http://www.natethip.com/news.php?id=3329
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3329
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // เจลีกรุกตลาดแฟนบอลไทยอย่างแข็งขันผ่านกิจกรรม “J.LEAGUE Football Live Stadium 2020” ชวนแฟนบอลชาวไทยมาร่วมเชียร์ทีมขวัญใจคนไทย มุ้ย-เจ-กวินทร์ ในศึก “ไทย ดาร์บี้” ระหว่างทีม ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร กับ ชิมิสึ เอส-พัลส์ หวังยายฐานแฟนบอลเจลีกในไทยและเพิ่มยอดผู้ชม

มร.เคอิ โกยามะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและวางแผน ฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของเจลีก กล่าวว่า “หลังจากฟุตบอลเจลีก ได้ 4 นักเตะไทยอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ กวินทร์ ธรรมสัจจานนท์ มาค้าแข้ง ความสนใจฟุตบอลเจลีกในไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนักเตะไทยล้วนมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวนักฟุตบอลเองและกับสโมสรเป็นอย่างดี พวกเขายังได้สร้างฐานแฟนคลับฟุตบอลญี่ปุ่นเพิ่มอีกด้วย โดยแฟนบอลชาวญี่ปุ่นเห็นความทุ่มเทของนักเตะไทยในแต่ละแมตช์ และยอมรับความสามารถของพวกเขา

กิจกรรม “J.LEAGUE Football Live Stadium 2020” ที่จัดขึ้นนี้ เราหวังว่าแฟนฟุตบอลเจลีก จะมาร่วมส่งแรงใจเชียร์แมตช์ไทย-ดาร์บี้ครั้งสำคัญนี้ โดยแมตช์ที่แล้วสโมสรฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของ เจ-ชนาธิป พ่ายแพ้แก่สโมรสรชิมิสึ เอส-พัลส์ด้วยคะแนน 1-3 ประตู
นายวรรคสร โหลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ดิจิตอล มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลเจลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นได้ถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน คือ ในปีพ.ศ. 2563, 2564 และ 2565 ทำให้บรรดาแฟนฟุตบอลชาวไทยสามารถเข้ารับชมการแข่งขันได้อย่างง่ายดายตลอดฤดูกาล ซึ่งจัดแข่งตลอด 34 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 คู่ ผ่านทาง SIAMSPORT YouTube Channel และแฟนฟุตบอลชาวไทยจะไม่พลาดทุกแมตช์การแข่งขันที่มีนักเตะชาวไทยลงแข้งตลอดทั้งฤดูกาล”

ขอให้แฟนฟุตบอลรอติดตามชมคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น รวมถึงกิจกรรมร่วมชมฟุตบอลคู่สำคัญ ในส่วนของกิจกรรมสุดพิเศษ “J.LEAGUE Football Live Stadium 2020” ที่กำลังจะมีขึ้นนี้ ทางเจลีกร่วมกับบริษัท สยามสปอร์ต ดิจิตอล มีเดีย จำกัด และอาริ ฟุตบอล จัดขึ้นมาเพื่อเอาใจแฟนฟุตบอลชาวไทยให้ได้ชมและเชียร์ผ่านจอแอลซีดียักษ์ พร้อมร่วมสนุกชิงของรางวัลสุดพิเศษมากมาย อีกทั้งยังมี 2 นักเตะทีมชาติ คือ อดิศร พรหมรักษ์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาร่วมแสดงทัศนะในงานด้วย

นายเคอิ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เจลีกขอขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นและการสนับสนุนจากแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคน แคมเปญการตลาดที่ผ่านมาของเราได้รับผลตอบรับที่ดี เราหวังว่าการจัดกิจกรรม “J.LEAGUE Football Live Stadium 2020” ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มฐานแฟนฟุตบอลและเพิ่มยอดผู้ชมชาวไทยเพิ่มมากขึ้นอีก นอกจากนี้ ทางเจลีกได้เปิดอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชี่ยลมีเดีย www.facebook.com/jleagueofficial.Thai และล่าสุดได้ลงสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มสร้างการรับรู้ในแบรนด์อีกด้วย”
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 63 เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ณ วัดบ้านแถว อำเภอวังทอง เพื่อพบปะพูดคุยและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเยาวชนจิตอาสา จำนวน 39 คน ที่เข้าร่วม “ค่ายเส้นทางสู่สุดยอดแกนนำอาสาสมัครสร้างสุข”
ซึ่งเป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและมหาวิทยาลัย ทั้งในจังหวัดพิษณุโลกและต่างจังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี สุพรรณบุรีเพชรบูรณ์ และศรีสะเกษ โดยใช้กิจกรรมกระบวนการพัฒนาจิตและปัญญา เพื่อทำให้ได้รู้จักศักยภาพของตนเอง แล้วนำไปพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติต่อไป อีกทั้งการเป็นจิตอาสาร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่หวังผลตอบแทน
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. เป็นกระทรวงบุญที่มีภารกิจสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์และพัฒนาสังคม โดยเราต้องพัฒนาคนก่อน ถ้าคนอยู่ดีมีสุขประเทศก็เข้มแข็ง ซึ่งการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
คือ การลงทุนในทุนมนุษย์ ได้แก่ เด็กและเยาวชนที่จะสามารถสร้างคุณค่าและสิ่งดีๆได้ทุกวัน ทั้งนี้ กระทรวง พม.ได้เตรียมความพร้อมให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง โดยเฉพาะในสถานการณ์โรคโควิด-19 และการสื่อสารยุคดิจิทัล
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เด็กและเยาวชนจะเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีแก่สังคม ซึ่งการเข้าร่วมค่ายวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนออกไปขยายการทำความดีให้สังคมต่อไป และตนขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนคิดบวกและสู้โดยไม่ย่อท้อ เพราะโลกมีทั้งด้านสว่างและมืด ทุกข์และสุข เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน เพราะฉะนั้น ในชั่วโมงที่มืดที่สุด ขอให้รู้ว่าอีกไม่นานเราก็จะเจอแสงสว่าง:Cr;มณสิการ รามจันทร์

http://www.natethip.com/news.php?id=3328
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3327
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3326
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3325
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3321
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ //. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เดินหน้ารุกศึกษา พร้อมทำวิจัยหาการปนเปื้อนสารระเบิดในพื้นที่ชายแดนใต้ให้เป็นค่ามาตรฐานเชื่อถือได้ ตามนโยบายจากกระทรวงยุติธรรม

วันที่ 21 พ.ย. 63 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึง โครงการตรวจหาสารระเบิดจากผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า โครงการวิจัยดังกล่าว จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแง่วิชาการและผลงานด้านการวิจัย โดยจะใช้เป็นค่ามาตรฐานที่น่าเชื่อถือได้ ซึ่งการตรวจหาสารระเบิดจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ได้รับนโยบายจาก ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้มอบให้ศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สร้างมาตรฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนภารกิจการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป
“สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีภารกิจรับผิดชอบในเชิงสนับสนุน ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในคดีอาญาทั่วไป และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความมั่นคง สนับสนุนภารกิจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากภารกิจที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีภารกิจหลัก ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน เช่น การจัดเก็บสารพันธุกรรมบุคคล ลายนิ้วมือแฝง การตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดและสารระเบิด จากผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ ยังดำเนินการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด และกรมคุ้มครองสิทธิ ภายใต้นโยบายของกระทรวงยุติธรรม”พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า การตรวจหาสารระเบิดนั้น พบว่า มีการตรวจหาสารระเบิดจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก แต่เกิดข้อต่อสู้จากผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา เกี่ยวกับมาตรฐานการตรวจเก็บสารระเบิด ซึ่งที่ผ่านมานั้น การตรวจหาสารระเบิดทางนิติวิทยาศาสตร์จะตรวจหาสารระเบิดหลักๆ จำนวน 4 ชนิด ซึ่งได้แก่ TNT RDX PETN และ Nitroglycerine โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เดินหน้าทำวิจัยเพื่อสร้างมาตรฐานการตรวจหาสารระเบิดจากผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแนวทางการวิจัย เริ่มจากขั้นตอนการดำเนินในลักษณะของการเก็บตัวอย่างในพื้นที่ต่างๆ เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนของสารระเบิด ซึ่งจะวิเคราะห์ออกมาเป็นค่าเฉลี่ย จากนั้นจะทำวิจัยเปรียบเทียบข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นค่ามาตรฐานต่อไป
Cr. : นายทวีศักดิ์.ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพืมพ์ไทยออยไลน์