วันอาทิตย์, มีนาคม 16, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1788

ซัสโก้สนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล เปิดให้ลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันผ่าน “ทรูมันนี่ วอลเล็ท”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซัสโก้ จับมือ ทรูมันนี่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล เปิดให้ลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันผ่าน “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” ได้แล้วกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ จัดโปรรับเงินคืนทันที เมื่อเติมน้ำมันตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไปซัสโก้ จับมือ ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดบริการชำระเงินค่าน้ำมันผ่าน “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” ได้เป็นครั้งแรก ครอบคลุมสถานีบริการซัสโก้ กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

โดยมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์และเติมเต็มประสบการณ์ Cashless Payment ให้กับลูกค้าและผู้ใช้ “ทรูมันนี่” จำนวนกว่า 17 ล้านราย เพื่อตอกย้ำแนวคิด SUSCO Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณนายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ซัสโก้ จับมือกับ ทรูมันนี่ เพิ่มช่องทาง E-Payment ใหม่ ในการชำระค่าน้ำมัน เพื่อลดการสัมผัส และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยสามารถจ่ายค่าน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการสแกน QR Code ของ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ผ่านมือถือลูกค้า ซึ่งปัจจุบันการชำระด้วย E-Payment กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของยุคดิจิตอล ที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ ซัสโก้ ขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น เชื่อว่าการใช้จ่ายผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท จะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมแบบ Cashless ขยายวงกว้างออกไปสู่สังคมอีกด้วย

สำหรับ ความพร้อมในการเปิดให้ลูกค้าชำระค่าน้ำมันผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท นั้น สถานีบริการน้ำมัน ซัสโก้ สามารถรองรับได้ถึงกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้ง จัดแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าที่ชำระค่าน้ำมันผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ณ สาขาที่ร่วมรายการ จะได้รับเงินคืนทันที 10 บาท

ทั้งนี้ตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 2564 นี้ สามารถคลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/a/susco-retail/

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เรามุ่งขยายพันธมิตรตามกลยุทธ์ Partner of Choice เพื่อเติมเต็มไลฟสไตล์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทรูมันนี่กว่า 17 ล้านรายให้มากยิ่งขึ้น นอกจากจุดรับชำระทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ ที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ล่าสุดเราได้ขยายความร่วมมือไปสู่ด้านการเดินทาง โดยเชื่อมแอปฯ TrueMoney Wallet เข้ากับระบบเพย์เมนต์ของปั๊ม SUSCO ทุกสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกการจ่ายแบบแทนเงินสดลดสัมผัส มอบประสบการณ์เติมน้ำมัน ที่สะดวก รวดเร็ว และลดเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด พร้อมรองรับการเดินทางสัญจรไปมาในแต่ละวันที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นหลังมาตรการต่าง ๆ คลายล็อก:Cr;มณสิการ รามจันทร์

คปภ. บูรณาการร่วมกับภาคธุรกิจ มอบของขวัญปีใหม่ไทย “ประกันภัย 10 บาท” คุ้มครองครบวงจรในกรมธรรม์เดียว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คปภ. บูรณาการร่วมกับภาคธุรกิจ มอบของขวัญปีใหม่ไทย “ประกันภัย 10 บาท” คุ้มครองครบวงจรในกรมธรรม์เดียว “อุบัติเหตุ – โควิด19 – แพ้วัคซีนโควิด 19”
• เปิดโครงการ “รณรงค์ความปลอดภัย ทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564”
พร้อมเปิดบริการสายด่วน คปภ. 1186 ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วง 7 วันอันตรายเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานพิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “รณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564” ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”
โดยมีผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย นายกสมาคมการค้าผู้สำรวจภัยไทย บริษัทประกันชีวิต เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ และบริษัทประกันวินาศภัย เข้าร่วมการจัดกิจกรรมดังกล่าว ณ สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ทั้งนี้เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้กระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัย และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหาร ความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า แม้ว่าตัวเลขอุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2563 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาครัฐมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนเดินทางน้อยและเกิดอุบัติเหตุทางถนนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2564 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ยังเป็นสถิติที่สูงอยู่โดยพบว่าในช่วง 7 วันของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรวม 3,333 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 392 ราย และผู้บาดเจ็บ 3,326 ราย โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ รถตัดหน้ากระชั้นชิด และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ สูงถึงร้อยละ 82.55 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องถนนและสภาพแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ถนนที่เป็นทางตรงระยะยาว ถนนที่มีทางร่วมทางแยก และจุดกลับรถที่มีลักษณะที่ไม่ปลอดภัยจากสถิติข้างต้น ทำให้สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจ เห็นความสำคัญของการรณรงค์ สร้างจิตสำนึก ความปลอดภัยทางถนนควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุนั้นไม่มีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือประกันภัย พ.ร.บ. เป็นจำนวนมาก ดังนั้น สำนักงาน คปภ. ในฐานะคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และทำหน้าที่ในการกำกับดูแล และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลอดจนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านประกันภัยให้ได้รับความเป็นธรรม จึงได้บูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัย ให้เข้าไปมีบทบาทในการบริหารความเสี่ยงให้แก่ทุกภาคส่วน โดยดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง และมีกิจกรรมส่งเสริมและรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมมอบหมวกนิรภัย การแสดงนิทรรศการความปลอดภัยทางถนนของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย กิจกรรมประชาสัมพันธ์ประกันภัยกลุ่ม 10 บาท สงกรานต์อุ่นใจ นิวนอร์มอล ซุปเปอร์พลัส และบริเวณหน้าศูนย์บริการด้านการประกันภัย ให้บริการตรวจเช็ค เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและหลอดไฟรถจักรยานยนต์ ฟรี เป็นต้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2564 สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้นำแนวคิดและรูปแบบของประกันภัยกลุ่มปีใหม่ 10 บาท นิวนอร์มอลพลัส มาต่อยอดพัฒนาให้เป็น “ประกันภัยกลุ่ม 10 บาท สงกรานต์อุ่นใจ นิวนอร์มอล ซุปเปอร์พลัส” โดยเพิ่มความคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 และแพ้วัคซีนโควิด-19 และจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 10 บาท โดยให้ความคุ้มครองหลัก ๆ คือ

ความคุ้มครองที่ 1 กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรม ลอบทำร้ายร่างกายและ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาทความคุ้มครองที่ 2 กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรม ลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 50,000 บาท

ความคุ้มครองที่ 3 ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 14 วันแรก นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) รวมถึงกรณีเสียชีวิตจากผลกระทบการฉีดวัคซีน โควิด-19 โดยคุ้มครองตั้งแต่วันแรกที่ทำประกันภัยและมีการฉีดวัคซีนหลังทำประกันภัย จะได้รับความคุ้มครอง 5,000 บาท
ความคุ้มครองที่ 4 ค่าชดเชยรายวันระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน เนื่องจากอุบัติเหตุ รวมถึงได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 วันละ 300 บาท ไม่เกิน 20 วัน จะได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 6,000 บาท

ความคุ้มครองที่ 5 กรณีติดเชื้อโควิด-19 จะได้รับคุ้มครอง 3,000 บาท
โดยมีเงื่อนไขการรับประกันภัยที่สำคัญ คือผู้ทำประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นผู้ถือกรมธรรม์ โดยเริ่มจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 – 31 พฤษภาคม 2564 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้กับคนไทยทั่วประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากประกันภัย 10 บาท ดังกล่าว เป็นกรมธรรม์กลุ่ม

ผู้สนใจสามารถรับสิทธิจากผู้ประกอบการธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 22 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ ดิจิทัล ดิสทริบิวชั่น จำกัด บริษัท เดอะวันเซ็นทรัล จำกัด บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ตู้บุญเติม) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (Cafe Amazon) บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด
บริษัท ฮักส์ อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ฐิติกร สำนักงานใหญ่จักรยานยนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ธนาคารออมสิน บริษัท แรบบิท อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท พีเคอาร์ โบรกเกอร์ จำกัด บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด และ บริษัท 724 จำกัด (มหาชน) หรือถ้าเป็นบุคคลทั่วไปสามารถรวมตัวเป็นกลุ่ม ซื้อได้โดยตรงจากบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 23 แห่ง

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว จะขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท และผู้ที่ใช้รถยนต์อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ เตรียมสภาพร่างกาย และตรวจสภาพรถให้พร้อม ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญควรตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด และควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่น ๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ และกับทุกคน และด้วยความไม่ประมาท อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้าน อย่างไรก็ตามหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 7 วันอันตราย คือระหว่างวันที่ 10-19 เมษายน 2564 ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย :Cr;มณสิการ รามจันทร์

“พัชรินทร์-มนัญชญา-ลัลนา-พิมพ์รดา” คว้าสิทธิ์ติดทีมชาติชุดใหญ่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศึกลูกสักหลาดคัดทีมชาติ ประจำปี 2564 ได้ 4 นักหวดสาว เข้าไปเล่นรอบจัดอันดับ 1-4 ประเภทหญิงเดี่ยวเรียบร้อย พร้อมคว้าสิทธิ์ติดทีมชาติแน่นอนแล้ว ขณะที่ผู้แพ้ยังไม่หมดหวัง เหลือหวดวัดดวงอีกครั้งรอบจัดอันดับ 5-8 ใครได้เป็นแชมป์กลุ่ม รับสิทธิ์ติดทีมชาติอีกคนทันที
การแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทย ประจำปี 2564 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มรอบสาม (8 คน) ซึ่งหลายแมทช์เป็นการชี้ชะตาว่านักเทนนิสรายใดจะเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายคือ รอบจัดอันดับ 1-4 และ 5-8 ต่อไป
ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย คู่แรก “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช นักหวดจอมเก๋า วัย 26 ปี พบ “ไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว ดาวรุ่งวัย 18 ปี ปรากฏว่า พัชรินทร์ ใช้ประสบการณ์ช่วยหวดเอาชนะไป 2-0 เซต 6-2, 6-1 ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน “แอนนา” ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ ชนะ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ 2-0 เซต 6-4, 6-3

หลังจบการแข่งขันของกลุ่ม เอ ปรากฏว่า พัชรินทร์ และ มนัญชญา มีสถิติชนะ 2 แพ้ 1 เท่ากัน ต้องตัดสินหาอันดับ 1 ของกลุ่มด้วยเปอร์เซนต์การชนะในเซต ซึ่ง พัชรินทร์ มี 66.67 เปอร์เซนต์ ดีกว่า มนัญชญา ที่มี 57.14 เปอร์เซนต์ ทำให้ พัชรินทร์ รั้งอันดับ 1 ของกลุ่ม ส่วน มนัญชญา เป็นอันดับ 2 แต่ก็เพียงพอที่ทำให้ทั้งคู่ผ่านเข้าไปเล่นรอบจัดอันดับ 1-4 ต่อไป เนื่องจาก ศุภาพิชญ์ และ อัญชิสา มีสถิติชนะ 1 แพ้ 2 และทั้งคู่ต้องไปเล่นรอบจัดอันดับ 5-8
หญิงเดี่ยว กลุ่ม บี นัดสุดท้าย คู่แรก ระหว่างสองนักหวดดาวรุ่ง “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี วัย 16 ปี พบ “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช วัย 17 ปี ปรากฏว่า ลัลนา สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้ดี ชนะไป 2-0 เซต 6-2, 6-2 อีกคู่กลุ่มเดียวกัน ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต ชนะ ไหม ณภัทร นิรันดร 2-0 เซต 6-3, 6-1

จากผลดังกล่าว ลัลนา กับ พิมพ์รดา มีสถิติเท่ากันคือ ชนะ 2 แพ้ 1 แต่เมื่อดูเปอร์เซนต์การชนะในเซต ปรากฏว่า ลัลนา ดีกว่า ซึ่งมี 66.67 เปอร์เซนต์ รั้งอันดับ 1 ของกลุ่ม ด้าน พิมพ์รดา มี 57.14 เปอร์เซนต์ เป็นอันดับ 2 แต่ทั้งคู่ก็กอดคอกันเข้ารอบจัดอันดับ 1-4 ต่อไป ส่วน ไหม ณภัทร และ ชมภู่ทิพย์ มีสถิติชนะ 1 แพ้ 2 เหมือนกัน หล่นไปเล่นรอบจัดอันดับ 5-8 ทั้งคู่
สำหรับนักเทนนิสหญิงที่ผ่านเข้ารอบจัดอันดับ 1-4 ได้แก่ พัชรินทร์ ชีพชาญเดช, มนัญชญา สว่างแก้ว, ลัลนา ธาราฤดี และ พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช ถือว่าได้สิทธิ์ติดทีมชาติไปเรียบร้อยแล้ว แม้ยังต้องแข่งขันรอบจัดอันดับก็ตาม ส่วนนักเทนนิสหญิงที่เล่นรอบจัดอันดับ 5-8 ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์, อัญชิสา ฉันทะ, ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต และ ไหม ณภัทร นิรันดร ยังไม่หมดลุ้นที่จะติดทีมชาติ เพราะผู้ที่สามารถคว้าอันดับ 5 ไปครอง จะได้รับสิทธิ์ติดทีมชาติเช่นกัน ในอันดับ 6-8 จะเป็นนักกีฬาสำรอง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

“โกเมธ-ชุติกาญจน์” ไม่พลิกโผคว้าแชมป์ ศึก BMX สนาม 2 ตามคาด ยิงสด 2 วัน ยอดวิวครึ่งแสน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 2 ที่สุพรรณบุรี มียอดผู้ชมการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และ ยูทูบ Thaicycling Association พุ่งกระฉูดเกือบครึ่งแสนวิว “โกเมธ-ชุติกาญจน์” คว้าแชมป์ไปครองเป็นสนามที่สองติดต่อกัน
การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 สนามที่ 2 รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 4 เมษายน รอบชิงชนะเลิศทุกรุ่น โดย “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ มีการคัดกรองอย่างเข้มข้นตั้งแต่ทางเข้าสนาม และในสนามแข่งขัน และปฏิบัติตามคู่มือที่ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียบร้อยแล้ว

พลเอกเดชา เปิดเผยว่า ขอขอบคุณ ท่านจองชัย เที่ยงธรรม ที่ให้ความอนุเคราะห์ใช้สนามเสมอกัน เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันด้วยดีตลอดมา รวมทั้งขอบคุณ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ที่สนับสนุนให้การแข่งขันเเป็นที่เรียบร้อยทุกประการ
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันในสนามที่ 2 นี้ มีนักกีฬาร่วมชิงชัยถึง 355 คน และมีเจ้าหน้าที่ซึ่งลงทะเบียนมาล่วงหน้า รวมกันแล้วประมาณ 500 คน และผู้ติดตามอีกเกือบ 2,000 คน สำหรับสนามที่ 3 แข่งขันที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ระหว่างวันที่ 5-6 มิถุนายน คาดว่าจะมีนักกีฬามากกว่า 400 คน และผู้ติดตามนักกีฬาอีกนับพัน ๆ คน จะทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดดีขึ้น โรงแรมที่พักเต็ม ร้านค้าต่าง ๆ มีรายได้จากแขกผู้ไปเยือน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็คึกคัก สิ่งที่น่าชื่นใจอีกประการหนึ่งคือิ นักกีฬามาแข่งขันกันแบบครอบครัว เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มาออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยาน สำหรับนักกีฬาที่ชนะเลิศในรุ่นเยาวชน สมาคมฯ จะพิจารณาให้ก้าวไปสู่ทีมชาติต่อไปในอนาคต
“ในส่วนการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ กับ ยูทูบ Thaicycling Association มีกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมมาก ยอดผู้ชมรวม 2 วันประมาณ 50,000 วิว หรือเกือบครึ่งแสน ในรอบชิงชนะเลิศมีผู้ชมต่อเนื่อง 479 คน และมีการแชร์ออกไปรวมสองวันเกือบ 1,000 ครั้ง ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกสนามให้แฟน ๆ กีฬาได้ชมอย่างเต็มอิ่มและจุใจ”

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า การเตรียมนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย แบ่งออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นนักกีฬาหญิง 2 คน ได้แก่ น.ส.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ น.ส.วรัญญา แซ่แต้ จะไปร่วมแข่งขันรายการ “บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่กรุงโบโกตา โคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม เพื่อเก็บคะแนนสะสมให้ได้โควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ส่วนชุดที่สอง ไปแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย 2021 ที่อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน นักกีฬามี 5 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย 3 คน นำโดย สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ, นายสมคิด ฮาระตะวัน, นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, รุ่นเยาวชนชาย 2 คน ได้แก่ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ และ นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่
พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า รายการ “บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่โคลอมเบีย เป็นรายการที่นักกีฬาไทยจะไปเก็บคะแนนเพิ่มเพื่อให้ได้สิทธิ์ไป “โตเกียวเกมส์ 2020” อย่างไรก็ตาม มร.เดวิด ลาปาร์เตียงท์ ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระบุว่าหากมีเหตุการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นอีก จนเจ้าภาพไม่สามารถจัดการแข่งขัน จะย้อนกลับไปดูคะแนนสะสมเมื่อปี 2020 ซึ่ง ชุติกาญจน์ มีโอกาสสูงจะได้ไปโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น เดือนกรกฎาคม นี้

“โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนต่างตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และได้ถ่ายคลิปวีดีโอส่งไปให้ มร.อดัม แครี่ ผู้ฝึกสอนชาวออสเตรเลีย วิเคราะห์การฝึกซ้อม สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย หวังที่จะคว้าเหรียญรางวัล คู่แข่งสำคัญมีเพียงนักกีฬาจากจีน และญี่ปุ่น ส่วนชาติอาเซียนนักกีฬาไทยสู้ได้หมด ตอนนี้ต้องรอดูท่าทีเจ้าภาพ ประเทศอินโดนีเซีย ว่าจัดการแข่งขันตามกำหนดหรือไม่ ส่วนรายการ “เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” หากนักกีฬาไทยได้มาสัก 2-3 คะแนน โอกาสจะได้ไปโอลิปิกเกมส์ค่อนข้างสูง
ผลรอบชิงชนะเลิศ รุ่นทั่วไปชาย “เอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ นักปั่นทีมชาติไทย 2 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่มีพลิกโผ ปั่นนำม้วนเดียวจบเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์สนามที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 2 “ฮีม” สมคิด ฮาระตะวัน นักปั่นทีมชาติเหรียญทองแดงกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ พระราม 3, ที่ 3 นนทกร อินทร์โคกสูง จากทีม Lake Cross ส่วน เบส” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ จากทีมเทศบาลเมืองหนองปรือ Lomocycle ชลบุรี เข้าเส้นชัยอันดับที่ 4
รุ่นทั่วไปหญิง “ฟ้า” น.ส.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร นักปั่นทีมชาติไทย จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ เทพศิรินทร์พุแค แชมป์ประเทศไทย 10 สมัย คว้าแชมป์ไปครองเป็นสนามที่ 2โดยมี “มิ้ง” น.ส.วรัญญา แซ่แต้ จากทีม Lake Cross เป็นอันดับ 2 และ “พลอย” น.ส.ธนาภรณ์ โตทอง จากทีม IDEMITSU อบจ.สุพรรณบุรี อีซูซุ อึ้งง่วนไต๋ ได้อันดับที่ 3

รุ่นเยาวชนชาย อภิสิทธิ์ ใจอยู่ ทีมธนาคารออมสิน พุ่งนำมาเป็นคนแรก แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุเบียดกับ วิชิตพงษ์ มงคลศิริ นักปั่นเยาวชนทีมชาติ ทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร IDEMITSU อีซูซุ อึ้งง่วนไต๋ จนล้มล้ง ส่งผลให้ วิชิตพงษ์ แซงเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครองเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน, ที่ 2 นายบวรพิตร นิลสนธิ จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ เทพศิรินทร์พุแค, ที่ 3 นายปฐวี ปัญญา จาก Singha Bikenet
รุ่นเยาชนหญิง ที่ 1 น.ส.เขมิกา ศรีโสภา ทีมบ้านเด็กหญิงสระบุรี, ที่ 2 น.ส.หทัยเพชร ใจสว่างนักปั่นดาวรุ่งจากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ เทพศิรินทร์พุแค, ที่ 3 น.ส.สมใจ สิทธิญาณ จากทีมบ้านเด็กหญิงสระบุรี สำหรับผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“คุณยายวัย 61” สุดปลื้ม ร่วม “วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียว โอลิมปิก”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณยายวัย 61 สุดปลื้ม! ร่วมวิ่งส่งกำลังใจผ่านธงไตรรงค์ เชียร์ทัพนักกีฬาไทยให้คว้าชัยชนะ กับกิจกรรม “วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” เข้าสู่วันที่ 8 สุดคึกคัก พี่น้องชาวใต้ ชุมพร-สุราษฎร์ฯ ร้อยรวมพลังใจพิชิตระยะทางโหด 101.8 กม.
“วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” วันที่ 8 คึกคักสุดๆ สรุปหลังผ่าน 8 วัน พี่น้องคนไทยช่วยกันวิ่งสะสมระยะทางทั้งสิ้น 693.6 กม.
ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ล่าสุดเมื่อ 4 เม.ย.64 เข้าสู่วันที่ 8 ของกิจกรรม เป็นการวิ่งในเส้นทาง 2 จังหวัด ออกสตาร์ทจาก จ.ชุมพร ไปเข้าเส้นชัยที่ จ.สุราษฏร์ธานี

ในการวิ่งวันที่ 8 เปิดฉากออกสตาร์ทจากปั๊มน้ำมันพีที สาขาละเเม ตั้งเเต่ช่วงเช้าตรู่ โดยนักวิ่งที่ได้รับเกียรติให้วิ่งเป็นคนเเรกของวัน คือ นายถนัดกิจ จันทร์กลั่น ปลัดอำเภอละแม จ.ชุมพร ปลัดหนุ่มวัย 36 ปี ออกตัววิ่งก่อนส่งมอบต่อให้กับ โสรดา พลวิ ข้าราชการนิติกรชำนาญการ อบต.นาขา รับธงวิ่งต่อใน กม.ที่ 2
สำหรับการวิ่งวันที่ 8 มีเส้นทางการวิ่งที่โหดที่สุด มีระยะทางที่พี่น้องคนไทยต้องร่วมวิ่งไกลถึง 101.8 กม. ตลอดทั้งวัน พี่น้องนักวิ่งชาวใต้ จังหวัดชุมพรเเละสุราษฎร์ธานีรวม 101 คน เเตะมือออกมาช่วยกันวิ่งคนละ 1 กม.จนท้ายที่สุด สามารถนำธงชาติไทยมุ่งหน้าถึงจุดหมาย ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายถนัดกิจ จันทร์กลั่น เผยว่า ส่วนตัวอยากออกมาให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนในโอลิมปิกเเละพาราลิมปิกเกมส์ รวมถึงขอเป็นกำลังใจให้นักวิ่งพี่น้องคนไทยทุกคนสามารถทำภารกิจวิ่งอัญเชิญไตรรงค์ 4,606 กม. ให้ลุล่วง เพื่อส่งต่อพลังเล็กๆ ของพี่น้องคนไทยทุกคนไปให้ถึงมือนักกีฬาทีมชาติไทย เตรียมไปโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์

คุณยายเสาวณี ดิษฐราชา อายุ 61 ปี เผยว่า ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมในครั้งนี้ ชอบเล่นกีฬาและออกกำลังด้วยการเดินและวิ่งอยู่แล้ว ระยะทาง 1 กม.ไม่ใช่ปัญหา ที่สมัครมาเข้าร่วมวิ่ง ฝากกำลังใจส่งไปถึงนักกีฬาไทยทุกคนคว้าเหรียญทองกลับมาให้ได้
นายสุรินทร์ ชูเพชร ผู้อำนวยการฝ่ายขายบริษัทโตโยต้าสุราฎร์ธานี ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด เผยว่า ในฐานะคนไชยา จ.สุราษฏร์ธานี ยินดีต้อนรับทีมงานทุกคน นักวิ่งทุกคน ที่ร่วมกันออกมารวมพลังส่งกำลังใจผ่านการวิ่ง อยากให้ทุกคนระมัดระวัง และดูแลตัวเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย และอยากให้พี่น้องคนไทยช่วยกันเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยทุกคน ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น

ทั้งนี้เมื่อผ่าน 8 วันของกิจกรรมการวิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก วิ่งคนละ 1 กม. จนสะสมระยะทางทั้งสิ้น 693.6 กม. วันจันทร์ ที่ 5 เม.ย. 64 วิ่งในวันที่ 9 เริ่มออกตัวจากสนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฎ์ธานี ไปจุดหมาย ศูนย์โตโยต้า นครศรีธรรมราช สาขาสิชล รวมระยะทาง 70.2 กม.

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“พิพัฒน์” รมว.ท่องเที่ยว-กีฬา ปิ๊งไอเดีย จัดวิ่งซิตี้รัน ททท.จัดต่อ 5 เมืองใหญ่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ททท.จัดกิจกรรม “ซิตี้รัน…มันส์ฟันเว่อร์” ส่งท้ายไตรมาสแรกของปี สุดประทับใจ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ปลื้มกระแสซิตี้รันพุ่ง มีผู้มาร่วมกิจกรรมทะลุเป้าเกิน 13,000 คน มั่นใจเดินถูกทาง มอบนโยบายให้ ททท. จัดกิจกรรมปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพิ่มเติมทั้ง 4 ภาค หวังกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวไทยให้ต่อเนื่อง ก่อนเปิดประเทศช่วงตุลาคมนี้ ด้านรองผู้ว่า ททท. ขานรับเตรียมใช้ 5 เมืองยุทธศาสตร์หลัก จ.ภูเก็ต จ.เชียงใหม่,จ.กระบี่ จ.ชลบุรี พัทยา จ.สุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เป็นกิจกรรมกระตุ้นกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬารูปแบบใหม่

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา วลา  07.00 น. ที่ เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร: นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นางทิพวรรณ นิธิเจษฎาวงศ์ ผู้อำนวยการมิชลินไกด์ ประเทศไทย, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแลนด์ไตรลีก ผู้จัดงานฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร, เหล่านักวิ่งจากชมรมวิ่งทั่วกรุงเทพฯ และสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก ร่วมในกิจกรรมวิ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬารูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อ “อะเมซิ่งไทยแลนด์ ซิตี้รัน…มันส์ฟันเว่อร์” ที่ถูกจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของกิจกรรม

ฯพณฯ รัฐมนตรีฯ , คณะผู้บริหารกระทรวงฯ และการท่องเที่ยวฯมาร่วมวิ่งในวันสุดท้าย เริ่มวิ่งจากเสาชิงช้า เพื่อไปเก็บคะแนนในจุดเช็คพ้อยท์ตลอดเส้นทาง อาทิ ลานคนเมือง ฏ?ฒง, ถนนกัลยาณ-ไมตรี (กระทรวงกลาโหม), สะพานปีกุน โดยระหว่างทาง รัฐมนตรีฯ ได้แวะทักทายร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับการรับรองจาก “มิชลิน ไกด์” เช่น ร้านแซ่พุ้น ข้าวหน้าไก่  ระดับมิชลิน 3 ปีซ้อน, ร้าน ก.พานิช ข้าวเหนียวมูนมะม่วงสุดอร่อย และแวะรับประทานอาหารเช้าที่ ร้านยี่ สับ หลก ร้านอาหารชื่อดัง และมอบของที่ระลึกเป็นกำลังใจให้แก่ร้านชื่อดังทั้ง 3 ร้านอีกด้วย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหนึ่งในกระทรวงหลักที่มีหน้าที่เตรียมความพร้อมการเปิดรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ภายใต้เงื่อนไขด้านการสาธารณสุขที่ต้องระมัดระวังขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สามารถเกิดขึ้นภายในประเทศได้อีกเป็นระลอก ขอแสดงความชื่นชนกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่กล้าออกมาจัดกิจกรรมนำร่องในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วงปลายปี 63 ที่ผ่านมา สามารถจัดงานออกมาได้ดี มีการป้องกันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในทุกขั้นตอน ประชาชนทั่วไป และเหล่านักวิ่งเป็นจำนวนมากออกมาร่วม ถือว่าเป็นกิจกรรมนำร่องให้ส่วนภูมิภาคต่างๆ นำเอาโมเดลของการจัดงานแบบนี้ไปใช้ได้ และได้สั่งการกับรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการวิ่งซิตี้รัน ในรูปแบบนี้ โดยให้ไปจัดในภาคต่างๆ ทั้ง 4 ภาค โดยให้แนวคิดคร่าวๆว่า ….จากเมืองกรุง สู่เมืองรอง…. และตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนที่ชื่นชอบในสุขภาพโดยเฉพาะการวิ่งมาร่วมในโครงการสัก 1 แสนคน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล่าวว่า “กิจกรรม ซิตี้รัน…มันส์ฟันเว่อร์” เป็นกิจกรรมที่มีจุดขายของตัวเอง เพราะนอกจากจะสามารถดึงดูดให้ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่พำนักในไทย ออกมาร่วมกิจกรรมทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ของทุกๆ สัปดาห์แล้ว ยังก่อให้เกิดการใช้สอยขึ้น ระหว่างทางทุกคนต้องแวะซื้อน้ำ แวะทานอาหาร ฯลฯ จะช่วยให้ประชาชนเกิดสุขภาพที่ดี แข็งแรง และปลอดภัยโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี”
“จะตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาถึงรายละเอียดต่างๆ การนำเอากิจกรรม “อะเมซิ่งไทยแลนด์…ซิตี้รัน” จัดในส่วนภูมิภาคต่างๆ แล้วจะนำมาเสนอท่านรัฐมนตรีฯ ต่อไป คิดว่าจะจัดที่จังหวัดที่คณะรัฐมนตรีฯ เพิ่งประกาศให้ใช้เป็น AREA QUARANTINE คือ ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่, เมืองพัทยา และเกาะสมุย คาดว่าจะจัดได้ในช่วงไตรมาศที่ 3 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) เพื่อใช้เป็นกิจกรรมสร้างกระแสความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยว โดยใช้กีฬาเป็นเครื่องมือ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 50,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

มวยรอบปูนเสือตัวที่ 21 เปิดปฐมฤกษ์ 2 พ.ค.พิกัด 112 ปอนด์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 21 จัดยาว 9 เดือน แชมป์ รับเข็มพร้อมถ้วยเกียรติยศเงินสด 6 แสนบาท และปูนเสือหนัก 5 ตัน
ที่ช่อง 7 สี เมื่อวันที่ 4 เม.ย.64 มีการแถลงข่าวเปิดตัวมวยรอบปูนเสือ “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 21 ที่สนามมวยช่อง 7 HD โดยมี นายสยามรัฐ สุทธานุกูล ซีเอ็มโอ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ แบรนนิ่งธุรกิจ ซีเมนต์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น โชลูชั่น บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด, นายวีระวงค์ วงศ์วัฒนะเดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดชีเมนต์ ธุรกิจ ซีเมนต์ แอนด์ คอสตรัคชั่น โชลูชั่น บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด, นายสมยศ อรุณมาศ รองนายสนามมวย และ “โปรโมเตอร์ชุ้น เกียรติเพชร” นายพีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ ร่วมแถลง

นายสยามรัฐ สุทธานุกูล กล่าวว่า มวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติของคนไทย เป็นกีฬาที่แสดงถึงศิลปะในการป้องกันตัว และยังเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ซึ่งในปัจจุบันเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่มีผู้สนใจติดตามชม การแข่งขันเป็นจำนวนมากซึ่งในอดีที่ผ่านมาประเทศไทยมีนักมวยที่เก่งจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศจำนวนมาก เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมวงการกีพามายไทยให้พัฒนาขึ้น และมีนักมวยรุ่นใหม่ๆที่มีความสามารถขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะต้องมีการแข่งขันในระดับมาตรฐานและมีความยุดิธรรม เพื่อให้นักมวยวุ่นใหม่ได้มีโอกาสหาประสบกรณ์การซก พัฒนาทักษะและฝีมือการชกแทนนักมวยเก่าได้ เชื่อว่า “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 21จะเป็นประโยชน์ต่อวงการก็ฬามวยไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไป

นายวีระวงค์ วงศ์วัฒนะเดช กล่าวว่า “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 21 จะใช้เวลาแข่งขันรวมทั้งหมด 9 เดือน เริ่มชกวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค.-ธ.ค.64 ซึ่งนักมวยที่เข้าร่วมแข่งขันจะต้องมีน้ำหนัก 112 ปอนด์ (ชิงชนะเลิศ 115 ปอนด์) ส่วนเงินรางวัล นักมวยที่ชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 6 แสนบาท พร้อมเข็มขัดแบะถ้วยรางวัล อันดับ 2 รับ 3 แสนบาท อันดับ 3 รับ 1.5 แสนบาท และอันดับ 4 รับ 1 แสนบาท และมอบปูนเสือหนัก 5 ตันให้นักมวยที่ได้แชมป์
“เฮียชุ้น” เกียรติเพชร โปรโมเตอร์ กล่าวว่า มวยรอบปูนเสือครั้งที่21 เริ่มชกวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. จะปิดรับสมัครวัน 18 เม.ย.และจับสลากวันที่ 18 เม.ย โดยคุณสมบัติผู้ที่เข้าแข่งขันอายุระหว่าง 15-20 ปี สูงไม่เกิน170 เชนติเมตรและหัวหน้าค่ายต้องเป็นคนมีคุณธรรมจริยธรามเป็นที่น่าเชื่อถือของแฟนมวย

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ก๊องส์-ธัชกร” สู้ศึกชิงแชมป์โลก “ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์-เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำและผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เดินหน้าพัฒนานักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก ประกาศส่งนักบิดดาวรุ่ง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” บินลัดฟ้าสู่ทวีปยุโรป เตรียมสู้ศึก 2 รายการใหญ่ระดับโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เจ้าตัวเผยความพร้อมมีเกินร้อย ตั้งเป้าทำผลงานเต็มที่อย่างสุดความสามารถ ขณะที่บอสฮอนด้าเชื่อมั่นประสบการณ์จากปีแรก จะช่วยยกระดับศักยภาพนักบิดไทย ปีนี้มีโอกาสลุ้นคว้าโพเดียม ความเคลื่อนไหวของ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ได้ออกเดินทางไปสเปน เตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันศึกชิงแชมป์นักบิดดาวรุ่งระดับโลก 2 รายการใหญ่ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ได้แก่ ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ด้วยหมายเลข 33 และ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ ด้วยหมายเลข 5 โดยมี ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ไปส่งและให้กำลังใจถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี กล่าวว่า “การได้สัมผัสบรรยากาศการแข่งขันบนเวทียุโรปเมื่อปีก่อน สร้างแรงกระตุ้นให้ต้องพัฒนาในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะร่างกายและจิตใจ นอกจากทักษะการแข่งขันแล้ว 2 ส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ปีนี้มีความพร้อมมาอย่างเต็มที่เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ หวังว่าจะสามารถพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นได้ ขอฝากให้ทุกคนช่วยติดตามเชียร์ด้วย”
ดร.อารักษ์ พรประภา กล่าวว่า “จากผลการแข่งขันทั้ง 2 รายการในปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่า ธัชกร มีศักยภาพไม่น้อยไปกว่านักแข่งแถวหน้า บางสนามมีลุ้นเกาะติดท็อปเท็นถึงท็อปไฟว์เลยทีเดียว เชื่อมั่นว่าปีนี้นักบิดของเราในฐานะตัวแทนนักแข่งดาวรุ่งชาวไทย จะสามารถนำประสบการณ์จากปีแรกมาต่อยอด เพื่อสร้างโอกาสคว้าโพเดียมมาครองได้สำเร็จ”

ทั้งนี้ รายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ เปิดศึกฤดูกาล 2021 อย่างเป็นทางการ สนามแรก ที่โปรตุเกส วันที่ 17-18 เมษายนนี้ ส่วนรายการ ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ สนามแรก มีคิวดวลความเร็วที่โปรตุเกส วันที่ 25 เมษายน แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งจากฮอนด้า ศึกชิงแชมป์เยาวชนโลกทั้ง 2 รายการ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #TB33 #CEVMoto3 #RedBullMotoGPRookiesCup #MotorSport #HondaThailand

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

Home Lodge@เชียงคาน หนุนท่องเที่ยวสร้างรายได้สู่ชุมชน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กรมการท่องเที่ยวเดินหน้าจัดอบรมคาราวานส่งเสริมและพัฒนาที่พักนักเดินทาง(Home Lodge)ณ เชียงคาน หนุนที่พักคุณภาพ เน้นการเป็นเจ้าบ้านที่ดี รองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ สร้างรายได้สู่ชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)เปิดการอบรมส่งเสริมและพัฒนาที่พักนักเดินทาง (Home Lodge) รองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ( New Normal) มุ่งเน้นการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ณ ห้องนครเวียงจันทร์ เชียงคาน ริเวอร์ เมาท์เทน รีสอร์ท จังหวัดเลย

 

 

 

 

 

 

 

 


สำหรับการอบรมส่งเสริมและพัฒนาที่พักนักเดินทาง(Home Lodge) ในครั้งนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจํานวนที่พักเพื่อการท่องเที่ยวให้มีจํานวนมากขึ้น รองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการยกระดับความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ส่งเสริมความสะอาดในแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริม ความเป็นธรรมในการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้ง เน้นในส่วน ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงชุมชน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง

ในการนี้ กรมการท่องเที่ยว ได้ดําเนินกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพที่พักนักเดินทาง (Home Lodge)ในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจหลักเกณฑ์คุณภาพของที่พักนักเดินทาง(Home Lodge) และนําหลักเกณฑ์คุณภาพที่พักนักเดินทาง (Home Lodge) มาเป็นแนวทางในการส่งเสริมเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงชุมชน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์ ไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ทั้งนี้ กทท.มุ่งหวังว่าสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทยจะต้องมีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย และมีความเป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยว

 

 

 

 

 

 

การจัดการอบรมในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นคาราวานการเดินทางจัดอบรม ซึ่งได้กำหนดจัดขึ้นในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นครั้งแรก โดยมีผู้เข้าอบรมรวม 100 คน ทั้งนี้มีการเสวนาการเตรียมความพร้อมสู่การจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจาก กรมการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มการท่องเที่ยววิถีใหม่และมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย(SHA) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงการเสริมศักยภาพให้ผู้เข้าอบรมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว การจัดการป้องกันไวรัสโคโรนา 2019และการเสริมสร้างสุขอนามัยของเจ้าบ้านและนักท่องเที่ยวจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย เทคนิคการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ จาก Blogger เพจไปไหนดี ตลอดจนการชี้แจงทางการพัฒนาผู้ประกอบการด้านที่พักนักเดินทางหลักเกณฑ์คุณภาพของที่พักนักเดินทาง (Home Lodge) เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการและชุมชนที่เข้าร่วมครั้งนี้ โดยหลังจากการจัดอบรมฯ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการและชุมชนสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนลดความเหลื่อมล้ำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

#กรมการท่องเที่ยว #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #โควิด19 #COVID19 #NewNormalชีวิตวิถีใหม่ #HomeLodge #ที่พักนักเดินทาง #การท่องเที่ยว #RoadTrip #เชียงคาน