พิมพ์ไทยออนไลน์ // แม้กีฬาฟุตบอลในประเทศไทยจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่บุคลากรที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลจริงๆ มีจำนวนน้อย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พยายามเปิดอบรมผู้ฝึกสอนฟุตบอลให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ
ไล่ตั้งแต่ระดับเบื้องต้น FA Thailand Introductory Course จนถึงระดับสูงสุด AFC ‘Pro’ Diploma Coaching Course โดยการอบรมทุกระดับได้รับการยอมรับจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ซึ่งการอบรมทุกครั้งจะมีบุคลากรจากทั่วประเทศ สนใจเข้าอบรมจำนวนมาก เพื่อนำความรู้ไปฝึกสอนนักฟุตบอลในหน่วยงาน หรือต้นสังกัดได้อย่างถูกวิธี
โดยกระบวนการดังกล่าวเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่ง และยั่งยืน เหมือนกับคำที่ว่า “พีระมิดอันยิ่งใหญ่ ต้องมีรากฐานที่มั่นคง”
อย่างไรก็ตามทางสมาคมฯไม่ละเลย ที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในหน่วยงานของตัวเอง และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สมาคมฯ เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะหลักสูตรพื้นฐาน FA Thailand Introductory Course เพื่อยกระดับบุคลากรให้มีความเป็นมืออาชีพ เพิ่มพูนความรู้ด้านฟุตบอลเบื้องต้น จากนั้นค่อยต่อยอดความรู้ให้เทียบเท่าระดับสากล
“การอบรมในครั้งนี้รู้สึกดีใจครับ ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมการอบรมผู้ฝึกสอนเบื้องต้น ส่วนตัวอยากเรียนมานานแล้ว แต่เวลาไม่ลงตัวทำให้ยังไม่มีโอกาส” นายภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ ที่เข้าอบรม หลักสูตร FA Thailand Introductory Course กล่าว

“แม้ผมจะเคยมีประสบการณ์ฟุตบอลระดับอาชีพกับสโมสร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมดังศึกโตโยต้าไทยลีก มาแล้ว แต่การทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เชื่อว่าการได้องค์ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมคือสิ่งสำคัญที่จะได้พัฒนาตัวเองและนำไปปรับใช้ในการทำงานได้”
“การเริ่มต้นครั้งนี้จะเป็นการเปิดทาง สำหรับการอบรมในระดับต่อๆไป สิ่งที่ได้รับเลยคือเรื่องของความเข้าใจ การจัดการ วิธีการ ทักษะต่างๆ เกี่ยวกับการฝึกสอนฟุตบอลที่ถูกต้อง พร้อมทั้งหลักการต่างๆ แม้เราจะอยู่กับวงการฟุตบอลมาตลอด แต่นี่คือการได้รับความรู้ที่กว้างและลึกขึ้น ถูกต้องตามหลักสากล”
“ถือว่าเป็นการพัฒนาความคิด รับรู้ทักษะการสอนฟุตบอลสำหรับอคาเดมี การดูแลเยาวชน การจัดรูปแบบการฝึกสอนสำหรับเยาวชน การเขียนแผนการซ้อมที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ ทำให้ตัวเราเองมีการพัฒนาและเสริมศักยภาพที่ถูกต้องมากขึ้น”
“ต้องขอบคุณท่านนายกสมาคมฯ รวมถึงคณะผู้บริหารที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ การพัฒนาบุคลากร และเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ทุกคน สำหรับผมกับโอกาสครั้งนี้คือ ก้าวแรกที่จะต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ที่สูงขึ้น และการทำงานด้านฟุตบอลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป” ภัทราวุธ กล่าวปิดท้าย
สำหรับหลักสูตร FA Thailand Introductory Course ถือเป็นหลักสูตรเบื้องต้นสำหรับทุกคน ที่ต้องการเป็นผู้ฝึกสอน ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 วัน ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายการอบรมแต่อย่างใด ซึ่งหัวข้อหลักของการฝึกอบรม ประกอบด้วย 1. การพัฒนาเยาวชน 2. เทคนิคการเล่นฟุตบอลในแต่ละส่วน 3. การจัดการแข่งขัน 4. ฟุตบอลรากหญ้า 5. การสื่อสารระหว่างผู้ฝึกสอนกับนักกีฬา 6. เทคนิคและทักษะ 7. ไทยแลนด์ เวย์ ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตร FA Thailand Introductory Course จะสามารถสมัครเข้าร่วมอบรมหลักสูตร AFC ‘C’ Coaching Certificate Course ได้ต่อไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สโมสร ชลบุรี เอฟซี เปิดตัว จูเนียร์ เอลด์สตอล ปราการหลังลูกครึ่ง มาเลเซีย-สวีเดน จากสโมสร ยะโฮร์ ดารุล ตะซิม ยักษ์ใหญ่ในลีกสูงสุด ประเทศ มาเลเซีย เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
“บิ๊กบอล” ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม สโมสร ชลบุรี เอฟซี เป็นตัวแทนสโมสร การชูเสื้อ และ เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ที่ สำนักงาน สโมสร ชลบุรี เอฟซี ภายในสนาม ชลบุรีสเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านา หลังจากที่นักเตะ ได้เดินทางมาถึงไทย และเ ข้ารับการกักตัวตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นระยะเวลา 14 วัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จูเนียร์ เอลด์สตอล กล่าวถึงการย้ายมาร่วมทัพ “ฉลามชล” ว่า “ รู้สึกตื่นเต้น กับ การย้ายทีมในครั้ง สโมสร ชลบุรี เอฟซี คือ สโมสร ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็น สโมสรใหญ่ อีกสโมสรหนึ่ง ใน ไทยลีก และ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับขอขอบคุณทุกๆฝ่ายที่มีส่วนสำคัญทำให้การย้ายทีมในครั้งนี้เกิดขึ้น”

“จะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด 100 เปอร์เซ็นต์ ในทุกเกมที่ได้่รับโอกาสลงสนาม ผมมีประสบการณ์ ในลีกมาเลเซีย รวมถึงฟุตบอลถ้วยระดับเอเชียมาหลายปี แน่นอนหวังที่จะนำเอาประสบการณ์ที่มี มาช่วยเหลือทีมให้ได้มากที่สุด ชลบุรี เอฟซี มีนักเตะที่เป็นผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ รวมถึงผู้เล่นดาวรุ่งเยอะ ผมตื่นเต้นที่จะได้แชร์ประสบการณ์ของผมให้กับพวกเขา
“ผมตื่นเต้นมาก ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง ของ ฟุตบอลไทย และ เป็นส่วนหนึ่ง ไทยลีก หวังว่าจะได้เจอทุกคน ในสนามเร็วๆนี้”
สำหรับ จูเนียร์ เอลด์สตอล เป็นนักเตะลูกครึ่ง มาเลเซีย – สวีเดน เล่นได้ทั้งตำแหน่ง กองหลัง และ มิดฟิลด์ตัวรับ โดยเติบโตมาจากทีมเยาวชน ของ อัลเดอร์ชอต ในอังกฤษ ก่อนที่เมื่อปี 2013 จะย้ายมาค้าแข้ง ใน ลีก มาเลเซีย กับ ซาราวัค และ ยะโฮร์ ดารุล ตะซิม คว้าแชมป์ เอเอฟซี คัพ, แชมป์ลีก 3 สมัย และ แชมป์ฟุตบอลถ้วย นอกจากนี้ ยังเคยผ่านการติด ทีมชาติ มาเลเซีย ทั้งชุด U23 และ ชุดใหญ่ มาแล้วอีกด้วย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า เคนโตะ โมโมตะ นักแบดมินตันชายเดี่ยวอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีผลตรวจโควิด -19 เป็นบวก หลังจากการทดสอบ PCR ที่สนามบินนาริตะ โตเกียว ก่อนเดินทางมาไทยเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านา
เคนโตะ โมโมตะ นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น โชคร้ายมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ก่อนออกเดินทางมาไทย โมโมตะได้พบปะกับเพื่อนร่วมทีม ที่สนามฝึกซ้อม เมืองคิตาคุ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจถอนทีมออกจากการแข่งขันทั้ง 3 รายการในไทย ที่จะเปิดฉากการแข่งขันในอีกกี่วันข้างหน้า
จากการถอนตัวของผู้เล่นทีมญี่ปุ่นดังกล่าว ส่งผลให้สหพันธ์แบดมินตันโลกและสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย จะเชิญผู้เล่นสำรองแต่ละประเภทตามลำดับ ทุกคนจะต้องมีใบรับรองจากแพทย์ว่าปลอดโควิด เพื่อออกเดินทางมา และเข้าสู่กระบวนการกักตัวใน Bubble วันจันทร์ที่ 4 มกราคมนี้ เพื่อแข่งขัน และมียอดฝีมือระดับโลกพร้อมชิงชัยอีกจำนวนมากจาก 23 ประเทศ ซึ่งนักกีฬาทุกคน ได้รับการคัดเลือกจาก สหพันธ์แบดมินโลก BWF ที่มีคะแนนสูงสุดในแรคกิ้ง ระดับโลก ประเภทหญิงเดี่ยวมี ไถ้ ซื่อหยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน, คาโลริน่า มาริน มือ 6 ของโลกจากสเปน, พี.วี.สินธุ มือ 7 ของโลกจากอินเดีย และ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก เป็นต้น ส่วนประเภทชายเดี่ยวมี โจว เทียนเฉิน มือ 2 ของโลกจากไทเป, อันเดรส แอนทอนเซ่น มือ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก รวมถึงนักตบลูกขนไก่มือดีจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า “ในนามของคณะผู้จัดการแข่งขัน ขอชื่นชมการตัดสินใจครั้งนี้ของทีมญี่ปุ่น ซึ่งมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างมากที่จะเดินทางมาแข่งขัน จากการได้สนทนากับสมาคมกีฬาแบดมินตันญี่ปุ่น ได้เห็นความตระหนักถึงความปลอดภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในไทย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ญี่ปุ่นจำเป็น จำใจ และเสียใจอย่างมาก ที่ต้องถอนทีมจากการแข่งขันในนาทีสุดท้าย ก่อนขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ และขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านในทีมญี่ปุ่นปลอดภัย แข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี พร้อมกลับมาลงสนามแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว”
สำหรับการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เปิดฉากด้วย รายการ “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 วันที่ 12 – 17 มกราคมนี้ ต่อด้วยรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล วันที่ 19 – 24 มกราคม 2564 และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020 จะมีการถ่ายทอดสดไปยัง 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมแบบจุใจ

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160972219210058502
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สองล้อ” ปรับแผนการฝึกซ้อมของนักปั่นทุกชุด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ขณะที่การแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 1 วันที่ 30-31 ม.ค.64 ที่สุพรรณบุรี ต้องเลื่อนออกไปก่อน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ “ศบค.” ด้าน “เสธ.หมึก” เผยเตรียมจัดกิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” อีกครั้ง เพื่อให้นักกีฬารักษาความฟิตของร่างกาย พร้อมยืนยันการพัฒนายกระดับของกีฬาจักรยานไม่เคยหยุดชะงัก

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า จากมติด้านสาธารณสุขของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ล่าสุดเรื่องยกระดับมาตรการควบคุมโรคและมาตรการทางสังคมที่เข้มข้นมากขึ้น โดยจะมีผลหลังจากที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งมาตรการดังกล่าวระหว่างวันที่ 4 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2564 ส่งผลกระทบทันทีกับ การจัดกิจกรรมการแข่งขันของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เดือนมกราคม 2564
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากเดิมที่การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และจักรยานเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2564 สนามที่ 1 วันที่ 15-17 มกราคม 2564 ที่สงขลา ประกาศเลื่อนการแข่งขันไปก่อนหน้านี้ จากมาตรการล่าสุดสมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงต้องประกาศเลื่อนการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 สนามที่ 1 วันที่ 30-31 มกราคม 2564 ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต สุพรรณบุรี ออกไปก่อนเช่นเดียวกัน

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น บวกกับมาตรการทางสังคมและมาตรการสาธารณสุข ส่งผลต่อการเดินทางของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่มีทั่วประเทศการเข้าแข่งขัน สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะองค์กรด้านกีฬาที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยยึดเอาความปลอดภัยของทุกคน ทุกฝ่ายเป็นหลัก ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจำเป็นต้องเลื่อนกิจกรรมการแข่งขันในเดือนมกราคมออกไปก่อน ตามคำสั่งของ ศบค.”
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติกีฬาจักรยานคือ การฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายเทคนิคของสมาคมกีฬาจักรยานฯ วางแนวทางแก้ปัญหาเรื่องการฝึกซ้อมของนักกีฬา ทั้งระดับทีมชาติไทย ทีมอาชีพชาย “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” และทีมอาชีพหญิง “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม”, เยาวชนทีมชาติไทย จนถึงในระดับสโมสรและระดับภูมิภาค เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทยที่เก็บตัวฝึกซ้อมไปแล้ว ประเภทถนน ที่เชียงใหม่ และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ที่สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้สตาฟฟ์โค้ชวางแผนการซ้อมในพื้นที่ปิดโดยใช้สมาร์ทเทรนเนอร์ ใช้มาตรการระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนจำกัดการเดินทางออกนอกที่พัก ขณะที่นักปั่นชุดเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ เวียดนาม ปลายปี 2564 งสมาคมฯ เพิ่งอนุมัติรายชื่อตามที่สตาฟฟ์โค้ชเสนอมา ทั้งประเภทถนนและเสือภูเขาจะต้องกลับมาพิจารณา เรื่องการฝึกซ้อมเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันต่อไป

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแข่งขันสองรายการประเดิมศักราชของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ระหว่างวันที่ 4 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ประกาศเลื่อนการแข่งขันออกไป สมาคมฯอยู่ระหว่างพิจารณาปัดฝุ่นกิจกรรม การขี่จักรยานออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เพื่อช่วยให้นักกีฬาในทุกระดับ ตลอดจนประชาชนที่สนใจได้รักษาสุขภาพและสภาพความฟิตของร่างกายในช่วงเวลาที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะประกาศอย่างเป็นทางการประเดิม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 2 รวมถึงมาตรการการฝึกซ้อมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดกลุ่มนักปั่นทีมชาติไทย หลังจากที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ หารือร่วมกัน ในการประชุมประจำสัปดาห์ในวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ผ่านแอพพลิเคชั่นซูมประชุมทางไกลกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพิ่มขึ้นหนึ่งชุด ประกอบด้วยผู้แทนฝ่ายบริหาร และฝ่ายเทคนิค เพื่อร่วมกันติดตามสถานการณ์ ประกาศ ตลอดจนมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล ทั้งส่วนกลางและในระดับท้องถิ่นทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อนำเอาข้อมูลล่าสุดมาพิจารณากำหนด หรือปรับแผนปฏิบัติของสมาคมฯ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล แต่ก็ไม่ให้การพัฒนายกระดับกีฬาจักรยานต้องหยุดชะงักลงแต่อย่างใด

พลเอกเดชาเผยอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับการติดต่อจากชมรมและสโมสรสมาชิก ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่สอบถามถึงโปรแกรมการแข่งขันจักรยานรายการต่าง ๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากแต่ละทีมมีนักกีฬาในสังกัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องจัดเตรียมรถยนต์เดินทาง และต้องจองที่พักในจังหวัดนั้น ๆ ล่วงหน้า หากจองโรงแรมเอาไว้เรียบร้อยแล้วแต่มีการเลื่อนโปรแกรมแข่งขัน ก็อาจจะสร้างความเสียหาย เพราะขอคืนค่ามัดจำไม่ได้ ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ยึดถือนโยบายมาโดยตลอดว่า การแข่งขันทุกรายการจะต้องช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดเจ้าภาพ และช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว รวมไปถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในระดับรากหญ้าก็มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
“ดังนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ ขอให้ชมรมและสโมสรสมาชิก ที่จะส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการต่าง ๆ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และโปรแกรมการแข่งขันที่สมาคมฯ ได้ทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ รวมทั้งติดตามจากหนังสือพิมพ์, วิทยุ, โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่ได้นำเสนอข่าวสารของสมาคมฯ อย่างต่อเนื่อง”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160963602010057430
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 โซนตะวันตก นัดที่ 17 ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 2ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าถิ่นทัพ “ตราชฎา” ราชประชา เอฟซี ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ กาญจนพัฒน์ เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของโซน โดยผลงานเจอกันเลกแรกที่บ้านของ กาญจนพัฒน์ เอฟซี ทัพ “ตราชฎา” บุกเอาชนะมาได้ 6-0

เริ่มเกมครึ่งแรกแค่นาทีที่ 4 ราชประชา ได้ลุ้นก่อนจากลูกยิงของ ออสการ์ ปลาเป้ แต่บอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป นาทีที่ 20 รณยศ มิ่งมิตรวัน ลองส่องไกลจากนอกเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 21 ราชประชา ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง รณชัย รังสิโย ทำชิ่งกับ ออสการ์ ปลาเป้ ก่อนที่บอลจะมาถึง รณชัย ยิงไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือน หมดครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้ ทั้งสองเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 46 ราชประชา เปลี่ยนผู้เล่นคนแรกส่ง ศุภเสกข์ ไก่แก้ว เล่นแทน ธนินท์ เกียรติเลิศธรรม และเพียง “ตราชฎา” ได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ออสการ์ ปลาเป้ พาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดมาหน้าประตู รณชัย รังสิโย แตะบอลต่อให้ แองเจลโล่ มาชูก้า แตะหลบแนวรับทีมเยือน ก่อนจะยิงเข้าไปให้ ราชประชา ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 62 ราชประชา ออสการ์ ปลาเป้ แตะให้ ธรรมยุทธ ต้นคำ พาบอลแตะหลบแนวรับทีมเยือน ก่อนจะยิงเข้าไป หนีห่าง 2-0 นาทีที่ 63 ราชประชา ได้ประตูจากจังหวะที่ รณชัย รังสิโย งัดบอลให้ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว หลุดขึ้นไปทางขวากระดกข้ามหัวผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าไป “ตราชฎา” หนีเป็น 3-0
นาทีที่ 65 ราชประชา มาได้ประตู ออสการ์ ปลาเป้ หลุดเข้าไปยิงติดบล็อกผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่บอลยังมาเข้าทาง รณชัย รังสิโย แตะยิงเข้าไป นำห่าง 4-0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 89 ราชประชา เอฟซี ไได้ประตูจากจังหวะ ธรรมยุทธ ต้นคำ ฉกบอลจากแนวรับทีมเยือนก่อนเปิดกลับมาให้ ธนดล ศุภผล ยิงเข้าไปโล่งๆให้ทัพ “ตราชฎา” นำห่าง 5-0 จบเกมการแข่งขันทีมราชประชาชนะไปแบบขาดลอย 5-0 เก็บสามคะแนนได้สำเร็จ พร้อมขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงของโซน โดยทัพ “ตราชฎา” นัดต่อไปศึกไทยลีก 3 โซนตะวันตก นัดที่ 18 บุกเยือน สมุทรสงคราม เอฟซี วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 เวลา 15.30 ที่สนามกีฬา อบจ.สมุทรสงคราม

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ความเคลื่อนไหวการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เดือนมกราคมปีหน้า รายการ “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 12 – 17 มกราคม 2564 รายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 19 – 24 มกราคม 2564 และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วน ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมแบบจุใจ
ล่าสุด “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 3 ของโลก เผยว่า “สภาพร่างกายฟิตเต็มที่ เรามีเวลาเตรียมตัวมาเกือบปี ทั้ง 3 รายการในบ้านเราเป็นศึกหนักมากๆ แล้วยิ่งในระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด ส่วนมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นเรื่องที่ดี ไทยมีระบบป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ดีอยู่แล้ว เพื่อนักกีฬาทุกคนที่เดินทางเข้ามาแข่งขัน เพราะว่าจะต้องเข้ากักตัวหรือบับเบิ้ลควอรันทีนเป็นเวลา 14 วัน สร้างความมั่นใจทั้งเราและนักแบดมินตันต่างชาติด้วย”

ปอป้อ ทรัพย์สิรี กล่าวว่า “ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะแข่งขันระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ในบ้านตัวเอง และเป็นรายการสูงสุดของเวิลด์ทัวร์ด้วย กองเชียร์พวกเราก็คอยสนับสนุนมาตลอด ทั้งบาสกับปอป้อก็เต็มที่ทุกแมตช์ที่แข่งขันตลอดเวลา เราก็ยังฝึกซ้อมตามโปรแกรมในช่วงที่ห่างสนามไปนานเกือบปี”
“ในเรื่องของเสียงเชียร์ในสนามไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร การแข่งขันต้องทำให้เต็มที่ รายการระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ในไทยเป็นเรื่องที่ดีมากที่จะได้มีเวลาพักผ่อน ไม่ต้องเดินทางไกล ช่วงที่เราได้รองแชมป์ออลอิงแลนด์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไม่ได้สูญเสียความมั่นใจมากนัก เราได้มีเวลาในการปรับส่วนที่ผิดพลาดของตนเองไปด้วย” บาส เดชาพล กล่าวเสริม
เป้าหมายศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ทั้งคู่ยอมรับว่าจะต้องเก็บคะแนนจาก 2 รายการแรกให้ได้มากที่สุด ขณะนี้อันดับคะแนน Race to Bangkok เรายังห่างจากท็อป 8 พอสมควร การแข่งขัน 2 รายการแรกจะต้องเข้ารอบรองชนะเลิศให้ได้ทั้งคู่ เพื่อลุ้นติด 1 ใน 8 ไปเล่นในรายการสุดท้าย และจะทำให้เต็มที่ที่สุด
“เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล หญิงคู่ทีมชาติไทย กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ดีที่ได้มีเวลาเตรียมตัวนานพอสมควร สภาพร่างกายตอนนี้ฟิตมาก พร้อมทุกๆด้านทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับการแข่งขันทั้ง 3 รายการ ต้นปีหน้า เป้าหมายจะโฟกัสไปทีละรอบ เพราะว่าทุกชาติไม่ง่าย ช่วงนี้มั่นใจเหมือนกัน จะพยายามทำผลงานเข้ารอบให้ลึกที่สุด ส่วนตัวมองว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบนัก เพราะว่ามีเวลาเตรียมตัวฝึกซ้อมเท่ากันๆ อยู่ที่ผลงานในสนามแล้วว่าใครจะทำผลงานได้ดีกว่ากัน”

ทั้งนี้แฟนแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลกได้ทางหลากหลายช่องทาง ทรูวิชั่นส์ ,ทรูโฟร์ยู, ทีเอ็นเอ็น และทรูไอดี ทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดทุกวันๆละ 2 สนามๆ ละ 10 คู่ รวมถ่ายทอดสดวันละ 20 คู่ โดยถ่ายทอดผ่านทาง truesports HD3 ช่อง 668, truesports 7 ช่อง 686 และ truesports HD2 ช่อง 667 รวมเป็นการถ่ายทอดรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่ และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 75 คู่
และรับชมผ่านทาง True4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน รายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและวันพุธ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น. วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. และวันเสาร์ระหว่างเวลา 16.30– 18.30 น. วันอาทิตย์ระหว่างเวลา 14.30 – 17.00 น., โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและพุธ ระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น. วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น., วันเสาร์ เวลา 16.30 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น., เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ จะถ่ายทอดสดวันพุธระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น., วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 17.00 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. และสามารถอัพเดททุกแมตช์ เกาะติดทุกการแข่งขันได้ทาง TNN 16

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ วางแผนลุยงานต่อเนื่อง ตลอดปี 2564 ปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมฯ เตรียมคัมแบ็คแข่งขันรายการระดับนานาชาติ พร้อมส่งจอมพลังทำศึกซีเกมส์ ปลายปี ที่ เวียดนาม รวมทั้งจัดชิงชัย ในประเทศ รายการ EGAT(อีแกท) ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่นประชาชน เยาวชน และยุวชน เช่นเดิม รวมทั้งจัดการพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน และการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars ควบคู่กันไปด้วย
นายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เผยถึงแผนงานของสมาคมฯ ปี 2564 ว่า สมาคมมีแผนดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563 เรื่องการพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ในเดือนมกราคม 2564 จะมีการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars วันที่ 25 มกราคม และการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2564 (Level 3) วันที่ 26-30 มกราคม โดยทั้ง 2 งานจัดที่ กาญจนบุรี
จากนั้น เดือน เมษายน จะมีการสัมมนาผู้ตัดสินกีฬายกน้ำหนักระดับชาติ ประจำปี 2564 วันที่ 28-30 เมษายน และการสัมมนาป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา Anti-Doping Seminars วันที่ 30 เมษายน ที่ อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช ต่อด้วย การอบรมผู้ตัดสินกีฬายกน้ำหนักระดับนานาชาติ ประจำปี 2564 วันที่ 1-5 พฤษภาคม ที่ นครศรีธรรมราช
ในส่วนนักกีฬามีการแข่งขัน จัดโดยสมาคมฯ 2 รายการ ได้แก่ การแข่งขัน EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ระดับประชาชน ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และระดับยุวชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 1-11 พฤษภาคม ที่อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช และการแข่งขันขัน EGAT(อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ระดับเยาวชนชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 10-15 ตุลาคม ที่ อุบลราชธานี
ทางสมาคมฯเรียกตัวนักกีฬาดาวรุ่งที่มีผลงานเป็นที่น่าพอใจ จากการแข่งขัน EGAT(อีแกท) ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา เข้าร่วมเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติอย่างต่อเนื่อง เตรียมแข่งขันเวทีระดับนานาชาติในอนาคต เนื่องจากกว่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลาร่วม 10 ปี ซึ่งถือเป็นการวางแผนระยะยาวของสมาคมฯ
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวดีสำหรับแฟนกีฬาชาวไทย สมาคมฯ เตรียมส่งจอมพลังชายและหญิงเข้าชิงชัยมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย เวียดนาม วันที่ 21 พฤศจิกายน- 2 ธันวาคม 2564 แบ่งเป็น หญิง 7 รุ่น ได้แก่ 45 กก., 49 กก., 55 กก., 59 กก., 64 กก., 71 กก. และมากกว่า 71 กก. รวมถึง ชายอีก 7 รุ่น ประกอบด้วย 55 กก., 61 กก., 67 กก., 73 กก., 81 กก., 89 กก. และมากกว่า 89 กก.
“สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนทุกราย ที่เป็นพันธมิตรที่ดีของสมาคมฯ รวมถึงแฟนกีฬาชาวไทย ที่ให้กำลังใจสมาคมฯ และนักกีฬายกน้ำหนักมาโดยตลอด ทางสมาคมฯพยายามอย่างหนักที่จะกลับมาสร้างผลงานในระดับโลกให้ได้ในเร็ววัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากทุกท่านเพื่อเป็นกำลังใจในการดำเนินงานต่อไป”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์