http://www.natethip.com/news.php?id=3415
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3415
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3414
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3413
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3412
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดงาน Gift to Give มหกรรมของขวัญถูกใจ ได้บุญ
ชวนแต่งชุดไทย ช้อปของไทย ชมโชว์แบบไทย ช่วยสร้างโอกาส สร้างรายได้ สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับโดยจัดต่อเนื่องปีที่ 2 พบกับการช้อปส่งท้ายปี ภายใต้ธีมสุดเก๋ เน้นความเป็นไทย ชวนแต่งชุดไทย มาช้อปของไทย ชมโชว์แบบไทยๆ จากกลุ่มบุคคลที่ต้องการโอกาสจากสังคม ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่มาออกบูธกว่า 30 บูธ
พร้อมอิ่มบุญกับการร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งต่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับกลุ่มเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ที่จุดรับบริจาคในงาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างกำลังใจ สุขใจกับการเป็น “ผู้ให้” ที่งาน “Gift to Give มหกรรมของขวัญถูกใจ ได้บุญ” ระหว่างวันที่ 9-11 ธ.ค. 2563 เวลา 10.00 น. – 19.00 น. ที่ลาน Avenue โซน A ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจหลักในการพัฒนาศักยภาพ คนทุกช่วงวัย นับตั้งแต่วัยแรกเกิด เด็ก เยาวชน ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสร้างระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
โดยการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการส่งเสริมภาคีเครืออย่างเป็นระบบสู่การเป็นหุ้นส่วนทางสังคม
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจวบจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการส่งผลกระทบประชาชนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญและขับเคลื่อนมาตรการดูแลและช่วยเหลือเพื่อการดูแลกลุ่มเปราะบางให้ได้เข้าถึง สวัสดิการ บริการขั้นพื้นฐาน จากภาครัฐรวมทั้งการส่งเสริม ด้านการฝึกอาชีพ สนับสนุนทุนในการประกอบอาชีพให้สามารถ ดำรงชีวิต และดูแลตนเองได้อย่างปกติสุข อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เป็นภาระของสังคม
การที่หน่วยงานภาคธุรกิจ ภาคเอกชน หรือหน่วยงานภาครัฐ ได้มีการบูรณาการความร่วมมือในการเข้ามาดูแล ทำงานร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นับได้ว่าเป็นการผนึกกำลังทางสังคม เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้รับการพัฒนา เปิดพื้นที่ได้นำสินค้าที่เป็น
ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง รวมทั้งได้เชิญเครือข่ายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าจำนวน 37 บูท และบูทให้บริการประชาชนจำนวน 2 บูท โดยมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจากรัฐบาล มาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าในราคาย่อมเยาอีกด้วย
“ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะได้รับโอกาสและการสนับสนุนเช่นนี้สืบไป
เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดเวทีให้กลุ่มเป้าหมายได้แสดงความสามารถและการสาธิตงานฝีมือ
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีจิตอาสาในการเปิดบูธ เป็นจุดบริจาคสิ่งของเพื่อส่งต่อให้แก่เด็กๆ ในสถานสงเคราะห์ ทั่วประเทศกว่า 9,000 คน”
ด้าน นายเกษมสุข จงมั่นคง รองกรรมการผู้อำนวยการสายการเงินและบริหาร และกรรมการผู้จัดการศูนย์สนับสนุนองค์กร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ในฐานะองค์กรธุรกิจภาคเอกชน มีความยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มบุคคลในสังคมที่ต้องการโอกาส ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีช่องทางในการสร้างอาชีพ มีรายได้เพิ่ม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยทางศูนย์ฯ ได้ให้การสนับสุนนพื้นที่เพื่อใช้จัด “งาน Gift to Give มหกรรมของขวัญถูกใจ ได้บุญ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและพนักงานย่านปทุมวันเป็นอย่างดี
“สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เน้นธีมความเป็นไทย ชวนแต่งชุดไทย เพลิดเพลินกับการช้อปของไทย ชิมอาหารไทย และชมโชว์แบบไทยๆ โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ จากกลุ่มบุคคลในสังคมที่ต้องการโอกาส ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งกลุ่มชุมชนท้องถิ่นในเครือข่ายของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และชุมชนในพื้นที่ในเขตปทุมวันที่นำสินค้าต่างๆ มาร่วมออกบูธกว่า 30 บูธ ให้ทุกท่านได้มาเลือกซื้อเลือกช้อปเป็นของขวัญส่งท้ายปี อาทิ สินค้าแฮนด์เมด อย่าง ผลิตภัณฑ์จากงานไม้ ที่ดีไซน์ออกมาเป็นที่แขวนชุดชา กาแฟ แท่นวางโทศัพท์ ที่วางของร้อน จากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรีกระเป๋า ผลิตภัณฑ์กระเป๋า เช่น “กระเป๋าไวนิล” จากผลิตภัณฑ์สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี “กระเป๋าถักใยไหม” จากกลุ่มชมรมช่อม่วงเมืองใหม่บางพลี “กระเป๋าสานใบเตยหนาม” จากกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ส่วนผลิตภัณฑ์ผ้าต่างๆ น่าสนใจหลายอย่าง ทั้ง “เสื้อผ้าลินิน” จากกรมกิจการผู้สูงอายุ “ผ้าย้อมคราม” จากกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว หรือผ้าทอพื้นเมืองกะเหรี่ยง จากชุมชนบ้านทิพุเย อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านที่มีชนเผ่ากะเหรี่ยงอาศัยอยู่และมีการสืบทอดการทอผ้าพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ลวดลายสีสันสวยงาม ด้วยกรรมวิธีการทอผ้าด้วย “กี่เอว” เป็นต้น”
“ที่สำคัญการที่คุณมาร่วมงานงานครั้งนี้ ไม่เพียงแค่สร้างโอกาส สร้างราย และให้กำลังใจ กลุ่มบุคคลที่อยู่ในความดูแลของเครือข่ายกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และชุมชนต่างๆ เท่านั้น แต่คุณได้สร้างกำลังใจให้กับพวกเขาได้มีพลังที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าดีๆออกมาและต่อยอดเป็นวิชาชีพและพึ่งตนเองได้ ขณะเดียวกันยังสามารถส่งมอบความสุขกับการเป็น “ผู้ให้” โดยร่วมบริจาคผ้าอ้อมสำหรับผ้สูงอายุ ผ้าอ้อมสำหรับเด็ก นมผงสำหรับเด็กแรกเกิด-1 ปี รวมทั้งสิ่งของจำเป็น ที่จุดรับบริจาคในงาน เพื่อนำส่งต่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับกลุ่มเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เรียกว่าเต็มอิ่มกับการช้อปของดี ชิมอาหารอร่อย ชมโชว์ ในงานแล้ว ยังสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับพร้อมกัน” นายเกษมสุข กล่าว
นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่าง โชว์การแสดงแบบไทยๆ เช่น ชมการประกวดเดินแบบชุด “ภูมิปัญญาไทย วิถีไทย” การแสดงโขน ตอน รามเกียรติ์พักรบ โดยเยาวชนชุมชนบ้านเอื้ออาทร จากการเคหะแห่งชาติ การแสดงเพลงฉ่อย โดยสภาเด็กและเยาวชน จากกรมกิจการเด็กและเยาวชน หรือชมการแสดงดนตรี คนพิการ วง เอสทูเอส (S2S) จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การแสดงประกอบเพลงสาวสี่ภาค จากกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว การแสดงเพลงกะเหรี่ยง จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นต้น
รวมทั้งกิจกรรม workshop การสาธิตทำข้าวเกรียบจากกากถั่วเหลือง การสาธิตการประดิษฐ์ทำพวงกุญแจดอกแก้ว ที่รัดผม จากเศษผ้า การสาธิตผสมน้ำยา EM มาร่วมอิ่มบุญอิ่มใจกับการเป็นผู้ให้ที่ งาน Gift to Give มหกรรมของขวัญถูกใจ ได้บุญ ระหว่างวันที่ 9-11 ธ.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 10:00-19:00 น. ณ บริเวณลาน Avenue โซน A ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์:Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เวลา 10.30 น. ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ จับมือชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก และบางกอกทูเดย์ จัดงานแถลงข่าว งานการกุศล “Media Fair … นักข่าวเปิดช็อป ชวนช้อปตลาดแตก” โดยมี
คุณสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน มีเหล่าเซเลบฯและศิลปินตบเท้าร่วมงานคึกคัก ณ บริเวณโถงกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์
โดยงานจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2563 ณ ลานกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 19.00 น. โดยนำรายได้หักหลังค่าใช้จ่ายเป็นกองทุนเพื่อสวัสดิการและกิจกรรมสร้างสรรค์ชมรม “ชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์”
พร้อมทั้งมอบให้กับ “ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก” เพื่อเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในต่างจังหวัด
คุณสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนหลัก กล่าวว่า ในนามบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน “Media Fair” ครั้งที่ 1 โดยได้เปิดลานกิจกรรม ชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ให้เป็นสถานที่จัดงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ซึ่งถือว่าการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับพี่น้องชาวสื่อมวลชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตในปัจจุบัน ที่ส่งผลด้านเศรษฐกิจและกระทบไปทุกภาคส่วน เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมให้การสนับสนุนพื้นที่ ให้พี่น้องชาวสื่อมวลชนมาเปิดบูธจำหน่ายสินค้า เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ได้ให้ความสำคัญในการเข้าไปช่วยเหลือทุกๆ ด้านของสังคมอย่างเป็นรูปธรรมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรับบริจาคเลือด ของสภากาชาดไทย ที่เราให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี, กิจกรรม ธรรมะข้างถนน ในการช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ รวมถึง กิจกรรม ร่วมใจแบ่งปันรอยยิ้ม เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราให้การสนับสนุนและจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี”
คุณนาริฐา จ้อยเอม ประธานชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ในฐานะประธานจัดงาน กล่าวว่า ชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวของสื่อมวลชนในแขนงต่าง ๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 โดยการริเริ่มจากกลุ่มเว็บคลับอันประกอบด้วยผู้สื่อข่าว บรรณาธิการ ช่างภาพ จากหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ข่าวออนไลน์ ทั้งในอดีตที่เคยอยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชนมายาวนานและที่ยังคงทำหน้าที่สื่อสารมวลชนอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงที่ก้าวออกมาพัฒนาองค์กรของตนเองในนามสำนักข่าวออนไลน์ต่าง ๆ
การรวมตัวของ “ชมรม เว็บคลับ ไทยแลนด์” จึงก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจเพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อประสานงาน เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี เป็นศูนย์กลางของสื่อมวลชนที่พร้อมจะทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้สังคมไทยได้รับความรู้ ได้รับประโยชน์ พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมเมื่อมีโอกาส ภายใต้กฎหมาย ศีลธรรม และไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง แต่จะสร้างกระแสสังคมให้ตอบรับในแง่มุมด้านบวกของโลกโซเชี่ยลมีเดียต่อไป ดังเจตนารมณ์ ที่จะเป็นสื่อมวลชน “คลื่นใหม่ หัวใจใหม่ จิตอาสา”
“สำหรับที่มาของการจัดงาน Media Fiar ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของทางชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจัดงานการกุศลเพื่อหารายได้และอุปกรณ์ของใช้จำเป็นในการใช้ชีวิตของหญิงเร่ร่อนที่อยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิง ธัญบุรี มาแล้ว
จากที่ผ่านมา อาชีพสื่อมวลชน กลายเป็นหนึ่งในอาชีพที่ถูกกระทบด้านเศรษฐกิจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้งที่ ปิดกิจการ ลดจำนวนพนักงาน ลดเงินเดือน หรือแม้จะทำงานประจำอยู่ในสายวิชาชีพขณะนี้ ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน แต่ไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณของสื่อมวลชนเหือดหายไป สื่อหลายคนเริ่มดีไซน์ชีวิตตนเอง มีการออกแบบสื่อออนไลน์ตามความถนัด ทั้งสายบันเทิง เศรษฐกิจ วาไรตี้ ท่องเที่ยว โดยเป็นผู้บริหารด้วยตนเอง เริ่มระมัดระวังและมีการวางแผนอนาคตด้วยการทำอาชีพเสริมที่หลากหลาย โดยการออกบูธเพื่อจำหน่ายสินค้านับว่าเป็นหนึ่งในการสร้างเสริมรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
อีกทั้งยังเป็นการกระชับมิตรภาพที่ดีระหว่างสมาชิกชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ และกัลยาณมิตรทั้งหลาย พร้อมทั้งยังมีส่วนร่วมในการสร้างบุญกุศลที่เราจะมอบเงินส่วนหนึ่งให้กับชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก เพื่อนำไปช่วยเด็กนักเรียนผู้ด้อยโอกาสอีกด้วย”
ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ในฐานะประธานร่วมจัดงาน กล่าวว่า กิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน
นอกจากจะมีการออกร้านของผู้สื่อข่าวชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ และเพื่อน ๆ นักข่าวแล้วยังมีกัลยาณมิตรมาร่วมออกงานด้วย อาทิ ศิลปินดารา นายแบบ นางแบบ นางแบบ นักธุรกิจ และ นักประชาสัมพันธ์ โดยมีสินค้าหลากหลายชนิดมาออกร้าน
อาทิ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของที่ระลึก ของตกแต่ง ของสะสม และอาหาร ในราคาย่อมเยาและสินค้าบางชิ้นอาจหาซื้อได้ยาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรอบงานและบนเวที อาทิ อ.พรหมญาณ รัตนญาณพิโมกข์ ผู้คิดค้นไพ่พรหมญาณ นำนักพยากรณ์มาทำนายโชคชะตา เพื่อนำรายได้สนับสนุนกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ของคณะผู้จัดงาน การประมูลของรักของหวงของ
คุณจิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ นักแสดงดาวค้างฟ้าดาราใจบุญ คุณเอ็ด-ชนัต อังกาบแก้ว ดีไซเนอร์ห้องเสื้อ EDD (เอ็ด) มอบชุดราตรี 3 นางงามเคยสวมใส่ คุณเรย์-อิสริยะ อภิชัย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1991,คุณเชอรี่-เมลิสา มหาพล มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2006 และ คุณหนูสิ-สิริรัตน เรืองศรี มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2010 มาประมูล,ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น ได้มอบสูทผ้าไหมมาประมูลด้วยเช่นกัน
“นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ โดยวิทยากรชั้นนำ อาทิ คุณเมญ่า-รวิสรา มาตร์มงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท MORE COSMETICS CREATION,โปรจุ๋ม-ภูริตา ศักดิ์เอกสรกุล-สราวุฒิ บำรุงเขตร์ ผู้บริหาร PRO JOOM ACADEMY,คุณหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม กูรูนางงาม,ชายแฮ็คส์-ดร.วโรดม ศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท 9 STAR GROUP จำกัด และ ที่ปรึกษา IPM TV,ครูมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับฯชื่อดัง,คุณเบนจี้-เบญจมินทร์ ศิริรัตน์ แฮร์สไตลิสต์ FAST FADE HAIR STUDIO
การแสดงแฟชั่นโชว์จาก สถาบัน BB STAR ACADEMY โดย ครูหนุ่ย-ดร.กัณฐณา สนเจริญ.การแสดงจากศิลปินดารา อาทิ คุณโจนัส แอนเดอร์สัน ที่จะหมุนเวียนกันมาสร้างสีสัน โดยมี 2 พิธีกรคู่ขวัญ คุณจิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร และ ภัทรมน ภุมรินทร์ ดำเนินรายการ ที่สำคัญงานนี้แจกวัตถุมงคลไอ้ไข่อีกด้วย”
คุณกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก กล่าวว่า งานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดการสนับสนุนที่ดีจากทุกฝ่าย ขอขอบคุณชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ และกัลยาณมิตรผู้มีจิตกุศลทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันผลักดันให้งานนี้เกิดขึ้นมาและมั่นใจว่าจะต้องประสบความสำเร็จ โดยรายได้ที่ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก จะได้รับมอบจากคณะผู้จัดงานในครั้ง จะขอนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้จัด
โดยในช่วงประมาณวันที่ 20-21 มกราคม 2564 ชมรมของเราพร้อมด้วยคณะผู้ใจบุญจะเดินทางไปมอบทุนการศึกษา สิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์การศึกษาและกีฬา ไปมอบให้เด็กนักเรียน รวมทั้งการเลี้ยงอาหาร ที่โรงเรียนในจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วย
“ตลอดกว่า 7 ปีที่ผ่านมาชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก ได้ให้การช่วยเหลือเด็กนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่ด้อยโอกาสและยากไร้ในต่างจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง
พบกับงาน “Media Fair…นักข่าวเปิดช็อป ชวนช้อปตลาดแตก” ณ ลานกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2563 ณ ลานกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 19.00 น. ”:Cr;มณสิการ รามจันทร์
คณะกรรมการเกษตรกรรมยั่งยืน ปลื้มผลงานปี 63 เพิ่มพื้นที่กว่า4แสนไร่ เร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการปี 64-65
คณะกรรมการเกษตรกรรมยั่งยืนพอใจผลงานปี 63 เพิ่มพื้นที่กว่า4แสนไร่ เร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการปี 64-65 ยืนยันเดินหน้าร่าง พรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน พร้อมอนุมัติหลักการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติและโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองรับมือผลกระทบโควิด19
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนวันนี้ (9 ธ.ค) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ได้มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ครั้งที่ 3/2563 โดยผ่านระบบการประชุมทางไกล zoom cloud meeting พร้อมด้วย คณะกรรมการและผู้แทน เข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุม ได้พิจารณาและมีมติดังนี้
1) พิจารณาเห็นชอบในหลักการร่างแผนปฏิบัติการด้านเกษตรกรรมยั่งยืน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2564 – 2565) เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงาน ซึ่งได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ และทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมอบฝ่ายเลขานุการ นำร่างแผนปฏิบัติการ นี้ เข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อกลั่นกรอง ปรับปรุงในรายละเอียดของ ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรม พิจารณา เห็นชอบขั้นสุดท้ายภายในเดือนธันวาคมนี้
2) พิจารณาเห็นชอบในหลักการโครงการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนโดยมอบหมายให้คณะทำงานขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ จัดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่ส่วนได้เสียในการจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์ (องค์การมหาชน)
3) เห็นชอบหลักเกณฑ์กลางสำหรับระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) ซึ่งนำเสนอโดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และมอบคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน จัดทำแนวทางการดำเนินการจัดระบบ PGS โดยใช้หลักเกณฑ์กลางที่จัดทำขึ้น เพื่อจะเสนอต่อ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนต่อไป
4) เห็นชอบโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Sustainable Urban Agriculture Development Project) ต่อยอดนโยบาย Green City ของรัฐมนตรีเกษตรฯ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน มีเป้าหมายดำเนินการครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพัฒนาเกษตรกรรมในเมืองภายใต้ 5 แนวทางของเกษตรยั่งยืนได้แก่วนเกษตร เกษตรธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสานและเกษตรทฤษฎีใหม่ ทั้งนี้ คณะกรรมการได้มอบหมาย ฝ่ายเลขานุการ ยกร่างคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง” นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาลงนามต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนปีงบประมาณ 2563
“ที่ประชุมพอใจรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานในปี 2563 ซึ่งสามารถเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนและจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการตามเป้าหมายที่วางไว้และยังเห็นชอบแผนและเป้าหมายสำหรับปี2564ด้วย”
ในรายงานผลการดำเนินงานปีงบประมาณ2563ระบุว่ามีพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนเพิ่มขึ้น 468,223 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 200,835 ราย โดยในแผนปี2564ได้กำหนดเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน จำนวน 465,750 ไร่
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งถือเป็นการขยายพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ใหญ่ที่สุดภายใต้รัฐบาลชุดนี้ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศโดยกระทรวงเกษตรฯ รับผิดชอบ 4,009 ตำบลที่เหลืออีกกว่า 3,000 ตำบลอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย โดยที่ประชุมได้เสนอแนะให้คณะกรรมการบริหารโครงการที่มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานปรับหลักเกณฑ์ให้ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อให้เกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าร่วมได้เพิ่มขึ้นหากต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบการปรับปรุงโครงการก็ให้ดำเนินการ
“นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีความเห็นให้ยืนยันมติเดิมในการตราพระราชบัญญัติเกษตรกรรมยั่งยืนต่อคณะรัฐมนตรีโดยปรับปรุงร่างเดิมให้สมบูรณ์มากขึ้นและทำความเข้าใจกับคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีข้อสังเกตให้กระทรวงเกษตรฯ ทบทวน” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ส.ว่ายน้ำ ขยายฐานว่ายน้ำมาราธอนสู่ภูมิภาค จัดเเข่งสนามสุดท้ายของปี เฟ้นหาดาวรุ่งสู่ทีมชาติ ที่ อ่าวดงตาล ฐานทัพเรือสัตหีบ 13 ต.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวสมาคมกีฬาว่ายน้ำเเห่งประเทศไทย เตรียมจัดการแข่งขันว่ายน้ำมาราธอนชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 สนาม3 ที่ อ่าวดงตาล ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี วันอาทิตย์ที่13 ธ.ค. เป็นสนามสุดท้ายของปี ที่บรรดานักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนจากทั่วประเทศ จะได้ประชันความสามารถ หลังมีการเเข่งขันก่อนหน้านี้ สนามเเรก เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ หาดบ้านอำเภอ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เเละสนาม2 ปลายเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ที่พัฒนากอล์ฟคลับ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

โดยการเเข่งขันในครั้งนี้ มีทั้งหมด5ระยะ คือ 1 กิโลเมตร ,2 กิโลเมตร,เเละ 3 กิโลเมตร รวมถึงระยะไกลคือ 5 เเละ 10กิโลเมตร พร้อมให้โอกาสนักกีฬาในประเภท
ชายเเละหญิงทั้ง4รุ่น ไล่ตั้งเเต่รุ่น10-11ปี ,12-13ปี,14-15ปี เเละรุ่นทั่วไป นับเป็นการขยายฐานนักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนสู่ภูมิภาคอย่างจริงจัง คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจำนานกว่า 530 คน เช่นเดียวกับ 2 สนามก่อนหน้านี้ ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ภายใต้นโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำที่ได้สานงานต่อเป็นสมัยที่ 2 ยืนยันต้องการเฟ้นหาดาวรุ่งนักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนทีมชาติ จากรายการชิงเเชมป์ประเทศไทยทั้ง 3 สนามเป็นหลัก เป้าหมายคือ การเข้าร่วมเเข่งขันทัวร์นาเม้นต์ระดับนานาชาติ 2 รายการปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นเอเชี่ยนบีช ที่ จีน เดือนมีนาคม เเละซีเกมส์ ที่ เวียดนาม ปลายปี หวังว่านักว่ายน้ำมาราธอนหน้าใหม่ของไทยจะเเจ้งเกิดเเละสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ ห้องแถลงข่าว สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าว Meet the Warriors สัญจร ครั้งที่ 8 ของฤดูกาล ก่อนการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก สัปดาห์ที่ 14 ระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี ในวันที่ 11 ธ.ค.เวลา 18.00 น. ที่ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม
สำหรับงานแถลงข่าวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณวรงค์ ทิวทัศน์ เลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วย มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผู้ฝึกสอนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, วัฒนา พลายนุ่ม นักเตะของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, พรรษา มีสัจธรรม ผู้ฝึกสอนของ พีที ประจวบ เอฟซี, วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ นักเตะของ พีที ประจวบ เอฟซี และสื่อมวลชน เข้าร่วม

มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผู้ฝึกสอนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “พีที ประจวบเป็นทีมที่มีคุณภาพการเล่นฟุตบอลดีกว่าอันดับในตารางคะแนน เกมนี้จะเป็นเกมที่ยากของเรา ส่วนเราเจอท่าเรือ กับบีจีมา เป็นสองเกมที่ยาก แต่การเจอกับประจวบก็ไม่ต่างกันสำหรับผม และต้องการ 3 คะแนนเท่านั้น เพราะเป็นการเล่นในบ้าน ส่วนผู้เล่นบาดเจ็บ คงต้องรอเช็คความฟิตของบางคนที่มีอาการเจ็บสะสม แต่เราจะส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามในเกมนี้”
“ปกติแล้วทีมเราไม่ได้มี 11 ผู้เล่นตัวจริงถาวร มีการหมุนเวียนนักเตะเรื่อยๆ แต่นัดนี้จะไม่มีพ็อพพ์, ศฤงคาร และต้องเช็คฟิต แดร์เลย์ กับสรวิทย์ นัดนี้คงมีการหมุนเวียนนักเตะ หลายคนก็ยังแปลกใจกับการจัดทีมเจอบีจี แต่เราก็ทำผลงานได้ดี เชื่อว่าเกมนี้ ไม่ว่าใครลงสนาม พวกเขาก็จะเล่นเต็มร้อย และพาทีมคว้า 3 คะแนนได้”
“ตัววัฒนาเอง ผมอยากให้เขาลงเล่นกองกลางเหมือนเดิม เกมนี้เขาจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ทีมเก็บคะแนนได้”

“ผมเคยเห็นฟอร์มของวิลเลี่ยม เขาเป็นคนสำคัญที่ช่วยให้เชียงรายเป็นแชมป์ โมต้าก็เป็นตัวจบสกอร์ที่ดี แต่ผมเชื่อว่าทีมของเราจะหยุดทั้งสองคนนี้ได้ และเก็บ 3 คะแนนได้”
“ในเกมกับบีจี ผมเห็นแฟนบอลเข้ามาชมเกมมากมาย เกมนี้ก็อยากเห็นแบบนั้นอีก ผมและลูกทีมจะหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อของขวัญให้แฟนบอล แล้วเจอกันวันศุกร์ครับ”
ขณะที่ วัฒนา พลายนุ่ม นักเตะของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ผมค่อนข้างพร้อม เนื่องจากได้ลงสนามต่อเนื่อง การซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมก็ดีขึ้น ทีมเราสามารถส่งใครลงสนามก็ได้ เกมที่ผ่านมาเราส่งดาวรุ่งลงสนามเยอะ เพราะนักเตะต่างชาติเราบาดเจ็บ ทีมเราผู้เล่นทดแทนกันได้ ตอนนี้ทีมก็พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์”
“การเจอประจวบ ไม่ว่าเล่นที่ไหน พวกเขาก็น่ากลัว พวกเขามีเกมรุกอันตราย ทั้งวิลเลี่ยมและโมต้ามีเทคนิคและความเร็วที่ดี เราต้องมีวิธีป้องกันทั้งสองคนนี้ เราจะหยุดพวกเขาให้ได้ในวันศุกร์นี้”
“อยากให้แฟนบอลเข้ามาสนับสนุนทีม สนับสนุนโค้ช และนักเตะในเกมวันศุกร์นี้ นี่จะเป็นอีกเกมที่สนุก เราจะทำหน้าที่ให้เต็มที่ และจะเก็บ 3 คะแนนให้ได้”
ด้าน พรรษา มีสัจธรรม ผู้ฝึกสอนของ พีที ประจวบ เอฟซี กล่าวว่า “เราไม่มีใครเจ็บ หรือติดโทษแบน แต่ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ผลงานสโมสรไม่ดีนัก เราจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“เป้าหมายของเราคือต้องทำงานหนักให้มากขึ้น เพราะสองเกมสุดท้ายในเลกแรก เจอทั้งเมืองทองกับบุรีรัมย์ เราพยายามจะมีคะแนนในทุกเกม เพื่อเป็นความได้เปรียบในการเล่นเลกที่ 2 ต่อไป”
วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ นักเตะของ พีที ประจวบ เอฟซี กล่าวว่า “เกมนี้สำคัญกับทั้งสองทีม เราจะพยายามทำผลงานให้ดีในเกมนี้”

“เกมนี้มันแตกต่างจากที่ผ่านมา เกมวันศุกร์นี้สำคัญมาก ผมต้องการช่วยทีมด้วยผลงานที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่แค่ผม มันรวมถึงทั้งทีมด้วย”
“ผมรู้สึกปกตินะกับการเจอสองทีมใหญ่ พวกเขาอาจเป็นสโมสรใหญ่ แต่ตอนนี้ผมต้องโฟกัสกับเกมนี้ก่อน และเราจะทำให้ดีที่สุดในเกมนี้ ก่อนจะไปเจอกับบุรีรัมย์ ผมแค่อยากทำให้ดีที่สุดในเกมนี้ และจะสร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้ทีม รวมถึงหวังว่าจะทำประตูให้ทีมได้”
โปรแกรมการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก 2020 สัปดาห์ที่ 14 มีดังนี้ วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 18.30 น. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง NBT 2HD และ AIS PLAY วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 18.00 น. สมุทรปราการ ซิตี้ พบ ชลบุรี เอฟซี ที่ สนามสมุทรปราการ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง CH5 HD1 18.00 น. ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ สนามทรู สเตเดี้ยม ายทอดสดทาง MCOT HD และ True ID เวลา 18.30 น. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง NBT 2HD และ YouTube สโมสร วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 17.00 น. โปลิศ เทโร เอฟซี พบ ระยอง เอฟซี ที่ สนามบุณยะจินดา ถ่ายทอดสดทาง 9 MCOT HD และเฟสบุ๊คสโมสร 18.00 น. การท่าเรือ เอฟซี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ สนามแพท สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง CH5 HD1 และ AIS PLAY เวลา 18.30 น.ตราด เอฟซี พบ นครราขสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ สนามกีฬากลาง จ.ตราด ถ่ายทอดสดทาง NBT 2HD และเฟสบุ๊คสโมสร
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์