http://www.natethip.com/news.php?id=3589
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3588
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลนฺ์ // กรมบังคับคดีช่วยเหลือหนุ่มวัย 19 ปี ชาวบ้านหัวงัว จังหวัดกาฬสินธุ์  หลังแม่ถูกบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหาย สองแสนกว่าบาท

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 ตามที่มีข่าวเรื่อง หนุ่มวัย 19 ปี ชาวบ้านหัวงัว จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอความช่วยเหลือเนื่องจากแม่ถูกบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท กรณีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขี่ย้อนศรชนกับรถยนต์เอนกประสงค์คู่กรณี ทำให้น้องสาวพร้อมเพื่อนเสียชีวิต รวม 2 ราย ซึ่งหลังเกิดเหตุคู่กรณีได้มาเยียวยาครอบครัว 5,000 บาท หลังเกิดเหตุผ่านไปประมาณ 1 ปี ได้มีหนังสือจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งอ้างว่าเป็นประกันภัยของคู่กรณี ส่งหนังสือให้ชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนกว่า 220,097 บาท โดย ีการแจ้งว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในชั้นการบังคับคดีแล้ว

นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว เป็นคดีของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ คดีหมายเลขแดงที่ พณ ๑๓๙/๒๕๖๓ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว แต่คดียังไม่เข้าสู่กระบวนการบังคับคดีจึงยังไม่มีการยึดทรัพย์สิเพื่อขายทอดตลาดแต่อย่างใด จึงได้มอบหมายสำนักงานบังคับคดีจังหวัดกาฬสินธุ์ เร่งให้ความช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว โดยประสานผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมเจราจาไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันเพื่อจะได้ไม่ต้องมีการบังคับคดีโดยการยึดทรัพย์สินออกขายทอดตลาด

อย่างไรก็ตามกรมบังคับคดีให้ความสำคัญกับกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ซึ่งหากเจ้าหนี้และลูกหนี้สามารถเจรจาการชำระหนี้กันได้สำเร็จก็จะไม่มีการยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด ทั้งนี้ กรมบังคับคดีได้เพิ่มช่องทางให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Session call และสามารถยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี หมายเลขโทรศัพท์ 0 2881 4840, 0 2887 5072 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 และสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ

Cr . : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3587
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161196969410050907
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทยพร้อมคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานการปลูก “กัญชา” กับแนวทางเพื่อการรักษา และการปลูกเพื่อสร้างรายได้ให้คนพิการ

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
ณ คลีนิกแพทย์แผนไทยบ้านคูณสุข ถนนวิภาวดีซอยวิภาวดี 30 นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน พร้อมด้วย นายโกสินธ์ จินาอ่อน ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ สยามโฟกัสไทม์ ได้เข้าเยี่ยมชมศึกษา และรับฟังการบรรยายแนวทางการ “ปลูกกัญชาเพื่อการรักษาและทางการแพทย์” ซึ่งอาจจะเป็นอาชีพอีกหนึ่งอาชีพที่”เกษตรกรคนพิการ”สามารถจะนำไปสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
ในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก ดร.พรภัทรวดี วงศ์ปันทะนัน CEO บ.นิวแลนด์ เทคโนโลยี จำกัด ได้ให้ความรู้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกสรรเมล็ดพันธุ์ของ “กัญชา” และวิธีทางการเพาะปลูก รวมถึงการนำส่วนต่างๆของ “กัญชา” มาสร้างคุณค่า เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เช่นเครื่องสำอาง กาแฟ ชา ฯลฯ เพื่อเป็นการรักษาและยังคงเป็นการอนุรักษ์สมุนไพรตามแนวทางที่ได้ศึกษามา
โดยมีความเป็นมาของโครงการปลูก “กัญชา”ทางการแพทย์และพัฒนาสู่สินค้า โดย บริษัทนิวแลนด์อเทคโนโลยี จำกัด และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (สกลนคร) ที่จะร่วมกันสร้างเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ให้การสนับสนุนทุน รวมถึงวิสาหกิจชุมชน/นักวิชาการ/ Growetไทย และต่างประเทศมีกระบวนการส่วนร่วมกันในการพัฒนาการปลูกกัญชาของไทยมาตราฐานสู่สากล
และต่อไปในวันข้างหน้าจะมีการร่วมมือกันระหว่าง “คณะผู้บริหาร ” กับ “คนพิการ” ที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโอกาสการเข้าถึงการเพาะปลูก “กัญชา” ที่อาจจะเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคตและนำมาเป็นการสร้างรายได้ให้ครอบครัวของคนพิการในการต่อไป

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันแบดมินตันรายการ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1,500,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 45,150,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบนิวนอร์มอล โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนาม เมื่อวันที่ 29 ม.ค. วันที่สามรอบแบ่งกลุ่มแมทช์ที่สาม
ประเภทคู่ผสม กลุ่มเอ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ที่เป็นฝ่ายคุมรูปเกมเอาไว้ได้ เปิดเกมบุกไล่ตบเอาชนะไปได้ตามคาด 2-0 เกม 21-12, 21-11 ใช้เวลาแข่งขัน 36 นาที ส่วนอีกคู่ เอ โซว ซอนแจ กับ แช ยูจุง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อคตาเวียนติ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-10, 21-13 สรุปตารางคะแนนในกลุ่ม เอ โซว ซอนแจ กับ แช ยูจุง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ครองแชมป์กลุ่ม, “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก รองแชมป์กลุ่ม

ประเภทหญิงคู่ กลุ่มบี “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก ที่มีสถิติชนะ 1 แพ้ 1 พบกับ ลินดา เอฟเลอร์ กับ อิซซาเบล เฮิร์ททริช คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเยอรมัน ที่มีสถิติแพ้มาทั้ง 2 แมตช์ แมทช์นี้เป็นการพบกันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่
เกมการแข่งขัน จงกลพรรณ กับ รวินดา เปิดเกมบุกไล่ตบเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-13, 21-14 ใช้เวลาแข่งขัน 39 นาที ส่วนอีกคู่ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ โคลอี้ เบิร์ช กับ ลอว์เรน สมิธ คู่มืออันดับ 18 ของโลกอังกฤษ 2-0 เกม 21-14,21-18 ใช้เวลาแข่งขัน 46 นาที
สรุปตารางคะแนน คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ 3 แมตช์รวด คว้าแชมป์กลุ่ม ส่วน จงกลพรรณ กับ รวินดา เก็บชัยชนะ 2 แมตช์ คว้ารองแชมป์กลุ่มเข้ารอบรองชนะเลิศ
ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มบี “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลก ลงสนามเพื่อแย่งตั๋วเข้ารอบรองฯ พบกับ ไต้ จื่ออิง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ที่มีสถิติชนะ 1 แพ้ 1 สถิติการพบกันทั้งหมด 28 ครั้ง ต่างผลัดกันเก็บชัยชนะไปได้คนละ 14 ครั้งเท่ากัน ล่าสุดรอบรองฯศึก โตโยต้าไทยแลนด์ โอเพ่น ไต้ จื่ออิงชนะมาได้
เกมนี้ทั้งคู่ยังคงผลัดกันทำคะแนนอย่างสนุกคู่คี่สูสี ไต้ จื่ออิง ฮึดพลิกสถานการณ์หลังจากพ่ายไปก่อนในเกมแรก เร่งเครื่องชนะไปได้ 2-1 เกม 23-25, 21-12, 21-9 ใช้เวลาแข่งขัน 57 นาที ไต้ จื่ออิง คว้าตั๋วเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วน รัชนก จบอันดับที่สามรับ 16,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 495,000 บาท

ขณะที่ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งชนะ 2 แมตช์รวดการันตีเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว พบกับ พูสซาลา วี สินธุ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินเดีย แมตช์นี้ พูสซาลา วี สินธุ ที่พยายามเปิดเกมบุกได้อย่างเด็ดขาดเอาชนะ พรปวีณ์ ที่การันตีแชมป์กลุ่มเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2-0 เกม 21-18 , 21-15 ใช้เวลาแข่งขัน 42 นาที สรุปตารางคะแนนกลุ่ม บี “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ชนะ 2 แมตช์ คว้าแชมป์กลุ่มเนื่องจากนับเฮดทูเฮดแล้วเหนือกว่า ไต้ จื่ออิง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ 2 แมตช์เท่ากัน คว้ารองแชมป์กลุ่ม ทั้งคู่เข้ารอบรองชนะเลิศ
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้ผลงานนักกีฬาแบดมินตันไทยทำได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านเข้ารอบเซมิไฟนอลได้สามคู่ เริ่มจากกิ๊ฟ-วิวเปิดเกมได้ยอดเยี่ยม เล่นได้ดีกว่า เหนียวแน่นกว่า ชนะคู่เยอรมันไปไม่ยากเย็น ส่วนหมิว เป็นที่หนึ่งของสาย ไม่ได้เน้นมากนัก แพ้ สินธุ ด้าน เมย์ รัชนก พาดท่าแพ้ไป แต่ก็แสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือที่คงความยอดเยี่ยม แต่สภาพร่างกายเป็นรอง ขณะที่ บาสกับปอป้อ ก็แก้ตัวสำเร็จ จากที่เมื่อวานพลาดท่าแพ้เกาหลีใต้ เรียกสมาธิและฝีมือกลับคืนมาได้ ขอฝากตามลุ้นตามเชียร์นักกีฬาไทยวันพรุ่งนี้ 5 คู่แรกเริ่มเวลา 10.00 น. และ 5คู่หลังเริ่มเวลา 17.00 น.”

ผลคู่อื่นๆมีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มเอ อัน เซยอง มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ คาโรลิน่า มาริน มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน 21-16, 14-21, 21-19, อีฟเกนิย่า โคเซ็ทกาย่า มืออันดับ 25 ของโลกจากรัสเซีย ชนะ มิเชล ลี มืออันดับ 10 ของโลกจากแคนาดา 25-23, 21-10 สรุปกลุ่มเอ อัน เซยอง มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน คาโรลิน่า มาริน มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน รองแชมป์กลุ่ม
ประเภทหญิงคู่ กลุ่มเอ เชา เหม่ยกวน กับ ลี เหม็งหยวน คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริยานี่ ราฮายู คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-13, 21-17, ลี โซฮี กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ วิเวียน ฮู กับ แยป เชงเหวิน คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากมาเลเซีย21-12, 21-16 สรุปกลุ่มเอ ลี โซฮี กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน เชา เหม่ยกวน กับ ลี เหม็งหยวน คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย รองแชมป์กลุ่ม
ประเภทชายเดี่ยว กลุ่มเอ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน 21-10, 21-14, แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 10 ของโลกจากมาเลเซีย 21-12, 15-21, 21-13 สรุปกลุ่มเอ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก รองแชมป์กลุ่ม, โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน รองแชมป์กลุ่ม ส่วนกลุ่มบี หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 12 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ อันเดรส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก 21-11, 21-19, อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง ชนะ คีดัมบี้ สีกานห์ มืออันดับ 14 ของโลกจากอินเดีย 12-21, 21-18, 21-19 สรุปตารางคะแนนในกลุ่มบี หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 12 ของโลกจากไต้หวัน ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน อันเดรส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก รองแชมป์กลุ่ม

ประเภทชายคู่ กลุ่ม เอ หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ มาร์คัส เอลลิส กับ คริส แลงกริดจ์ คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอังกฤษ 21-17, 21-13, เบน เลนจ์ กับ ฌอน เวอร์ดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ ชนะ ออง ยิวซิน กับ เตียว อียี่ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย 21-15, 21-13 สรุปกลุ่ม เอ หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน เบน เลนจ์ กับ ฌอน เวอร์ดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ รองแชมป์กลุ่ม ส่วนกลุ่มบี โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วูยิค คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย 18-21, 21-17, 21-11, ชอย โซวกิว กับ โซว ซอนแจ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ วลาดิเมียร์ อิวานอฟ กับ อิวาน โซโซนอฟ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากรัสเซีย 21-11, 17-21, 21-16 สรุปกลุ่ม บี ชอย โซวกิว กับ โซว ซอนแจ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้ ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย รองแชมป์กลุ่ม

ประเภทคู่ผสม กลุ่มบี ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส ชนะมาร์ค แลมฟรุ๊ท กับ อิซซาเบล เฮิร์ททริก คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากเยอรมนี 21-10,21-15, โก๊ะ ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ฮาฟิต ไฟซาล กับ กลอเรีย เอ็มมานูเอล วิดจาจา คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย 17-21 21-13 21-13 สรุปกลุ่มบี ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส ครองแชมป์กลุ่ม ส่วน โก๊ะ ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย รองแชมป์กลุ่ม
สำหรับผลการจับสลากรอบรองชนะเลิศ ศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1,500,000 เหรียญสหรัฐ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แข่งขันวันเสาร์ที่ 30 ม.ค.64
ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก พบกับ ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส, โซว ซอนแจ กับ แช ยูจุง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ พบกับ โก๊ะ ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย

ประเภทหญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก พบกับ คาโรลิน่า มาริน มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน, ไต้ จื่ออิง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน พบกับ อัน เซยอง มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก พบกับศึกหนัก คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้, ลี โซฮี กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ พบกับ เชา เหม่ยกวน กับ ลี เหม็งหยวน คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย ประเภทชายเดี่ยว วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก พบกับ โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน , หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 12 ของโลกจากไต้หวัน พบกับ อันเดรส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก
ประเภทชายคู่ หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน พบกับ เบน เลนจ์ กับ ฌอน เวอร์ดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ, โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย พบกับ ชอย โซวกิว กับ โซว ซอนแจ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้
สำหรับศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนไทยชมการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู วันเสาร์ (30 ม.ค.) เวลา 17.00 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ (31 ม.ค.) เวลา 14.30 – 18.00 น.

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เตรียมวางแผนการคัดเลือกนักเปตองทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2021 ที่ สวิตเซอร์แลนด์ เดือนก.ค.นี้ และชิงแชมป์โลก 2021 ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ต้นเดือนพ.ย.นี้ และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ปลายปีนี้ “ไกรสีห์ กรรณสูต” แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯคุมเข้ม เน้นความโปร่งใส และตั้งเป้าเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์
นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2564 ประจำเดือนมกราคมโดยผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ พอสรุปรายละเอียดที่สำคัญได้ดังนี้
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการวางแผนการคัดเลือกนักเปตองทีมชาติไทย ทั้งประเภททีมชาย-ทีมหญิงและเยาวชน เพื่อเตรียมส่งทีมไปร่วมการแข่งขันเปตองระดับนานาชาติหลายรายการในปีนี้ จะเริ่มจากรายการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก 2021 ครั้งที่ 48 ประเภททีมชาย ที่ กรุงโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 16-20 ก.ค.2564 ต่อด้วยรายการชิงแชมป์โลก 2021 ประเภททีมหญิงและทีมเยาวชน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 4-8 พ.ย.2564 และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม วันที่ 23 พ.ย.-2 ธ.ค.2564
นายไกรสีห์ กรรณสูต เปิดเเผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่สมาคมกีฬาเปตองฯ ได้เกำหนดการคัดเลือกนักเตองทีมชาติไทยอย่างเป็นระบบ และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกทีมชาติขึ้นมาหนึ่งชุด โดยมีนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ อุปนายกสมาคมฯเป็นประธาน เพื่อความโปร่งใส ให้ได้นักกีฬาที่มีความสามารถ และมีฝีมือที่เก่งอย่างแท้จริง เป้าหมายเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ เวียดนาม

นอกจากนี้ สมาคมกีฬาเปตองฯจะเรียกนักเปตองทั้ง 3 ประเภททีมชาย-ทีมญิงและเยาวชน ที่เคยทำผลงานที่ดี และคว้าแชมป์เปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ครั้งล่าสุด ที่ เพชรบูรณ์ ตลอดจนนักเปตองมืออันดับ 1-8 ของโลก และอดีตทีมชาติ รวมทั้งนักกีฬาอับดับ 1-4 กีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬามหาวิยาลัยฯเป็นต้น เข้าร่วมการคัดเลือกทีมชาติในครั้งนี้ โดยจะประกาศรายชื่อนักกีฬาที่มีสิทธิ์เข้าร่วมรายการนี้ ภายในเดือนก.พ.นี้ และจัดการแข่งขันในเดือนมี.ค.2564 ที่ สนามเปตองมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ซอยรามคำแหง 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. เพื่อเฟ้นหาคัดเลือกนักเปตองทั้งหมดรวมแล้วจำนวน 20 คน เพื่อเป็นตัวทีมชาติไทย พร้อมส่งไปแข่งขันเปตองระดับนานาชาติทุกรายการต่อไป

นายไกรสีห์ กรรณสูต กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 26-27 มิ.ย.2564 สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการแข่งขันเปตองการกุศลชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 1 ที่สนามเปตองมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ภายในซอยรามคำแหง 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันเปตองบางรายการจัดโดยสมาคมฯในปีนี้ อาจจะต้องมีการเลื่อนการแข่งขันออกไปบ้าง เนื่องจากสถานะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้กำลังเพิ่มมากยิ่งขึ้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทางสมาคมกีฬาเปตองฯจะประเมินผล และติดตามข่าวจากการกีฬาแห่งประเทศไทยว่าจะอนุญาตให้จัดการแข่งขันได้หรือไม่ และจะแจ้งให้ทุกทีมได้รับทราบภายหลัง

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์” ผู้ให้บริการด้านคอนเทนต์ โปรวายเดอร์ (Content Provider) ชั้นนำของไทย ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยทุกลีกและทีมชาติไทยทุกระดับ ตั้งแต่ฤดูกาล 2021-2028 รวม 8 ปีเต็ม และ “เทนเซ็นต์ ประเทศไทย” ผู้ให้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์ม และโซลูชันด้านเทคโนโลยีชั้นนำ ผนึกความร่วมมือเป็นพันธมิตร เตรียมสร้างมิติใหม่การรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1-3 เอฟเอ คัพ ลีก คัพ ฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด ทั้งชาย และหญิง ด้วยการพัฒนา “สปอร์ต แฟน คอมพาเนียน แพลตฟอร์ม”(Sport Fan Companion Platform) ผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน “เชียร์ไทย” เพื่อให้คอบอลสามารถดูเกมลูกหนังไทยแบบสดๆและย้อนหลังได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมเป็นคอมมูนิตี้การแลกเปลี่ยนทรรศนะและข้อมูลสถิติด้านฟุตบอล ที่จะชวนคนไทยร่วมปลุกกระแสเชียร์ฟุตบอลไทย สานฝันบอลไทยสู่บอลโลกผ่านแพลตฟอร์มใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานได้ในเดือนมิถุนายน นี้

นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้เราได้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่อย่าง เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี และโซลูชันคลาวด์อัจฉริยะ รวมถึงบริการเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มชั้นนำที่คนไทยรู้จักกัน เป็นอย่างดีผมมั่นใจว่าการผนึกความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำจุดแข็งของ Content กีฬาอันดับ1ของคนไทยรวมเข้ากับ Technology Platform ระดับโลกพร้อมสื่อ Media ที่ครบวงจรของทั้ง 2 บริษัท จะสามารถสร้างประสบการณ์การเชียร์ฟุตบอลในรูปแบบใหม่ผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน “เชียร์ไทย” ที่ไม่ใช่เป็นเพียงการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกระดับที่ประเทศไทยมีเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างสังคมของคนรักกีฬาฟุตบอล และเป็นศูนย์กลางสำหรับให้แฟนบอลของทุกสโมสรในทุกระดับที่มีรวมกันกว่า 10 ล้านคนได้มาร่วมกันเชียร์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสามารถเข้าถึงบทวิเคราะห์ก่อน-หลังการแข่งขัน ตลอดจนถึงข้อมูลสถิติการแข่งขันของสโมสรและสถิติความสามารถของนักกีฬาแต่ละคนเพื่อการเชียร์ที่สนุกขึ้น”
“อีกทั้งยังสามารถสนับสนุนสโมสรได้ด้วยการซื้อตั๋วเข้าชมและซื้อสินค้าจากแต่ละสโมสรเพื่อสร้างรากฐานให้ทีมสโมสรทุกระดับได้ขยายฐานกองเชียร์และรายได้ไปพร้อมๆกัน และส่งผลดีให้กับผลงานในระดับทีมชาติเพื่อขับเคลื่อนความฝันของคนไทยทั้งประเทศที่อยากเห็นทีมชาติไทยได้ไปฟุตบอลโลก”
นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ ตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้ให้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มที่หลากหลาย และครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเรามีทั้งแพลตฟอร์มข่าวสาร (Sanook .com) เกม (PUBG MOBILE) ภาพยนตร์ ซีรีส์ (WeTV) เพลง (JOOX)และการ์ตูน (WeComics) มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีมาตรฐานระดับสากล รองรับด้วยเทนเซ็นต์ คลาวด์ (Tencent Cloud) ซึ่งเป็นคลาวน์ โซลูชั่นส์ มาตรฐานระดับโลก”

“ดังนั้นเราจะนำนวัตกรรมความรู้ และเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงระบบปฏิบัติการต่างๆ เหล่านี้มาต่อยอด และพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบไลฟ์สไตล์ของแฟนบอลไทยยุคใหม่ โดยเราเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้ จะมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับฟุตบอลสโมสรของไทย ดึงดูดให้คนไทยหันมาดูบอลไทย และเชียร์บอลไทยกันมากขึ้น ที่สำคัญจะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดการดูบอลไทยให้ทุกคนสามารถรับชมเกมการแข่งขันได้ทุกที่ ทุกเวลา และดูได้ทั้งรูปแบบถ่ายทอดสด และออนดีมานด์ผ่านหน้าจอ รวมถึงจะเป็นอีกทางช่องทางที่จะช่วยให้แฟนบอลทั่วประเทศ สามารถเชียร์ทีมชาติไทย และสโมสรที่รักได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังวางแผนเพิ่มฟังก์ชันความบันเทิงต่างๆ เพื่อสร้างสีสันให้แฟนๆ อย่างครบรส”
เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน “เชียร์ไทย” จะถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มกีฬา-ไลฟ์สไตล์ ที่สามารถมอบ ความบันเทิงเหนือระดับได้อย่างครบวงจร ทั้ง ด้านคอนเทนต์ มีเกมฟุตบอลไทยทุกรายการให้ได้รับชมแบบถ่ายทอดสด และย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็น ศึกไทยลีก 1 ครบ 240 แมตช์ ไทยลีก 2 ครบ 360 แมตช์ ไทยลีก 3, FA Cup, League Cup และ ศึกทีมชาติทุกนัด พร้อมกับบทวิเคราะห์ก่อน-หลังการแข่งขันอัดแน่นด้วยข้อมูลสถิติ รวมถึงได้นำเทคโนโลยีทันสมัย VR และ AR ที่จะทำให้ผู้รับชมเสมือนนั่งอยู่ในสนามจริง ด้านคอมมูนิตี้ มีห้องแชทของแต่ละสโมสร ให้เหล่าสาวกของแต่ละทีมได้มาแลกเปลี่ยนทรรศนะฟุตบอลกันแบบเจาะลึก
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ Content Creator ทั้งหลายสามารถสร้างคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์มได้อย่างเปิดกว้าง ด้านไลฟ์สไตล์ เปิดช่องทาง E-Commerce สำหรับจำหน่ายตั๋วชมฟุตบอล สินค้าพรีเมียมของสโมสรต่างๆ และมี Payment Gateway ที่มีความปลอดภัยสูง
ทั้งนี้ นอกจากการมอบความบันเทิงให้กับแฟนบอลแล้ว แพลตฟอร์มนี้ ยังเอื้อต่อองค์กรธุรกิจ และแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มอีกด้วย

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์