานตามกำหนด เพื่อนำระบบดังกล่าวส่งออกใช้งานจริง หลังจากนั้นจนถึงขณะนี้ผ่านมากว่า 6 เดือนเข้าไปแล้ว ระบบFMIS ของรถไฟยังคงมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้จริงทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆเกิดความสับสน ต้องใช้ระบบเดิมควบคู่และมีปัญหาในการจัดซื้อจ้างจ้าง การบริหารระบบคลังพัสดุ บัญญชีการเงิน และรายรับรายจ่ายโดยที่ยังไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ เจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่ายบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากได้เอกชนรายนี้มาทำงานแต่ทัดทานเส้นสายผู้ใหญ่ระดับสูงในรถไฟไม่ไหว

เป็นที่กล่าวขานว่าโครงการนี้มีการตั้งงบประมาณสูงเวอร์ เมื่อเทียบกับผลงานที่ออกมา เพราะระดับราคาค่างวดการจ้างทำระบบบัญชีสูง 301 ล้านบาท ซึ่งในอดีตการรถไฟฯเคยจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการบัญชีระดับบิ๊กโฟว์ เช่น PWC, EY, Deloitte KPMG มาทำ แต่คราวนี้กลับไปจ้างบริษัทไอทีห้องแถวมาทำที่มีคนทำงานเพียงไม่กี่คนแถมยังมาใช้คนในรถไฟทำงานให้อีกต่างหาก สรุปงานใครกันแน่ชักเริ่มน่าสงสัย เหตุเพราะบริษัทบิ๊กโฟว์เค้าไม่สามารถทำถุงขนมตกในหน่วยงานได้ เพราะเค้ามีระบบ compliance ในบริษัทเค้าจึงเป็นเหตุไม่ได้รับงาน

นอกจากนี้ยังมีการลักไก่แอบให้บริษัทเอกชนไอทีใช้สถานที่การรถไฟ มีออฟฟิศส่วนตัวห้องทำงานใช้น้ำใช้ไฟของหลวงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆให้กับหน่วยงาน ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขสัญญาว่าสามารถใช้สถานที่ของการรถไฟได้ฟรีๆ มิทราบว่าเหตุใดการรถไฟฯถึงหลับหูหลับตาปล่อยปะละเลยเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายนี้ได้ถึงเพียงนี้ ตามลำพังแค่เสียบปลั๊กชารจ์มือถือส่วนตัวใช้ไฟหลวงก็ผิดแล้ว นี้ถึงขนาดมีออฟฟิศส่วนตัวตั้งอยู่ในหน่วยงานหากไม่เส้นใหญ่จริงๆ คงทำกันเช่นนี้ไม่ได้ ว่ากันว่างานนี้มีถุงขนมหนักหลายสิบกิโลตกอยู่ระหว่างทางในการรถไฟฯหรือไม่ คงต้องฝากไปยังหน่วยงานตรวจสอบ ทั้งป.ป.ช.และสตง.เข้ามาตรวจสอบถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้และบริษัทเอกชนขาใหญ่ไอทีรายดังกล่าวด้วย.