วันอังคาร, ธันวาคม 24, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2030

สมาคมแบดมินตันฯ ไม่ส่งทีมร่วมศึก ชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์คัพ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ เข้าใจและพิจารณาถี่ถ้วนถึงสถานการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญ ที่นักกีฬาทีมชาติไทยชุดใหญ่ บางส่วนขอถอนตัว ไม่เดินทางไปทำศึกชิงแชมป์โลกโธมัส-อูเบอร์ คัพ วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่ เดนมาร์ก เข้าใจและเห็นใจ ในความกังวลกับโควิด-19 ทำให้จำนวนนักกีฬาที่เหลือในทีมมีจำนวนไม่ครบ ที่จะร่วมแข่งขันประเภททีมได้ และสมาคมฯ จะไม่เรียกนักกีฬา อันดับรองลงไปเพิ่มเติม เพราะจะไม่เหมาะสม ที่จะส่งทีมชุดบีเข้าแข่งขันรายการประเภททีมชิงแขมป์โลก ประกอบกับ สมาคมฯ ให้ความสำคัญที่สุดกับเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา และทีมงานทุกคน ต้องมาเป็นอันดับแรก เมื่อพิจารณาเหตุผลรอบด้าน ร่วมกับคณะทำงาน จึงตัดสินใจถอนจากการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ และจะให้นักกีฬา ฟิตซ้อมเตรียมตัว เพื่อรอแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ระดับซุปเปอร์ 1,000 ที่สหพันธ์แบดมินตันโลก จะมาจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย ในช่วงเดือน พ.ย.แทน
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ให้ความเคารพในการตัดสินใจของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยบางส่วน ที่ถอนตัวไม่เดินทางไปร่วมแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก โธมัส-อูเบอร์คัพ 2020 รอบสุดท้าย วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่เมืองออร์ฮุส เดนมาร์ก เนื่องจากกังวลกับสถานการณ์โควิด-19
“สำหรับสถานการณ์โควิด-19 แม้ขั้นตอน และมาตรการการดูแลนักกีฬาของประเทศเดนมาร์ค จะเข้มงวด ปลอดภัย แต่ยังเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง กรณีนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยชุดใหญ่ บางส่วนถอนตัวไม่เดินทางไปทำศึกโธมัส-อูเบอร์ คัพ ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ด้วยเพราะความกังวลกับโรคดังกล่าว ซึ่งการถอนตัวของนักกีฬาบางส่วนในครั้งนี้ ทำให้นักกีฬาในทีมมีจำนวนไม่เพียงพอ ไม่สามารถลงแข่งขันในประเภททีมได้ และด้วยศักดิ์ศรีของทีมใหญ่ จึงไม่เหมาะที่จะคัดนักกีฬาชุดบี เข้าไปเสริม เพื่อให้เต็มจำนวน”
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวต่อว่า ประกอบกับตน และ สมาคมฯ ให้ความสำคัญที่สุดกับเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อพิจารณาเหตุผลรอบด้าน ร่วมกับคณะทำงานแล้ว จึงได้ตัดสินใจถอนทีมไทยจากการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ และจะให้นักกีฬา ฟิตซ้อมเตรียมตัวแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ซึ่ง 2 รายการแรกเป็นระดับซุปเปอร์ 1,000 และอีกรายการเป็น ศึก เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่ทางสหพันธ์แบดมินตันโลก จะมาจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย ในข่วงเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ สหพันธ์แบดมินตันโลก จัดโปรแกรมการแข่งขันใหม่ ในช่วงที่เหลือของปี 2020 จะมีเพียง 6 รายการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เริ่มจากแบดมินตันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์ คัพ 2020” วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่ เดนมาร์ก และศึกเวิลด์ทัวร์ ระดับซูเปอร์ 750 2 รายการติดต่อกัน ที่ เดนมาร์ก
ส่วนอีก 3 รายการ จัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย โดย 2 รายการแรกเป็นระดับซุปเปอร์ 1,000 ก่อนจะปิดท้ายด้วยศึกเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ในสัปดาห์ที่ 46, 47 และ 48 ตามลำดับ หรือช่วงเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งสหพันธ์แบดมินตันโลก กำลังพิจารณา การเลือกประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
และประเทศไทย เป็นหนึ่งที่ให้ความสนใจ ดึง 3 รายการใหญ่ระดับแกรนด์สแลมของกีฬาแบดมินตัน ที่มีผู้ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกมากกว่า 800 ล้านครัวเรือน โดย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล และหน่วยงานภาครัฐที่ เกี่ยวข้อง กำลังพยายามที่จะดึงรายการประวัติศาสตร์ มาจัดในประเทศไทยให้ได้

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

อานนท์-ไมค์ พ้นคุก หลังศาลสั่งปล่อยตัว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ทนายอานนท์ -​ไมค์ ระยอง พ้นคุก หลังอยู่ในเรือนจำ 5 วัน  ชี้ บรรยากาศในเรือนจำไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 7 ก.ย. 63 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ได้รับการปล่อยตัวภายหลังถูกคุมขังได้เพียง 5 วัน เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยกเลิกคำร้องฝากขังโดยให้เหตุผลว่าสอบปากคำได้บางส่วนแล้ว ไม่จำเป็นต้องคุมขังระหว่างการสอบสวนอีกต่อไป โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้เดินออกมาส่งทั้งคู่ด้วยตัวเอง

นายอานนท์ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเมื่อสักครู่ว่าตำรวจได้เพิกถอนการฝากขังพวกตน มันฉุกละหุกมาก ก่อนได้รับการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ก็เพียงมาบอกให้กลับไปเท่านั้น แต่การปล่อยตัวพวกตนครั้งนี้ นับเป็นการให้กำลังใจต่อนักต่อสู้และคนที่โดนคดีทุกคน โดยการต่อสู้ของพวกตนนั้นมีความสำคัญในทุกก้าวย่าง ตั้งแต่ฝากขังจนถึงถอนประกัน เชื่อว่าจะเป็นบทเรียนของผู้ใช้อำนาจให้ใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลือ ถือเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้ ยืนยันว่าต่อจากนี้จะมีการยกระดับ และเดินหน้าชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนต่อไป

นายอานนท์ กล่าวมั่นใจว่าต่อจากนี้จะมีคดีมาอีกแน่ แต่เชื่อว่าเราจะชนะร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายเผด็จการ และฝ่ายที่เห็นตรงข้ามกับเรา ยืนยันว่าไม่กังวลหากจะมีคดีความใดอีก เพราะหากจะจับปลา ลงน้ำก็ต้องเปียกอยู่ดี

นายภาณุพงศ์ กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ให้โอกาสเราได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ คุกอาจขังเราได้แค่ตัว แต่ไม่อาจขังอุดมการณ์และความเป็นนักสู้ของเราได้ จากนี้ก็จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อให้ได้จุดหมายเดิมของเราต่อไป

อย่างไรก็ตาม การที่พวกตนตัดสินใจไม่ยอมรับเงื่อนไขการปล่อยตัวของศาลเพราะนั่นเป็นการตีกรอบพวกตนมากเกินไป มันไม่ยุติธรรมกับพวกเรา

นายภาณุพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโทษจำคุกนั้น นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต้องปรับตัวเยอะพอสมควร บรรยากาศภายในเรือนจำไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เราได้เจอเพื่อนคุยใหม่ๆ ได้พบเพื่อนที่ดี ไม่มีใครปองร้ายเรา ที่สำคัญยังพบเต้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ซึ่งได้ฝากให้กำลังใจพวกตน เพราะยุคนี้ตัวเขาไม่มีสิทธิ์ไปสั่งเด็กๆ ให้ทำหรือไม่ทำอะไรแล้ว มีแต่แรงและกำลังใจให้นักเรียนนักศึกษา
Cr. :  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไฃน์

“อัจฉราพร ควง ภูมิพัฒน์” คว้าแชมป์รุ่น 14 ปี ศึกเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศปทท.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “อัจฉราพร-ภูมิพัฒน์” คว้าแชมป์รุ่น 14 ปี ส่วนแชมป์รุ่น 8 ปี “พลอยเพชร-ปัณณพรรธน์” คว้าแชมป์ไปครอง การแข่งขันเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 58 ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ ผลคู่ที่น่าสนใจมีดังนี้
รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ประเภทหญิงเดี่ยว อัจฉราพร วรรณโพธิ์ (อำนาจเจริญ) คว้าแชมป์ไปครอง ชนะ กมรวรรณ ก้อนศิลา (นนทบุรี) 2-1 เซต 6-3, 4-6, 4-0 (กมรวรรณ ขอยอมแพ้ เนื่องจากเจ็บเข่าข้างขวา) / ประเภทชายเดี่ยว มือวาง 3 ภูมิพัฒน์ สุขโข (กรุงเทพฯ) คว้าแชมป์ ชนะ มือวาง 4 อิสระ โรจน์ธรรมรักษ์ (ราชบุรี) ไปด้วยสกอร์ 2 เซตรวด 7-5, 6-1

ประเภทหญิงคู่ กมรวรรณ ก้อนศิลา (นนทบุรี) คู่กับ อัจฉราพร วรรณโพธิ์ (อำนาจเจริญ) ชนะ กมลวรรณ ยอดเพ็ชร (พระนครศรีอยุธยา) คู่กับ พิมพ์มาดา ทองคำ (สุราษฎร์ธานี) 6-4, 3-6, 11-9 (ซุปเปอร์ไทเบรก) / ประเภทชายคู่ ดนุนัย ภู่เกษร (ปทุมธานี) คู่กับ ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ (ขอนแก่น) ชนะ พาริช เศวตวาณิช (กรุงเทพฯ) คู่กับ ภูมิพัฒน์ สุขโข (กรุงเทพฯ) 6-2, 3-6, 10-5 (ซุปเปอร์ไทเบรก)

รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี ประเภทหญิงเดี่ยว มือวาง 2 พลอยเพชร ด้วงเขียว (สงขลา) คว้าแชมป์ไปครอง หลังล้ม มือวาง 1 ลัลน์ลลิน วโรทยานนท์ (กรุงเทพฯ) ไปด้วยสกอร์ 4-0, 4-0 / ประเภทชายเดี่ยว มือวาง 2 ปัณณพรรธน์ นิ่มนวลกุล (กรุงเทพฯ) คว้าแชมป์ไปครอง หลังคว่ำมือวาง 1 มหาสมุทร พงศ์ศิริเลิศ (ชุมพร) ไปด้วยสกอร์ 5-3, 4-5 (4), 14-12 (ซุปเปอร์ไทเบรก)
ประเภทหญิงคู่ พลอยเพชร ด้วงเขียว (สงขลา) คู่กับ อัญวีณ์ ไพศาลภาณุวงศ์ (เชียงใหม่) ชนะ ลัลน์ลลิน วโรทยานนท์ (กรุงเทพฯ) คู่กับ สุพรรณพิมพ์ เพ็ญชาติ (ปทุมธานี) 4-2, 4-2 / ประเภทชายคู่ มหาสมุทร พงศ์ศิริเลิศ (ชุมพร) คู่กับ เดนิส เขียวรักษา (ชลบุรี) ชนะ ชินชวกร หงษ์หิรัญเรือง (ชุมพร) คู่กับ ณัทกร ศิลปรัตน์ (สุพรรณบุรี) 4-2, 4-2
ภายหลังการแข่งขัน นายธานี แสนยาอุโฆษ คณะกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่นักกีฬา ที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ทั้งประเภทชายเดี่ยว-หญิงเดี่ยว-ชายคู่-หญิงคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี

รางวัลคนเก่ง นายธานี แสนยาอุโฆษ คณะกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน เป็นประธานมอบรางวัล ให้แก่นักกีฬาทกประเภท ที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศการแข่งขันเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 58 ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ฟุตซอลไทยลีก ปรับคิวฟาดแข้ง เตรียมมลุยชิงแชมป์เอเชีย ที่ คูเวต

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ฟุตซอลไทยลีกปรับโปรแกรมหวดเลกสองต่อเลกแรก เอเอฟซี มีการขยับชิงแชมป์เอเชียไป 2 ธ.ค. ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย วางแผนเรียกรวมพลฝึกซ้อมต้นเดือน ต.ค. มีเวลา 23 วันเตรียมทัพ
จากการที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ร่อนหนังสือขอมติจากชาติที่เข้ารอบสุดท้าย เพื่อปรับวันแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ คูเวต เดิมจะเตะกันวันที่ 2-13 พ.ย. ไประหว่างวันที่ 2-13 ธ.ค.นี้ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศฯ ฝ่ายพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด เผยว่า
“การปรับเปลี่ยนวันเวลาแข่งขันดังกล่าว ทำให้ฟุตซอลไทยลีกต้องมีการปรับปฎิทินกันใหม่ โดยเลกแรกที่จะจบในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ก็จะพักเบรกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาเล่นในเลกที่สองประมาณ 3-4 นัด จากนั้นก็จะเบรกให้ทีมชาติได้เตรียมทีมฝึกซ้อมช่วงนี้เดือน พ.ย. ประมาณ 23 วันก่อนจะไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย”
สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ก็เผยถึงเตรียมทีมโต๊ะเล็กช้างศึก หลังจากทราบข่าวการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย2020 เลื่อนโปรแกรมไปเดือน ธ.ค.ว่า “จะมีการพูดคุยกับทางเฮดโค้ช ปูลปิส ว่าเขาเองจะมีแผนการฝึกซ้อมอย่างไร รวมถึงรายชื่อนักเตะที่จะเรียกเก็บตัว หากมีการยืนยันวันแข่งขันดังกล่าว จะเรียกผู้เล่นทีมชาติเริ่มฝึกซ้อมช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ หลังจบฟุตซอลไทยลีกเลกแรกในวันที่ 27 ก.ย.นี้
“ก่อนเปิดเลกสอง น่าจะมีเวลาซ้อมกันได้ 3-5 วัน จากนั้นจะไปรวมตัวฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็จะมีรายการฟุตซอลไทยแลนด์ไฟว์ 2020 ให้อุ่นเครื่องด้วย มีเวลาเพิ่มอีก 3 สัปดาห์ คร่าวๆเวลาในเตรียมทีมก็จะมีอย่างน้อย 23 วัน ทราบข่าวมาว่าหลายๆชาติที่จะลงแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ก็เริ่มเคลื่อนไหวกลับมาฝึกซ้อมแล้วเหมือนกัน”
สำหรับ ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ แชมป์เก่า อิหร่าน ,เกาหลีใต้? และ? ซาอุดิอาระเบีย?

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ศาลสั่งปล่อย ทนายอานนท์- ไมค์ ระยองพ้นคุก

0

พิมพ์ไทยออนไฃน์ // ศาลอาญาสั่งปล่อยทนายอานนท์ -​ไมค์ ระยอง โดยให้หมายปล่อยแจ้งทางเรือนจำได้ทราบแล้ว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) ร่วมกับ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) และ กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรม ถามหาความยุติธรรมในกระบวนการที่ออกหมายจับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 15.00 น.-17.00 น. ก่อนการร่วมตัวกลุ่มความเคลื่อนไหว ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำศาล นำโซ่มาคล้องกุญแจปิดบริเวณประตู 8-9 แล้ว ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างเริ่มทยอยมา ตำรวจ สน.พหลโยธิน จัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 40 นาย มาคอยดูแลสถานการณ์

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังนำแผ่นประกาศข้อกำหนดศาลอาญาขนาดใหญ่มาวางตั้งไว้ โดยห้ามไม่ให้ใช้เครื่องขยายเสียงหรือกระทำการใดให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเมิดอำนาจศาล

ต่อมาเวลา 15.20 น. นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความ”ดา ตอปิโด” อดีตผู้ต้องหาในคดี ม.112 ได้นำเครื่องเสียงมาตั้งอยู่หน้าศาล โดยมีมวลชนประมาณ30ราย คอยชูป้ายเขียนข้อความให้ปล่อยตัวนาย อานนท์ กับนายภาณุพงษ์ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนถือภาพบุคคลทั้งสอง พร้อมเรียกร้องให้ศาลอาญา ปล่อยตัว นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ เนื่องจากการถอนประกันตัวก่อนส่งคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไม่เป็นธรรม หลังถูกศาลตัดสินเพิกถอนการประกันตัวตามคำร้องของตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

นายประเวศ กล่าวว่าไปยื่นแจ้งการชุมนุมที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนรับแจ้งว่าผกก.ไม่อยู่ เนื่องจากไม่ใช่เวลาราชการ จึงไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดการชุมนุม ทั้งที่การแจ้งชุมนุม มีข้อกำหนดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าใน 24 ชั่วโมง ไม่ได้บอกให้แจ้งในเวลาราชการ ฉะนั้นถือว่าได้แจ้งจัดชุมนุมแล้ว แต่ สน.พหลโยธิน ไม่ยอมรับแจ้ง หากมีหมายเรียกคดีใดจะสู้คดีต่อไป

ต่อมามีตัวเเทนผู้ชุมนุมเยาวชนอ่านบทกวีของนายอานนท์พร้อมพากันชู3นิ้วเเล้วตะโกนให้ปล่อยบุคคลทั้งสอง เมื่อเวลา 16.00 น.เศษ ศาลอาญาได้ออกข่าวแจกสื่อมวลชนมีความว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ย.63 ที่ศาลอาญานัดไต่สวนคดีที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายอานนท์นำภาและนายภาณุพงศ์จาดนอกผู้ต้องหาทั้งสองสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4ส.ค.63 ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองและอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองโดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการใด ๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนั้นอีกภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวนายอานนท์และนายภานุพงศ์ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทนายความผู้ต้องหาทั้งสองยื่นคำคัดค้านคำร้องของพนักงานสอบสวนดังกล่าวหลังจากนั้นศาลไต่สวนคำร้องของพนักงานสอบสวนศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวของนายอานนท์ นำภาในส่วนของ นายภาณุพงศ์ จาดนอก ศาลได้พิเคราะห์ถึงอายุอาชีพและพฤติการณ์แห่งการกระทำที่ถูกกล่าวหาให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวสมควรให้โอกาสแก่นายภาณุพงศ์โดยได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้มีประกันในวงเงินเพิ่มเป็น2เเสนบาทโดยไม่ต้องมีหลักประกันและให้นายภาณุพงศ์มารายงานตัวทุก 15 วันซึ่งต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเข้ามาใหม่

ศาลจึงให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวและรับตัวไว้หมายขัง

ต่อมาในวันนี้ (วันที่ 7 ก.ย.63)พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการฝากขังนายอานนท์ นำภาและนายภาณุพงศ์ จาดนอก ผู้ต้องหาทั้งสองโดยระบุเหตุผลในคำร้องว่าได้ทำการสอบสวนมาพอสมควรแล้วจึงไม่จำเป็นต้องขังผู้ต้องหาทั้งสองระหว่างการสอบสวนอีกต่อไป

ศาลพิจารณาแล้วให้หมายปล่อยผู้ต้องหาทั้งสองโดยแจ้งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทราบแล้ว

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผํูสื่อข่าวพิมพ์ไทยออสไฃน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1159943907010056818
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

คนไทยห่วงใยดูแลสุขภาพ ชี้เป้าเลือกใช้สมุนไพร

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// สุดปัง ! กระแสแรงมาก คนไทยห่วงใยสุขภาพ แห่ฟังเสวนาชี้เป้าเลือกใช้สมุนไพรธรรมชาติ หมอชื่อดังชี้วิธีเลือกสมุนไพรให้ได้ผล ต้องดูละเอียดตั้งแต่ต้นทาง บอสใหญ่วงการสมุนไพรมั่นใจตอบโจทย์ด้านสุขภาพ
ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ที่ อิมแพคเมืองทองธานี (2-6 ก.ย. 63) ปรากฎมีประชาชนให้ความสนใจไปเยี่ยมชมงานอย่างหนาแน่น พร้อมกับเก็บเกี่ยวข้อมูลและความรู้ด้านการใช้และประโยชน์ของสมุนไพรธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับการเสริมสร้างสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วย

โดยในงานนี้ จัดให้มีการเสวนาเชิงวิชาการ และทางบริษัท เนเจอร์ไบโอเทค ร่วมจัดเสวนาเพื่ออัพเดทนวัตกรรมสมุนไพรธรรมชาติในยุค New Normal ท่ามกลางผู้เข้ามาร่วมฟังจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ โดยมี นายแพทย์ดำรงค์ เลาหะพรสวรรค์ หมอชื่อดังที่มีความรู้ทั้งด้านสมุนไพรธรรมชาติและการแพทย์แผนปัจจุบัน ด้านหู คอ จมูก ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสมุนไพร
นพ.ดำรงค์ กล่าวว่า การเลือกใช้ยาจากสมุนไพรธรรมชาติจะทำให้เราหลีกเลี่ยงสารเคมีในยาทั่วๆไปได้ โดยยาสมัยใหม่อาจจะทานแล้วหายเร็ว แต่ตัวยามีสารเคมีเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ขณะที่ยาจากสมุนไพรธรรมชาติ ปลอดสารเคมีแน่นอน และ มีผลดีต่อสุขภาพ
สำหรับการเลือกใช้ยาหรืออาหารเสริมจากสมุนไพรธรรมชาติให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องพิจารณาตั้งแต่ต้นทางหรือที่มา ตั้งแต่แหล่งผลิตที่ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างดี หรือ จากโรงงานผลิตมีมาตรฐานสูงระดับสากล รวมถึงการดูแลหลังการขายจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่าย ที่พร้อมจะให้ข้อมูลและคำปรึกษา

บนเวทีเสวนา ยังมีดาราชื่อดัง ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี กับ กันตา ดานาว มาร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้สมุนไพรธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งดาราสาวทั้งสองคนยอมรับด้วยความมั่นใจถึงผลและประสิทธิภาพจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ทำให้มีสุขภาพดีและดูสวยสดชื่นอ่อนเยาว์
ด้าน นายชูพงษ์ เลาหะพรสวรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนเจอร์ไบโอเทค กล่าวว่า สำหรับ เนเจอร์ไบโอเทค ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ อาทิเช่น หลินจือมิน, หลินจือมินเอ็กซ์ตร้า, EX8 ถั่งเช่า, และ G2X โสมแดงเกาหลีผสานเห็ดหลินจือแดง ซึ่งปัจจุบันสามารถตอบโจทย์ความต้องการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพจากกลุ่มคนวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ ทางบริษัทฯดำเนินการมา มากกว่า 10 ปี ได้สร้างมาตรฐานได้รับการยอมรับทั่วไป
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มีความรู้และประสบการณ์ พร้อมให้คำแนะนำการรับประทานแก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือ เข้ามาดูข้อมูลและรายละเอียดได้ที่ https://www.naturebiotec.com

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

บู๊สุดเดือด! “นครินทร์” ฟอร์มเฉียบ โออาร์ คว้าแชป์บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ สนาม 2

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานสุดเพอร์เฟ็คต์ ชิงจังหวะโค้งสุดท้าย บดเอาชนะ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ผงาดคว้าแชมป์แรกของปีนี้ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนาม 2 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ดวลความเร็วสนาม 2 ของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดให้แฟนความเร็วเข้าชมการแข่งขันเป็นครั้งแรก และมีถ่ายทอดสดไปยัง 3 ประเทศอย่าง สปป.ลาว, เมียนมาร์ และ กัมพูชา เพื่อเป็นการขยายฐานแฟนความเร็ว

ไฮไลต์รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (เอสบี1-เอสบี2) ของสนามอยู่ที่การลุ้นกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ของ ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ 3 สมัยติดต่อกันจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่พลาดล้มในสนามแรกและไม่มีแต้มติดมือ ก่อนแข่งขันสนามที่ 2 “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์สนามแรก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ เหนือทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อยู่ 5 คะแนน ตามด้วย ชัยวิชิต นิสกุล คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังจ่าฝูง 9 คะแนน
กริดสตาร์ทในเรซนี้มี ฐิติพงศ์ เป็นเจ้าของโพล หลังทุบสถิติของสนามช้างฯ ทำไว้ในสนามที่ผ่านมา ขนาบข้างด้วย อภิวัฒน์ และ อนุภาพ ในกริดที่ 2 และ 3 ด้าน นครินทร์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 โดยแข่งขันกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ฐิติพงศ์ ทว่าหลังผ่านโค้ง 3 กลายเป็น อภิวัฒน์ ที่ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ ตามด้วย ฐิติพงศ์, นครินทร์ และ อนุภาพ รวมถึง ชัยวิชิต ในอันดับ 5

ในรอบที่ 5 ฐิติพงศ์ เปิดเกมบุกใส่ครั้งแรก ในโค้งที่ 3 แต่ อภิวัฒน์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ขณะที่ ชัยวิชิต ขยับแซง นครินทร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 อย่างไรก็ดีในรอบถัดมาเป็น ฐิติพงศ์ ที่แซงขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ
ในรอบที่ 7 ฐิติพงศ์ กลับพลาดบานที่โค้ง 3 ส่งผลให้ อภิวัฒน์ กลับขึ้นมาเป็นผู้นำ ขณะที่ นครินทร์ อาศัยความผิดพลาดของคู่หูคาวาซากิ เสียบแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ส่งผลให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในสนามนี้เปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 5 รอบสุดท้าย
เกมเรซนี้ต้องตัดสินกันถึงโค้งสุดท้ายอีกครั้ง เมื่อ อภิวัฒน์ พยายามเสียบแซง ฐิติพงศ์ หวังจะคว้าชัยชนะให้ได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะกันเล็กน้อย นครินทร์ เสียบจากอันดับ 3 ขึ้นมาคว้าแชมป์อย่างสุดมันส์ และเป็นชัยชนะครั้งแรกของอดีตนักบิดโมโตทรี เฉือน ฐิติพงศ์ อันดับ 2 เพียง 0.820 วินาที ส่วนอันดับ 3 อภิวัฒน์ ตามหลังแชมป์ 1.227 วินาที

ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี เอสที1 นับเป็นเรซที่มีความพลิกผันอย่างมาก โดยทั้ง ออ ปิตะบุตร จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต และ อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ พลาดล้มออกจากการแข่งขันไป แถมช่วง 3 รอบสุดท้ายมีฝนตกลงมาปรอยๆ สร้างความลำบากให้นักบิดอย่างมาก ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ ชานนท์ ชุ่มใจ จาก ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที ที่เอาชนะ สิรภพ พูลศรี ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต ทีม อันดับ 2 อยู่ 4.348 วินาที ส่วนอันดับ 3 อัศวิน คงทนไพศาล จาก โกโก้ เรซซิ่ง ตามหลังแชมป์ 10.697 วินาที
รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ระหว่าง สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ เจ้าของโพล และ คณาทัต ใจมั่น คู่แข่งคนสำคัญจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 เกมในเรซนี้ต้องไปตัดสินถึงโค้งสุดท้าย เมื่อ สิทธิศักดิ์ พยายามเสียบไลน์ในเพื่อแซง คณาทัต ทว่าฝ่ายหลังอาศัยจังหวะที่ยอดเยี่ยม บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกคว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครอง เฉือน สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ที่หน้าเส้นชัยเพียง 0.057 วินาที ส่วนอันดับ 3 นิติพงศ์ แสงสว่าง จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 17.584 วินาที

ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ที่เร็วสุดๆ ในรอบควอลิฟายกลับต้องถอยไปออกสตาร์ทจากท้ายแถว เนื่องจากเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่มีปัญหาก่อนแข่งขัน ทว่ายอดนักบิดจากเชียงใหม่โชว์ฟอร์มโหด ไล่แซงคู่แข่ง 15 คัน ผงาดคว้าแชมป์ไปครองด้วยเวลา 12 นาที 38.145 วินาที เหนือ จิรายุ สายยนต์ นักบิดหนุ่มจาก คาวาซากิ โรนิน เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 ถึง 3.506 วินาที ส่วนอันดับ 3 รัฐพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็มเอ็น8 น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ตามหลังแชมป์ 6.722 วินาที
รุ่น สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี (เอสพี. และ เอสพี จูเนียร์) นักบิดดาวรุ่งในคลาสจูเนียร์อย่าง ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก เอ๋ เซอร์วิส ทีซี เอ็นจิ้น ปื๊ด สะพานแดง สร้างผลงานสุดร้อนแรง ออกสตาร์ทจากโพลนำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ไปครอง 13 นาที 5.329 วินาที ทิ้งห่าง ธีรเทพ ต้านชัง ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. วายเอสเอส เอ็นจีเค อันดับ 2 ถึง 6.081 วินาที ส่วนอันดับ 3 ธนเทพ เทพแสน จาก อะไหล่ MN8 สปริงวาล์ว Promatt มานพ เซอร์วิส แปดริ้ว ตามหลังแชมป์ 6.182 วินาที

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เอสซีจี เมืองทอง ไล่เจ๊า ชลบุรี เอฟซี 2-2 “ไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซัซั่น”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” 2-2 “ชลบุรี เอฟซี” ศึก “ไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น” (THAIRATH BIG 5 PRE-SEASON) แมตช์สุดท้ายก่อนเกมรีสตาร์ต “โตโยต้า ไทยลีก” ในวันที่ 12 ก.ย.นี้
วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านา การแข่งขันฟุตบอล “ไทยรัฐ บิ๊ก ไฟว์ ปรี-ซีซั่น” (THAIRATH BIG 5 PRE-SEASON) แมตช์สุดท้ายก่อนเกมรีสตาร์ต “โตโยต้า ไทยลีก” วันที่ 12 กันยายน นี้ คู่ระหว่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดสนาม เอสซีจี สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือน “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี
ครึ่งแรก นาทีที่ 6 ชลบุรี เอฟซี มาได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ แฮร์ริสัน ไคออน ได้โอกาสโหม่ง แต่ทว่าโดนเหลี่ยมไม่ดีบอลหลุดเสาสองออกไปชนิดที่ไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับ ดัง วาน ลัม

นาที 9 ชลบุรี เอฟซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ วัฒนา พลายนุ่ม สกัดไม่ดีบอลกั๊กระหว่างทีมเดียวกันเอง ฉัตรมงคล เรืองธนโรจน์ ฉกบอลได้ก่อนซัดเต็มข้อบอลผ่านมือ ดัง วาน ลัม ผู้รักษาประตูชาวเวียดนามเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 12 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ลุ้นประตูตีเสมอบ้าง วิลเลียน พอพพ์ ได้บอลหลุดเข้ามาแต่ไม่มีจังหวะจึงเลือกจ่ายให้ แดร์เลย์ จับไม่ถนัดทำให้ยิงบดบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ต่อมานาทีที่ 39 ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่บอลวางยาวจากแดนหลัง แฮร์ริสัน ไคออน ได้บอลจากทางกราบซ้ายก่อนจ่ายดีดไซด์ก้อยไปให้ ดราแกน บอสโควิช ยิงเข้าไปง่ายๆ หลังจากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียวเพิ่ม หมดครึ่งแรก “กิเลยผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตามหลัง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี 0-2
ครึ่งหลังนาทีที่ 47 เอสซีจี เมืองทองฯ ตีไข่แตกไล่ตามมา 1-2 จากจังหวะที่ แดร์เลย์ ได้จังหวะจิ้มบอลด้วยเท้าขวาพุ่งเสียบเสาไกลเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาดชนิดที่ สินทวีชัย ทหัยรัตนกุล นายทวาร ชลบุรี เอฟซี หมดสิทธิ์ป้องกัน
ถัดมานาทีที่ 52 เอสซีจี เมืองทองฯ ตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ จากจังหวะบอลคลุกคลิกในกรอบเขตโทษ และเป็น วิลเลียน พอพพ์ ได้แต่งบอลและยิงเร็วด้วยขวาบอลแฉลบ นพนนท์ คชพลายุกต์ เข้าประตูไป สุดความสามารถที่ สินทวีชัย ทหัยรัตนกุล จะป้องกันได้อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีจังหวะอันตรายเพิ่มเติม จบเกม “กิเลยผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เสมอกับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ไปอย่างสนุก ด้วยสกอร์ 2-2

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์