วันเสาร์, พฤศจิกายน 22, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2071

ศรีสุวรรณ์ ชี้ยื้อต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ปชช.เสียประโยชน์ ผู้ลงทุนขาดความเชื่อมั่น

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ศรีสุวรรณ” ชี้จับตา ครม.ยื้อการลงมติให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว (หมอชิต-คูคต)​ซึ่งเป็นโครงการที่ให้บริการสาธารณะไม่ใช่ผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ควรส่งเสียงเพื่อให้นักการเมืองเกิดความยำเกรง

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
กระทรวงมหาดไทย ขอถอนเรื่องการพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว (ทางขยายเชื่อมต่อระหว่างหมอชิด-คูคต)​กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กลับไปทบทวน หลังจากจากกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยิบยกผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง ลงวันที่ 10 พ.ย.2563 ขึ้นมาคัดค้าน ว่า เป็นการทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบทางธุรกิจโครงการขนาดใหญ่ประเภทนี้ต้องวางแผนการลงทุนระยะยาว แต่ผู้กระทบโดยตรงอย่างแท้จริงคือผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ขาดโอกาสที่จะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายศรีสุวรรณ์ ยื่นคำร้องเรียนและสอบถามต่อคณะรัฐมนตรี กรณีคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 เห็นชอบเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR)หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยเขาบอกว่า ที่ร้องเรียนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพราะชัดเจนว่ามีพฤติกรรมในการเอื้อเอกชนบางราย ซึ่งขัดแนวทางการประมูลงานในอดีต และเมื่อศาลปกครอง สั่งคุ้มครองให้กลับไปใช้แนวทางการประมูลเดิม จึงถือว่าถูกต้องแล้ว

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลยกเหตุไม่ให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว ส่วนตัวมองว่า ผู้เสียหายที่สุดคือประชาชน เพราะบีทีเอส มีสัญญาอีกนับ 10 ปี กว่าจะครบสัญญาสัมปทาน  แต่หากรัฐบาล เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ โดยเร็ว จะทำให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจว่าจะไม่หยุดยั้งการพัฒนาการให้บริหารเพื่อประโยชน์ผู้โดยสาร ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ผู้ประกอบการก็มีเหตุผลที่ไม่กล้าลงทุนในระยะยาว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ไปต่อหรือไม่

นอกจากนี้ บีทีเอส คือผู้ลงทุนโครงการแต่ต้น ย่อมรู้เทคนิควิธีการเดินรถอย่างช่ำชอง แต่การชักเข้า คนที่กระทำการอย่างนี้เท่ากับไม่ได้ยึดถือประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า อยากให้สังคมจับตาว่า โครงการที่ให้บริการสาธารณะไม่ใช่ผปลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงอยากให้ประชาชนส่งเสียง เพื่อที่นักการเมืองจะเกิดความยำเกรงเสียงประชาชนบ้าง

อนึ่ง การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 17 พ.ย.63 กระทรวงคมนาคม หยิบยกผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง ลงวันที่ 10  พ.ย. 63 ขึ้นมาคัดค้าน ทั้งที่การประชุม ครม. 13 ส.ค. 63 เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มิได้มีท่าทีคัดค้านร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว แต่อย่างใด

โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 กระทรวงคมนาคม เป็นฝ่ายเสนอผลการพิจารณาศึกษา เหตุผลและความจำเป็น เรื่องการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส ของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้มีมติรับทราบ

จากการตรวจสอบพบว่า เรื่องนี้มีการประชุมจนได้ข้อสรุปจากทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตามเอกสารกระทรวงการคลัง วันที่ 16 พ.ย.63 ว่า กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการมาตามลำดับขั้นตอน และกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา เห็นชอบโครงการนี้มาตั้งแต่แรก แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง รมว.คลัง จากนายปรีดี ดาวฉาย เป็นนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ สำนักเลขาธิการครม. จึงต้องขอความเห็นจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง ตามมติ ครม. 13 ส.ค. 63 และกระทรวงการคลัง ยังคงยืนยันให้ความเห็นชอบตามเดิม จากที่ทุกหน่วยงานเคยลงมติรับทราบผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ในโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว มาก่อนหน้า โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ที่ร่วมให้ความเห็นตั้งแต่วันที่  4 มิ.ย.63 และที่ประชุมครม. วันที่ 13 ส.ค.63 เคยรับทราบผลการพิจารณาตามรายงานสรุปของกระทรวงมหาดไทย ไปแล้ว

ดังนั้น โครงการขยายสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับ “บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” ได้ผ่านความเห็นชอบของทุกหน่วยงานแล้ว จึงมีการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การขอมติที่ประชุมครม.เพื่ออนุมัติ  ในวันที่ 17 พ.ย. 63 แต่กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ได้นำผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง ขึ้นมาคัดค้าน โดยไม่สนใจแนวทางเดิมจากการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย มาตั้งแต่แรก อะไรเป็นตัวแปรทำให้หลักคิดของนายศักดิ์สยาม เปลี่ยนไป

สำหรับ “บีทีเอส” นั้น มีปัญหากับ กระทรวงคมนาคม ถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ขอความเป็นธรรม กรณี รฟม. แก้ไขเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประมูลสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม จนถูกตั้งคำถามว่า เป็นไปเพื่อเอื้อให้กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ  BEM หรือไม่

จากนี้ไป จึงต้องจับตาว่า ท้ายสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจประเด็นนี้อย่างไร เพราะในคราวการประชุมครม. วันที่  13 ส.ค.63 มีการหารือในประเด็นเดียวกันนี้อีกครั้ง เป็นที่มาหนังสือด่วนกระทรวงการคลัง ที่ กค 0820.1/20037 ยืนยันความเห็นชอบ ปรากฎข้อความสำคัญ ว่า “กระทรวงการคลังให้ความเห็นตามเดิม เหมือนที่กระทรวงคมนาคม เคยเสนอผลการพิจารณารายงานผลการศึกษาฯ ตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร) 0202/192 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2563 ให้ที่ประชุมครม.รับทราบไปแล้ว

ดังนั้น ความตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าคสช. ในประกาศแนวนโยบายเรื่องการเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อคุณภาพชีวิตคนกรุงให้มีความสมบูรณ์แบบ จะเกิดขึ่นได้หรือนั้น อยู่ที่จะมีมติให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

“สิระ” ปฎิเสธข้อกล่าวหาคดี”อ.อ๊อด” ฟ้องหมิ่นประมาท ปมหน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ ปฏิเสธข้อกล่าวหา คดี “อ.อ๊อด” ฟ้องหมิ่นประมาท ปมตรวจสอบหน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน ขอพิจารณาคดีลับหลัง ไม่ใช้้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต โดยนัดตรวจหลักฐาน-กำหนดวันนัดสืบพยานวันที่ 18 ม.ค.ปีหน้า

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.63  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดี อ.809/2563 ที่ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ดูหมิ่นซึ่งหน้า และดูหมิ่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท

ฟ้องโจทก์สรุปว่า โจทก์เป็นรองศาสตราจารย์ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ โจทก์ได้ใช้เฟซบุ๊กในการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่เป็นประเด็นสำคัญที่น่าสนใจต่อประชาชนทั่วไป สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 นายสิระได้แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชน ต่อมามีสื่อมวลชนสำนักหนึ่งส่งหน้ากากอนามัยมาให้โจทก์ตรวจสอบว่ามีอันตรายต่อสุขภาพของผู้สวมใส่หรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะบาง และมีกลิ่นเหม็นที่ผิดปกติ จากการตรวจสอบพบว่าหน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน มีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

ต่อมาวันที่ 13 มี.ค. 2563 เวลา 10.00 น.ที่ สน.ทุ่งสองห้อง จำเลยได้กล่าวว่าโจทก์ บน สน.ทุ่งสองห้อง ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ให้ข่าวว่าจำเลยนำหน้ากากอนามัยที่มีสารก่อมะเร็งแจกจ่ายให้แก่ประชาชน จากนั้นในช่วงบ่ายเวลา 13.00 น. จำเลยยังได้แถลงข่าวและนำบันทึกประจำวันไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และแขวงถนนไชยศรี เขตดุสิต กทม.

ศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา และนัดสอบคำให้การ กำหนดวันนัดสืบพยานและตรวจพยานหลักฐานในวันนี้

ศาลได้อ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอสืบพยานสู้คดี ต่อมาเสมียน  ทนายความจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลย แต่ไม่ขอใช้เอกสิทธิ์การเป็นส.ส.คุ้มครอง เพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปได้ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้พิจารณาคดีจำเลยได้ ขณะเดียวกันเสมียนทนายความจำเลยแถลงว่าในวันนี้ทนายความจำเลยไม่ได้มาศาล เนื่องจากติดว่าความคดีอื่นที่จ.ขอนแก่น จึงขอเลื่อนตรวจหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานออกไปก่อน ศาลสอบถามทนายโจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตเลื่อนไปตรวจหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 18 ม.ค.2564

ภายหลังการพิจารณา นายสิระ   กล่าวสั้นๆ ว่า คดีนี้ไม่มีอะไร ตนขอให้ศาลพิจารณาคดีอย่างเร่งด่วนและไม่ใช้เอกสิทธิ์การเป็นส.ส.คุ้มครอง

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“เอกพล” เบ่งกล้ามสวย ซิวแชมป์ปิดเพาะกาย “อีลิท ฟิสิค” ที่ สมุย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ไข่เจียว” เอกพล สุขทอง แชมป์โลก แอธเลติกฟิสิค ปี 2018 ที่เชียงใหม่ คว้าแชมป์เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. เช่นเดียวกับ “เดย์” แชมป์โลก ปี 2019 ที่เกาหลีใต้ คว้าแชมป์เพาะกายรุ่นใหญ่สุด ฝ่ายสาวสวย “เนม” รองแชมป์เอเชีย 2019 ซิวแชมป์โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 164 ซม. ควงคู่ “กวาง” แชมป์โลก 2018 ครองแชมป์ รุ่นความสูงเกิน 164 ซม.

การแข่งขันเพาะกาย รายการ “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิลิท ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2020” ที่ บริเวณลานหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา วันสุดท้ายมีดังนี้
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. ที่ 1 “ไข่เจียว” เอกพล สุขทอง แชมป์โลก แอธเลติกฟิสิค ปี 2018 ที่เชียงใหม่ ที่ 2 ชุมพล สมบูรณ์ ที่ 3 วีรพงษ์ สมุทรพิพัฒน์ ที่ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 80 กก. ที่ 1 “เดย์” กิตติศักดิ์ วุฒิการณ์ แชมป์โลก ปี 2019 ที่เกาหลีใต้ ที่ 2 แดดดี้ วูโอริเนิน (ฟินแลนด์) ที่ 3 กองพล ทองสุข

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก. แชมป์ ภวันดร สังข์ทอง ที่ 2 ชัยพิพัฒน์ ลิ่วตระกูล แชมป์โลก แอธเลติกฟิสิค ปี 2018 ที่เชียงใหม่ ที่ 3 เดชชนะ ดับทุกข์ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก. ที่ 1 พงษ์ศิริ พรหมจรรย์ ที่ 2 อรรคเดช ปลีนารัมย์ ที่ 3 เทียน แพวขุนทด
รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก. ที่ 1 กฤตภาส แจ้งกระจ่าง ที่ 2 โกวิท วีรกิจมหานนท์ ที่ 3 เควิน ทอมป์สัน (ออสเตรเลีย) รุ่นมาสเตอร์ อายุ 45 ปี ขึ้นไป ที่ 1 ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล ที่ 2 ชาญยุทธ์ ทิมทอง ที่ 3 ประธาน คงแนวดี

โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม.ที่ 1 กนกวรรณ โฆรวิส ที่ 2 บุญลึก สงวนลิขิตกุล ที่ 3 มัทรี เรืองสมบัติ รุ่นความสูงไม่เกิน 164 ซม.ที่ 1 “เนม” ตรีรักษ์ สระป้อมแก้ว รองแชมป์เอเชีย 2019 แชมป์ “ไทยแลนด์ อีสาน คลาสสิค” ที่ 2 สุกัญญา เจริญธนกิจกุล ที่ 3 ดลพร แทนบุญไพรัช รุ่นความสูงเกิน 164 ซม.ที่ 1 “กวาง”ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ แชมป์โลก 2018 แชมป์ “ไทยแลนด์ อีสาน คลาสสิค” ที่ 2 ธนัสถา เอพเพอร์ส ที่ 3 เนตตา กัวนิสวารา (ฟินแลนด์)

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รายการนี้ ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างมากสมกับที่ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าหมายไว้ ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ในช่วงนี้ เกาะสมุยกลับมาคึกคัก
“การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักกีฬาทั่วประเทศ ทั้งไทย และต่างชาติ และทุกภาคของไทย และคนในพื้นที่ ภาคใต้ และมีนักกีฬาหน้าใหม่หลายคนที่มีหน่วยก้านดี มีสิทธิ์ที่จะติดทีมชาติในอนาคต”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

MBKประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1 ประจำปี 63

0

บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 โดย นายบันเทิง ตันติวิท (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานกรรมการ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ (ที่ 5 จากซ้าย) รองประธานกรรมการและประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน และ นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล (ที่ 8 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ พร้อมคณะกรรมการ คณะผู้บริหารและผู้ตรวจสอบบัญชี ในการเพิ่มทุน การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ MBK-W1 ให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ณ ห้องจามจุรีบอลรูม ชั้น เอ็ม โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เมื่อเร็ว ๆ นี้

ภาพจากซ้าย

1. นายประชา ใจดี กรรมการอิสระ และ กรรมการตรวจสอบ และ กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

2. นายหัชพงศ์ โภคัย กรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

3. นายสุวิชญ โรจนวานิช กรรมการอิสระ และ กรรมการตรวจสอบ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

4. นายปิยะพงศ์ อาจมังกร กรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

5. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการ และ ประธานกรรมการสรรหา และ พิจารณาค่าตอบแทน บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

6. นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

7. นางผาณิต พูนศิริวงศ์ กรรมการอิสระและกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

8. นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

9. นายกษมา บุณยคุปต์ กรรมการอิสระ และ ประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

10.นายอติพล ตันติวิท กรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) :Cr;มณสิการ รามจันทร์

กำปั้นตำรวจ ผงาดคว้าถ้วยคะแนนรวมหญิง มวยสากลชิงแชมป์ปทท.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ที่ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 22พ.ย.ที่ผ่านนา รอบชิงชนะเลิศ มีคู่ที่น่าสนใจ ดังนี้
รุ่น 60 กก. “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงเจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 สโมสรราชนาวี พบกับ พรทิพย์ บัวป่า นักชกทีมชาติชุดบี สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ น้องแต้วที่ทำได้ดีกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง
รุ่น 69 กก. “น้องครีม” ใบสน มณีก้อน เจ้าของโควตาโอลิมปิก 2020 สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ จันทิตา สุขาเขิน จากสโมสรกองทัพอากาศ ใบสนที่ไล่ตะบันโดยเฉพาะยกที่ 3 ยิงหมัดซ้ายเข้าที่หน้า จันทิตา สุขาเขิน ได้ นับ 8 ก่อนจะเอาชนะคะแนนคว้าเหรียญทองไปครอง

รุ่น 52 กก.“เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักชกโควตาโอลิมปิก 2020 สังกัดสโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ ปฎิภาณ อุทัยดา จากสโมสรตำรวจ ธิติสรรค์ ที่คุมเกมการชกเอาไว้ได้หมด พร้อมกับเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนคว้าเหรียญทองไปได้ตามคาด
หลังจากการชกครบทั้งหมด 11 รุ่น ผลปรากฏว่าทีม สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คว้าถ้วยรางวัลรวม ทีมชาย ด้วยคะแนน 35 คะแนน สโมสรกองทัพบก ได้รองชนะเลิศ ด้วยคะแนน 23 คะแนน รองอันดับ 2 สโมสรตำรวจ ได้ 15 คะแนน ส่วนถ้วยรวมหญิงนั้นครองร่วมกัน ระหว่าง สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับ ทีมสโมสรราชนาวีด้วยคะแนนรวม 23 คะแนนเท่ากัน รองอันดับ 2 สโมสรทหารอากาศได้ 15คะแนน ด้านนักชกยอดเยี่ยมชาย อธิชัย เพิ่มทรัพย์ รุ่น 69 กก.สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนนักชกยอดเยี่ยมหญิงเป็นจุฑามาศ จิตรพงษ์ รุ่น 51 กก. สโมสรทหารอากาศ

ด้าน นายพิชัย ชุญหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานในพิธีปิดการแข่งขัน กล่าวถีงการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ขอขอบคุณทางการกีฬาแห่งประเทศไทยที่อนุมัติให้มีการจัดการแข่งขันในช่วงที่มีวิกฤติโควิด -19 ซี่งทีมมวยสากลทีมชาติไทยนับว่าเป็นชาติแรก ๆ ที่ได้ให้นักชกทีมชาติได้เคลื่อนไหว เพื่อเตรียมความพร้อม ในการชกโอลิมปิก2020 กลางปีหน้ารวมไปถีงกีฬาซีเกมส์ ที่ เวียดนาม อีกทั้งเตรียมนักชกที่จะคัดโอลิมปิกเลคสุดท้าย ช่วงเดือน พ.ค. เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีมชาติไทยที่ได้เตรียมพร้อมก่อนชาติอื่นๆ
คู่อื่น ๆ ทีมหญิง รุ่น 48 กก. รัชนีกร สีกระโดน(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เหรียญทอง ชนะคะแนน ปานประดับ ปลอดสัย(ราชนาวี) เหรียญเงิน,เหรียญทองแดง ธนวรรณ ทองดวง(กองทัพอากาศ)กับ ฐิติมา ศรีบุญเรือง(ภานุรังสี),รุ่น 51 กก. จุฑามาศ จิตรพงษ์(กองทัพอากาศ)เหรียญทอง ชนะคะแนน จุฑามาศ รักสัตย์ (ราชนาวี) เหรียญเงิน, เหรียญทองแดงสวรรยา ศรีสวัสดิ์(กองทัพบก) กับ เปี่ยมสุข เพิ่มขุนทด(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

รุ่น 57 กก. หญิง นิลาวรรณ เตชะสืบ (ราชนาวี) เหรียญทอง ชนะคะแนน ธารทิพย์ วรรณพรม(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)เหรียญเงิน, เหรียญทองแดง ปรีดากมล ถิ่นทัพไทย(สโมสรตำรวจ) กับ อภิษฏา ทันท่าหว้า(กองทัพอากาศ , รุ่น 60 กก. สุดาพร สีสอนดี (ราชนาวี)เหรียญทอง ชนะคะแนน พรทิพย์ บัวป่า(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)เหรียญเงิน , เหรียญทองแดง ทิพวรรณ นิลทองอยู่(กองทัพบก) กับ พรชิตา สีหาบุราณ(ผู้ครองฟ้า), รุ่น 69 กก. ใบสน มณีก้อน(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เหรียญทอง ชนะคะแนน จันทิดา สุขาเขิน (กองทัพอากาศ)เหรียญเงิน,เหรียญทองแดง ธันย์ชนก ศักดิ์ศรี(กองทัพบก) กับ อนุสรา ดูสันเทียะ(ราชนาวี)
ทีมชาย รุ่น 49 กก. สมัคร แซ่หาญ(กองทัพบก) เหรียญทอง ชนะผ่าน ธนรัช แสงเพชร(สโมสรตำรวจ) เหรียญเงิน, เหรียญทองแดง พงศกร ไพโรจน์วรุฬห์ (มาบตาพุด) กับ ฤทธิอมร แสงสว่าง(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก),รุ่น 52 กก. ธิติสรรค์ ปั้นโหมด เหรียญทอง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ธนกร” ประเดิมชัยเปิดหวดหัวหินโอเพ่น 2020 วีค 2

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0” ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท สะสมคะแนนสู่รอบมาสเตอร์ส (รายการที่ 2) ที่จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เป็นวันแรก คู่ที่น่าสนใจ รุ่นทั่วไป ประเภทชายเดี่ยว รอบคัดเลือกรอบแรก “ต้า” ธนกร ศรีรัตน์ นักเทนนิสจากกรุงเทพฯ วัย 18 ปี มือวาง 7 ของรอบคัดเลือก และมือ 60 ของไทย พบ นิธิวัต จิตต์แย้ม จากชลบุรี อายุ 25 ปี มือ 121 ของไทย ที่ได้ไวลด์การ์ดหรือสิทธิพิเศษเข้าแข่งขัน ปรากฏว่า ธนกร โชว์ฟอร์มการเล่นได้ดี สามารถเก็บชัยได้ 2 เซตรวด 6-3, 6-2 ใช้เวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 33 นาที ผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้าย พบกับ ไคเลอร์ จิระสุข มือวาง 9 ของรอบคัดเลือก ชนะ ปฤณ พานิช มาแบบขาดลอย 2-0 เซต 6-0, 6-0

ด้าน “มาร์ค” ศุภเศรษฐ์ สินเจริญวัฒนา วัย 16 ปี จากชุมพร ที่ถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับ 10 ของรอบคัดเลือก และรั้งมือ 68 ของไทย พบกับ “ต้นไม้” ธนภัทร นิรันดร วัย 16 ปี นนทบุรี ที่ได้ไวลด์การ์ดเข้าแข่งขัน ปรากฏว่า ต่างงัดความสามารถออกมาสู้กันอย่างเต็มที่ ก่อนที่ ศุภเศรษฐ์ จะเล่นผิดพลาด ทำให้ ธนภัทร ฉวยจังหวะทำแต้มและคว้าชัยไปได้ 2-0 เซต 6-3, 6-3 ใช้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 15 นาที ธนภัทรเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้าย พบกับ คว็อก อัน ดิงห์ เวียดนาม ชนะ ธาวิน อชิรเสนา 2-0 เซต 6-1, 6-4

ผลคู่อื่นๆ ประเภทชายเดี่ยว รอบก่อนรอบคัดเลือก ชัยภัช พูนพล ชนะ ไบรอัน ปิวาโต (ฝรั่งเศส) 6-2, 6-0 ส่วนผลรอบคัดเลือกรอบแรก พลัฏฐ์ พันธุรัตน์ ชนะ กิติชา จันทร์ศิริ 6-0, 6-1 รัฐนันท์ ศิริทาวรจันทร์ ชนะ รัฐศักดิ์ กำหอม 6-2, 6-2 เกรทกลอรี่ นิตยเมฆินทร์ ชนะ หฤษฏ์ ฟักเขียว 6-1, 6-1 ณัฏฐญุตม์ นิธิธนนนต์ ชนะ บุญญฤทธิ์ คงไพสันต์ 6-0, 6-0 ทรงฤทธิ์ เดวิด จั่นบุบผา ชนะ ดานี่ บาราทท์ (ไทย-ฝรั่งเศส) 4-0Ret.(ปวดศีรษะ) ปรินทร คุณาธาทร ชนะ มาร์ว็อง คัดดูรา (ฝรั่งเศส) 6-0, 7-6(3) พัทธ์ คงกิจภากรณ์ ชนะผ่าน ส่งเสริม แก้วสุขศรี, สิรวิชญ์ สุดเนตร ชนะ ฐิติพงศ์ มงคลเกษม 6-0, 6-0 นาธัน จัตวาพรวนิช ชนะผ่าน ตวัณ รัตตเสรี, อนพัช ทิมางกูร ชนะ ชัยภัช พูนพล 6-4, 6-1 ณัฐดนัย สินเจริญวัฒนา ชนะ ธีรเมธ ฉิมอ้อย 6-0, 6-1 และสรเชษฐ์ อวยพร ชนะ มุ่งมั่น โอมอารักษ์ 6-2, 7-6(5)

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ปอปอ-ฑิฆัมพร” ซิวนักยิมยอดเยี่ยม “จินตนา” ปลื้มคว้าถ้วยพระราชทาน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ออมสินยิมนาสติกชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปิดฉากอย่างสมเกียรติ นักกีฬาดาวรุ่งแจ้งเกิดกันถ้วนหน้า “ปอปอ” พิยดา พีรมธุกร สาวน้อยวัย 16 ปีเพิ่งขึ้นชั้นมาเล่นประชาชนปีแรก ทำผลงานเกินตัว คว้า 4 เหรียญทอง ทาบรัศมีรุ่นพี่ เบญจพร ลิ้มพานิชย์ เหรียญทองซีเกมส์ คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม และนำทีมสโมสรจินตนาถ้วยพระราชทานไปครอง
การแข่งขันออมสินยิมนาสติกศิลป์ ยิมนาสติกแอโรบิค และ ยิมนาสติกลีลา ชิงชนะเลิศประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 40 ประจำปี 2563 ที่ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย จ.สุโขทัย เมื่อ 22 พ.ย.วันสุดท้าย มีชิงทั้งสิ้น 11 เหรียญทอง เป็นยิมนาสติกลีลา 8 เหรียญทอง และ ยิมนาสติกศิลป์ 3 เหรียญทอง

ยิมลีลาประเภทเยาวชน รอบชิงชนะเลิศเฉพาะอุปกรณ์ ( คฑา ) เหรียญทอง ด.ญ.ณัชชนม์ โสภณวชิราพร (สโมสรจินตนา เอ..) 15.40 คะแนน, เหรียญเงิน น.ส.ดลพร ชุ่มชูจันทร์ (สโมสรเสนาชัยยิม) 13.80 คะแนน , เหรียญทองแดง ด.ญ.ปุณณิชา สุทธิธรรม ( สโมสรเสนาชัยยิม) 13.50 คะแนน / อุปกรณ์ริบบิ้น เหรียญทอง ด.ญ.ธัญชนก ค้าไม้ (สโมสรจินตนา ) 15.25 คะแนน , เหรียญเงิน ด.ญ.ปุณยนุช คุ้มดี ( บีเคเค.ยิมนาสติก ) 13.10 คะแนน , เหรียญทองแดง ด.ญ.พิชญธิดา เกตุสกุล (จินตนา เอ.) 12.85 คะแนน
ประเภทประชาชน รอบชิงชนะเลิศเฉพาะอุปกรณ์ห่วง เหรียญทอง น.ส.เบญจพร ลิ้มพานิชย์ ( จินตนา เอ.) เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งล่าสุด ทำได้ 18.70 คะแนน, เหรียญเงิน น.ส.พิยดา พีรมธุกร (จินตนา เอ.) ทีมชาติไทยและราชินีเหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ 18.30 คะแนน , เหรียญทองแดง น.ส.ชุติกาญจน์ ผิวผ่อง (สโมสรจินตนา เอ.) นักกีฬาทีมชาติไทย เช่นเดียวกัน 15.70 คะแนน, / อุปกรณ์ บอล เหรียญทอง น.ส.เบญจพร ลิ้มพานิชย์ (จินตนา เอ.) 17.70 คะแนน, เหรียญทอง น.ส. พิยดา พีรมธุกร (จินตนา เอ.) 17.70 คะแนน , เหรียญเงิน น.ส.ภรณ์นัชชา เจตธำรง (จินตนาบี. ) 15.60 คะแนน (โดยอุปกรณ์บอล เบญจพร กับ พิยดา มีคะแนนเท่ากัน จึงได้รับเหรียญทองร่วมกัน ) / อุปกรณ์ คฑา เหรียญทอง “ปอปอ” น.ส.พิยดา พีรมธุกร (จินตนาเอ.) 17.30 คะแนน, เหรียญเงิน น.ส.เบญจพร ลิ้มพานิชย์ (จินตนา เอ.) 15.55 คะแนน, เหรียญทองแดง น.ส.ธัญญพัทธ์ สังวรโยธิน (จินตนา บี.) 14.80 คะแนน / อุปกรณ์ ริบบิ้น เหรียญทอง เบญจพร ลิ้มพานิชย์ (จินตนา เอ.) 16.00 คะแนน, เหรียญเงิน พิยดา พีรมธุกร 15.30 คะแนน , เหรียญทองแดง น.ส.ลักษิกา เกียรติถาวรชัย (SISB. ยิมนาสติก ) 15.20 คะแนน

ยิมนาสติกศิลป์ประเภทประชาชนชาย อุปกรณ์โต๊ะกระโดด เหรียญทอง อธิภัทร สุวเสริม (ชมรมยิมนาสติกศิลป์ จังหวัดสมุทรสาคร ) นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย 13.415 คะแนน , เหรียญเงิน ฑิฆัมพร สุรินทรทะ ( ชมรมยิมนาสติกศิลป์จังหวัดสมุทรสาคร) นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย 12.73 คะแนน, เหรียญทองแดง วิศวยศ สาโรจน์ (โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร) 12.055 คะแนน / อุปกรณ์ บาร์คู่ เหรียญทอง จามร พรหมณี (ชมรมยิมนาสติกศิลป์จังหวัดสมุทรสาคร) นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย 13.3 คะแนน, เหรียญเงิน สุภชีพ บ่าวเบ็ญหมัด ( เอสอาร์ ยิมนาสติกคลับ) 12.625 คะแนน, เหรียญทองแดง ปุณยพัฒน์ บุญปถัมภ์ (โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี) 11.5 คะแนน / อุปกรณ์ บาร์เดี่ยว เหรียญทอง ฑิฆัมพร สุรินทรทะ (ชมรมยิมนาสติกศิลป์จังหวัดสมุทรสาคร) 12.50 คะแนน, เหรียญเงิน สุภชีพ บ่าวเบ็ญหมัด (SR ยิมนาสติกคลับ) นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย 11.68 คะแนน , เหรียญทองแดง อธิภัทร สุวเสริม (ชมรมยิมนาสติกศิลป์จังหวัดสมุทรสาคร) 10.55 คะแนน สรุปยิมนาสติกศิลป์ชาย ฑิฆัมพร สุรินทรทะ คว้ามาได้ 3 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญเงิน จากการลงแข่งขัน 4 อุปกรณ์

สรุปสโมสรยอดเยี่ยมที่คว้าถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภทยิมนาสติกศิลป์ชาย รุ่นประชาชนได้แก่ สโมสรเอส.อาร์คลับ , ประเภทยิมนาสติกลีลา รุ่นประชาชน สโมสรจินตนา
นักกีฬายอดเยี่ยม ยิมนาสติกศิลป์ชาย รุ่นเยาวชน เด็กชาย ฟุกะ โนมูระ (สโมสรยิมมาสเตอร์) ผลงาน 3 เหรีญทอง 2 เหรียญเงิน / นักกีฬายอดเยี่ยม ยิมนาสติกศิลป์ชาย รุ่นประชาชน นายฑิฆัมพร สุรินทรทะ (สโมสรชมรมยิมนาสติกศิลป์ จังหวัดสมุทรสาคร ) / ยิมนาสติกศิลป์หญิง รุ่นเยาวชน เด็กหญิง ลิลลี่ ประทีป (สโมสรยิมมาสเตอร์ ผลงาน 5 เหรียญทอง )
นักกีฬายอดเยี่ยม ยิมนาสติกแอโรบิกรุ่นยุวชน เด็กชาย พอพิสุทธิ์ ศรีคันธะรักษ์ (สโมสร ทศคำไชยยิม) ผลงาน 2 เหรียญทอง
นักกีฬายิมนาสติกลีลา ยอดเยี่ยมรุ่นยุวชน เด็กหญิง พรรษพร ทับทอง (สโมสรจินตนา) / ยิมนาสติกลีลา รุ่นเยาวชน ได้แก่ เด็กหญิง ธัญชนก ค้าไม้ (สโมสรจินตนา ) / รุ่นประชาชน นางสาวพิยดา พีรมธุกร (สโมสรจินตนา) ผลงาน 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

มติเอกฉันท์ “สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม” นายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ คนใหม่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ ห้องประชุมชั้น 2 สมาคมกีฬา อนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2563 โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ คนใหม่ หลังจากนายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล และคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดปัจจุบัน บริหารงานครบวาระ

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีสโมสรเครือสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียง 59 สโมสร เข้าร่วมประชุม 58 สโมสร โดยผู้แทนจากสโมสรสถาบันเทนนิสศรีชาพันธุ์ (ปั้นดิน) ได้เสนอชื่อนายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม เป็นนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ โดยไม่มีผู้เสนอชื่อท่านอื่น และผู้ร่วมประชุมได้ยกมือสนับสนุน นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ ส่งผลให้ได้รับเลือกเป็น นายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ คนใหม่ และเป็นนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ คนที่ 18

ส่วนการเลือกตั้งคณะกรรมการอำนวยการจากผู้แทนสโมสรเครือสมาชิกจำนวน 9 สโมสร (สโมสรละ 1 คน) มีผู้แทนสโมสรเครือสมาชิกที่ถูกเสนอชื่อเพียง 9 คน ครบตามจำนวน และผู้ร่วมประชุมได้ยกมือสนับสนุนผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง 9 ท่าน ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ ดังนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล ชมรมเทนนิส ส.ภานุรังษี, นายสร้างบุญ กิตติกรณ์ ชมรมเทนนิสเพื่อนรวมใจ, นายวิเชษฐ์ ทีปกากร สโมสรเทนนิสกรุงเทพมหานคร, นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ชมรมเทนนิสสุรวิทย์, นายไทยทนุ วรรณสุข สโมสรเทนนิสธารารินทร์, นางสาวทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ ชมรมเทนนิสราชพฤกษ์, พันเอก วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ สถาบันเทนนิสศรีชาพันธุ์ (ปั้นดิน), นายธานี แสนยาอุโฆษ ชมรมเทนนิสเบญจรงค์ และนายภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ ชมรมเทนนิสพนมรุ้งสัมพันธ์
ส่วนคณะกรรมการอำนวยการอีก 9 คน นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม จะได้พิจารณาแต่งตั้ง เพื่อยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสมาคมกีฬา และบริหารงานในวาระปี 2563-2567 ต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160600515610057141
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)