พิมพ์ไทยออนไลน์ // ไทยขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของโลก จัดนกพิราบแข่งนานาชาติ สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติและนักเลี้ยงนกทั่วโลกต่างยกย่อง ด้านพัทยาอินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ เตรียมขยายกรงนกเพิ่มอีก 120% เพื่อรองรับนกแข่งจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมในปีหน้ากว่า 1 หมื่นตัว ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 55.6 ล้านบาท
สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) ยกย่อง ไทยจัด การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้ดีที่สุดในโลก พร้อมมอบโล่เกียรติคุณยืนยันความยิ่งใหญ่ โดยมร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธาน FCI ชูจุดเด่น 3 ข้อ ที่เหนือกว่าทุกชาติ ทั้งมีนกเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดในโลก, เงินรางวัลสูงสุด และนกบินกลับกรงได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก ด้าน สิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด ยืนยันการแข่งขันครั้งต่อไป จะเกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เตรียมขยายกรงนกพัทยา รองรับนกพิราบแข่งจากทั่วโลกกว่า 15,000 ตัว พร้อมเพิ่มยอดเงินรางวัลสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 55.6 ล้านบาทในปีหน้า

ล่าสุด นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ ปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นักเลี้ยงนกทั่วโลกต่างชื่นชมการจัดการแข่งในครั้งนี้ ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์ การแพร่
ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ทำให้เราคิดว่า ผู้เลี้ยงนกจากทั่วโลกน่าจะส่งนกพิราบมาแข่งขันไม่มากเหมือนครั้งปีที่ผ่านมา แต่พอเปิดรับสมัครจริง กลับตรงกันข้าม จำนวนนกที่เข้าแข่งขันมีมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรื่องนี้ มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธานสมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) ที่เดินทางมาดูการทำงาน พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ มานานเกือบ 1 เดือน เห็นการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่สัตวบาล ต่อนกทุกตัวทำได้ดีมาก ทำให้ มร.อีทส์วาน ชื่นชมและยกย่องว่ามาตราฐานการดูแลเลี้ยงนก การจัดการแข่งขันของไทยสูงมากกว่าทุกแห่งทั่วโลก ทำให้ผู้เลี้ยงนกจากนานาชาติเชื่อมั่นส่งนกมาแข่งขันจำนวนมาก

มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธาน สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ FCI ซึ่งเป็นองค์กรที่รับรองการจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ยัง กล่าวชื่นชมอีกว่า รายการนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ดีที่สุดของโลก ทั้งเรื่องยอดนกพิราบที่แข่งขันที่มากกว่าการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติทุกประเทศ รวมถึงเงินรางวัลที่สูงมากเป็นประวัติศาสตร์ และที่สำคัญนกพิราบที่นำไปปล่อยจากจุดสตาร์ทแต่ละระยะทาง สามารถบินกลับมายังกรงได้เป็นจำนวนเปอร์เซ็นที่สูงมาก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของไทย พร้อมกันนี้ มร.อีทส์วานมอบโล่เกียรติคุณการจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 อีกด้วย เป็นการการันตีว่าประเทศไทยจัดแข่งได้ดีที่สุดในโลก

นายสิริเดช กล่าวต่อไปว่า หลังจากจัดการแข่งขันเสร็จ เตรียมขยายกรงนกเพิ่มขึ้นทันที เพื่อรองรับนกแข่งให้มากขึ้นกว่า 15,000 ตัว โดยจะก่อสร้างพื้นที่กรงนกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 120% จากเดิมรองรับนกได้ 7,000 ตัว การขยายกรงในครั้งนี้จะสามารถรองรับนกแข่งได้ถึง 15,000 ตัว เชื่อว่าปีหน้าจะมีนกพิราบแข่งจากทั่วโลกมาแข่งขันมากขึ้นอย่างต่ำ 10,000 ตัว และที่สำคัญได้มีการเพิ่มเงินรางวัลมากเป็นประวัติศาสตร์ในวงการนกพิราบแข่งนานาชาติ ด้วยเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 55.6 ล้านบาท แต่ค่าสมัครยังคงเก็บเท่าเดิม ในเดือนมีนาคมนี้จะเปิดรับสมัครนกเข้าเตรียมตัวสู่การแข่งขันปีหน้า และเตรียมสร้างประวัติศาตร์หน้าใหม่ให้วงการนกพิราบแข่งนานาชาติกันอีกครั้ง ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.pattayaoneloftrace.com

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161023946110051836
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย คลอดโผคณะกรรมการอำนวยการสมาคมชุดใหม่ “สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม” นายกสมาคมกีฬาลูกสักหลาด เลือกคนเก่ง ทั้งมีความรู้และความสามารถ แถมคว่ำหวอดในวงการมานาน ช่วยกันขับเคลื่อนพัฒนากีฬาเทนนิสของไทยให้ก้าวเดินต่อไป
ตามที่ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ที่ ห้องประชุม ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ และผลปรากฏว่า สโมสรเครือสมาชิก ทั้ง 58 สโมสร ที่เข้าประชุมลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ในการสนับสนุน นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย คนใหม่ นับเป็นคนที่ 18 ของไทย และนายสุชัย พร้อมคณะได้เข้าที่ทำการสมาคมเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านา และได้ร่วมพิธีสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ภายในศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานีด้วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย แจ้งว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยนายทะเบียนสมาคมกีฬาประจำจังหวัดนนทบุรี ได้รับจดทะเบียนแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ชุดใหม่ ตามพระราชบัญญัติ กกท. พ.ศ.2558 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีวาระบริหาร ปี 2563-2567 ดังมีรายนามต่อไปนี้ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคม, อุปนายก จำนวน 7 คน ได้แก่ พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา, ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล, พลตำรวจเอก ณัฐธร เพราะสุนทร, พลโท อุชุกร สาครนาวิน, นายวิเชษฐ์ ทีปกากร, นายสร้างบุญ กิตติกรณ์, นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โดยมี นายไทยทนุ วรรณสุข ทำหน้าที่เลขาธิการสมาคมและฝ่ายพัฒนาเทคนิค, น.ส.ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เป็นรองเลขาธิการ

ขณะที่ นายสมหมาย โค้วคชาภรณ์ เหรัญญิก, นายคชาชาญ มงคลเจริญ ประชาสัมพันธ์, พันเอก วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ นายทะเบียน, นายกฤตชัย เนยโอชา ฝ่ายผู้ตัดสิน, นายธานี แสนยาอุโฆษ ฝ่ายพัฒนาเยาวชน, นายภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ ฝ่ายจัดการแข่งขัน, พลเอก ณรงค์ฤทธิ์ อิศรัตน์ ปฏิคม, นายชาญณรงค์ จัดนอก กรรมการกลาง และ น.ส.ขนิษฐา ศรีตะวัน กรรมการกลาง
นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อันดับแรกขอกล่าวสวัสดีปีใหม่กับพี่น้องชาวกีฬาเทนนิสทุกคน และขอขอบคุณพี่น้องสโมสรเครือสมาชิกของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ที่ให้ความไว้วางใจตนและคณะกรรมการได้มาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาเทนนิสของประเทศไทยให้ก้าวเดินต่อไป สำหรับคณะกรรมการอำนวยการสมาคมชุดใหม่นั้น ล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถ รวมถึงหลายคนยังเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านกีฬาเทนนิสอยู่แล้ว ทำให้มั่นใจว่าคณะกรรมการอำนวยการสมาคมชุดนี้จะช่วยกันพัฒนาวงการกีฬาเทนนิสของไทยให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ในอนาคต
“ผมขอขอบคุณท่านอดีตนายกสมาคมและคณะกรรมการในชุดที่ผ่านๆ มาทุกชุด ที่ได้วางรากฐานของกีฬาเทนนิสในประเทศไทยไว้ และได้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผมและคณะกรรมการชุดใหม่ได้มาบริหารงานสมาคมในวาระต่อจากนี้ไปอีก 4 ปี แม้ในช่วงนี้มีเรื่องสถานการณ์โควิด-19 เข้ามาสร้างปัญหา แต่จะพยายามทำงานและผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ โดยให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ดำเนินงานภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดในทุกๆ ด้าน สำหรับผมก็มีโอกาสได้หารือกับคณะกรรมการทุกท่านอย่างต่อเนื่องผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อกำหนดนโยบายการบริหาร ซึ่งจะมีการประกาศต่อไปในเร็วๆ นี้” นายสุชัย กล่าวทิ้งท้าย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการปั่นจักรยานออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 เริ่มโครงการนัดแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม และมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก Thaicycling Association โดยมีนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย มาเป็นผู้นำปั่นแบบ “มีตติ้ง” ร่วมกับแฟน ๆ ทางบ้านที่ร่วมชาลเลนจ์ หรือแข่งขันกัน ผ่านแอปพลิเคชั่น ONE LAP ใช้เส้นทาง Central ระยะทางประมาณ 20 กม.
สำหรับนักปั่นทีมชาติที่มาร่วมเป็นผู้นำปั่น มีนักกีฬาหญิง 4 คน ได้แก่ “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “แพร” สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช, “ไก่” สิบตรีหญิง ศุภักษร นันตะนะ, “บีม” น.ส.ชนิภรณ์ บัตริยะ และนักกีฬาชาย 5 คน ได้แก่ “วุฒิ” สิบโท สราวุฒิ สิริรณชัย, “มะตูม” จ่าอากาศเอก พีรพล ชาวเชียงขวาง, “เฟรม” สิบตรี ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, “ปาง” จ่าอากาศเอก ธนาวุฒิ สนิกวาที และ “น็อต” สิบตำรวจโท ยุทธนา มะโน นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษที่มาปั่นในสตูดิโอ ขณะกำลังไลฟ์สด ก็คือ “มอส” ปฏิภาณ ปัฐวีกานต์ นักแสดงชื่อดัง มาร่วมปั่นกับแฟน ๆ ทางบ้านด้วย

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกไฟแรง (ปั่น) แซงทุกสนาม” กล่าวอีกว่า กิจกรรม “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 จัดขึ้นมาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ประชาชนไม่กล้าไปออกกำลังกายนอกบ้าน เพราะเกรงว่าจะไปรับเชื้อโดยไม่ตั้งใจ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงเปิดโครงการนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ประเดิมปั่นเฟส 2 นัดแรก วันเสาร์ที่ 9 มกราคม ซึ่งตรงกับ “วันเด็กแห่งชาติ” สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงถือโอกาสจัดกิจกรรมวันเด็กออนไลน์ ผ่านการไลฟ์สด “ปั่นในบ้านต้านโควิด” โดยให้เด็ก ๆ อายุไม่เกิน 12 ปีทั้งชายและหญิง ร่วมสนุกด้วยการถ่ายภาพตัวเองกับรถจักรยานคันโปรด แล้วส่งมาในในกล่องข้อความ Inbox ระหว่างการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association ผู้ที่ส่งภาพถ่ายคู่กับจักรยานมาเป็น 30 คนแรก จะได้รับเสื้อยืดสุดเก๋จากนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ คนละ 1 ตัว
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า นอกจากเด็ก ๆ จะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้แล้ว ผู้ใหญ่ก็ยังมีโอกาสร่วมสนุกเช่นกัน ด้วยการนำภาพถ่ายของตัวเองถ่ายร่วมกับรถจักรยานคันโปรดแบบไหนก็ได้ ขณะกำลังปั่นอยู่ในบ้าน หรือภาพถ่ายตอนเป็นเด็กที่ถ่ายคู่กับจักรยานคันโปรด ส่งเข้ามาในกล่องข้อความ Inbox ระหว่างการไลฟ์สด ผู้ที่ส่งเข้ามาเป็น 20 คนแรก ก็จะได้รับเสื้อจากนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ คนละ 1 ตัวเช่นเดียวกัน ส่วนแฟน ๆ ที่ส่งมาในกล่องข้อความ Inbox หลังจากช่วงไลฟ์สดจะได้รับเสื้อ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” อีก 50 รางวัล รางวัลละ 1 ตัว หมดเขตส่งภาพก่อนเวลา 18.00 น. วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม ทั้งหมดนี้เป็นรางวัลที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ มอบให้เป็นของขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2564

“โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทย เผยว่า ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วว่านอกเหนือจากการปั่นชาลเลนจ์กันทุกวันเสาร์แล้ว วันที่ว่างระหว่างจะถึงวันเสาร์ต่อไป แฟน ๆ นักปั่นทางบ้านสามารถปั่นสะสมระยะทางรวมให้ได้อย่างน้อย 200 กม. หรือให้ได้เวลารวม 7 ชั่วโมงขึ้นไป แล้วส่งเวลาหรือระยะทางรวมมาทาง Inbox เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association ทางฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ จะพิจารณาจากผลรวมแล้วส่งของรางวัลพิเศษไปให้ถึงบ้าน สำหรับผลรวมนี้สามารถนำไปร่วมกับโครงการ “ก้าวท้าใจ ต้านภัยโควิด” ซีซั่น 2 ของกระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดโครงการไปเมื่อกลางปี 2563 ได้อีกด้วย ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “ก้าวท้าใจ” ซีซั่น 2 เพื่อสะสมคะแนนแล้วนำมาแลกสิทธิพิเศษได้มากมาย
ส่วนกำหนดการ “ปั่นในบ้านต้านโควิด” เฟส 2 ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 มกราคม แต่จะเป็นแอปพลิเคชั่นไหน และเส้นทางอะไรให้ขอให้ติดตามข่าวสาร พร้อมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th และที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หากมีข้อสงสัยส่งคำถามมาที่ Inbox หรือ “กล่องข้อความ” ในเฟซบุ๊ก ทีมงานยินดีตอบทุกคำถาม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นกพิราบจากเมืองเบียร์ บร็อกแคมป์ เรชซิ่ง เยอรมัน บินทะยานลัดฟ้าเข้าสู่เส้นชัย ผงาดแชมป์ การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 ครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัล 5 ล้านบาท ปาดหน้านก เวซาลีน เวเลนตินอฟ ทีมจากสเปน ที่บินร่อนลงก่อน แต่เดินเข้ากรงช้ากว่าเพียง 6.27 วินาที ได้เพียงแค่รองแชมป์ ขณะที่นกพิราบของทีมไทย ธนินท์-ณรงค์ เจียรวนนท์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 21
นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด เผย ปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ลั่นปีหน้า จะขยายกรงนกให้ใหญ่ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว พร้อมเพิ่มเงินรางวัลเป็น 55.6 ล้านบาท เชื่อมั่นปีหน้าจะเกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นอีก คาดว่าจะมีนกเข้าร่วมแข่งขันไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัว มากกว่าทุกครั้งอย่างแน่นอน

แชมป์นกพิราบแข่งนานาชาติ... นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด ตรวจและยืนยันนกพิราบแข่งจากทีมบร็อกแคมป์ เรชซิ่ง เยอรมัน บินทะยานลัดฟ้าเข้าสู่เส้นชัย ผงาดคว้าแชมป์ การแข่งขัน “นกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5” ครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัล 5 บาทบาท

การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัลรวม 35.3 ล้านบาท โดยเป็นการผนึกกำลังกันระหว่าง เมืองพัทยา ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ (PIPR) ซึ่งการแข่งขันเป็น One Loft Race ที่ได้รับการรับรองจาก องค์กรนกพิราบแข่งระดับโลก เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ เป็นการแข่งขันครั้งสุดท้าย ระยะทาง 530 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เริ่มต้นที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี และเข้าเส้นชัยที่ พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จ.ชลบุรี ซึ่งมีนายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด พร้อมด้วยนายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ ร่วมเป็นประธานการแข่งขัน ซึ่งภายในพิธิมีการเชิดสิงโต และมังกร เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยให้การแข่งขันประสบความสำเร็จ

โดยการแข่งขันในครั้งนี้มีนกพิราบที่เข้าแข่งขันมากถึง 3,653 ตัว จาก 39 ประเทศ จากนกทั้งหมดที่ลงแข่งขันตั้งแต่ครั้งแรกจำนวน 7,401 ตัว ซึ่งมีทีม ฮักเก้น มูลเลอร์ จากเยอรมัน เจ้าของแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ส่งนกเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 20 ตัว ส่วนทีมรองแชมป์อย่าง วิบูลย์ กุลธิวิลาศ ส่งนกมาแข่งขัน 10 ตัว ปล่อยนกเริ่มต้นที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี วันที่ 9 มกราคม 2564 เวลา 07.15 น. รวมระยะทาง 530 กม.
ผลการแข่งขันปรากฏว่า บร็อกแคมป์ เรชซิ่ง ทีม จากเยอรมันนี สามารถบินเข้ากรงเป็นตัวแรก เมื่อเวลา 13.10.54.96 น. ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 54 นาที 45.04 วินาที คว้าแชมป์ได้สำเร็จ พร้อมครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรี
สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และเงินรางวัล 5 ล้านบาท ขณะที่รองแชมป์ เวซาลีน เวเลนตินอฟ จากประเทศสเปน ซึ่งบินถึงก่อน แต่เดินเข้ากรงช้ากว่านกแชมป์ โดยถึงกรงเวลา 13.11.17 น. แพ้ไปเพียง 6.27 วินาที รับเงินรางวัล 2.5 ล้านบาท
ส่วนอันดับ 3 บิ๊ก แอนดี้ส์ ลอฟท์ จากสหรัฐอเมริกา ถึงกรงเวลา 13.12.52 น. รับรางวัลเงินสด 1.25 ล้านบาท และแชมป์เก่า ฮักเก้น มูลเลอร์ ทีม เข้าอันดับ 4 เวลา 13.12.54 น.
ขณะที่นกไทย W.T.V.C.ทีม เข้าอันดับที่ 19 ถึง 13.14.36 น. ด้าน นกพิราบของเจ้าสัวซีพี “ธนินทร์” ในชื่อทีม ธนินท์-ณรงค์ เจียรวนนท์ เข้ามาเป็นอันดับที่ 21 เวลา 13.14.37 น. ซึ่งในจำนวน 256 อันดับ มีนกไทยเข้าจุดหมายจำนวน 32 ตัว

นายสิริเดช โรจนารุณ กล่าวว่า ปีนี้ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบ

ต่อผู้เลี้ยงนกจากทั่วโลกที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมลุ้นผลงานนกของตัวเองที่กรงนกเมืองพัทยาได้ แต่สามารถชมการไลฟ์สดตลอดการแข่งขันตั้งแต่จุดปล่อยตัวจนถึงเส้นชัย ซึ่งถือว่าปีนี้เราประสบความสำเร็จอย่างมาก นักเลี้ยงนกทุกทีมต่างเชื่อมั่นในความโปร่งใส และความยุติธรรมของประเทศไทย และมั่นใจว่า ปีหน้าจะมีนกพิราบแข่งจากทั่วโลกเข้าแข่งขันมากขึ้นกว่านี้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ เตรียมที่จะขยายกรงนกเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับนกให้มากขึ้นกว่า 10,000 ตัว และปีหน้าจะเพิ่มเงินรางวัล จากปีนี้ 35.3 ล้านบาท ให้มากขึ้นถึง 55.6 ล้านบาท เชื่อว่าจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไมยได้อย่างแน่นอน

“บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ เปิดเผยว่า ต้องขอแสดงความยินดี กับนกพิราบจากประเทศเยอรมันนี ที่สามารถคว้าแชมป์ไปอีก 1 ปี ถึงแม้ปีนี้ แชมป์จะตกเป็นทีม บรฺอกแคมป์ เรชซิ่ง ไม่ใช่ทีมเดิมจากเมื่อปีที่แล้ว แต่นกจากเยอรมันถือว่าเป็นนกชั้นดีของโลก โดยนกที่คว้าแชมป์และอันดับต่างๆ ทางฝ่ายจัดจะนำนกทั้งหมดมาเปิดประมูลผ่านโซเชียลต่อไป
สำหรับการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา Pattaya International Pigeon Race ถือว่าเป็นรายการใหญ่ ที่คนเลี้ยงนกจากทั่วโลกอยากส่งนกมาร่วมชิงชัย ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีนกเข้าแข่งขันเพียง 1 พันกว่าตัว จนถึงปีนี้ ครั้งที่ 5 มีมากถึง 7,401 ตัว ด้วยนโยบายของประธาน “ธนินท์ เจียรวนนท์” ที่ให้ไว้ คือ 1.จัดการแข่งขันด้วยความซื่อสัตย์ 2.บริหารงานอย่างยุติธรรม และ 3.โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงทำให้ผู้เลี้ยงนกจากทั่วโลกเชื่อมั่นและยกให้รายการนี้ เป็นอันดับ 1 ของโลก เชื่อว่าปีหน้าจะมีนกพิราบเข้ามาแข่งขันมากกว่า 1 หมื่นตัวเป็นอย่างน้อย และชิงรางวัลสูงสุดในประวัติศาสตร์การแข่งพิราบนานาชาติ ด้วยเงินรางวัลสูงสุดถึง 55.6 ล้านบาท ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.pattayaoneloftrace.com

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เชียงใหม่ เอฟซี เสริมแกร่งสู้ศึกเลก 2 ไทยลีก 2 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าตัว “นาซซ่า” นฤพน ไวลด์ ดาวเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเลือกหมายเลข 43 หลังย้ายจาก มะละกา เอฟซี ทีมในมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก และผ่านการกักตัวที่ State Quarantine เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ลงทะเบียนนักกีฬา ในเลคที่2 ก่อนตลาดปิด ที่ผ่านมาและได้รับรองใบโอนย้ายทีมเรียบร้อยแล้วนั้น โดยดาวเตะวัย 31 ปี เผยหลังเปิดตัวกับ “พยัคฆ์ล้านนา” ว่า
“รู้จักจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยว และตนก็มาเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับครั้งแรกที่ได้ย้ายมาเล่นฟุตบอลอาชีพกับเชียงใหม่ เอฟซี ก็รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติ มีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ถือว่าเชียงใหม่ เอฟซี เป็นทีมใหญ่ทีมหนึ่งของประเทศ และยังได้อยู่ใกล้ชิดคุณแม่ด้วย เพราะคุณแม่อยู่จ.แม่ฮ่องสอน เวลาพาครอบครัว พาลูกๆ ไปเยี่ยมก็สะดวกขึ้น เพราะครอบครัวสำคัญที่สุดเสมอ นอกจากนี้แฟนบอลเชียงใหม่ เอฟซี ยังถือว่ากดดันทีมคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คอยติดตามอยู่บ่อยๆ อย่างในเกมเวียงพิงค์ดาร์บี้แมตช์ที่ผ่านมาถือว่ากองเชียร์ยอดเยี่ยมมาก และก็เฝ้ารอที่จะลงเล่นต่อหน้าพวกเขา เเป้าหมายก็คือการช่วยเชียงใหม่ เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก ให้ได้”
สำหรับ “นาซซ่า” นฤพน เล่นได้หลายตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ และยังขยับลงมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็กได้อีกด้วย เคยติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ในปี 2003 จากนั้นไปค้าแข้งในลีกเวลส์ กับทีมนิว เซนต์ และไปเล่นที่สหรัฐอเมริกา กับทีมฟลอริดา เทค แพนเธอร์ส รวมถึงที่เนเธอร์แลนด์ กับทีมอาเพลโดร์น ในจูปิแลร์ ลีก หรือดิวิชัน 2 ก่อนจะย้ายมาประเทศไทยในปี 2012 โดยอยู่กับ ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด แล้วย้ายไปเล่นให้กับอีกหลายทีมในไทย ทั้งสงขลา เอฟซี, บีบีซียู เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (ยืมตัว) ก่อนจะไปลุยแดนเสือเหลืองกับทีม มะละกา เอฟซี ทีมในมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก เมื่อปีที่แล้ว และมาเปิดตัวกับเชียงใหม่ เอฟซี ในที่สุด

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3524
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161015294410057675
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ตร.ดอนเมือง คุมผู้ต้องหาคดีนำชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมืองฝากขังศาล คุมเข้มชุดกันโควิด-19

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 64 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัวนางระมัย ไชยมา หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ความผิดฐานร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้นำแรงงานชาวโรฮีนจา 19 คน ไปพักอาศัยที่บ้านเช่าย่านดอนเมือง ถูกฝ่ายสืบสวนตามไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดปทุมธานี มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก

โดยระหว่างการนำตัวนางระมัยมาฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่การนำตัวออกจาก สน.ดอนเมือง โดยตำรวจผู้ควบคุมตัวได้สวมใส่ชุด PPE ตลอดเวลา และนำนางระมัยขึ้นรถที่ใช้ในการสนับสนุนภารกิจส่งกลับโควิด-19 เพียงคนเดียว แยกจากการควบคุมผู้ต้องหาคดีทั่วไป เมื่อถึงศาลอาญา ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในการนำส่งฝากขังโดยไม่นำผู้ต้องหาลงจากรถ และปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดฯ ของศาล ทำการตรวจวัดไข้ ซักประวัติซ้ำ รวมถึงเช็ดล้างเครื่องมือภายในรถเพื่อความปลอดภัยด้วย

Cr :  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไฃน์