http://www.natethip.com/news.php?id=3105
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3105
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทนออนไลน์ // “ผู้ปกครอง-ทนายรณณรงค์” ร้องอัยการช่วยคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายโรงเรียนสารสาสน์ฯ โรงเรียนรับผิดชอบส่งจิตแพทย์ฟื้นฟูจิตใจเด็ก
วันที่ 5 ต.ค. 63 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมกลุ่มผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำความรุนแรงในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เดินทางมายื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและฟ้องร้องคดีแพ่งต่อโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ ตลอดจนผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง และขอให้ติดตามในส่วนของคดีอาญาไม่ให้เกิดการแทรกแซงในคดี เนื่องจากเกี่ยวข้องเครือธุรกิจมูลค่าหลายพันล้าน โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายประยุทธ กล่าวว่า ทางผู้ปกครองและทนายได้นำหนังสือมายื่นเพื่อให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการหลายเรื่อง ขอให้ดำเนินการ คือกระบวนการคุ้มครองลูกหลานเราที่ตกเป็นเหยื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งการคุ้มครองค่าเสียหายที่ผู้ปกครองพึงได้รับ ไม่ว่าจากผู้กระทำหรือทางโรงเรียน อัยการสูงสุดได้สั่งการด่วนไปยังพนักงานอัยการพื้นทีที่เกิดเหตุ เพราะลูกหลานที่ตกเป็นเหยื่อต้องเข้าไปให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งตามกฎหมาย กระบวนการให้ถ้อยคำต้องมีพนักงานอัยการร่วมด้วยกับสหวิชาชีพและพนักงานสอบสวน ในการคุ้มครองดูแลสิทธิลูกหลาน ถือเป็นหลักสากลที่เด็กเยาวชนมีค่าที่สุดที่เราต้องช่วยกันคุ้มครองดูแล
นายประยุทธ กล่าวต่อไปว่า ภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้สะเทือนใจเฉพาะผู้ปกครอง ครอบครัว เด็กและเยาวชน แต่เป็นความสะเทือนใจของทั้งประเทศและทั่วโลก การคุ้มครองสิทธิเด็กเป็นภารกิจร่วมกันของคนทั้งโลก โดยตนจะนำหนังสือร้องเรียนดังกล่าวเสนอให้อัยการสูงสุดเพื่อสั่งดำเนินการ โดยทางอัยการสูงสุดจะทำงานเชิงรุก จึงอยากขอให้ผู้ปกครองและสังคมสบายใจ สำนักงานอัยการสูงสุดลงไปดูแลลูกหลานตั้งแต่เกิดเรื่องโดยทันที ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่เข้มข้น จะต้องไม่เกิดเรื่องอย่างนี้กับลูกหลานเราอีก ทุกภาคส่วนต้องดูแลลูกหลานของเรา
ด้านกลุ่มผู้ปกครองเด็กนักเรียน น.ส.พิมรดา รัตนถาวรกิติ แม่น้องวิน วัย 2 ขวบที่ถูกครูอิงนำถุงขยะสีดำมาครอบศรีษะในอยู่ในชั้นเนอสเซอร์รี่ เปิดเผยว่า ทนายได้ประสานกลุ่มผู้ปกครองให้เข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายและเรียกร้องความเป็นธรรมจากโรงเรียน โดยกรณีของน้องวิน จากกล้องวงจรปิดในชั้นเรียนพบว่า ครูได้กระทำการดังกล่าว และยังกระชากตัวน้องวินไปหลังห้องเรียนและนำมืออุดปาก อุดจมูก และที่หนักกว่านั้นคือ การจับตัวน้องวินให้ลงไปอยู่ในถังขยะพร้อมข่มขู่ให้หยุดร้องให้ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังและเห็นพฤติกรรมของครูคนดังกล่าวยิ่งเจอเรื่องที่รับไม่ได้ ตนจะไม่ขอยอมความกับครูและโรงเรียน
จากการสังเกตพฤติกรรมของน้อง ทางร่ายกายแม้จะไม่มีความผิดปกติมาก บางครั้งมีแค่รอบเขียวช้ำก็คิดว่า เด็กเล่นกันแล้วกระทบกระทั่ง จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ถ้าด้านจิตใจไม่ทราบจะกระทบกระเทือนอะไรหรือไม่ กลัวจะส่งผลถึงอนาคต โดยเฉพาะเป็นภาพจำของเขา เพราะลูกถูกกระทำอย่างรุนแรงมาก และเชื่อว่า เขาน่าจะถูกกระทำมาหลายเดือนแล้ว แค่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพียง 3 วัน ยังพบว่าลูกถูกกระทำขนาดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าลูกโดนอะไร กลางคืนก็มีนอนร้องให้ นอนผวา บางครั้งลูกก็มีอารมณ์เกรี้ยวกราด ก็ยังคิดว่าอาจจะเป็นวัยของเขา
ด้าน นายณรงค์ปกรณ์ อินไชยย์ทอง บิดาน้องเทมส์ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ปกครองมาขอความเป็นธรรมให้กับบุตรของตัวเอง ในส่วนของน้องเทมส์ จากการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่าลูกชายถูกทำร้ายถึง 17 ครั้ง จึงขอฝากความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากอัยการ
ส่วน นายชาญวิทย์ น้อยสุขยิ่ง บิดาน้องเสือ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทำร้ายร่างกายพี่เลี้ยงจุ๋มว่า ตนไม่มีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากบันดาลโทสะที่เห็นลูกชายถูกทำร้าย พร้อมรับผิดชอบตามกฎหมายและเสียค่าปรับทุกประการ ตนยอมรับผิดว่าเราผิด และเป็นสิทธิของพี่เลี้ยงจุ๋มที่จะเข้าแจ้งความ
ส่วนกรณีที่พี่เลี้ยงจุ๋มออกมาขอโทษโดยระบุมีความเครียดจากปัญหาทางครอบครัวนั้น นายชาญวิทย์ กล่าวว่า หากสำนึกผิดจริงๆ ก็ควรจะเข้าพบผู้ปกครองทุกคนเพื่อมาขอโทษต่อหน้า ไม่ใช่ขอโทษผ่านสื่อ เป็นการแสดงความจริงใจให้ชัดเจน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วจะไปย้อนเรื่องราวกลับมาไม่ได้ และการให้อภัยเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นายชาญวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่โรงเรียนในเครือสารสาสน์ ตั้งทนายมาดำเนินการดูแลเรื่องคดีว่า ด้านกฎหมายถือว่ามีความผิด เพราะมีหลักฐานปรากฏในกล้องวงจรปิดชัดเจน ไม่ว่าจะตั้งทนายมากี่คนเพื่อสู้คดีก็เป็นสิทธิของทางโรงเรียน แต่ความจริงก็คือความจริง ส่วนเรื่องการฟ้องร้องทางเพ่ง กลุ่มผู้ปกครองทั้งหมดยังไม่ได้คุยได้ ว่าแต่ละคนต้องการอะไรบ้าง ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ ขอแค่โรงเรียนออกมารับผิดชอบก่อนดีกว่า โดยเฉพาะการดูแลด้านจิตใจของเด็กๆ เพราะเด็กหลายคนเริ่มมีอาการ กังวล หวาดผวา และมีปัญหาการเข้าสังคม จึงอยากให้จิตแพทย์เข้ามาช่วยดูแล จากการปรึกษาจิตแพทย์เบื้องต้นการฟื้นฟูจิตใจของของเด็กๆ ต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี เพราะภาพความทรงจำที่ถูกกระทำรุนแรงจะฝังอยู่ที่สมองด้านหลังยาวนาน เงินเท่าไหร่ก็รักษาไม่ได้ ตนไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้ลูกคนเดิมคืนกลับมามากกว่า
ขณะที่ นายรณณรงค์ ทนายความ กล่าวว่า หากผู้ปกครองคนใดถูกโรงเรียนฟ้องดำเนินคดี ให้แจ้งมายังตนหรือทางอัยการ ซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายเต็มที่
Cr.: นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผูิสื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // กรมบังคับคดี เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พบสูงถึงร้อยละ 90.2 เขื่อมั่นการบริการ
วันที่ 5 ตุลาคม 2563 นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการสำรวจฯ บริษัท ซูเปอร์โพล จำกัด แถลงผลการวิจัยโครงการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยผลจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 90.2 เชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม ซึ่งสูงกว่า ปีที่ผ่านมา
นางอรัญญา กล่าวว่า ภารกิจหลักของกรมบังคับคดีเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล เป็นกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างความเป็นธรรม และอำนวยความสะดวกแก่คู่ความทุกฝ่ายในคดี ตามแผนปฏิบัติราชการ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) กรมบังคับคดีกำหนดยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรและยกระดับธรรมาภิบาล เพื่อให้มีภาพลักษณ์องค์กรที่น่าเชื่อถือ โปร่งใส เป็นธรรม เสมอภาค และทันสมัย เป็นองค์กรที่มีระบบการบังคับคดีที่มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกินความจำเป็น ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวก และได้รับการตอบสนองความต้องการ รวมทั้งมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นถึงความต้องการและความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการเป็นหลักสำคัญ และเพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่ LED – Thailand 4.0 ยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนตามนโยบายการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เสริมสร้างความเชื่อมั่นของการบังคับคดี สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมั่งคั่ง ยั่งยืน จึงทำให้กรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานภาครัฐต้นแบบการสร้างและพัฒนากำลังคนภาครัฐเชิงกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ ดังนั้น การนำความเห็นจากผู้รับบริการผู้มีส่วนได้เสียมาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพของงานราชการและบริการประชาชน เพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับปรุงการให้บริการโดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงให้มีการสำรวจวิจัย “โครงการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563” โดยมอบหมายให้บริษัท ซูเปอร์โพล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการตามโครงการนี้ เพื่อให้การสำรวจมีความเป็นมาตรฐาน น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ มีความเป็นกลาง และปราศจากอคติ ในการสำรวจจึงต้องมีผู้ประเมินอิสระจากหน่วยงานภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมบังคับคดีจะได้สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี อย่างต่อเนื่องต่อไปในทุกๆปี เพื่อพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความพึงพอใจให้กับประชาชนผู้รับบริการ รวมถึงเพื่อเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมบังคับคดีที่สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ในการเสริมสร้างการรับรู้ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของสาธารณชนต่อภารกิจสำคัญในกระบวนการบังคับคดี
Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์// “แอทเลติโก้” ร่วมกับ บริษัทไทยประกันชีวิต ระดมทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ผุดโครงการคัดตัวนักกีฬาเทนนิสไทย เพื่อรับทุนไปศึกษาต่อ และ ฝึกซ้อมในต่างประเทศ ย้ำที่ผ่านมาส่งซูเปอร์สตาร์ไปสหรัฐอเมริกาและอังกฤษจำนวนหลายสิบคน
นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท แอทเลติโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยมีนายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer ผู้ร่วมดูแลโครงการ จัดโครงการ สปอร์ต โชว์เคส 2019 เออีเอส. ซ็อคเกอร์ แคมป์ ไทยแลนด์ X ไทยไลฟ์ อินชัวร์รัน ( Sport Showcase 2019 : AES Soccer Camp Thailand X Thai Life Insurance ) ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนมิถุนายน และ เดือนพฤศจิกายน และโครงการ สปอร์ต โชว์เคส 2019 ครั้งที่ 3 สำหรับกีฬาเทนนิส เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ด้วยการเปิดคัดนักกีฬาฟุตบอลและเทนนิสที่มีความสามารถ โดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ไปศึกษาต่อ และ เล่นกีฬาในลีกโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างประเทศ
ซึ่งกระแสตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจ มีนักเตะและนักเทนนิสเยาวชนเข้าร่วมโครงการในระบบการคัดเลือกหลายร้อยคน โดยมีนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับทุนการศึกษาจำนวน 30 คนรวมมูลค่ากว่า 79 ล้านบาท ประกอบด้วย “บอส” ภาณุวัฒน์ บุญภักดี , “ภูมิ” ภคิน ทองบุญเจิม , “ก้อง” สายฟ้า จันทร์ชัยมงคล, “ปั้น” รัชพล สกุลวงศ์ธนา และ “กะปอม” จอมขวัญ เวทยไวกูณฐ์ ฯลฯ
สำหรับเดือนนี้ บริษัทแอทเลติโก้ จำกัด ร่วมกับ ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ Sport Showcase 2020 # 4 : AES Tennis Showcase Thailand X Thai Life Insurance หรือ โครงการคัดนักกีฬาเทนนิส ที่มีความสามารถ เพื่อรับทุนการศึกษาในต่างประเทศ ครั้งที่ 4 วันที่ 10-11 ตุลาคม 2563 ที่ สนามเทนนิส อิมแพค เทนนิส อคาเดมี่ เมืองทองธานี
นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ยืนยันว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อให้โอกาสแก่นักกีฬาเทนนิสเยาวชนไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14-18 ปี ทั้งชาย และ หญิง โดยได้จัดทุนการศึกษาไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท เพื่อส่งนักกีฬาเทนนิสที่ผ่านการคัดเลือกไปศึกษาต่อในระดับโรงเรียน หรือ ยูนิเวอร์ซิตี้ระดับแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งได้เข้าคอร์สการฝึกกีฬาเทนนิสในอคาเดมี่กับผู้ฝึกสอนอาชีพ ซึ่งการคัดเลือกครั้งนี้ ไม่มีการใช้เส้น หรือ ความสนิทส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
เนื่องจากผู้ที่คัดเลือกเป็นผู้ฝึกสอนในอคาเดมี่จากต่างประเทศ คัดเลือกผ่านระบบออนไลน์ ด้วยตัวเอง ไม่สามารถเดินทางมาเมืองไทยไทยได้ เพราะติดปัญหาจากสถานการณ์ไวรัสโควิด – 19 ผู้ที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page : Sportsync Thailand ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์// “จ็อบ” โชติภัทร พุ่มแก้ว ริมเส้นของ “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด” ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวา ทำให้ต้องถอนตัวจากทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าแคมป์เก็บตัวช่วงฟีฟ่า เดย์ และอุ่นเครื่องกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ทำให้ อากิระ นิชิโนะ เรียกตัว กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ จอมทัพจาก สุพรรณบุรี เอฟซี มาทดแทน
โดย โชติภัทร พุ่มแก้ว ทำไป 3 ประตู จากการลงสนาม 8 นัด ศึกลูกหนังโตโยต้าไทยลีก ฤดูกาล 2020-21 ล่าสุดดาวเตะวัย 22 ปี ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวา จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง เกมที่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่ายให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
จากการตรวจอย่างละเอียดพบว่า โชติภัทร เจ็บบริเวณข้อเท้าขวา จนไม่สามารถเข้าแคมป์กับทีมชาติไทยได้ ทำให้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือของทีมเรียก กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ จอมทัพจาก สุพรรณบุรี เอฟซี มาทดแทน
ซึ่ง นิชิโนะ เผยว่า “ผมทราบมาว่า โชติภัทร เป็นนักเตะที่ดีและได้ไปดูฟอร์มการเล่นที่สนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บและเล่นได้เพียงแค่ครึ่งเดียว”
“ผมได้เรียก กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ จาก สุพรรณบุรี เอฟซี มาทดแทน แล้ว ซึ่งจริงๆ กษิดิ์เดช อยู่ในลิสต์รายชื่อที่จะเรียกอยู่แล้ว แต่ผมได้รับรายงานว่าเขาได้รับบาดเจ็บและต้องพักหลายเดือนทำให้ไม่ได้เลือกมาตั้งแต่ตอนแรก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์เขาสามารถกลับมาลงสนามได้ ทำให้ผมตัดสินใจเรียก กษิดิ์เดช มาเก็บตัวเข้าแคมป์ด้วยทันที”
“ในส่วนของการเลือก นครปฐม มาอุ่นเครื่องด้วยนั้นเป็นการเลือกของสตาฟฟ์โค้ช เป้าหมายหลักของเกมอุ่นเครื่องคือการได้เรียนรู้และดูฟอร์มนักเตะหน้าใหม่ เพื่อขยายตัวเลือกนักเตะทีมชาติไทยให้มีมากขึ้นด้วย”
“การที่เราไม่เลือกนักเตะจากเจลีก และไม่มีนักเตะจาก 4 สโมสรที่ติดโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก นัดตกค้าง ทำให้ผมมีโอกาสดูนักเตะรายอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ครับ”
สำหรับฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 5 ตุลาคม 2563 และเดินทางไปเก็บตัวเข้าแคมป์วันที่ 7-11 ตุลาคม 2563 ที่ สนามซ้อม วินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ ลงอุ่นเครื่องกับสโมสร นครปฐม เอฟซี วันที่ 10 ตุลาคมนี้ เวลา 17.00 น. จะแจ้งสนามให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 ครึ่ง ครึ่งละ 30 นาที
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
http://www.natethip.com/news.php?id=3104
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3103
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันโบว์ลิ่งไทยแลนด์ทัวร์ 2020 รายการ“สิงห์ โปรเฟสชั่นนอลไทยแลนด์ ทัวร์ 2020” ประเภทโอเพ่นชายและหญิง ชิงเงินรางวัลกว่า 5,000,000 บาท ที่ บลูโอริธึ่มแอนด์ โบว์ล รัชโยธิน ซึ่งรายการนี้เป็นรายการเพื่อพัฒนาและเป็นสนามให้นักกีฬาโบว์ลิ่งได้มีการแข่งขัน และรับสม้ครนักกีฬาโบว์ลิ่งจากทั่วประเทศ มาแข่งขัน ซึ่งเป็นครั้งแรกของสมาคมฯ ที่จัดการแข่งขันระดับโปรเฟสชั่นนอลชึ้นในเมืองไทย
กติกาการแข่งขันรอบคัดเลือกนั้น จะเอานักกีฬาคะแนนสูงสุด 24 คน ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และ นักกีฬาที่ทำคะแนนสูงสุด 1-4 จะได้สิทธิ์ไปยืนรอบสุดท้าย ส่วนนักกีฬาที่เหลือจะต้องแข่งขันเพื่อคัดเหลือเพียง 4 คน เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศรวมกับนักกีฬาตัวยืนในรอบชิงชนะเลิศ 4 คนเป็น 8 คน แต่สำหรับรอบคัดเลือกมีการคัดนักกีฬาทั้งหมด 15 คนเข้ารอบสเตปเรดเดอร์ เพื่อรับเงินรางวัล
รอบสเตปเรดเดอร์ ซึ่งคัดนักกีฬาจากรอบคัดเลือก 15 คน ผลปรากฎว่า รอบคัดเลือกเสตป แชมป์ “เบนซ์”อรรณพ อามรณ์สราญนนท์ ทีมชาติไทยชุดเอเชียนอินดอร์เกมส์ ชนะ เพื่อนร่วมทีม “โจ้”ญาณพล ลาภอาภารัตน์ 184-154 คะแนน, อันดับ 3 สิทธิพล คุณอักษร , อันดับ 4 สุรศักดิ์ มานุวงศ์ , อันดับ 5 พลกฤต ธนะสังข์, อันดับ 6 ลภัสดนัย ชูแสง, อันดับ 7 วัชระพงษ์ อึ้งตระกูลศ์, อันดับ 8 ยูอิจิ ฟูกชิมา, อันดับ 9 ภูธน บุษปนิกรกุล, อันดับ 10 กิ่งกมล สารทอง, อันดับ 11 อัจฉริยะ เช็ง, อันดับ 12 ฌาน อารีย์กุล, อันดับ 13 สาโรจน์ ประชาผดุง, อันดับ 14 ชูเกียรติ สามัคคีธรรม และอันดับ 15 ศุภกฤต วันทาสุข
รอบชิงชนะเลิศ 4 คนที่ทำคะแนนได้สิทธิ์เข้าเป็นต้วยืน ประกอบด้วย อันดับ 1 ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ซึ่งทำคะแนนรวมมาได้ 1,446 คะแนน, อันดับ 2 อรรณพ อารมณ์สราญนนท์ 1,398 คะแนน, อันดับ 3 พลกฤต ธนะสังข์ 1,369 คะแนน, อันดับ 4 ชูเกียรติ สามัคคีธรรม 1,341 คะแนน ซึ่งจะต้องรอผู้ที่เข้ารอบอีกทั้งหมด 4 คน ซึ่งคัดจากการแข่งขันของ อันดับ 5-24 เพื่อมาทำการโยนทั้งหมด 6 เกม หาสุดยอดนักกีฬาโบว์ลิ่ง สิงห์ โปรเฟสชั่นอลไทยแลนด์ทัวร์ ประจำปี 2563
โปรแกรมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 18 ตุลาคมนี้ ที่ บลูโอริธึ่มแอนด์ โบว์ล รัชโยธิน เริ่มเวลา 15.00 น. สนใจติดตามรายละเอียดและผลการแข่งขันได้ที่ เฟชบุค สมาคม กีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย (thaittbabowling) และประเภทอาวุโส แข่งวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่ ทีพีดี บางบอน
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์// กกท.อนุมัติเก็บตัว ทีมสอยคิว สู้ศึกเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ เดือน พ.ค. ที่พัทยา นายกฯ มั่นใจจะต้องคว้าถึง 2 เหรียญทอง เตรียมเรียกมืออาชีพเอฟ-หมู-ซันนี่ กลับจากอังกฤษโดยมอบให้ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นำทีม
“คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬา เผยว่า การแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้ง 6 ที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพระหว่าง 21-30 พ.ค. 2564 ที่กรุงเทพ-พัทยา ซึ่งผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี อนุมัติให้ทุกสมาคมฯ ทำการเก็บตัวฝึกซ้อมตั้งแต่ 1 ต.ค. 2563 ถึง 18 พ.ค. 2564 รวม 230 วัน เพื่อความแข็งแกร่งในการคว้าเหรียญทองให้ประเทศชาติ โดยขอให้ทุกสมาคมฯ ดูแลนักกีฬาในการฟิตซ้อมอย่างเต็มที่
สำหรับการแข่งขันกีฬาคิวสปอร์ตมีชิง 15 เหรียญทองโดยเป็น บิลเลียดชิง 2 ทอง ประเภทเดี่ยวและคู่ สนุกเกอร์ 15 แดง (ชาย-หญิง) 4 เหรียญทองประเภท (เดี่ยว-ทีม) สนุกเกอร์ 6 แดง (ชาย-หญิง) ชิง 4 เหรียญทอง (ประเภทเดี่ยว-ทีม) พูล 9 ลูก ประเภทชาย-หญิง ชิง 4 เหรียญทอง ประเภท (เดี่ยว-คู่) และแครอมบอล 3 ชิ่ง ชิง 1 เหรียญทอง
สำหรับรายชื่อนักกีฬาประเภทสนุกเกอร์ เทพไชยา อุ่นหนู (เอฟ นครนายก) นพพล แสงคำ (หมู ปากน้ำ) อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ (ซันนี่ อาร์แบค) รัชพล ภู่โอบอ้อม (ต๋อง ศิษย์ฉ่อย) กฤษณัส เลิศสัตยาธร (นุ้ก สงขลา) ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ (แมน นครปฐม) ภาสกร สุวรรณวัฒน์ (กร นครปฐม) สันติภาพ วงศ์มหาชัย (กิ๊ก พิษณุโลก) สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง (ขวัญ สระบุรี) ประเภทบิลเลียด ประพฤติ ชัยธนะสกุล (รมย์ สุรินทร์) ธวัช สุจริตธุรการ (วัช หาดใหญ่) ยุทธภพ ภาคพจน์ (นุ้ก จันท์) สุริยา สุวรรณสิงห์ (สุริยา พัทยา)
ประเภทพูล 9 ลูก (ชาย) ธเนศ ธนะสมบูรณ์, อำนวยพร โชติพงษ์, เทพวินทร์ อรัญนารถ, ธนัช มรรคมนตรี ประเภทพูล (หญิง) ศศิวิมล วรรณประทีป, วุฒิพันธ์ คงคาเขตร, เพ็ญนภา นาคจุ้ย, สันทินี ใจซื่อกุล ประเภทแครอมบอลล์ ธงชัย ปุณยวีร์-สมพล แซ่ตั้ง โดยนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ นายสุนทร จารุมนต์ มั่นใจศึกหนนี้เราหวัง 2 เหรียญทอง
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์