https://www.natethip.com/news.php?id=10438
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10438
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10437
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย ได้จัดงานวันชาติ ในโอกาสฉลองครบรอบ 73 ปี อันเป็นเหตุการณ์สำคัญช่วงการปฏิวัติในปี ค.ศ.1952 ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานของสาธารณรัฐอียิปต์สมัยใหม่ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี อธิปไตย และการปฏิรูปเศรษฐกิจของชาติ
งานนี้มีแขกผู้ทรงเกียรติระดับสูงของไทยเข้าร่วมมากมาย อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา , พันเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, ดร.นลินี ทวีสิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้แทนการค้าไทย , นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบรรดาทูตานุทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักธุรกิจชั้นนำ ผู้แทนองค์กรต่างๆ และสมาชิกชุมชนชาวอียิปต์ในประเทศไทย
ฯพณฯ เอกอัครราชทูตฮาลา ยูเซฟ ได้กล่าวแถลงเปิดงาน อันมีเนื้อหาสะท้อนถึงการเดินทางอันพัฒนาในระดับชาติของอียิปต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1952 เน้นย้ำถึงคุณค่าที่คงความสมัยใหม่ในอัตลักษณ์อียิปต์ นั่นคือ ความคืบหน้า การปฏิรูป และความร่วมมือระหว่างประเทศ “เราไม่เพียงแต่เฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้เท่านั้น แต่ยังร่วมฉลองคุณค่าอันยาวนานของอียิปต์ด้วย นั่นก็คือ ความเป็นเอกภาพของชาติ การพัฒนาเชิงสังคมและความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในบทบาทสำคัญของอียิปต์ในระเบียบโลก”
และได้เน้นย้ำถึงความลึกซึ้งของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอียิปต์-ไทย ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1954 และยังกล่าวถึงความสำเร็จลุล่วงในการหารือทางการเมืองรอบที่ 7 ณ กรุงไคโร เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอีกด้วย
ท่านทูตได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการการค้าร่วม และกล่าวถึงการลงทุนของไทยในอียิปต์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ก้าวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจไทยต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ของอียิปต์”
ในเชิงการศึกษาและการแลกเปลี่ยนในภาคประชาชนกับประชาชน ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี ปัจจุบันเรามีนักศึกษาไทยกว่า 3,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮาร์อันเก่าแก่
ในเชิงเศรษฐกิจ ท่านทูตได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการปฏิรูปของอียิปต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค มีการส่งออกเพิ่มขึ้น 20% และมีตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ตัวเลขล่าสุดของ UNCTAD ระบุว่าอียิปต์เป็นประเทศผู้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รายใหญ่อันดับ 9 ของโลกในปี 2024 โดยเน้นย้ำถึงความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น ไฮโดรเจนสีเขียว การผลิต และโครงสร้างรากฐานทางดิจิตัล
ท่านทูตได้รับทราบถึงสถานการณ์อันน่าเศร้าในฉนวนกาซา และยืนยันถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของอียิปต์ในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติการหยุดยิง ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และผลักดันความยุติธรรมเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค “แม้ในยามที่เกิดความวุ่นวาย อียิปต์ยังคงวางแผนอย่างมั่นคงรอบคอบต่อไป เพื่อการลงทุน และเดินหน้าต่อด้วยความมุ่งมั่น”
ท่านทูตยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของไทยในโอกาสครบรอบ 150 ปี โดยยกย่องสุนทรพจน์ล่าสุดของ ฯพณฯ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าท่านได้สะท้อนถึงนโยบายต่างประเทศที่มีพลวัตและทรงพลังของไทยอย่างแท้จริง
ในช่วงท้ายคำปราศรัย ท่านทูตยังแสดงความขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและอียิปต์ทุกท่านที่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิมหาภาคีให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่กำลังจะมาถึง
“อียิปต์จงเจริญ มิตรภาพอียิปต์-ไทยจงเจริญ” ท่านเอกอัครราชทูตกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมืออันกึกก้อง :Cr:มณสิการ รามจันทร์
https://www.natethip.com/news.php?id=10436
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์// เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ออกแถลงการณ์ในนามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง เรื่อง ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อันส่งผลกระทบต่อ กลุ่มเปราะบาง สวัสดิภาพทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ความสลดหดหู่ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างไม่สั่นคลอน ต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ต่อครอบครัวของพวกเขา และต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกคน จากการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและจงใจ โดยกัมพูชาต่อพื้นที่พลเรือนของไทย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่แค่การละเมิดพรมแดน แต่มันคือการละเมิดความเป็นมนุษย์ เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม 2568 ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลถูกฝังลงบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ได้แค่ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารของเราได้รับบาดเจ็บ แต่พรากขาของชายชาติทหารสองคนไป พร้อมกับชีวิตและอนาคตที่พวกเขาเคยมี
และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ความรุนแรงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่ไม่อาจให้อภัยได้ พลเรือนกลายเป็นเป้าหมาย โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีความปรานี แม้แต่กับเด็กๆ ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล สถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กลับกลายเป็นฉากแห่งความสยดสยอง
ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน รวมถึงเด็กชายอายุ 9 ขวบ 2 คน และเด็กหญิงอายุ 15 ปี 1 คน พวกเขาไม่ได้ตายในสนามรบ แต่ตายขณะมีชีวิตธรรมดาๆ ความฝันของพวกเขา อนาคตของพวกเขา ถูกทำลายภายในเวลาไม่กี่วินาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 30 คน แม่ต้องสูญเสียลูกชาย ปู่ย่าตายายต้องฝังหลาน พ่อยืนอยู่ข้างเตียงโรงพยาบาล มองดูคนที่เขารัก พยายามเอาชีวิตรอด หรือพยายามใช้ชีวิตที่ไม่มีแขนหรือขาอีกต่อไป
สิ่งที่ครอบครัวเหล่านี้ต้องสูญเสียไป ไม่อาจเยียวยาได้ด้วยถ้อยคำหรือด้วยความเงียบ นี่ไม่ใช่ “ความเสียหายข้างเคียง” แต่มันคือ อาชญากรรมต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เหตุโจมตีเหล่านี้ได้ทำลายความรู้สึกปลอดภัยของประชาชนธรรมดาและสร้างความหวาดกลัวในชุมชนที่เคยสงบสุข ความทุกข์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในรายงาน มันไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือเรื่องส่วนตัว เรื่องถาวร และไม่เป็นธรรม
เราขอประณามการกระทำเหล่านี้ ด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นที่สุดและไม่ลดละ นี่คือ การรุกรานอธิปไตยของประเทศไทยโดยตรง และเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง กัมพูชาจะต้องรับผิดตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม , อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิด , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก มาตรา 38 , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ มาตรา 10 และ 11 และปฏิญญาทางการเมืองของการประชุม CSW ครั้งที่ 69 ที่เรียกร้องให้คุ้มครองผู้หญิงและเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง
เราขอเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ อย่าเพิกเฉย อย่านิ่งเฉย เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณเช่นนี้ ความเงียบ คือการสมรู้ร่วมคิด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียกร้องให้กัมพูชา ยุติการรุกรานในทันที เคารพอธิปไตยของไทย และแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืน ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ เพื่อสันติภาพ เพื่อความยุติธรรม เพื่อเด็กเหล่านั้น ที่จะไม่มีวันได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ :Cr;มณสิการ รามจันทร์
https://www.facebook.com/msdhs.go.th/videos/1852818411945956
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1175349315498369183?
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์// เมื่อบ่ายวันที่ 25 ก.ค. 68 ณ อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริษัท โคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โดย พรพิมล มั่นฤทัย ได้มีการเซ็นสัญญารับมอบลิขสิทธิ์เพลงของ พ.อ.อ.มนัส ปิติสานต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พ.ศ. 2555 หรือที่รู้จักกันดีในนาม ครูนักแต่งเพลงดังหนัง-ละคร และเพลงไทยสากล ที่โด่งดังอีกหลายร้อยเพลง
โดยครูมนัสนักแต่งเพลงฝีมือดี ได้เปิดใจถึงการมอบลิขสิทธิ์เพลงให้กับ บริษัทโคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพรส์ เป็นผู้ดูแลว่า “ผมได้มอบลิขสิทธิ์ผลงานเพลงของผมทั้งหมดให้คุณพรพิมล มั่นฤทัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะเป็นผู้ที่ดูแลรักษาและต่อยอดผลงานของผม ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่สืบต่อไป เพื่อให้ผลงานที่มีคุณค่าของผมได้อยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไปครับ“ ศิลปินแห่งชาติสี่แผ่นดินพูดอย่างมีความสุข
ทางด้าน พรพิมล แห่งค่ายโคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้รับมอบลิขสิทธิ์ ได้เปิดใจว่า “รู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ครูมนัสท่านได้ให้ความไว้วางใจ มอบลิขสิทธิ์เพลงของท่านทั้งหมดซึ่งมีหลายร้อยเพลง ให้พรพิมลเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว จากนี้ไปพรพิมลขอสัญญาว่าจะดูแลสร้างสรรค์ พร้อมเผยแพร่งานทั้งหมดนี้อย่างดีที่สุด เพื่อให้บทเพลงที่ทรงคุณค่านับร้อยเพลงของครูมนัส ยังคงอยู่คู่แผ่นดินไทยจากรุ่นสู่รุ่นต่อไปสำหรับท่านใดที่สนใจใช้ลิขสิทธิ์เพลงของครูมนัส และครูชาลี อินทรวิจิตร
สามารถติดต่อทางบริษัทของเราได้ที่โทรศัพท์ 081-8360352 โดยมี ดร.ขนิษฐา จิตต์ประกอบ เป็นผู้ช่วยดูแลและประสานงานเพลงให้ค่ะ และเนื่องในโอกาสที่ครบรอบวันเกิดสู่อายุ 98 ปีของครูมนัส พรพิมลขอเป็นตัวแทนของลูกศิษย์ครูทุกคน และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขออวยพรให้ครูมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากๆ และขออาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยคุ้มครองให้ครูปลอดภัยจากภยันตราย และมีอายุยืนยาวเกิน 100 ปี เพื่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พวกเราที่เป็นลูกศิษย์ทุกคนด้วยนะคะ” พรพิมลพูดด้วยน้ำเสียงที่ปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก
ภายในงานนอกจากเป็นการเซ็นสัญญามอบลิขสิทธิ์เพลงแล้ว ยังมีงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดให้กับครูมนัสด้วย โดยมีลูกศิษย์มาร่วมกันร้องเพลงของครูให้แขกที่มาในงานได้ฟังด้วย ซึ่งแต่ละเพลงเป็นที่รู้จักและคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เริ่มต้นด้วยเสียงร้องของ ไอติม-กัลยรัตน์ กรสุทธินันท์ ด้วยเพลง “ฝนรักฝนเศร้า” ตามมาด้วย อุมาพร บัวพึ่ง กับบทเพลง “เพื่อเธอที่รัก”, โฉมฉาย อรุณฉาน ร้องเพลง “เธอ”, สปาย-ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ ร้องเพลง “ปรารถนา“, เท่ห์-อุเทน พรหมมินทร์ ร้องเพลง “สามปอยหลวง”, ภูริวัจน์ บุญสุยา ร้องเพลง “ละอองดาว”, อลิศ-ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน ร้องเพลง “ดาวพระศุกร์”, ดาวใจ ไพจิตร ร้องเพลง “ฝันกลางฤดูฝน”, สุดา ชื่นบาน (ศิลปินแห่งชาติ) ร้องเพลง ”หุ่นไล่กา“ (เจ้าของเสียงเพลงต้นฉบับ), อรวี สัจจานนท์ ร้องเพลง ”คืนคำรัก“, แอ๊ค-โชคชัย หมู่มาก ร้องเพลง ”ไม่มีเสียงเรียกจากใจ“, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ร้องเพลง ”เปลวไฟรัก“, จิตติมา เจือใจ ร้องเพลง ”ระฆังใจ“, นัดดา วิยกาญจน์ ร้องเพลง “เสน่หา” (เจ้าของเสียงเพลงต้นฉบับฝ่ายหญิง) และ ธานินทร์ อินทรเทพ ร้องเพลง “เหมือนคนละฟากฟ้า” (เจ้าของเสียงเพลงต้นฉบับ) จากนั้นนักร้องทุกคนมาร่วมร้องเพลงวันเกิดให้กับครูมนัส ปิติสาสน์ และถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกื:Cr;มณสิการ รามจันทร์
https://www.natethip.com/news.php?id=10434
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=10433
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)